วันที่ 31 ธันวาคม 2551
หากตามธรรมเนียมแห่งความเป็นไป ก็ถือว่าเป็นวันที่สิ้นสุดท้ายแห่งปี และเตรียมเริ่มต้นศักราชใหม่ในวันถัดไป ธรรมเนียมปฏิบัติของคนในครอบครัวก็ถือว่าอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา สองปีที่ผ่านมานี่ที่ข้าพเจ้าใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านกับแม่จริงๆ >>> ที่ว่าจริงๆ คือ ไม่ได้ไปที่ไหนแต่ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้อยู่กับท่าน และเชื่อมโยงไปถึงเครือญาติด้วย เมื่อก่อนนี้ข้าพเจ้าค่อนข้างจะยึดตนเองเป็นที่ตั้ง ประมาณว่าอยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรก็จะทำ และแม่ก็ค่อนข้างให้อิสระต่อสภาวะการตัดสินใจของข้าพเจ้าเอง แต่สองปีให้หลังที่ข้าพเจ้าตัดสินใจภายในตนเองว่า ควรเป็นเวลาที่พึงอยู่...อย่างสงบภายในและเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างที่ตนเองไม่เคยชิน
เมื่อวานและเมื่อคืน... ได้เรียนรู้กับการอยู่กับน้องๆ และพี่ๆ ถือว่าเป็นวันรวมญาติฝ่ายพ่อ (พ่อเสียชีวิตมาประมาณสิบกว่าปีแล้ว) ถือว่าเรทติ้งสำหรับตนเองยังดีอยู่ ^__^ เพราะยังเป็นขวัญใจของน้องๆ และหลานๆ จนอาหมี น้องสาวคนเล็กของพ่อ แซวว่า...ให้แยกออกมาอยู่ในกลุ่มตามวัยได้แล้ว แต่เด็กๆ ก็ยังแวดล้อมเราอยู่อย่างสนุกสนาน ... Ka-Poom ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กๆ อยู่เฉกเช่นเดิม
อาสุนเป็นลูกคนที่เจ็ดของย่าจากทั้งหมดเก้าคน ถือโอกาสทำบุญเลี้ยงพระขึ้นบ้านใหม่ และเป็นวันรวมญาติในวันสิ้นปีไปในตัวด้วย ข้าพเจ้าไปบ้านอาสุนแต่เช้า นั่งมองบริบทรอบๆ และความเป็นไป ปู่กับย่านั้นเสียชีวิตแล้ว ลุง-พ่อ-และอาหน่อ สามพี่น้องที่มีวงวัยต่อๆ กันได้เสียชีวิตแล้ว แม้ว่าคนหลักๆ ของตระกูลละโลกนี้ไปแล้ว แต่การรวมตัวกันของเครือญาติยังเหนียวแน่นอยู่เช่นเดิม ข้าพเจ้านั่งมองดูอาแต่ละท่านต่างก็มีอายุมากขึ้น สะท้อนได้จากน้องๆ ของข้าพเจ้าเองก็โตกันหมดแล้ว ช่วงแห่งวันข้าพเจ้านั่งเสพอารมณ์แห่งความรื่นรมย์ที่แผ่กระจายไปในวงแห่งเครือญาติ... โดยมีน้องวรรณลูกของอาขวัญ เป็นสีสรรแห่งความสดใส ปีนี้เจ้าวรรณอายุจะสามสิบแล้ว ยังไม่มีครอบครัว ชีวิตค่อนข้างอิสระและรักครอบครัว วรรณมักมีเอกลักษณ์ที่ทำให้ใครๆ ได้หัวเราะอยู่เสมอ ถือว่าเป็นชีวิตชีวาของวงญาติเลยก็ว่าได้
วิถีที่เป็นไปค่อนข้างไม่มีอะไรซับซ้อน...นั่งคุยทานข้าวไปเรื่อยๆ ทั้งวัน ในตอนเย็นมีการจับของขวัญซึ่งไม่ได้ทำเฉพาะในวงเด็ก แต่รวมทั้งหมดตั้งแต่อายุมากสุดอย่างคุณยายหมาน จนถึงน้องเกรซอายุจะสองขวบ อาสุนอาสาเป็นตากล้องจับภาพแห่งเครือญาติ ส่วนข้าพเจ้าเองก็นั่งอยู่ในวงของเด็กวัยรุ่นทั้งหลายแหล่ที่ภูมิใจเสนอสอนพี่ปุ๋ม - น้าปุ๋ม...ให้เล่นรูบิท เด็กๆ แต่ละคนเขาล้อมลงเล่นแข่งจับเวลากัน
ปีนี้น้องๆ โตขึ้นมาก อยู่ในช่วงวัยรุ่น อาหมีนำเต๊นท์มากางที่บริเวณบ้านให้เด็กได้นอนกัน การพูดคุยก็จะเป็นเรื่องตามความสนใจตามวัย หากรุ่นเด็กลงมาหน่อยก็จะมีน้องกัน น้องเกรช น้องมิก ก็จะมีโลกส่วนตัวตามวัยของตนเองไปอีกแบบ
ข้าพเจ้าอยู่ที่บ้านอาไม่นานก็ขอตัวกลับก่อน มานั่งทบทวนกับตนเองว่า สภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแม้จะเป็นสิ่งที่จัดว่าไม่ใช่เรื่องเคยชินสำหรับตนเอง แต่ข้าพเจ้าก็เลือกที่จะนำพาตนเองอยู่ในวงแห่งเครือญาติ ที่เป็นสภาวะที่เราเลือกที่จะละหรือปฏิเสธได้ แต่ในสภาพแห่งธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ยากอยู่ที่มนุษย์เรานั้นจะแยกจากขาดออกไปได้จากสานสัมพันธ์แห่งวงเครือญาติ และยังเป็นวงที่ยังต้องมีการเกื้อหนุนกันอยู่ ข้าพเจ้ามองว่านี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ การอยู่อย่างเกื้อหนุนที่เริ่มจากวงเล็กๆ คือ ครอบครัว และเครือญาติ
บางครั้งบางเวลาเราตกลงไปอยู่ในวงที่แตกต่าง และไม่คุ้นเคย แต่ธรรมชาติได้สอนให้เราปรับตัวและเรียนรู้เพื่อการดำรงอยู่ ... สภาวะแห่งวงที่เราตกลงไปนั้นบางครั้งยากที่จะแยกออกมาได้ แต่เราสามารถเรียนรู้ภายในตนเองให้อยู่ในสภาวะดังกล่าวได้ด้วยใจเบาเบา อันนำไปสู่การเกิดเป็นความนิ่งเย็นและปิติสุขได้ในที่สุด
-------------------------------------------------------
ทบทวนวันสิ้นปีศักราช
31 ธันวาคม 2551
บางครั้งบางเวลาเราตกลงไปอยู่ในวงที่แตกต่าง และไม่คุ้นเคย แต่ธรรมชาติได้สอนให้เราปรับตัวและเรียนรู้เพื่อการดำรงอยู่ ... สภาวะแห่งวงที่เราตกลงไปนั้นบางครั้งยากที่จะแยกออกมาได้ แต่เราสามารถเรียนรู้ภายในตนเองให้อยู่ในสภาวะดังกล่าวได้ด้วยใจเบาเบา อันนำไปสู่การเกิดเป็นความนิ่งเย็นและปิติสุขได้ในที่สุด
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณ Ka-Poom
ปีใหม่ ปีนี้ มันก็เหมือนทุกๆปี
ได้อยู่กับคนในครอบครัว
คำว่าครอบครัวมันมีความหมายมากจริงๆ
มันทำให้เราปรับตัวได้ดีเมื่ออยู่ในอีกกลุ่มที่มันแปลกแยกไป
ขอบคุณ ค่ะคุณ Ka-Poom ที่ทำให้ได้ตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว และ เครือญาติ
สวัสดีปีใหม่ครับผม...
ผมก็ใช้เวลากับครอบครัวและญาติ ๆ ตลอดช่วงเทศกาลครับ...
เป็นความสุขง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อครับผม...
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
มีความสุขมากๆนะคะ
สวัสดีคะอาจารย์Ka-pom
วันหยุดอยู่กับญาติเป็นวิถีชีวิตของชาวอีสาน
เป็นความสุขที่ดีนะคะ มีหลาน ๆ และเป็นขวัญใจเด็ก