นาปรัง_Therapy


"สิ่งที่เข้ามา" หาใช่สิ่งสำคัญไม่..และมองให้ออกถึงสิ่งที่เข้า..คงอยู่สักพัก..และก็หายไป

          ขณะขับรถจากยโสธร - ขอนแก่น ขอนแก่น-ยโสธร ระหว่างผ่านเส้นทางรอยต่อ อ.ยางตลาด และ อ.บ้านบ่อ ตลอดปีของการเดินทางที่ผ่านตลอด สิ่งหนึ่งที่พบเห็นเสมอคือ ความเขียวชอุ่ม..ของผืนนา เพราะแถบนี้มีการทำนาตลอดทั้งปี..และสิ่งหนึ่งที่สังเกตพบ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น นั่นคือ...รอบพื้นที่..การทำนา "ชาวนา" เริ่มปลูกต้นไม้แซม...และมีบ่อน้ำ มีพืชผักสวนครัวปลูกรายล้อม..หนองน้ำนั้น ความสบายใจ...

 

          จากภาพที่พบเจอนั้น ทำให้นึกถึงเรื่อง "เล่า" ของพี่หน่อยน้อย ที่มีวิธีจัดการกับ "จิต" ใจ ของตนเอง...

 

          เมื่อเลิกงาน พี่หน่อยน้อย..มักจะไปที่นาใกล้ๆ บ้าน เพื่อไปซึมซับ..ถึงความสงบที่ซ่อยอยู่ในธรรมชาตินั้น ทุกครั้งที่ไป "จิต" ใจ จะรู้สึกสงบ นิ่ง สิ่งที่รุมเร้า เข้ามา...ก็เป็นเพียง "สิ่งที่เข้ามา" หาใช่สิ่งสำคัญไม่..และมองให้ออกถึงสิ่งที่เข้า..คงอยู่สักพัก..และก็หายไป และวิธีการที่พี่หน่อยน้อยเลือกทำ...ก็ทำให้เกิดกำลังใจและฝ่าฟัน..อะไรหลายๆ อย่างที่ผ่านมาในชีวิตได้ และถึงแม้ไม่อะไรที่ต้องกังวลในใจ...พี่หน่อยน้อยก็เลือกที่จะทำอย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งเมื่อเราถามว่า..ตอนเย็นไปไหนไหม พี่หน่อยน้อยก็มักจะบอกว่า "ไปทำนาปัง Therapy"

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 22072เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2006 08:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เกิดเป็นลูกชาวนา  รักผืนดินถิ่นเกิด  ซึมซับมาโดยตลอด
ไม่สามารถแยกจากชีวิตได้ 
ตอนเด็กชอบที่ปั่นจักรยานไปท้องนา 
แล้วร้องเพลงดังๆไปตามถนน  เหมือนโลกนี้มีแต่เราคนเดียว แล้วมองท้องนาทุ่งกว้าง  เหมือนมันกำลังร้องเพลง

และสนุกไปกับเรา (หรือว่ามันรำคาญไม่ทราบได้)

สิ่งที่รู้สิ่งเดียวคือ  ความสุขที่หาใดเปรียบได้

 

คุณดอกหญ้า

ผืนดินและท้องนา

คืนชีวิต...ให้ "เรา".."มนุษย์"..เสมอ

     เคยได้ยินเวลาเขาพูดถึงคำว่า "หอมนา" ไหม เมื่อได้ฟังน้ำเสียงด้วย จะรับรู้ถึงความสุขของคนพูดได้เลย

     "นาปัง" เหมือนกับ "นาปรัง" ที่บ้านผมเรียกไหมครับ คือการทำนาโดยไม่เว้น ทำได้ตลอดปี ซึ่งต้องดินดี น้ำดี ครับ

น่าจะใช่อันเดียวกันแหละคะ 
วันนี้ไปที่จังหวัดอุตรดิต
สองข้างทางระหว่างอุตรดิตกับพิษณุโลก
ทำนาปรังกันมาก แลดูแล้วชุ่มชื่นดี

ขอบคุณจริงๆ..นะคะ

แหม! ช่วงนี้ผิดมากเลยคะ (เขิลจัง)

แต่ก็ขอบคุณ "มิตร" ทุกท่านที่มา ลปรร. และสะกิดนะคะ

*^__^*

     ตกลงว่าเขียนเป็น นาปรัง_Therapy ใช่ไหมครับ เพราะ "ปรัง" แปลว่า น.หน้าแล้ง ช่วงแล้ง, ว.เกินเวลาไป ประมาณนั้นครับ ลปรร.กัน ยิ้มกว้าง ๆ
อยากบอกว่าปีนี้นาปรังของพี่หน่อยน้อยเป็นอันต้องล้มละลายขาดทุนยับเยิน  เพราะมีการปล่อยนำลำทวนจนแห้ง  เพื่อจะก่อสร้างสวนสาธารณะซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับสวนสาธารณะพญาแถน  เมื่อวานพ่อขี่จักรยานลงไปดูที่นาพบว่านาที่อยู่ทางด้านหลังขายให้นายทุนรับเหมาก่อสร้างมาขุดเอาที่เป็นหลุมยักษ์  และมีคนพยายามติดต่อขอซื้อที่นาของเราเกือบ 2  เดือนมาแล้วจนเป็นเหตุให้เกิดความข้ดแย้งระหว่างคนในครอบครัวเรา  แม่ท้อใจมากเพราะมันเป็นหลุมใหญ่มากเกรงว่าต่อไปที่นาเราจะทรุดลงแล้วทำนาไม่ได้อีกจึงอยากจะขาย  ส่วนบรรดาลูกๆมองว่าที่นาเราอยู่ใกล้และสะดวกในการเดินทาง  แต่ที่สำคัญปีนี้ตัวเองต้องหาที่ Theray  ทดแทนเสียแล้ว   ตอนนี้กำลังทำสวนโดยอาศัยที่หลังบ้านเนื้อที่ประมาณ 3  ไร่  ทำ  จินนี่ Therapy  ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังต่อนะคะ

คุณ "พี่หน่อยน้อย"

บางครั้งการได้สิ่งหนึ่งมา..อาจต้องเสียสิ่งหนึ่งไป
เช่นกัน...
การสร้างสวน..สาธารณะ..ได้สวนสวย.."แต่คนสวนเสียสวน"
ดีใจนะคะ..ที่พี่ยังมองเห็น..สิ่งที่สุขในที่ทุกข์
เป็นกำลังใจให้..ในทุกเรื่องนะคะ

ปล.อย่าลืมมาเล่าให้ฟังนะคะว่า..จินนี่ Therapy นี้คืออะไร..ยังคงสงสัยอยู่คะ จะเหมือนที่พี่ทำ "นาปรัง Therapy" หรือเปล่าคะ...
*^__^*

พี่หน่อยน้อยจะมีมุมมองที่ลุ่มลึก  สุขุม  มองโลกในแง่ดีและแฝงอารมณ์ขันเสมอ ทำให้พวกเราได้แง่คิดดีๆมากมายโดยเฉพาะจาก " ธรรมชาติ " ที่บางครั้งเราอาจผ่านเลยโดยคิดว่า " ความสุข " คือสิ่งที่ต้องแสวงหาถึงจะได้มา แต่จริงๆแล้วเพียงแค่ " หยุด " และพิจารณาจากสรรพสิ่งที่อยู่รอบข้าง จะพบว่า"ความสุข " อยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท