ไม่มีอะไรมากครับ แค่คิดถึงคนส่วนใหญ่ที่เขาเรียก "รากหญ้า" ที่ยังคิดรอคอยการช่วยเหลือประเภทที่เคลือบไว้ด้วย "ความอ่อนแอ อย่างยั่งยืน" เลยเอากลอน 2 บทนี้มาฝาก เขียนไว้นานแล้ว ตอนเขียนนั้นมีแรงบันดาลใจจากการเห็นคนเข้าวัด แต่ดันไปจุดธูปขอหวยเสียนี่ !
อย่ารอคอย ว่าเมื่อไร ใครจะช่วย
อย่ารอคอย ว่าจะรวย เมื่อไหร่หนอ
อย่ารอวัน เทพบันดาล โชคที่รอ
ทุกอย่างก่อ เกิดจริงได้ ด้วยมือเราด้วยสองมือ กับหนึ่งใจ ที่แน่วแน่
อย่ายอมแพ้ ต่ออำนาจ ความขลาดเขลา
สิ่งเคยหวัง และตามหา ดั่งคว้าเงา
ต้องสยบ อยู่แทบเท้า ของคนจริง.
ชื่อเรื่องของอาจารย์ ถูกใจมากค่ะ ขออนุญาตจดจำเอาไปใช้นะคะ
ตอนนี้รากหญ้าที่จะทำให้อำนาจแก่กล้า นอกจากใช้การต้มแล้ว วิธีการตุ๋นเปื่อยก็เป็นที่นิยมมากค่ะ และที่สำคัญปัจจุบันนี้มีชนิดบรรจุเสร็จแล้วด้วยค่ะ
แด่...คน(ที่คิดว่าตัวเอง)อ่อนแอ
จงพยายามยืนขึ้นด้วยกำลังที่ตนเองมีอยู่...กล้าที่จะออกเรือไปหาปลาเอง...แม้ยังไม่รู้วิธีการจับปลาก็ตาม...อย่ามัวรอให้เขาเอาปลามาป้อนเข้าปากเราเลย...เพราะเมื่อไหร่ที่เขาเลิกป้อน...เมื่อนั้นคุณก็จะอดตาย...แถมปลานั้นมีสารตะกั่วอยู่เพียบ...กินนานๆก็มีแต่จะฉลาดน้อยลง..น้อยลงทุกวัน...เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้สอนให้คุณรู้วิธีจับปลา
สอนวิธีการจับปลา --> ให้เรียนรู้กระบวนการคงสภาพให้ปลามีกินไปตลอด หรืออื่นใดที่เทียมเท่ามาแทนปลา เมื่อจำเป็น ดีไหมครับ! เพราะหากเมื่อรู้แต่วิธีการจับปลากันเยอะ ๆ "อสมดุล" จะตามมาในทันที เกรงว่าจะเป็นอย่างที่หลาย ๆ อย่างกำลังเป็นอยู่
คุณชายขอบ
เราก็คงเรียนรู้ที่จะรักและหวงแหนสิ่งที่ทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้คงไม่เสียสมดุลหรอกคะ
ถ้าแค่ชุมชนทำมาหากินจะเกิดการเสียสมดุลเมื่อ ทุนนิยมเกิดขึ้นในชุมชน
หวังกอบโกยเมื่อไหร่ เมื่อนั้น เสียสมดุลแน่นอนค่ะ
สอนให้เห็นความเป็นทั้งหมด เห็นความเชื่อมโยงของส่วนย่อยทั้งหลาย เห็นเหตุอันหลากหลาย ที่จะก่อให้เกิดผลอันมากมาย เพื่อจะได้รู้จักเลือกแนวทาง หรือวิธีการที่เหมาะสมที่สุดตามสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป ... อย่างชาญฉลาด ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่อาจเป็นจริงได้ด้วยวิธีการเรียนการสอนแบบเดิมๆ ต้องก้าวข้าม หรือทุบกำแพงยักษ์ เพื่อออกมาให้ได้เสียก่อน
รากหญ้าเขาไม่เคยรอคอยโอกาสอะไร แต่บางทีคิดทำโครงการอะไรแล้ว
ไม่ค่อยมีทุนต่างหาหากสามารถหาแหล่งทุนให้ก็ Ok
คนรวยยังกู้แบงค์ในการลงทุนต่าง ล้มก็ล้มบนฟูกทำหนี้สูญ ก็ได้
แต่รากหญ้าไม่มีโอกาสทำอย่างนั้น