ตำราปรับฮวงจุ้ยสำหรับคนทำงาน ฉบับ DIY (เช่นเคย)


ดูรายการทีวีรายการหนึ่งที่เขาเชิญโหรมา มีช่วงที่พูดถึงฮวงจุ้ยในที่ทำงานหรือบ้าน ก็ทำให้นึกถึงวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเองและมีประโยชน์ด้วย คือนอกจากจะจัดทิศที่นั่งที่ทางให้ถูกหลักตามตำราโหรท่านว่าแล้ว ก็ลงมือทำความสะอาด จัดโต๊ะและเอกสารให้เป็นระเบียบ ใครว่าโต๊ะและห้องทำงานที่รกเป็นตัวชี้วัดบอกว่าทำงานเก่ง อันนั้นเป็นคำพูดแก้ตัวสำหรับคนไม่มีระเบียบไว้แก้ต่างให้ตัวเองต่างหาก



คนทำงานเก่งและบริหารเวลาเป็นย่อมรู้ว่าการจัดทุกอย่างให้เข้าที่ ค้นหาง่าย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน เมื่อทำได้เร็ว เอกสารไม่หาย หาอะไรก็เจอ ก็ทำให้โอกาสผิดพลาดน้อยลง การหลงลืมรอดหูรอดตาก็เป็นไปได้ยาก เปอร์เซ็นต์การถูกเพ่งเล็งก็พลอยลดไปด้วย นี่เป็นวิธีเสริมฮวงจุ้ยอย่างง่ายๆ ซึ่งทำได้เลยทันที



นอกจากปรับเรื่องการจัดระเบียบทั้งหลายก็ควรปรับเรื่องการแต่งกายและระบบชีวิตด้วย นี่ก็เป็นการช่วยเสริมดวงอีกทาง เช่น เคยแต่งกายไม่สุภาพ ผมเผ้ากระเซิง ดูไม่เจริญหูเจริญตา ก็แต่งกายให้เรียบร้อย ให้สะอาด สุภาพ เป็นการให้เกียรติกับสถานที่ทำงาน แล้วคนอื่นก็จะให้เกียรติเราเอง แต่งตัวดีไม่จำเป็นว่าต้องแพงเสมอไป เป็นความเชื่อเหมือนเรื่องขี้กลากที่ว่าเป็นๆ หายๆ อันที่จริงแล้วการเลือกเครื่องแต่งกายในราคาประหยัดแล้วดูดีเหมาะกับกาละเทศะก็สามารถทำได้ 

   

ปรับห้องกับโต๊ะและเสื้อผ้าแล้วก็มาถึงเรื่องวินัยและทัศนคติในการทำงาน ใครที่ปกติเข้างานสาย กลับก่อน พักเที่ยงเกินเวลา เพราะคิดแต่ความสุขของตัวเองก็เปลี่ยนใหม่ซะ ตื่นเช้าทำตัวให้สดใส มาถึงที่ทำงานอย่างเตรียมพร้อมก่อนเวลาสักเล็กน้อยเพื่อทำธุระส่วนตัว กินข้าว เข้าห้องน้ำ เม้าท์แตกในช่วงนี้ให้เสร็จ ไม่ใช่มาเหยียบเวลาแล้วก็เบียดบังเอาเวลางานมาทำธุระส่วนตัว กว่าจะเริ่มงานก็กินเวลาเข้าไปครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง เป็นการเอาเปรียบที่ทำงานของตัวเอง 



พอเริ่มงานแล้วก็ไม่คอยเฝ้าดูแต่นาฬิกา ใช้เวลาทำงานให้เต็มที่อย่างจดจ่อและมีความสุข ใส่ใจกับสิ่งที่ทำทุกอย่างที่จำเป็น ไม่ใช่ใส่ใจแต่เรื่องชาวบ้านที่ไม่เป็นเรื่อง โทรศัพท์เฉพาะงาน ไม่มีใครจ้างคนมาคุยโทรศัพท์เล่น และอย่าสนใจแต่งานตัวเองจนไม่รู้ว่าเป้าหมายองค์กรเป็นยังไง ต้องดูภาพรวมด้วย เห็นอะไรที่น่าจะเกิดปัญหาถ้าช่วยได้ก็ช่วย หรือบอกได้ก็บอกถ้าเห็นอยู่ตำตา ไม่ใช่คิดแต่ว่าไม่ใช่หน้าที่ เพราะเมื่อองค์กรเดือดร้อน เราก็จะเดือดร้อนไปด้วยในที่สุด ให้คนอื่นรู้สึกว่าขาดเราแล้วเดือดร้อนดีกว่าทุกคนรู้สึกเฉยๆ แม้เราจะหายไปเป็นอาทิตย์ งานก็เดินต่อได้อย่างไม่สะดุด อันนั้นเป็นดัชนีชี้วัดชะตาในการทำงานได้เป็นอย่างดีว่าอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อเพื่อนร่วมงานทุกคนรู้สึกได้ เจ้านายก็ย่อมรู้สึกได้เช่นกัน

เมื่อทุกอย่างทำได้แล้วก็มาถึงเรื่องอาหารการกิน โหร confuse (ญาติกับโหร confirm) แนะนำให้ท่านเสริมชะตาจากภายใน เพราะมีคำกล่าวไว้ว่า "You are what you eat" คือใส่อะไรเข้าไปก็ได้ผลออกมาเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นจงเลือกกินอย่างชาญฉลาด เลือกแต่สิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สุรายาเมาก็เลิกซะ เป็นการประหยัดไปในตัวเหมาะกับเศรษฐกิจยุคนี้

 

(ขอบคุณภาพอาหารและสนามหญ้าจากพี่ศศินันท์ค่ะ ขอยืมมาโดยไม่ได้บอกก่อนเพราะดึกแล้วไม่อยากปลุกพี่ค่ะ อิ อิ)


เดิมตกเย็นเคยกินเหล้า เมาแล้วก็ตื่นสาย เปลี่ยนใหม่เป็นซื้ออาหารมีประโยชน์มาทำกินเอง ใครอยู่เป็นโสดก็ฝึกไว้จะได้มีเสน่ห์ปลายจวักไม่ว่าชายหรือหญิงก็ทำได้ ใครมีครอบครัวแล้วก็เป็นช่วงเวลาหรรษาของครอบครัวที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน หลังทำอาหารกินเสร็จก็มีสารพัดกิจกรรมให้ทำ อ่านหนังสือ หาความรู้เพิ่ม โทรศัพท์ (ช่วงนี้ล่ะเม้าท์ได้แล้ว อดไว้ก่อน อย่าไปทำในเวลางาน) ดูทีวี ฟังเพลง ฯลฯ เข้านอนไม่ดึก ตื่นแต่เช้าพร้อมที่จะทำงาน 



ระหว่างสัปดาห์หรือสุดสัปดาห์ก็หาเวลาไปออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้หรือเข้าวัดเข้าโบสถ์เพื่อผ่อนคลายทางจิต เมื่อสุขภาพดีและสุขภาพจิตดีก็ไม่ป่วย ไม่ต้องหยุดงานบ่อย และไม่ต้องไปทำงานพร้อมอาการแฮงค์ เจ้านายที่ไหนก็ชอบที่ลูกจ้างสดชื่น ทำงานอย่างตั้งใจ ไม่เหมือนผีดิบเงินเดือนที่ทำงานไปวันๆ ซึ่งมีเป้าหมายรอแต่เวลาเลิกงาน วันศุกร์ และสิ้นเดือน ถ้าทำได้อย่างนี้รับรองว่างานการถึงไม่พุ่งพรวดก็ยังมั่นคงพอจะให้อยู่รอดได้ในภาวะที่เศรษฐกิจย่ำแย่ ก่อนจะไปหาที่พึ่งอะไรมาเสริม ก็ลองทำง่ายๆ เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน แล้วจะแขวนจะห้อยจะซื้ออะไรมาตั้งเพื่อความอุ่นใจก็เป็นเรื่องไม่ยากแล้ว แต่ถ้าคิดแต่พึ่งอภินิหาริย์ ไม่ปรับปรุงตัวให้มีคุณค่าสำหรับที่ทำงาน จะแขวนจะห้อยอะไรก็ช่วยบ่ได้ดอก

ปล. แถมท้าย พวกที่ชอบใช้เวลาทำงานนั่งดูเว็บสมัครงาน อย่าคิดว่าทำอะไรแล้วไม่มีใครรู้ ถ้าอยากหางานใหม่ใช้เวลาดูเน็ตที่บ้าน หรือซื้อหนังสือพิมพ์ไปดูก็ได้ การใช้เวลาทำงานไปทำแบบนั้นจากที่คิดว่าดูเล่นบ้างเผื่อๆ ไม่ได้คิดซีเรียสจะหาจริงจังอาจเป็นต้นเหตุให้ตกงานได้ หรือถ้าใช้เน็ตเพื่อการส่วนตัวเยอะๆ เช่น chat เล่นเกม ดูเว็บสารพัดบันเทิงรวมถึงส่ง fwd mail ก็อาจจะชงกับดวงงานท่านได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างหลัง แน่ใจหรือว่า fwd mail ที่มีชื่อเมลและวันเวลาส่งติดไว้ (เพราะคนชอบส่งต่อโดยไม่ลบ) จะไม่วนไปถึง mail box ของเจ้านาย ณ วันใดวันหนึ่ง และเมื่อถึงวันนั้นเจ้านายของท่านอาจจะคิดว่า เออ...ไอ้นี่ว่างเกินไป จ้างไว้ไม่คุ้มค่าเลยก็เป็นได้ ไม่ได้พูดให้เสียว แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้นะจ๊ะ

หมายเลขบันทึก: 234019เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2009 01:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

กระผมไม่เปลี่ยนงานแล้วล่ะคร้าบ คุณซูซาน ...

เว็บสมัครงานไม่รับ รับแต่เว็บ Gotoknow เนี่ยแหละ ... เสียเวล้า เสียเวลา อิ อิ แต่ก็เข้าแฮะ

อืมม แต่โต๊ะรก ๆ เนี่ยนะ สาขาผลิตสื่ออย่างผม เป็น 3 ใน 4 เลย ... ส่วนอีกคนชอบเก็บของออกให้หมด แบบชอบโล่ง ๆ ไปโยนไว้ห้องอื่นบ้าง ทิ้งออกบ้าง แต่คนเนี่ย ... สุดไม่มีอะไรในหัวเล้ย พับผ่าสิ

เล่าให้ฟังครับ ... แต่ผมชอบโต๊ะเป็นระเบียบนะ หาของง่ายดีครับ เพราะบางทีหาไม่เจอ พาลเซ็งไปทั้งวันก็มี

ขอบคุณครับ ... คุณซูซาน ... ยังสบายดีนะครับ :)

ปีนี้พี่ต้องปรับฮวงจุ้ยโต๊ะทำงานที่บ้านก่อน เพราะรกตั้งแต่ปลายปีแล้ว

ส่วนเรื่องอื่นๆพอไหวแล้วค่ะ

ขอบคุณที่เล่าเรื่องดีดี เสมอ

สวัสดีปีใหม่นะคะ

ขอบคุณคะ

ต้องปรับและจัดเก็บโต๊ะทำงานทั้งที่บ้านและที่ทำงาน รกมาก ยังหางานตัวเองไม่เจอเลยคะ

รับไว้พิจารณาทุกข้อเลยค่ะ แล้วจะถือปฏิบัติภายหลัง อิอิ

อ.วสวัต: สบายดีค่ะ ที่แนะนำไว้ก็เป็นทริคเสริมชะตาในการทำงาน ให้ชีวิตมันสบายขึ้น อันที่จริงเรื่องโต๊ะรกไม่รกนี่เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลนะคะ บางคนโต๊ะรกแต่จำแม่น หาของเจอก็มีเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ที่พบคือ กว่าจะหาเจอก็กินเวลาพอสมควร

การจัดของให้เป็นระเบียบ มีหมวดที่ค้นง่าย รวมถึงการทำทะเบียน footage ก็เป็นเรื่องสำคัญ บางครั้งคนทำงานไม่มาหรือลาออกไป ถ้าสุมไว้แบบรู้คนเดียว คนอื่นก็ทำงานต่อไม่ได้ อย่างที่บริษัทถ้ามีคนจะลาออก เดือนสุดท้ายนี่แทบไม่ต้องทำงาน แต่ต้องทำรายละเอียดมอบหมายงานทั้งหมดว่าอยู่ไหน มีอะไรบ้าง ไม่งั้นคนอื่นที่มาใหม่ก็ต้องมางมเอง ซึ่งเสียเวลามากค่ะ ไม่อยากให้เกิดอาการออกแล้วต้องมีคนโทรไปจิกถาม สร้างความรำคาญแก่ทั้งสองฝ่าย

พี่แก้ว: จัดของบนโต๊ะกับในห้องนี่ถ้าวางแผนไว้ก่อนแค่ไม่กี่ชม.ก็เสร็จแล้วค่ะ นี่ส่วนตัวทุกอาทิตย์ก็จะจัดให้เรียบร้อยหนหนึ่ง พอครบเดือนหรือสองเดือนก็เคลียร์เอกสารที่ไม่ใช้ออก สิ้นปีก็เคลียร์ใหญ่อีกรอบ การมีแฟ้มแยกแต่ละโปรเจ็คช่วยได้มาก ไม่ต้องงมให้เสียเวลา จะทำเรื่องอะไรก็ดึงแฟ้มนั้นออกมาเป็นอันเรียบร้อย

คุณประกาย: ลงมือทำเลยค่ะ เดี๋ยวปล่อยไว้นานๆ ไฟก็จะมอดอีก พองานเริ่มเยอะก็จะผลัดไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ผ่านไปอีกปี

คุณครูป.1: หวังว่าบันทึกนี้จะมีประโยชน์แก่คนทำงานบ้างค่ะ ปรับแล้วดีกับชีวิตทำงานก็น่าทำนะคะ

สวัสดีจ้าศิษย์น้อง

ปีใหม่นี้ได้เริ่มทำอะไรดีๆ หลายอย่างเหมือนกัน เริ่มทำความสะอาดมากขึ้น ที่เคยรก ก็รกน้อยลง ทำแล้วสบายใจ ^ ^ แล้วก็เริ่มออกกำลังที่บ้านมากขึ้น หลังจากมีแต่ข้อแก้ตัวว่าเสียเวลาขับรถไปออกกำลัง อิอิ

ทำแล้วดีจริงๆ จ้า ^ ^

  • สวัสดี คุณซูซาน..

ห้องนอนรกนิดหน่อย  อิอิ เพราะชอบเอาหนังสือวางไว้ใกล้ๆ มือ   ส่วนโต๊ะทำงานก็มีหนังสือและกองกระดาษ    เก็บกี่ครั้งๆ ก็..มีแต่หนังสือและกระดาษเหมือนเดิม    แต่วางไว้เป็นระเบียบในสายตาเรานะ 

ศิษย์พี่รอง: ดีจังที่ลุกขึ้นทำความสะอาด ชีวีก็จะสดใสขึ้น เหนื่อยตอนทำแต่ชื่นใจเวลาอยู่กับมันทุกวัน ออกกำลังกายอยู่บ้านก็ทำได้ค่ะพี่ ถ้าอยากทำทำที่ไหนก็ได้ แค่ทำงานบ้านเยอะๆ ก็เป็นการออกกำลังกายได้แล้วเหมือนกัน

คุณต้อม: หนังสือนี่เราก็วางเต็มหัวเตียงเหมือนกัน เรามีชั้นวางตรงนั้นเลยล่ะเพราะชอบอ่านหนังสือก่อนนอน ส่วนโต๊ะเราก็ไม่ได้สะอาดทุกวันหรอก แต่พยายามเก็บเมื่อเสร็จแต่ละงาน จะได้ไม่พลาดหรือหลงลืมอะไร ไม่งั้นงานกองสุมอยู่ก็จะมีลืมได้

น้องซูซานคะ
อ่านแล้ว เหมือนเห็นตัวเองซ้อนๆขึ้นมาจากบันทึกของน้องเลยละ
พูดจริงๆค่ะ ไม่ได้พูดสนุกๆ
พี่เป็นคน ค่อนข้างมีระเบียบ โต๊ะของตัวเอง ก็ไม่เคยรก เลยไม่ค่อยชอบเห็นโต๊ะใครรกๆ
และที่ไม่ชอบที่สุดคือ ไม่ชอบเห็นพนักงาน เอาเวลางานไปทำเรื่องส่วนตัว ที่ไม่เป็นเรื่อง เช่น เล่นเน็ท โทรศัพท์เรื่องสนุกๆกับเพื่อน แทนที่จะพูดเรื่องงาน
ใครมีผู้บริหารอย่างที่น้องบรรยายมานี้ ก็นับว่า เป็นโชคของบริษัทนะคะ
ขออวยพร ให้บริษัทของน้อง มีแต่ความเจริญๆๆๆ เซงลี้ฮ้อๆๆค่ะ

พี่คิดว่าความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นมงคลของชีวิตนะคะ

โต๊ะทำงานนั้นสะท้อนบ่งบอกลักษณะนิสัยของคนได้เป็นอย่างดี ซึ่งคนมักไม่รู้ตัวนะคะ พี่มีเพื่อนคนหนึ่งดูเป็นคนทำงานเก่งพอควรแต่โต๊ะทำงานรกสุมๆ มีทั้งของหลวง ของส่วนตัว พอเทียบกับนิสัยของเขาแล้วเป็นเหมือนโตีะหรือห้องทำงานเลยค่ะ คือรับทุกเรื่องเข้าไว้ในความคิด ชีวิตมีแต่ปัญหา วุ่นวาย สับสน แยกไม่ออกกับการทำงานแบบมืออาชีพกับเรื่องส่วนตัว

การรักความสะอาด ความมีระเบียบเรียบร้อยเป็นสิ่งปลูกฝังกันได้นะคะ

ตามอาจารย์ ยุวนุชมาครับ

จริงๆจะมา "คอนเฟริ์ม" นะครับ ว่า โต๊ะทำงานของอาจารย์น่าจะระเบียบเรียบหรู

จะว่าไปผมให้ความสำคัญกับโต๊ะทำงานมากครับ ผมเน้นโล่งมี space เยอะๆ จัดของให้เป็นระเบียบ หยิบใช้ง่าย และขยะที่ไม่จำเป็นทิ้งไปหรือ เก็บไป

บรรยากาศของความวุ่นวายอยู่ที่โต๊ทำงาน หากเราลดมลพิษทางสายตาตรงนี้ลงได้ ...ใจสงบ ทำงานได้ราบรื่นดีครับ

 

พี่ศศินันท์: เขียนจากใจคนที่เป็นนายค่ะ ว่าไม่อยากเห็นอะไร ลูกจ้างมักจะมองต่างจากเจ้านายเป็นเรื่องธรรมชาติ เพียงแต่ถ้ารู้ไว้ก็อาจจะปรับตัวจูนเข้าหากันเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาได้ หนูไม่ถึงกับเจ้าระเบียบหรอกค่ะ ไม่ค่อยยุ่งกับชีวิตคนอื่นตราบใดที่เขาทำงานไม่มีปัญหา แค่แนะนำนิดหน่อย ที่เหลือต้องเป็นเขาเองที่จะทำอะไร ส่วนที่เกี่ยวกับชีวิตตัวเองก็ค่อนข้างจะมีระเบียบ ทำจนติดเป็นนิสัยเลยไม่รู้สึกฝืนลำบากแต่อย่างใด

พี่นุช: ใช่เลยค่ะ อย่างน้อยมันก็น่านั่งทำงาน บรรยากาศเคลียร์ ไอเดียก็แล่น ถ้ารู้จักจัดระเบียบสิ่งของก็เป็นตัวบอกง่ายๆ ว่าจัดการชีวิตเป็น

เอก: อื้อ เราก็มีรกบ้าง แต่พอเสร็จก็เก็บ ทำเป็นช่วงๆ ไป ไม่ได้บ้าเก็บตลอดเวลาหรอก เวลาทำงานก็ทำ รกก็ต้องปล่อย เรากางหนังสือเทียบกันทีสามสี่เล่ม ไหนจะกระดาษโน๊ตอีก จบงานก็มาจัดทีหนึ่ง แต่ก็ชอบโต๊ะโล่งๆ ตอนเช้าที่มาทำงานนะ สบายตาสบายใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท