สนามกอล์ฟที่นครพนม หลายท่านยังคงไม่ทราบ
จึงขอนำมาแจ้งข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายครับ
Golf Fees 2009
อัตราค่ากรีนฟี ปี 2552
Green fee (Baht) |
WEEKDAY |
WEEKEND&Public Holidays |
||
สมาชิก |
บุคคลทั่วไป |
สมาชิก |
บุคคลทั่วไป |
|
9 Holes |
80 |
150 |
80 |
180 |
18Holes |
80 |
150 |
80 |
180 |
รอบที่ 3 |
40 |
40 |
40 |
40 |
Golf Fees (Other Fees) ค่าแค็ดดี้
Type |
9 Hole |
18 Hole |
Caddy Fee (แค็ดดี้) |
60 |
120 |
Golf Cart (รถกอล์ฟ) |
- |
- |
Equipment Rental อุปกรณ์อื่น ๆ
Type |
18 Holes |
Type |
18 Holes |
Golf Club per set |
100 |
Golf Chair per item |
50 |
Golf Shoes per pair |
50 |
Umbrella per item |
50 |
หาข้อมูลเพิ่มที่นี่ครับ http://www.phugratae.th.gs/
กรีนหลุม 1 พาร์ 5 เล่นยากสักหน่อย แต่สวยครับ
กรันหลุ่ม 2 พาร์ 4 มีหักมุมข้อศอกเล็กน้อย และสวยเหมือนกันครับ
กรีนหลุม 3 พาร์ 3 ติดริมอ่างเก็บน้ำ เล่นแล้วอยากนั่งพักนานๆ
กรีนหลุม 3 อีกมุมมองหนึ่ง
เล่นกีฬาอะไรก็ได้ วันละนิด จิตแจ่มใส เพื่อนพ้องน้องพี่มีมากขึ้น สบายใจ สุขใจครับ
น่าสนใจนะคะ
แต่ครูอ้อย ตีไม่เป็นค่ะ
สวัสดัครับ พี่ครูอ้อย
ผมกำลังทดลองทำอะไรดีๆใน G2K เลยหาที่ใกล้ตัวทำก่อน
ขอบคุณที่เข้ามาตามดูครับ
ตามอ่านนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
เร็วๆๆ น้องชาย เรียนเชิญที่ ..คลิกค่ะ. เราชาวโกทูโน..มาทำอะไร..สนุกๆในวันตรุษจีนกันนะ
ถึงพี่ครูอ้อย และสมาชิก G2K ที่สนใจกอล์ฟ แต่ยังดูกีฬาชนิดนี้ยังไม่เข้าใจดี กอล์ฟจะแข่งกันโดย ใครทำคะแนนได้น้อยที่สุดเป็นผู้ชนะ นะครับ ถ้าใครอวยพรให้ไปแข่งกอล์ฟแล้วให้ได้แต้มมากๆ ละก็ ต้องรีบงอนเลย การแข่งสำหรับมือสมัครเล่น (amateur) จะแข่งกัน 18 หลุม แต่ละหลุมใกล้-ไกล ยาก-ง่ายต่างกัน นับด้วยคำว่า "PAR" โดยทั่วไปมี 3 กลุ่มคือ พาร์ 3 พาร์ 4 และพาร์ 5 พาร์ 3 ตี 3 ครั้งลงหลุม เรียกว่าได้พาร์ พาร์ 4 ตี 4 ครั้ง พาร์ 5 ตี 5 ครั้ง ลงหลุม ก็ได้พาร์เช่นกัน ใน 18 หลุม มักจะออกแบบให้มี พาร์ 3 และ พาร์ 5 อย่างละ 4 หลุม (รวม 8 หลุม) ที่เหลือ 10 หลุมเป็นพาร์ 4 (มียาก-ง่าย ใกล้-ไกล ปนกันไป) ใน 18 หลุมถ้าตีได้พาร์หมด จะตีทั้งหมด 72 ครั้ง (คะแนนรวม) การแข่งขันจะนับแต้มรวมตรงนี้แข่งกัน ใครได้ น้อยที่สุด เป็น ผู้ชนะ แต่ถ้าท่านดูกอล์ฟทางโทรทัศน์ที่เขาถ่ายทอด มักเป็นการแข่งขันของมืออาชีพ ซึ่งเรียกว่า โปร (professional) เขามักจะตีดีกว่า พาร์ ซึ่งมีนามเรียกขาน กันต่างกันไป แต่การนับแต้ม นับปกตินะครับ เช่นหลุมพาร์ 5 ตี 4 ครั้งลงหลุมก็นับ 4 แต้ม นับแต้มที่ตีได้ทุกหลุมรวมกัน ถ้าตี 5 ครั้ง ลงหลุม ทั้ง 18 หลุม ก็จะได้ 90 แต้ม แต่นามเรียกขานที่ใช้เรียกกันแบบโก้ๆ ตามประสากอล์ฟ ถ้าตีได้ดีกว่า พาร์ 1 แต้ม เช่นหลุมพาร์ 5 ตี 4 ครั้งลงหลุม เรียกว่าได้เบอร์ดี้ (birdie, พวกนกกระจิบ) แต่ถ้าหลุมพาร์ 5 ตี 3 ครั้งลงหลุม ก็นับ 3 แต้ม แต่นามเรียกขานที่ใช้เรียกกัน เรียกว่าได้อีเกิ้ล (eagle, ไม่ใช่คำหยาบนะครับ แต่หมายว่าเป็นนกอินทรีย์) หลุมพาร์ 5 ตี 2 ครั้งลงหลุมก็นับ 2 แต้ม แต่นามเรียกขานที่ใช้เรียกกัน เรียกว่าได้อัลบาร์ทรอส (albatross, นกชนิดนี้ปีกยาวกว่าอินทรีย์และหายากกว่าไงครับ) หลุมพาร์ 5 ตี 1 ครั้งลงหลุมก็นับ 1 แต้ม แต่นามเรียกขานที่ใช้เรียกกัน เรียกว่าได้ (hole in one หรือ condor, นกจำพวกแร้ง) ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ว่าใครเคยได้ condor แต่มีผู้ที่เคยได้ albatross ในประวัติศาสตร์ (อาจจะโม้ก็ได้) เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 1935 (74 ปีก่อนคงมีคนแข็งแรงมากๆ หรือสนามกอล์ฟสั้นมากๆ) ที่ Augusta คือ นายGene Sarazen และเขาเรียกขานตอนนั้นว่า เขาได้ "dodo" (www.scottishgolfhistory.net/bogey_par.htm#Albatross) ส่วน hole in one ส่วนมากที่ทำกันได้ก็จะมี หลุมพาร์ 3 นั่นแหละ วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะครับ.......วันหน้าผมจะมาเล่าต่อ........ อ้อ! ลืมไปนิด.......เวลาเล่น นักกอล์ฟจะต้อง “จดแต้ม” ลงใน score card ให้เพื่อนที่ตีด้วยกันในแต่ละหลุมนะครับ จดเองไม่ได้ ต้องแลก score card ก่อนแข่ง ก่อนเราส่งผลคะแนน ก็ลงชื่อในช่อง Marker ส่วนเพื่อนเราจะส่งคะแนนให้เรา แต่เราต้องลงนามใน score card ของเพื่อน ในนาม Player เพื่อให้นึกภาพออก ผมมีตัวอย่าง score card มาให้ดูครับ
ผมไปเล่นมาสองครั้งครับ ชอบครับท้าทายดี
ไม่ค่อยมีเวลาเลยเล่นที่ขอนแก่น(บ้าน)ครับ
ยินดีที่รู้จักครับครูน้อย
เห็นไหม บอกแล้ว ต้องมีผู้สนใจ กีฬา กอล์ฟ พี่บางทราย เป็นพี่ชายของครูอ้อยเองค่ะ