สื่อเรียนรู้ทำมือเพื่อคุณครูของคนขาดโอกาสในชนบท


"...เรื่องบางเรื่อง บทเรียนบางอย่าง ไม่เพียงมีคุณค่าต่อการแก้ปัญหาชีวิตและการงาน ทว่า ให้พลังชีวิตและส่งเสริมคุณธรรมความเป็นเพื่อนมนุษย์แก่กันของผู้คน โดยเฉพาะคนขาดโอกาสอีกมากมาย ซึ่งหลายอย่าง ความทันสมัยและความก้าวหน้าของโลกให้ไม่ได้ นอกจากหัวใจและความเป็นพี่น้องกันของมนุษย์ ของเรา..."

            ผมนั่งจัดห้องตัวเอง พยายามจะทิ้งหนังสือ สื่อการสอนและการบรรยาย  ที่ตัวเองทำขึ้นตลอดกว่า 20 ปี  เพราะมันเยอะกองพะเนิน อีกทั้งหลายอย่าง หมดยุคสมัยของมัน  รื้อไป ก็ดูไป

            ไปๆมาๆ นอกจากทำให้ทิ้งไม่ลงแล้ว  ก็กลับทำให้เกิดความเสียดายย้อนหลัง เมื่อคิดถึงหลายอย่างที่ต้องทำใจทิ้งไปก่อนหน้านี้แล้ว

             ผมคิดว่าผมตั้งใจทำงานเบื้องหลังสำหรับการทำสื่อ บรรยาย  เป็นวิทยากร และสอนหนังสือ มาก ไม่ใช่ด้วยเหตุผลไม่เชื่อใจคนอื่นหรือใช้คนอื่นทำไม่เป็น  ทว่า  การคิด วางแผน และทำสื่อการสอนด้วยตนเอง  สำหรับผมแล้วนั้น  มันเป็นการทำแผนการสอน ทบทวนความรู้  และเตรียมการสอนให้ดีที่สุดด้วยตนเองไปด้วย 

            นอกจากนี้ สื่อการสอนต่างๆ  ไม่เพียงทำด้วยมือตนเอง  เท่านั้น  ทว่า สะท้อนการตั้งปณิธานต่อการงานและการดำเนินชีวิตของคนทำงาน  ซึ่งผมเคยทำงานไปก็ปลูกฝังวิธีคิดและร่วมสร้างวิถีการทำงานขององค์กร ไปด้วยว่า.......... 

           "...หากเป็นการทำงานชุมชน ผมจะไม่เลือกวิถี วิธีการ และเทคโนโลยี ที่สังคมไทยทำเองไม่ได้ถึง 80 เปอร์เซนต์.." 

           ในเรื่องสื่อ  เทคโนโลยีการศึกษา และเทคโนโลยีสื่อการสอนยุคก่อนดิจิตอลนั้น ผมเลยเน้นการใช้พวกเครื่องฉายแผ่นใส เครื่องฉายสไลด์ ผสมการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์  ซึ่งเทคโนโลยีพวกนี้  ไม่ว่าจะจากค่ายไหน  คนไทยและบริษัทจากทุนไทยเป็นหลัก  ทำได้หมดเกือบร้อยเปอร์เซนต์ 

            เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องชาตินิยมครับ  แต่เป็นการคิดคำนึงถึงสังคมแห่งการเรียนรู้ที่พอเหมาะพอพอเพียง  เราไม่ควรพัฒนาวัฒนธรรมการทำงาน  ที่เพียงถือเอาความสะดวก  ไม่มีฐานทางปัญญาภายในสังคมรองรับ  และเกินตัวสำหรับคนส่วนใหญ่ ซึ่งก็เป็นความเชื่อจำเพาะตน  ไม่รับประกันและไม่ยัดเยียดสำหรับคนทั่วไป

             พอหมดยุคพวกนี้  เข้าสู่ยุคดิจิตอล  ผมก็ต้องทิ้งสื่อเหล่านี้  ต้องพูดว่าทิ้งเลยจริงๆครับ  กล้องภาพนิ่งที่ใช้ฟิล์มเอย / ชุดแผ่นใส  ภาพถ่าย  สไลด์  มากมาย / สื่อทำมือ  แผ่นภาพ  อุปกรณ์ทำมือ และเครื่องไม้เครื่องมือทางสื่อมากมาย  ต้องกัดฟันทิ้ง  แล้วก็ผสมผสานพื้นฐานเดิมเข้าสู่การใช้สื่อ ภายใต้เทคโนโลยีดิจิตอล และเทคโนโลยีสารสนเทศ  พ้นข้อจำกัดหลายอย่างที่คนทำและใช้สื่อต้องเจอแบบในอดีต 

            ขณะเดียวกัน  ก็สามารถใช้ทักษะลงมือ  สื่อทำมือ  สื่อบุคคล  ผสมผสานกันให้ขอบเขตการทำงาน  ความหลากหลาย และความยืดหยุ่น  มีความรอบด้านมากขึ้น  เชื่อมโยงและเป็นเครือข่ายการทำงานพ้นกรอบจำกัดได้มากขึ้น  ขณะเดียวกัน  ก็มีหนทางพึ่งความสามารถตนเองได้สูงขึ้น 

             ระหว่างเก็บข้าวของทิ้งไปก็ดูไป  ก็เห็นชุดแผ่นใส กับเอกสารการสอนชุดหนึ่ง  หะแรกก็แปลกใจว่าทำไมยังเหลืออยู่อีก  ทำไมทิ้งไปยังไม่หมด พอหยิบออกมาดูก็เข้าใจ และนึกเสียดายเพราะถูกทิ้งไปจนเหลือเพียงบางส่วนให้เห็นร่องรอยเท่านั้น 

              สื่อแผ่นใสและโครงงานชุดที่เห็น เป็นชุดที่ผมไปทำเวิร์คช็อป  อบรมคุณครูกลุ่มโรงเรียนประถมและมัธยม  ที่อำเภอดอกคำใต้  จังหวัดพะเยา กับเครือข่ายของ คุณครูมุกดา  อินต๊ะสาร คนดีศรีสังคม วุฒิสมาชิก และรางวัลผู้นำทางสังคมมากมาย ซึ่งตอนนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางเหมือนตอนนี้ 

             รวมทั้งได้ใช้ชุดสื่อนี้  เป็นตัวอย่างอบรมนักวางแผนทางการศึกษา  จากสาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อดำเนินโครงการประชากรศึกษา กับทีมของครูที่เคารพรักท่านหนึ่งของผม คือรองศาสตราจารย์ ดร.เนาวรัตน์  พลายน้อย แห่งคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์  มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อหลายปีมาแล้ว ฝึกให้คนทำงาน  มีวิธีทำงานได้อย่างดีแม้ในสภาพชุมชนที่ยากไร้

             ผมไปกับกลุ่มอาสาสมัครของมูลนิธิสิกขาเอเชีย มีกลุ่มคุณครูและคนทำงานในแนวความเชื่อเดียวกันไปด้วยกันหลายคน ผมหยิบสื่อมาดูและรำลึกถึงกลุ่มทำกิจกรรมด้วยกันในครั้งนั้นแล้ว ก็เกิดพลังใจและได้ความรู้สึกงดงามอย่างยิ่ง 

             ตอนนั้น  สื่อทำมือ ชุดที่เล็ดรอดจากการนำไปทิ้งที่ผมเห็นอยู่นั้น  เกิดขึ้นจากจิตใจและความมุ่งมั่นที่พาพวกเราไปด้วยความคิดไม่ใหญ่ไม่โต คือ  เราอยากไปช่วยคุณครูและเด็กๆในชนบทที่ขาดโอกาสมากมาย  ให้ได้เรียนด้วยสื่อและกระบวนการเรียนการสอนที่ไม่เพียงสนุก  ทว่า ให้ประสบการณ์กว้างขวาง  คุณครู โรงเรียน และชุมชน รู้สึกมีเพื่อนมาเป็นกำลังใจ 

            เราไปรวมตัวกับเหล่าคุณครูทั้งอำเภอ  แล้วก็เวิร์คช็อพ กะว่าให้ได้ทั้งแนวคิด  ทักษะ และทำโครงงานสำหรับจัดการเรียนสอนจริงของตนเอง พร้อมกับทำสื่อ และซักซ้อมให้กันอย่างจริงๆจังๆ ทั้งวันทั้งคืน  นอนกันที่เรือนไม้เก่าๆของโรงเรียน และบางวันก็ไปนอนทีบ้านคุณครูมุกดา  อินต๊ะสาร

             ผมนึกเห็นภาพ  สื่อและการสอนเรื่องท้องฟ้า ดวงดาว และกลุ่มดาวต่างๆ  ซึ่งทำเครื่องฉายดาวและอุปกรณ์ทำบรรยากาศแบบก๊อกแก๊กสตูดิโอ ทว่า น่าทึ่งเป็นที่สุด  คุณครูอาสา ของมูลนิธิสิกขาเอเชีย  คลองเตย เป็นคนทำ  พร้อมกับสาธิตการสอน  ฝึกให้คุณครูนั่งเล่า สอนเรื่องท้องฟ้าและหมู่ดาว อยู่ในความมืด 

             คุณครูผู้ฝึก ดัดแปลงกระดานดำเป็นฉากฉายดาว  ใช้ไฟฉายเป็นแหล่งกำเนิดแสง  เจาะกระดาษดำเป็นแพทเทิร์นดาวและกลุ่มดาวต่างๆ เปิดเทปวิทยุทำเสียงจิ้งหรีด  ไก่ขัน และบรรยากาศกลางคืนของชนบท  แล้วก็นั่งเล่า  ทั้งเด็กๆและคุณครู  เพลิดเพลินกับการเรียนรู้  เป็นการเรียนการสอนที่สนุกจริงๆ  ทว่า  จากสื่อและการทำมือด้วยตนเองแบบง่ายๆและโคตรถูก แต่สุดยอดในด้านจิตใจและความสร้างสรรค์

             ผมเป็นคนออกแบบกระบวนการ กำกับเวทีเวิร์คช็อป  พาทุกคนทำ และร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ไปกับเขาด้วย  ผมเลือกการทำชุดสื่อฝึกให้กลุ่มคุณครูเล่านิทาน  สอนหน้าที่พลเมืองและการพัฒนาทักษะการรวมกลุ่มให้แก่เด็กๆ  เขียนการ์ตูนหมู่สัตว์  แล้วก็ทำอุปกรณ์การฉายแผ่นใสจากกล่องกระดาษเก่าๆ  ทุกคนฝึกทำชุดสื่อจากตัวอย่าง  ผูกเรื่องของตนเอง  เสร็จแล้วก็ทดลองสอน  ได้ความสนุกสนานและเป็นการเรียนรู้แบบเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากๆ  

             ผมหยิบๆ ชุดสื่อ มาดู เลยก็เข้าใจได้ว่าทำไมตนเองจึงยังไม่ได้ทิ้งไปเสียให้หมด  แล้วก็เก็บเข้าที่เดิมพร้อมกับรำลึกถึงผู้คนที่เรามีโอกาสดีจังเลย  ที่ได้พานพบและทำสิ่งดีๆ  ด้วยพลังการริเริ่มและการลงมือจากแรงกายและแรงใจของเรา  ด้วยกัน

             เรื่องบางเรื่อง  บทเรียนบางอย่าง ไม่เพียงมีคุณค่าต่อการแก้ปัญหาชีวิตและการงาน  ทว่า ให้พลังชีวิตและส่งเสริมคุณธรรมความเป็นเพื่อนมนุษย์แก่กันของผู้คน โดยเฉพาะคนขาดโอกาสอีกมากมาย ซึ่งหลายอย่าง ความทันสมัยและความก้าวหน้าของโลกให้ไม่ได้  นอกเสียจากหัวใจและความเป็นพี่น้องกันของมนุษย์ ของเรา.

หมายเลขบันทึก: 217140เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2008 11:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กันยายน 2013 08:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เป็นกำลังใจให้กับการทำงานที่ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ

สู้ๆ กันต่อไป

..

..วันนี้คุณยิ้มรึยัง..

ขอให้มีความสุขกับการทำงานทุกๆ วัน

ขอบคุณครับคุณสัจจา ทาบุดดา ขอให้มีกำลังในเช่นกัน มีความสำเร็จในการริเริ่มอยู่เสมอนะครับ

ขอบคุณครับคุณสัจจา ทาบุดดา ขอให้มีกำลังใจเช่นกัน มีความสำเร็จในการริเริ่มอยู่เสมอๆนะครับ

สวัสดีครับ อาจารย์ครับ

สื่อที่สร้างสรรค์ และ ได้ผล  ผมคิดว่า น่าจะเป็นสื่อที่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ แล้วครีเอทตามจินตนาการ สุดท้ายคือนำเสนอออกไป

ในวงการที่ทำสื่อได้ดี และน่าชื่นชมคือ คุณครู ครับ หลายๆโณงเรียนที่ห่างไกลทำสื่อการเรียนรู้ได้อย่างน่าทึ่ง เร้าใจให้ผู้เรียนได้เรียนรู้...

ที่สำคัญครูผู้สอนก็แสนจะภูมิใจที่ผลิตสื่อขึ้นมาเสรอมกระบวนการเรียนรู้ ถือว่าเป็นคุณค่าหนึ่งของการทำงาน

สื่อที่ทำง่ายๆจากเทคโนโลยีสำเร็จรูป อาจได้มิติเชิงคุณค่า(ทางใจ)น้อยกว่านะครับผมคิดว่า

เห็นด้วยครับ ความภูมิใจและการมีมิติคุณค่าอยู่ในงานที่ได้ลงมือด้วย(การเรียนการสอน)ของคุณครู มีความสำคัญมากเลย มันทำให้เกิดกระบวนการศึกษาเรียนรู้ ที่มีมิติการเคารพตนเอง และเกิดปฏิสัมพันธ์ของผู้คนในกระบวนการทางการศึกษาเรียนรู้ด้วย

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เห็นอดีต จึงคิดออก

ขอเจริญพรโยมอาจารย์วิรัตน์

         มีอดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านดอกม่วงที่หลังวัดศรีโสภณ อ.วังทอง พิษณุโลกท่านจะมาคอยดูแลอัปัฏฐากช่วยเหลือหลวงตารูปหนึ่งที่อาพาธเดินไม่ได้ท่านจะมาช่วยทำความสะอาดกุฏีเทกระโถนกวาดบริเวณรอบ ๆ กุฏีทุกเช้าตั้งแต่ยังไม่สว่างท่านเป็นผู้ใหญ่บ้านมา ๒๐ กว่าปี ตอนนี้เกษียณหลายปีแล้วท่านเป็นผู้มีความรู้หลายด้านเรื่องสมนุไพร เรื่องการทำเกษตร เรื่องการเผ่าถ่านแบบใหม่โดยที่น้ำยาจากควันไฟมีประโยชน์มากมายใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ ปุ๋ยใส่พืชไม้ดอกไม้ประดับไล่แมลงวันได้ดีและอื่น ๆ อีกหลายอย่าง

         แกเล่าให้ฟังว่าตอนเป็นผู้ใหญ่บ้านมีงานประจำที่ต้องทำเป็นปกติตามหน้าที่จนเกษียณ แต่ความรู้ภูมิใจมาเกิดตอนช่วงนี้เพราะมีคนมาดูงานชมงานจากหน่วยราชการบ้างสถาบันการศึกษา บ้าง องค์กรชุมชนต่างถิ่นบ้างท่านเป็นวิทยากรของอำเภอเดินทางไปประชุมดูงานต่างจังหวัดก็บ่อยที่หมู่บ้านมีโรงเรียนและทางโรงเรียนได้เชิญท่านมาสอนการเผ่าถ่านให้กับนักเรียนมัธยมที่โรงเรียนด้วยท่านเล่าไปก็แสดงความภูมิใจไปด้วย(ดีใจภูมิใจก็ไม่เกี่ยวกับเงินทองเป็นนามธรรม-นี่ก็เป็นทานอีกอย่างหนึ่งวิทยาทานของคนรุ่นเก่า) ช่วงปิดเทอมเดือนเมษยายนของทุกปีจะมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวรมาพักที่โรงเรียนประมาณ ๒ อาทิตย์เพื่อศึกษาเรียนรู้ดูงานในหมู่บ้านโดยลงมือปฏิบัติทำร่วมกับชาวบ้าน ชาวบ้านก็ดีใจภูมิใจที่ลูกหลานมาร่วมเรียนรู้กับชุมชน

       บุคคลประเภทนี้จะมีความรู้สึกกับตนเองว่าเป็นคนวงนอกการศึกษาตัวเองรู้น้อยขาดการศึกษาไม่ได้เล่าเรียนหนังสือมากมายอะไร ไม่รู้ว่าใครไปสร้างให้เขามีความรู้สึกเช่นนี้ เขาประเมินตัวเองด้วยความถ่อมตนไม่มีเกียรติศักศรีอะไรที่ใครจะมายกย่องสรรเสริญเขา ใครไปบอกเขาว่าพวกคุณ(ชาวบ้าน)ไม่มีศักยภาพความสามารถใครไปควบคุมเขาให้อยู่แบบนิ่ง ๆ ต้องฟังต้องเชื่อฉันเท่านั้นจึงจะถูก พวกคุณคิดอะไรไม่เป็นหรอก เพราะขาดการศึกษา คนอื่นไปกำหนดบทบาทกดทับเขาไว้หลายชั้นความเชื่อ การศึกษา ฐานะทางสังคม ฐานความคิดทางชนชั้น ความเป็นชนชั้นศักดินาในสังคมไทยเป็นร้อย ๆ ปี จนภูมิปัญญาของแผ่นดินของสังคมของชุมชนเกือกหมดไปจากสังคมไทย.

                                       ขอเจริญพร

                              พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

ขอแก้คำผิด คือคำว่าบ้านดอกม่วง เป็นบ้านดอนม่วง

กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระอาจารย์มหาแล ขำสุข(อาสโย)

  • ได้ฟังเรื่องราวของผู้ใหญ่ที่พระคุณเจ้าเล่าแล้ว ก็นึกถึงบรรยากาศของวัดและชุมชนในชนบทโดยทั่วไปที่มักก็เป็นอย่างนั้น แถวบ้านผมก็เห็นรูปแบบชีวิตอย่างนี้มาตลอดเท่าที่จำความได้ครับ ชาวบ้าน ไม่เพียงคนเฒ่าคนแก่ ยามเย็นก็จะหิ้วป้านน้ำชา หรือไม่ก็เดินไปกวาดวัด นั่งสนทนากับพระและชาวบ้านคนอื่นๆ 
  • ผมเองก็ชอบไปวัดตั้งแต่เด็ก ชอบไปฟังเสียงพระสวดมนต์ทำวัตร หรือไม่ก็ชอบไปฟังท่านเล่านิทาน โดยเฉพาะนิทานเรื่องผีน่ากลัวๆ ฟังแล้วก็กลัว เดินกลับบ้านแทบไม่ได้ แต่พอวันหลังก็ไปอีก
  • การมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างนี้ของวัดและชุมชน กับกลุ่มคนที่มักมาวัดเพื่อมีความสุขและสร้างความเบิกบานจากการสนทนากับพระซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกลุ่มนักคิดและเป็นคนมีภูมิรู้ในชุมชน เหล่านี้  วัดจึงมักเป็นที่สะสมภูมิปัญญาของชุมชนและเป็นแหล่งปฏิบัติการสังคมทางปัญญา (Social Lab for Community Wisdom Practice) เหมือนอย่างที่ลุงผู้ใหญ่กับพระที่วัดศรีโสภณกำลังทำอยู่นี้ก็จัดเข้าเป็นบทบาทลักษณะนี้ได้ครับ
  • เรื่องที่พระคุณเจ้าตั้งคำถามต่อการศึกษาและความเป็นไปของสังคมนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจและแหลมคมครับ จะว่าไปแล้วผมเองก็สนใจเรื่องนี้และหลายอย่างที่ทำอยู่ในชีวิตก็คิดว่ามีความสนใจเรื่องนี้รวมอยู่ด้วยครับ
  • เรื่องนี้เป็นปัญหาทั้งในเชิงโครงสร้างและปัญหาเชิงวัฒนธรรม ทั้งของสังคมไทย และของวงการศึกษาของบ้านเราครับ ในเชิงโครงสร้างนั้น วงการศึกษาและสังคมโดยทั่วไปไม่มีการศึกษาเรียนรู้ชนิดที่มาจากชีวิตและมาจากการเรียนรู้ทางสังคม ของพเมืองและประชาชนที่เกิดและเติบโตในสังคมของตัวเอง อยู่ในสารบบ  รู้จักและมีที่ว่างให้แต่เพียงการศึกษาที่เป็นทางการและรูปแบบการจัดการศึกษาแบบโรงเรียน (Schooling Sestem) ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถือเป็นเพียงหนึ่งในรูปแบบการศึกษา ที่จำเป็นสำหรับการพัฒาของสังคมเท่านั้น
  • ในเชิงวัฒนธรรมนั้น ประชาชนและคนส่วนใหญ่ในสังคม ยังให้คุณค่าต่อการศึกษาเรียนรู้เพื่อการพัฒนาชีวิตน้อยไป คนส่วนใหญ่มีค่านิยมต่อการศึกษาที่ส่งเสริมความสำเร็จในชีวิตแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา โดยวัฒนธรรมแล้วจึงไม่เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และไม่ยกย่องเชิดชูการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่ทำให้ร่ำรวยและมั่งคั่งทางเงินตรา
  • กลุ่มคนที่ใช้ชีวิตและมีเรื่องการศึกษาเรียนรู้ ทั้งเพื่อตนเองและเพื่อทำหน้าที่ต่อสังคมด้วยสำนึกของตนเอง มีอยู่ในบ้านเราเยอะครับ และการรวมตัวตั้งเป็นองค์กรหรือเครือข่าย เพื่อทำงานสร้างความเปลี่ยนแปลงในส่ิงที่กำลังทำอยู่ ก็มีเยอะเช่นเดียวกัน ผมและครอบครัวก็คิดว่าจะไปในเส้นทางนี้เหมือนกันครับ ไม่อยากเคลื่อนไหวหรือต่อสู้ในรูปแบบอื่นให้เสียเวลาในชีวิตแล้วครับ ผมกำลังทำบ้านให้เป็นแหล่งที่ทำอย่างนี้ไปได้เลย แล้วก็มีหมู่มิตรหลายคนที่ก็ทำแบบเดียวกันครับ พระคุณเจ้าลองแวะไปเยือนได้ครับที่นี่ครับ 

กราบนมัสการด้วยความเคารพครับ

คารวะรุ่นพี่ ... ขอบคุณครับอาจารย์ ;)

สวัสดีครับ อาจารย์ Wasawat Deeman

  • คงเป็นนามปากกาใช่ไหมเนี่ย เพราะอาจารย์เทคโน มอชอ. ผมพอจะรู้จักเกือบทุกคน แต่ชื่อนี้ไม่คุ้นเลยครับ หรือว่าเป็นคณะอื่น
  • หรือว่าเป็นอาจารย์รุ่นน้องท่านหนึ่ง ที่เมื่อก่อนโน้น ทำดอกเตอร์อยู่ที่จุฬาฯ ที่เป็นรุ่นพี่ของภรรยาผมและเรียนปริญญาโทด้วยกันที่เทคโน มอชอ. แล้วก็เป็นเพื่อนวิชาการของพี่ธารา หากใช่ก็ยินดีมากเลย
  • คิดถึงชาวเทคโน มอชอ. ครูอาจารย์ และทุกท่านในภาควิชาเลยครับ ปรกติเมื่อขึ้นมาเชียงใหม่ ผมก็มักจะหาโอกาสแวะไปกราบอาจารย์และเจอคน  หรืออย่างน้อยก็ไปเดินดูตึก ดูบรรยากาศรอบๆ เดี๋ยวนี้ มอชอ.เปลี่ยนแปลงไปเยอะนะครับ  ซีกคณะศึกษาฯและคณะเกษตรฯซึ่งเมื่อก่อนบ้านน๊อก-บ้านนอก ก็เปลี่ยนไปเยอะมาก

วันหลังชวนพรรคพวกไปแอ่วกันแถวสันป่าตองบ้างเนอะ ทั้งพี่วสุและภรรยา รวมทั้งหลายท่านที่เห็นอยู่ใน G2K นี้อยู่เสมอๆน่ะครับ  ขันแข็งดีจังครับ  ชื่นชมนะครับ

สวัสดีครับ ท่านพี่อาจารย์ วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ;)

ผมเป็นพวกฤาษีที่แฝงตัวอยู่ในป่าครับ ... อาจจะพบเจอผมยาก และผมก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักครับ เพียงแต่ว่า ผมเป็นรุ่นพี่ของภรรยาท่านพี่ แต่อายุเท่ากันครับ

ส่วนพี่ธารา ผมเคยมีโอกาสสนทนาและรู้จักในระดับหนึ่ง ณ ที่สวนดอก ครับ ... แต่พี่ธาราเขา Early ไปทำงานส่วนตัว

ผมได้ข่าวเลา ๆ ว่า คณะศึกษาฯ กำลังจะมีอาคารใหม่ เก๋ไก๋กว่าเดิมครับ คิดว่า ใกล้เสร็จแล้วครับ

ส่วนท่านอาจารย์ที่ภาคฯ ผมมักจะเจอปีละหลายครั้ง บางทีอาจารย์เขามาช่วยหัวหน้าสาขาฯ ผมสอน ป.โท อะไรประมาณนั้นครับ

ยินดีครับพี่ ... ผมเห็นพี่เป็นต้นแบบของนักเทคโนฯ ART ๆ ที่เป็นนักคิดเพื่อสังคม ยินดีจริง ๆ ครับ ... กว่าผมจะคิดได้อย่างพี่ อีกหลายขุมนัก ... อย่างไรก็ตาม ผมจะใช้อุดมการณ์ความเป็นครูเทคโนฯ สั่งสอนลูกศิษย์ให้ดีที่สุดครับ

อนึ่ง ผมมีรุ่นพี่เทคโนฯ อีกท่านอยู่ที่ทำงานเดียวกันด้วยนะครับ ดร.ชวิศ จิตรวิจารณ์ (พี่เขาเปลี่ยนชื่อจากตอนเรียน) ผมคิดว่า พี่อาจจะรู้จัก จบ ป.เอก วิทย์สิ่งแวดล้อม ของมหิดล แต่ ตรี - โท เทคโนฯ แถม โท. ก็มอชอ ครับ รุ่นพี่ผมแท้ ๆ เลยเชียว ... วาระใหม่พี่เขาได้เป็น รอง ผอ.สถาบันวิจัยฯ ด้วยครับ

ขอบคุณมากครับพี่ ;)

ท่านน้อง Wasawat Deemarn

  • พอจะนึกออกแล้วครับ ยินดีมากจริงๆ
  • ยิ่งยินดีหนักเข้าไปอีกที่ทราบว่ามาอยู่กับ ดร.ชวิศ จิตรวิจารณ์ เป็นคนเก่ง ดี และมีอุดมคติการทำงานครับ เก่งรอบด้านเลย แล้วก็เหมาะมากด้วยที่ไปทำบริหารการวิจัย เป็นเพื่อนรักเพื่อนใคร่ที่คยทำงานมาด้วยกันมาหลายอย่างครับ แล้วก็เป็น Advisee ของอาจารย์กรองกาญจน์เหมือนกัน
  • พอไปทำ ป.เอก ก็ไปเจอกันที่มหิดลอีก ได้ทำกิจกรรมวิชาการของนักศึกษาด้วยกัน แล้วก็ได้ไปทำเครือข่ายปฏิรูปการศึกษาเรียนรู้ของกลุ่มพื้นที่การศึกษาภาคตะวันตกด้วยกันอีก
  • ใน dialogue ที่ 10 ผมดันไปเรียกวสุเป็นพี่ซะแล้ว ต้องขออภัยครับ วสุเป็นรุ่นน้อง นี่ก็เก่ง เขามี Tacit Knowledge หลายเรื่องครับ โดยเฉพาะการผนึกและลอกภาพให้ติดกับแผ่นกระดาษแต่จำเพาะสี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำสื่อและแผ่นภาพกราฟิคได้หลายอย่าง ได้รู้จักกันทั้งครอบครัวเพราะเป็นกลุ่มที่ไปเที่ยวดอยขุนตาลด้วยกันเมื่อหลายปีมาแล้ว

มีความสุขและมีไฟเพื่อการทำงานอยู่เสมอนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท