เมื่อได้เรียนรู้และได้รู้จัก "อิสระภาพ"


ผมได้ข้อสรุปในตอนนี้ว่าผมจะต้องไม่แม้แต่จะถามหาว่า “อิสระภาพที่แท้จริงคืออะไร”

     ตกลงว่าอิสระภาพเป็นสิ่งที่เรามุ่งค้นหาเพราะว่าโดยพื้นฐานไม่เคยมีหรือไม่ได้รับมาก่อน หรือมีอยู่แล้วตั้งแต่เกิด แต่เราพยายามสะบัดทิ้ง สลัดออกกันแน่ ชักไม่แน่ใจ เรื่องนี้เคยมองว่าเกิดมาก็มีอิสระ แล้วก็ค่อย ๆ สร้างพันธนาการ เริ่มจากเพื่อให้ปลอดภัย จนมาเพื่อให้ได้รับความรัก ....ให้ได้รับการยอมรับ จนเพื่อความสุขสบายในทุกมิติ ยิ่งมากก็ยิ่งน้อยลงซึ่งความเป็นอิสระภาพ และเดินมาจุดที่เรียกว่า “ขาดอิสระภาพ”

     มาถึงวันนี้หลังจากที่ได้ทบทวนทั้งคืน เพราะมีเหตุให้ต้องทบทวนอะไรบางอย่าง “อิสระภาพที่แท้จริงเป็นเรื่องของจิตและใจ หาใช่กายเพียงอย่างเดียวไม่” ดูอย่างเหลือมที่เคยบันทึกไว้ที่ “อิสระภาพที่ถูกคุมขัง” ก็ยังเป็นการมองอิสระภาพของผมที่ไม่หลุด หรือมองแบบขาดอิสระภาพในการมอง ผมกลับไปตั้งคำถามกับเหลือมอีกว่า “ทำไม ถึงอยากติดคุก” ทั้ง ๆ ที่หากวันนี้ผมจะไม่ถามเหลือมเด็ดขาด เพราะได้เรียนรู้แล้วว่า

          ไม่น่าจะดี
          อิสระโดยไม่มีเงื่อนไข ---> ค่อย ๆ เพิ่มเงื่อนไข ---> เงื่อนไขมากจนขาดอิสระภาพอย่างถาวร ---> พยายามลดเงื่อนไขโดยการสร้างเงื่อนไขขึ้นมาใหม่ ---> เงื่อนไขก็ยังมากอยู่ ยังขาดอิสรภาพอย่างภาวรเช่นเดิม

          น่าจะดี
          อิสระโดยไม่มีเงื่อนไข ---> ค่อย ๆ เพิ่มเงื่อนไข ---> เงื่อนไขมากจนขาดอิสรภาพอย่างภาวร ---> พยายามลดเงื่อนไขโดยจิตและใจ ทำความเข้าใจการมีเงื่อนไข ---> เงื่อนไขก็จะค่อย ๆ หมด ลดน้อยถอยลง --->  อิสระโดยไม่มีเงื่อนไข

    ตกลงผมได้ข้อสรุปในตอนนี้ว่าผมจะต้องไม่แม้แต่จะถามหาว่า “อิสระภาพที่แท้จริงคืออะไร” ผมน่าจะดีขึ้นในเรื่องความเป็นอิสระภาพ ทันทีที่คิดได้ นี่แหละครับจึงได้บันทึกไว้

หมายเลขบันทึก: 22453เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2006 06:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

เคยครั้งหนึ่งรู้สึกเหนื่อยกับภาระหน้าที่ทั้งจากการงาน ทั้งภาระในการดูแลครอบครัว และคิดว่าตัวเองช่างไม่มีอิสระเสียเลย มีแต่สิ่งที่เป็นเงื่อนไขให้ทำนั่นทำนี่ ทำนั่นไม่ได้ ทำนี่ไม่ได้ รู้สึกอึดอัดมาก

พอไปเปรยกับพ่อ คำพูดของพ่อ พูดมาประโยคเดียวว่า "ที่จริงลูกมีอิสระที่สุดแล้ว"

ตอนแรกก็ งง ค่ะ เพราะว่ามีความเหนื่อยอย่างที่บอก

ก็กลับมาทบทวนแล้วพยายามมองตัวเองในมุมมองของพ่อ คิดว่า พ่อพูดถูก เพราะเงื่อนไขที่คิดว่ามี เกิดจากการที่ไปยอมรับเงื่อนไขและคาดหวังว่าจะต้องทำตามเงื่อนไขให้สมบูรณ์  สิ่งที่ทำไม่ได้ ก็เพราะมองเห็นแต่ข้อจำกัดที่มาจากคนอื่น ลืมมองตัวเองว่าก็มีข้อจำกัดในศักยภาพเหมือนกัน

เรื่องอิสระภาพจึงคิดด้วยประสบการณ์ว่า เงื่อนไขมีทุกที่ แต่ถ้าเราเองไปรับเอาเงื่อนไขมากำหนดตัวเรา ก็คือเราขาดอิสระ เรื่องเงื่อนไขจึงไม่ใช่ว่า การมีอิสระคือต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพียงแต่เราไม่ไปใช้เงื่อนไขมากำหนดทั้งตัวเราและคนอื่นค่ะ

เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เกิดข้อสรุปกับตัวเองค่ะซึ่งคงใกล้เคียงกับที่คุณชายขอบเขียนว่าการทำความเข้าใจเงื่อนไขก็จะมีอิสระโดยไม่มีเงื่อนไขค่ะ

 

อีกนิดค่ะ อยากlink ไปถึง กระทู้ ของอาจารย์ประพนธ์

"อิสรภาพ การปฏิวัติ และ การทวนกระแส" แต่ยังทำไม่เป็นค่ะ

    อิสระถาพ  คิดว่ามันช่างห่างไกลกับตััวเราเหลือเกิน   เพราะคงยากที่เราจะทำอะไรก้อได้โดยไม่มีเงื่อนไข  หรือจะเอาพันธนาการที่ติดอยู่กับเราออกไป หากเรายิ่งดิ้น ยิ่งคิด พันธนาการนั้นอาจจะยิ่ิงแน่น หรือเราอาจได้เงื่อนไขใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตของเรา  แต่หากเราเข้าใจเงื่อนไข หรือพันธการนั้นว่าทำไมมันต้องอยู่กับเรา  จิตและใจเราก้อคงสงบขึ้น  มี วิธีชีวิตในแนวของเรา  แต่หากเราทบทวนดีแล้วว่าจำเป็นต้องเอาพัธนาการนั้นออกไปจากตัวเราจริงๆ  บางครั้งมันอาจต้องแลกกับความเจ็บปวดบางอย่าง หรือ เราอาจต้องเสียบางอย่างไป 

เห็นด้วยกับคุณชายขอบ

ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเอาอิสระภาพ มาผูกติดกับความรักเสียแล้ว

ย่อมเป็นไปได้ยากที่จะมีอิสระภาพที่แท้จริง

เพราะว่าคนส่วนใหญ่จะมีความรักไว้เพื่อครอบครอง

จะมีสักกี่คนล่ะคะ

ที่มีความรักอย่างอิสระจริงๆ

รักอย่างปราศจากเงื่อนไข

ถ้าทำได้...เมื่อนั้นอิสระภาพจะกลับคืนมาค่ะ

อิสระ คือ ไม่อิสระ

  ไม่อิสระ คือ อิสระ

     ใจ เป็น สรณะ

เตือนใจ เตือนจิต

 ลิขิต จากฟ้า

  สวนไป รวนมา

    กาลเวลา ไม่กลับคืน

 

อาจารย์หมอ JJ

        จดใจ จดจิต(เจริญ) จึงจดจำ
     ตอกย้ำ การเยือน เพื่อเตือนใจ

     อีกครั้ง เพื่อเตือนจิต ให้คิดถึง
     จึงได้นำ วาสนาพา มาพบเจอ

        สี่คนหมาย มาดมั่น ร่วมกันฝ่า
     มุ่งหน้า ฝันใฝ่ ตามใจหวัง

     ไม่คาดพบ ก็ได้พบ ประสบเนตร
     เจตจำนงค์ จิตแจ่มเจิด เพลิดเพลินเอย

คุณดอกหญ้า

     แม้กายจะไร้อิสระภาพ แต่ใจก็มีอิสระภาพได้ ดูอย่างเหลือมที่เคยบันทึกไว้สิครับ อิสระภาพที่ถูกคุมขัง และขอบคุณมากนะครับที่กรุณาทำ link ให้

คุณ jc

    อิสระมีอยู่แล้วในตัวตนครับ เพียงแต่ค่อย ๆ ลดลง เนื่องจากกฎเกณฑ์ "สังคม" หากมีเพียงเท่าที่พอดี และจำเป็นก็จะพอเพียง หากมากเกินก็จะอึดอัด ขาดอิสระภาพ ที่ยกมาทั้งหมดใช่ว่าจะปฎิเสธอย่างสิ้นเชิง แต่น่าจะมีแค่พอดี และพอเพียงครับ

คุณ ก้ามปู

    แน่นอนครับหากเราผลักใสพันธนาการออกไป เราอาจจะต้องเจ็บปวด แต่หากได้พิจารณาที่มาที่ไปให้ดี ความเจ็บปวดที่ว่าก็อยู่ที่ใจเรานี่เอง ขอบคุณมากนะครับที่เข้ามา ลปรร.กันไว้ หากแต่ผมจะเห็นเพียงครั้งเดียวในบันทึกนี้ ก็จะไม่น่าใช่ คุณก้ามปูน่าจะได้ลงมือเขียนบันทึกด้วยนะครับ อย่างไม่ต้องเกรงอะไรเลย ขอเชิญนะครับ

 น่าจะดี


          อิสระโดยไม่มีเงื่อนไข ---> ค่อย ๆ เพิ่มเงื่อนไข ---> เงื่อนไขมากจนขาดอิสรภาพอย่างภาวร ---> พยายามลดเงื่อนไขโดยจิตและใจ ทำความเข้าใจการมีเงื่อนไข ---> เงื่อนไขก็จะค่อย ๆ หมด ลดน้อยถอยลง --->  อิสระโดยไม่มีเงื่อนไข

น่าจะดียิ่งขึ้น

"อิสระโดยไม่มีเงื่อนไข ---> อิสระโดยไม่มีเงื่อนไข"

คุณ น้องไออุ่น

     รักอย่างอิสระ              หายาก
     รักที่ไม่หวังครอบครอง   หายากยิ่ง
     รักที่ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ    หายากยิ่ง ๆ

     รักที่ว่ามีได้จริง แม้จะหายาก ยากยิ่ง และยากยิ่ง ๆ

Dr.ka-poom

     น่าจะดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้า... "อิสระโดยไม่มีเงื่อนไข" ใด ๆ เลย

ผ่านมาเห็นบอร์ดนี้ ผมคิดเหมือนๆ กับที่ได้อ่านจากที่คุณโพสๆกันน่ะแหละ คนเราเกิดมาได้รับความรักความเอาใจใส่จากพ่อแม่ พ่อแม่บางคนให้อิสระภาพทางความคิดแก่ลูกโดยไม่ลืมที่จะให้คำชี้แนะ แต่พ่อแม่บางคนก็อาจไม่ให้อิสระภาพทางความคิดแก่ลูก  สำหรับคนที่ได้รับอิสระภาพมาตั้งแต่เด็ก ก็เริ่มหาหน้าที่ หาคนมาผูกมัดตนเอง บางครั้งกว่าจะรู้ตัวว่าไม่มีอิสระภาพอีกแล้ว ก็สายเกินไป ผมเองก็เป็นคนนึงที่ผูกมัดตัวเองไว้กับความรักความห่วงใยทั้งจากผู้หญิงคนนึงและที่ผมมีต่อเค้า ทุกวันนี้ผมสับสนมากว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิต ที่ต้องเดินตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นนำทางไป ผมไม่มีสิทธิเสรีภาพที่จะทำในสิ่งที่ผมอยากทำอยากเป็นอีกต่อไปแล้ว เธอเอาเวลาของผมไปหมดเลย เธอมีความสุขที่ได้อยู่กับผม แต่ผมต้องแสร้งทำเป็นมีความสุขเพื่อให้วันเวลาหมดไปวันวัน เพื่อที่เธอจะไม่โกรธ เพื่อให้เธอพอใจ ผมคงหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ผมไม่สามารถอธิบายให้เธอเข้าใจความรู้สึกของผม ผมพูดไม่รู้กี่ครั้ง แต่เธอไม่เคยเข้าใจเธอคิดว่าผมพูดประชด ให้ตายเถอะ บางครั้งผมก็อยากเข้าไปอยู่ในคุก อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องถูกเธอบังคับจิตใจอีกต่อไป   บ้าไหมล่ะทุกวันนี้อยากไปไหนก็ได้ไป แต่รู้สึกไม่มีอิสรภาพแต่อยากเข้าไปอยุ่ในคุกเพื่อที่จะได้รับอิสรภาพ บางทีผมอยากให้ตัวผมไม่ก็เธอ ตายจากกันจะได้พ้นซะที แต่คงไม่ได้ผมยังหวังที่จะได้ทำความฝันของผมให้เป็นจริงแม้มันจะน้อยนิด ตัวเธอเองก็ยังมีพ่อแม่ ที่ยังห่วง ชีวิตผมมันดูเศร้าแต่ถ้าเทียบกับคนที่ทุกข์กว่านี้ก็คงมี คิดแบบนี้ก็สบายใจขึ้น ท่านใดอ่านมีความเหนอย่างไรก็ช่วยแสดงออกด้วยนะคับ ขอบคุณมาก

คุณ คนขาดอิสระภาพ

     คห.ของท่านได้ให้ไว้นานแล้ว ผมขอโทษด้วยที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดี จึงผ่านไป แต่เมื่ออ่านแล้ว ก็ไม่มี คห.ใด ๆ ตอบกลับนะครับ ด้วยผมจะถือว่าเรื่องครอบครัวนั้นเป็นส่วนตัว ที่เราคนนอกไม่ควรเลยสักนิดที่จะไปก้าวก่าย แต่ใช่ว่าจะไม่ห่วงใยนะครับ ขอเอาใจช่วยให้ผ่านไปได้ด้วยดี อยู่ห่าง ๆ ครับ

   อิสระภาพในความเห็นของผม น่าจะหมายถึง "การที่คนเราได้ทำอะไรก็ได้ ที่เราอยากทำ ที่เป็นสิ่งปกติธรรมดา ตามธรรมชาติ"  ไม่ทำไห้คนอื่นและตัวเองเดือดร้อน    การตรวจสอบว่าเรามีอีสระภาพจริงหรือเปล่า  ตรวจสอบที่ใจเรา อย่างไม่มีอคติ.ก็จะทราบเองครับ

คุณ ศิริพงษ์

     ใช่ครับ อยากให้ได้อ่านบันทึกนี้ไงครับ“อิสระภาพที่ถูกคุมขัง” เหลือมยอมทำทุกอย่างเพื่อเข้าไปอยู่ในคุก โดยที่เหลือมบอกผมว่า อิสระและสบายใจดี เพราะเขาให้เกียรติและให้ผมได้ทำงาน

อืมมม.....    อิสระภาพ คือ พลังครับ เป็นสิ่งที่มาค่ามากสำหรับผม ตอนนี้ผมก็มีได้ไม่มากเท่าไหร่ครับ  แต่ ก็ หวังสักวันว่าจาได้อิสระภาพบ้างครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท