วรรณกรรมสองฝั่งโขง "นิทาน สินไซ"
1 จักกล่าวก้ำนิทานไซเรื่องสิน
ความเป็นมาก่อนเดิมดาเค้า
ตามบทเบื้องพระยาเมืองกุสราช
ตุ้มไพร่พอได้อยู่เย็นบ้าน
สุขบ่เว้นเช้ากระทำการค่ำ
......เมียเจ็ดคนกะได้เหล่าทนทาน ... อิอิอิทนได้ไง??
2 ยังมีน้องสุมณฑางามยิ่ง
กุมพันธ์ลักหอบอุ้มเอาน้องด่วนหนี
ด้วยเหตุนี่จั่งได้กล่าวปรารภ
เพราะนิทานสินไซหลายบั้นมากมาย
อัศจรรย์ใจโอ้นอโตได้คิดฮ่ำ
กุสราชคิดนำสุมณฑาผู้น้องมาข่องวางใจ
3 เมียทั้งเจ็ดกะได้บุตรเกิดนำมา
ส่วนลุนนางเทวีต่างชนชาวบ้าน
สีโหพร้อมสังข์ทั้งแท่งทอง
สินไซน้อยด้องแด้งศรพร้อมเกิดมา
4 นางทั้งหกเจ้าได้โอกาสมายา
ติดสินบนหมอโหรบอกให้ทวยคำฮ้าย
หมอโหรเจ้ามาคิ้วเสี่ยงทำนาย
บอกพระองค์อย่าเลี้ยงเอาไว้ฮกเมือง
น้ำสิเกิดท่วมฟ้าปลาสิแล่นกินดาว
คนในเมืองสิหม่นหมองคองบ้าน
5 พระองค์จัดการให้เอาลุนนางเนรเทศ
ไปกับลูกอ่อนน้อยหนีพร้อมพ่ำกัน
ออกจากบ้านแล้วแต่ไปไสสิ
ส่วนว่าองค์อินทราได้ซอยเหลือเอาไว้
แปลงปูนสร้างเคหังตูบกระท่อม
ให้ลุนนางและลูกน้อยพอได้พักเนา
6 สินไซเจ้าเติบใหญ่เจริญวัย
ทั้งหกบากะใหญ่มาเพียงด้าม
หกบาท้าวกะพากันออกเที่ยว
เลาะเลียบต้ายตามข่วงไพรคุ้ม
ไปพบพ้อบาสินไซบ่าว
ลองศรศิลป์โก่งยิงอยู่ในด้าว
สัตว์สิงห์เชื้อดงแตกตื่นใน
หกท่อนท้าวชื่นเห็นใจแล้ว
จังบอกให้น้อยสิไซอ่อน
ชุมไทเฮาเดียวกันแท้พ่อ
มีหยังให้น้องพี่อาศัย
สามัคคีพี่น้องใจเกี่ยวกันข้อง
วันถ้วนเจ็ดให้น้องลองอีกแผงศร
ไล่ให้ฝูงสัตว์สาแล่นไปเมืองอ้าย
สินไซเจ้ากะทำตามดังว่า
ในฐานะพี่น้องเฮาเพิ่งกันต้อง
7 ตกบทบั้นวันนัดผัดหมาย
ทั้งหกซายเหล่าพาทีต้าน
ขานคำเว้านำพระองค์เจ้าพ่อ
สิเรียกเอาหมู่เนื้อเสือช้างให้พ่อดู
กุสราชเจ้าได้เห็นหมู่สัตว์สา
ฝูงกวางฝานเหล่าทะยานโตนเต้น
เป็นจริงแล้วแนวดีลูกพ่อ
ต่อ แต่นี้ชุมเจ้าจ่งฟัง
ทั้งหกท้าวลงนั่งฟังจา
ให้นำเอาสุมณฑาต่าวคืนมาบ้าน
องค์อวนเจ้าสุมณฑาอามิ่ง
กุมพันธ์ลักหอบอุ้มอาเจ้าด่วนหนี
หากเจ้าได้อาต่าวคืนกลับ
พ่อสิยอนครทองนั่งปองเป็นเจ้า
8 ทั้งหกท้าวอาสาใซ้ส่วง
เตรียมท่าจ้อรอท่า แต่สิไป
เบ็ดใส่ก้ำน้องพีสิไซ
ชวนไปนำเอาอาต่าวคืนมาบ้าน
สีโหพร้อมสังข์ทองน้องพี่
สัมพันธ์มีพี่น้องบ่ขัดข้องซองได๋
9 สินไซท้าวก้มขาบขอศร
กับทั้งพรแม่ลุนนางให้
ทั้งหกท้าวรีบด่วนจัดการ
มวลพี่น้องไปพร้อมพ่ำกัน
10 ถึงแม่น้ำกะเลยเลาเซาพัก
วาจาขานต่อกันคีค่อย
กาลทางหน้ายังหนาแสนย่าน
มารยักษ์ฮ้ายหลายแท้บ่อนไป
หกบ่าวท้าวท่าอยู่ฝั่งนทีหลวง
ให้สังข์ทองอยู่คองคอยเฝ้า
สีโหเจ้าสินไซพร้อมพ่ำ
สินำอาให้ได้คืนบ้านเก่าหลัง
11 สองอ่อนน้อยเถิงด่านงูซวง
สินไซยอตาวตัดผ่าฟันมรเมี้ยน
เป็นเพราะบุญญาท้าวสินไซยิ่งใหญ่
ศรัตรูใต้แหล่งหล้าบ่อมีย้านหย่อนยำ
12 ออกจากหั่นถึงด่านขีณี
ลำตัวสูงซั่วตาลเจ็ดต้น
เป็นชนเชื้อผีมารยักษ์ใหญ่
สินไซอดบ่อได้ศรน้าวโก่งยิง
ยักษ์เผดฮ้ายทนอยู่บ่อมีไหว
เลยเหล่ามรนังตายขาดใจเสียสิ้น
13 ยามบาดมาเถิงไท้สุมณฑาอามิ่ง
ซะซ่อนหน้าจาเว้าต่ออา
เลยเลาฮู้หลานเหล่านำหา
สุมณฑากลัวยักษ์มิ่งผัวมาพ้อ
เลยเลาเอาสองท้าวหลานซายซุกซ่อน
นอนในกองดอกไม้คอยลี้อยู่ใน
14 กุมพันธ์เฮี้ยวเที่ยวคืนกลับป่า
ไปเหมิดวันกะบ่มีแนวได้
เป็นนำศรไปกุ้มกุมตายักษ์ใหญ่
มาฮอดห้องดังต้องกลิ่นคน
หาซอกค้นจังพ้ออ่อนสินไซ
มือคัวจับสิคุบเอาบาท้าว
สินไซยอเอาได้ศรมาน้าวโกง
ยิงใส่ยักษ์เผ็ดผู้มารฮ้ายเหล่าตาย
15 สินไซเจ้าเอามิ่งสุมณฑา
พากันกลับต่าวคืนเมือบ้าน
มาถึงอ้ายหกซายฮ้องโฮ่
เสียงไชโยโฮ่ฮ้องดังก้องฝั่งนที
ด้วยเหตุนี่น้องพี่ได้ร่วมกัน
สร้างสัมพันธ์ไมตรีบ่อแลนม้างแตกแตน
ต่างคนต่างสร้างความดีมีอยู่
คือลาวไทยพี่น้องสองข้างนั้นเพิ่งกัน
WWW.cruroj.com
ความเห็น (11)
สวัสดีครับ มีสินไซ มาฝาก ฉบับลาว
ขอบคุณค่ะอาจารย์...มีทุกเรื่อง...รู้ทุกอย่างอายจัง
- สวัสดีครับ
- อิอิ ถ้ามีเสียงคนอ่านให้ฟังผมว่ายิ่งไพเราะมากเลยครับ
- อิอิ
สวัสดีอีกรอบครับ
เห็นด้วยกับคุณสายลมครับ อ่านได้ในใจ แต่อ่านออกเ้สียงไม่เป็น ต้องพึ่งครูรจแล้ว..
...ได้เล้ย...เสียงเฮาใสคือแก้ว
สินไซ (สังข์สินไช)
ท้าวกุศราชครองเมืองปัญจาล มีมเหสีชื่อนางจันทาเทวี พระขนิษฐาของท้าวกุศราชชื่อนางสุมณฑา ถูกยักษ์ลักพาไปเป็นชายา ภายหลังจึงพาชายาทั้งเจ็ดกลับเมือง อยู่มาไม่นานพระชายาทั้งเจ็ดและพระมเหสีตั้งครรภ์ ประสูติออกมาเป็นโอรสทุกพระองค์ พระมเหสีนางจันทาเทวีประสูติโอรสเป็นราชสีห์ชื่อว่า " สีโห " ส่วนพระชายาองค์สุดท้อง(ลุน)ประสูติโอรสชื่อว่า " สินไซ (ศิลป์ชัย) " และมีสังข์เป็นอาวุธติดมือมาพร้อมกับประสูติ
หมอหูฮา (โหรา) ทำนายว่าพระโอรสสินไซมีบุญญาธิการมาก สามารถปราบยักษ์และศัตรูได้ทั่วจักรวาล พี่สาวทั้งหกอิจฉาน้องสาวมา จึงติดสินบนหมอหูฮาให้ทำนายเท็จกราบทูลท้าวกุศราช ท้าวกุศราชจึงจำยอมขับไล่นางลุนและโอรสสินไซออกจากเมือง เพราะหมอหูฮาทูลว่าพระโอรสจะนำความวิบัติมาสู่บ้านเมือง ท้าวสีโหโอรสมเหสีจันทาเทวีขอติดตามสินไซไปด้วย มารดาสินไซพร้อมด้วยท้าวสีโหและสินไซก็เดินป่าพเนจรไป พระอินทร์ทราบเรื่องจึงมาเนรมิตกระท่อมให้แม่ลูกอาศัยอยู่
หกกุมารเจริญวัยได้เสด็จประพาสป่ามาพบกระท่อมของสินไซและมารดา สินไซได้แสดงอภินิหารให้กุมารทั้งหกชม
วันหนึ่งกุมารทั้งหกอยากอวดอิทธิฤทธิ์ให้บิดาชม จึงมาติดสินบนให้สินไซเรียกสัตว์เข้าเมือง พระบิดาเห็นดังนั้นจึงคิดว่าพระกุมารมีอิทธิฤทธิ์สามารถเรียกสัตว์ป่าได้จริง ๆ
พระบิดาจึงสั่งให้กุมารทั้งหกไปติดตามหานางสุมณฑาที่ยักษ์ลักพาไป พระกุมารทั้งหกจึงอ้อนวอนให้สินไซช่วยเหลือไปตามพระเจ้าอา พระมารดาไม่อยากให้สินไซไป แต่สินไซได้รับรองกับพระมารดาว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์ มีทั้งสังข์ และท้าวสีโหที่จะช่วยขจัดภัยพิบัติทั้งปวง พระมารดาจึงยินยอมให้ไปกับกุมารทั้งหก
เมื่อกองโยธาไปถึงฝั่งมหาสมุทรสินไซจึงให้กองโยธาและกุมารทั้งหกตั้งทัพคอยอยู่ที่ฝั่งน้ำ ตนและสีโหจะไปยังเมืองยักษ์ติดตามนางสุมณฑาเอง
สินไซก็ขี่ท้าวสีโหเหาะไปจนถึงเมืองยักษ์ ได้พบนางสุมณฑาเล่าเรื่องของตนให้ฟัง นางสุมณฑาก็ยินดีแต่นางเองก็ห่วงพระธิดาชื่อนางสุดาจันทร์ ที่ตกเป็นชายาท้าววิรุณนาค เพราะยักษ์ผู้เป็นบิดาเสียพนันสกากับท้าววิรุณนาค เมื่อยักษ์ผู้เป็นสามีนางสุมณฑาเข้าเมืองทราบว่ามีมนุษย์อยู่ในปราสาท จึงตามหาจนพบสินไซ ทั้งสองรบกันด้วยศาสตร์ศิลป์ต่าง ๆ นานา ในที่สุดสินไซก็ฆ่ายักษ์ได้ และไปเมืองนาคเล่นสกาพนันเอาเมืองกับท้าววิรุณนาค ท้าววิรุณนาคแพ้ยอมยกเมืองให้ แต่ไม่ยอมให้นางสุดาจันทร์ ทั้งสองจึงรบกันสินไซชิงนางไปได้ จึงพานางสุดาจันทร์และนางสุมณฑากลับมายังฝั่งมหาสมุทรที่กุมารตั้งทัพคอยอยู่
กุมารทั้งหกดีพระทัยมาก แต่ไม่รู้จะไปทูลพระบิดาอย่างไรดี จึงหาอุบายฆ่าสินไซ เมื่อได้โอกาสจึงผลักสินไซตกเหวพร้อมกับสีโห หกกุมารจึงยกทัพกลับเมืองพานางสุมณฑาและนางสุดาจันทร์เข้าเมือง ระหว่าทางนางสุมณฑาเป็นห่วงสินไซมาก แต่ก็จนใจจึงนำผ้าสไบแขวนไว้อธิษฐานว่าหากสินไซยังมีชีวิตอยู่ ขอให้นางได้พบผ้าผืนนี้อีก หกกุมารยกทัพกลับถึงเมือง
ท้าวกุศราชบิดาทรงดีพระทัยมาก ที่หกกุมารมีอิทธิฤทธิ์ปราบยักษ์ปราบนาคได้สำเร็จ จึงจัดงานเฉลิมฉลองเป็นการใหญ่ ส่วนนางสุมณฑาและนางสุดาจันทร์ไม่กล้าจะทูลความจริง เพราะคิดว่าสินไซคงตายแล้ว วันหนึ่งพ่อค้าสำเภาได้พบผ้าสไบซึ่งเป็นผ้ากษัตริย์ จึงนำมาถวายท้าวกุศราช นางสุมณฑาเห็นผ้าของตนที่อธิฐานไว้ จึงทราบว่าพระสินไซยังมีชีวิตอยู่ จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท้าวกุศราชฟัง
ท้าวกุศราชจึงจัดงานฉลองพระนครเจ็ดวันเจ็ดคืน เพื่ออุบายให้ท้าวสินไซมาเที่ยวงานเฉลิมฉลอง และให้นางสุมณฑาคอยติดตามดูคนมาเที่ยวงานเพื่อตามหาสินไซ ฝ่ายสินไซเมื่อถูกผลักตกเหวร้อนถึงพระอินทร์ ๆ มาช่วยชุบชีวิตแล้วให้กลับไปอยู่กับมารดาตามเดิม เมื่อมีงานฉลองพระนครก็ไปเดินเที่ยว นางสุมณฑาพบเข้าจึงให้เข้าเฝ้าท้าวกุศราช ๆ สอบถามความจริงจึงสั่งให้ประหารหมอหูฮา และขับไล่พระกุมารทั้งหกและพระชายาทั้งหกไปอยู่เมืองจำปา
ท้าวกุศราชก็แต่งราชรถไปรับพระชายาและสินไซเข้าเมือง ส่วนนางสุดาจันทร์ท้าววิรุณนาคมาขอไปเป็นชายาเหมือนเดิม ท้าวสินไซก็ได้ครองราชย์ปกครองราษฎรอยู่ในทศพิธิราชธรรมสืบมา...
สวัสดีครับ
แวะมาอ่านฉบับร้อยแก้ว
เคยอ่านนิทานของชวา มีเรื่องเกิดลูกมาเป็นหอยทองเหมือนกัน
แต่หาต้นเรื่องอยู่
อาจารย์เขียนเรื่อง แล้วมีภาพประกอบ ชวนอ่านครับ
พึ่งเถิงบ้าน...เฮาไปเฮียนปรับสมองตั้งแต่ห้าโมงแลงเถิงสามทุ่ม...
...ขอบคุณค่ะ...แต่เฮาประหม่านะที่ผู้รู้คอยจ้องๆมองๆ......
สำหรับภาพประกอบเฮาให้นักเรียนวาด (บูรณาการกับศิลปะเขา) ถ้าเสร็จเรียบร้อยจะส่งให้ชี้แนะนะคะ...
คำกลอนวรรณกรรมพื้นบ้านเรื่อง “ สินไซ “
ครูรจนา
๑.จักกล่าวก้ำนิทานเรื่องสินไซ
ความเป็นมาก่อนเดิมดาเค้า
ตามบทเบื้องพระยาเมืองกุสราช
ตุ้มไพร่บ้านพอได้อยู่เย็น
สุขบ่อเว้นเซ่าค่ำกระทำการ
เมียเจ็ดคนกะเหล่าทนทานได้
กิจกรรมที่ ๑
- จงสรุปบทนำเรื่องอย่างย่อๆจากคำกลอนวรรณกรรมพื้นบ้าน “สินไซ”
๒.ยังมีน้องสุมณฑางามยิ่ง
กุมพันธ์ลักหอบอุ้มเอาน้องด่วนหนี
ด้วยเหตุนี่จั่งได้กล่าวปรารภ
เพราะนิทานสินไซมากมายหลายบั้น
อัศจรรย์ใจโอ้นอโตได้คิดฮ่ำ
กุสราชคิดนำสุมณฑาผู้น้องมาข่องวางใจ
กิจกรรมที่ ๒
-จงอธิบายความเป็นมาของตัวละครที่ชื่อ “สุมณฑา”
๓.เมียทั้งเจ็ดกะได้บุตรเกิดมาหา
ส่วนลุนนางเทวีต่างชนชาวบ้าน
สีโหพร้อมสังข์ทองทั้งแท่ง
สินไซน้อยด้องแด้งศรพร้อมเกิดมา
กิจกรรมที่ ๓
- จงบอกเล่าถึงตัวละครในบทกลอน มีใคร ลักษณะนิสัยอย่างไร
๔.นางทั้งหกเจ้าได้โอกาสมายา
ติดสินบนหมอโหรบอกให้ทวยคำฮ้าย
หมอโหรเจ้ามาทำนายคิ้วเสี่ยง
บอกพระองค์อย่าเลี้ยงเอาไว้ฮกเมือง
น้ำสิเกิดท่วมฟ้าปลาสิแล่นกินดาว
คนในเมืองสิหม่นหมองคลองบ้าน
กิจกรรมที่ ๔
- จงแสดงความคิดเห็นว่าความเชื่อและค่านิยมของคนในสมัยนั้น และ
ปัจจุบัน ในเรื่องโหราศาสตร์เหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร
๕.พระองค์จัดการให้เอาลุนนางเนรเทศ
ไปกับลูกอ่อนน้อยหนีพร้อมพ่ำกัน
ออกจากบ้านแล้วแต่สิไปไส
ส่วนว่าองค์อินทราได้ซอยเหลือเอาไว้
แปลงปูนสร้างเคหังตูบกระท่อม
ให้ลุนนางและลูกน้อยพอได้พักเนา
กิจกรรมที่ ๕
- นักเรียนมีความคิดเห็นอย่างไร ต่อการลงโทษแบบเนรเทศ จงอธิบาย
๖.สินไซเจ้าเติบใหญ่เจริญวัย
ทั้งหกบากะใหญ่มาเพียงด้าม
หกบาท้าวกะพากันออกเที่ยว
เลาะเลียบต้ายตามคุ้มข่วงไพร
ไปพบพ้อบาบ่ายสินไซ
ลองศรศิลป์โก่งยิงอยู่ในด้าว
สัตว์สิงห์เชื้อในดงแตกตื่น
หกท่อนท้าวเห็นแล้วชื่นใจ
จังบอกให้น้อยอ่อนสิไซ
ชุมไทเฮาพ่อเดียวกันแท้
มีหยังให้อาศัยน้องพี่
สามัคคีพี่น้องใจข้องเกี่ยวกัน
วันถ้วนเจ็ดให้น้องลองอีกแผงศร
ไล่ให้ฝูงสัตว์สาแล่นไปเมืองอ้าย
สินไซเจ้ากะทำตามดังว่า
ในฐานะพี่น้องเฮาต้องเพิ่งกัน
กิจกรรมที่ ๖
- จงเล่าเรื่องจากบทกลอนนี้ โดยบรรยาย และพรรณนาให้เห็นภาพพจน์
๗.ตกบทบั้นวันนัดผัดหมาย
ทั้งหกซายเหล่าพาทีต้าน
ขานคำเว้านำพระองค์เจ้าพ่อ
สิเรียกเอาหมู่เนื้อเสือช้างให้พ่อดู
กุสราชเจ้าได้เห็นหมู่สัตว์สา
ฝูงกวางฝานเหล่าทะยานโตนเต้น
เป็นจริงแล้วแนวดีลูกพ่อ
ต่อแต่นี้ชุมเจ้าจ่งฟัง
ทั้งหกท้าวลงนั่งฟังจา
ให้นำเอาสุมณฑาต่าวคืนมาบ้าน
องค์อวนเจ้าสุมณฑาอามิ่ง
กุมพันธ์ลักหอบอุ้มอาเจ้าด่วนหนี
หากเจ้าได้อาต่าวคืนกลับ
พ่อสิยอนครทองนั่งปองเป็นเจ้า
กิจกรรมที่ ๗
- จงเขียนกลอนสุภาพ โดย เล่าเหตุการณ์ในบทกลอนนี้ ๒ บท
๘.ทั้งหกท้าวอาสาใช้ส่วง
เตรียมท่าจ้อ รอท่าแต่สิไป
เบ็ดใส่ก้ำน้องพี่สิไซ
ชวนไปนำเอาอาต่าวคืนมาบ้าน
สีโหพร้อมสังข์ทองน้องพี่
สัมพันธ์มีพี่น้องบ่ขัดข้องซองได๋
กิจกรรมที่ ๘
- จงเขียนคำขวัญให้รักสามัคคีในหมู่พี่น้อง และ เครือญาติ
๙.สินไซท้าวก้มขาบขอศร
กับทั้งพรแม่ลุนนางให้
ทั้งหกท้าวจัดการรีบด่วน
มวลพี่น้องไปพร้อมพ่ำกัน
กิจกรรมที่ ๙
- นักเรียนจงวาดภาพสินไซถือศรตามจินตนาการของตนเองลงในกระดาษวาดเขียน ( บูรณาการกับกลุ่มสาระศิลปะ )
๑๐.ถึงแม่น้ำกะเลยเล่าเซาพัก
วาจาขานต่อกัน คีค่อย
กาลทางหน้ายังหนาแสนย่าน
มารยักษ์ฮ้ายหลายแท้บ่อนไป
หกบ่าวท้าวท่าอยู่ฝั่งนทีหลวง
ให้สังข์ทองอยู่คองคอยเฝ้า
สีโหเจ้าสินไซพร้อมพ่ำ
สินำอาให้ได้คืนบ้านเก่าหลัง
กิจกรรมที่ ๑๐
- จงให้ความหมาย คำที่ขีดเส้นใต้ พร้อมสรุปความอย่างย่อๆ
๑๑.สองอ่อนน้อยถึงด่านงูซวง
สินไซยอตาวตัดผ่าฟันมรเมี้ยน
เป็นเพราะบุญญาท้าวสินไซยิ่งใหญ่
ศรัตรูใต้แหล่งหล้าบ่อมีย้านหย่อนยำ
กิจกรรมที่ ๑๑
-จงอธิบายลักษณะ และอันตรายของงูซวง โดยไปค้นหาคำตอบ
จาก ผู้รู้ในชุมชน พระสงฆ์ พ่อแม่ เอกสารความรู้ ฯลฯ
๑๒.ออกจากหั่นถึงด่านขีณี
ลำตัวสูงซั่วตาลเจ็ดต้น
เป็นชนเชื้อผีมารยักษ์ใหญ่
สินไซอดบ่อได้ศรน้าวโก่งยิง
ยักษ์เผดฮ้ายทนอยู่บ่อมีไหว
เลยเหล่ามรนังตายขาดใจเสียสิ้น
กิจกรรมที่ ๑๒
- จงให้ความหมาย และอธิบายถึงคำว่า ขีณี ให้เข้าใจ
๑๓.ยามบาดมาเถิงไท้สุมณฑาอามิ่ง
ซะซ่อนหน้าจาเว้าต่ออา
เลยเลาฮู้หลานเหล่านำหา
สุมณฑากลัวยักษ์มิ่งผัวมาพ้อ
นอนในกองดอกไม้คอยลี้อยู่ใน
กิจกรรมที่ ๑๓
- จงอธิบายวิธีการของสุมณฑา ที่ช่วยให้หลานปลอดภัยจากอันตราย
๑๔.กุมพันธ์เฮี้ยวเที่ยวป่าคืนกลับ
ไปหมดวันกะบ่อมีแนวได้
เป็นนำศรไปกุ้มกุมตายักษ์ใหญ่
มาฮอดห้องดังต้องกลิ่นคน
หาซอกค้นจังพ้ออ่อนสินไซ
มือคัวจับสิคุบเอาบาท้าว
สินไซยอเอาได้ศรมาน้าวโกง
ยิงใส่ยักษ์เผ็ดผู้มารฮ้ายเหล่าตาย
กิจกรรมที่ ๑๔
-จงแสดงความคิดเห็นว่ายักษ์ในรามเกียรติ์ และยักษ์ในเรื่องสินไซ
เป็นสัญลักษณ์ที่ให้ความหมายอย่างไร
๑๕.สินไซเจ้าเอามิ่งสุมณฑา
พากันกลับต่าวคืนเมือบ้าน
มาถึงอ้ายหกซายฮ้องโฮ่
เสียงไชโยโฮ่ฮ้องดังก้องฝั่งนที
ด้วยเหตุนี่น้องพี่ได้ร่วมกัน
สร้างสัมพันธ์ไมตรีบ่อแตกแตนแลนม้าง
ต่างคนต่างสร้างความดีมีอยู่
คือลาวไทยพี่น้องสองข้างนั้นเพิ่งกัน
กิจกรรมที่ ๑๕
-แบ่งกลุ่มแต่งเพลงความสามัคคีพี่น้องสองฝากฝั่งแม่น้ำโขง
แล้วรวมกลุ่มร่วมร้องเพลงประกวด นำเสนอหน้าเสาธงและ
เสียงตามสายของโรงเรียน
กิจกรรมส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์
๑.จงเขียนแผนภูมิความคิดเรื่อง สินไซ ( ให้สวยงามตามจินตนาการ )
- ตัวละครที่สำคัญ
- เหตุการณ์ที่ที่สำคัญ
- คุณค่าด้านวรรณศิลป์
- คุณค่าด้านสังคม
- ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
.......................................................................................
๒.จัดป้ายนิเทศ “ ความสัมพันธ์ไทย-ลาว” โดยค้นคว้าภาพข่าวแสดงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาวในด้านต่างๆ และบทกลอนส่งเสริมความสามัคคีบ้านพี่เมืองน้อง
””””””””””””””””””””””””””””
กรุณาชี้แนะข้าน้อยด้วย...
ข้อคิดของเรื่องนี้คืออะไรหรอครับ???