คนชาติไหน IQ สูง


เราๆ ท่านๆ คงจะสงสัยว่า ฝรั่งชาติไหน IQ สูง วันนี้เรามีข่าวดีจากหนังสือพิมพ์เดอะ ไทมส์ออนไลน์ ฉบับวันที่ 27 มีนาคม 2549 ซึ่งตีพิมพ์ผลการศึกษาวิจัยของศาสตราจารย์ริชาร์ด ลินน์ แห่งมหาวิทยาลัยอัลซเทอร์ บริทอน สหราชอาณาจักร...

เราๆ ท่านๆ คงจะสงสัยว่า ฝรั่งชาติไหน IQ สูง วันนี้เรามีข่าวดีจากหนังสือพิมพ์เดอะ ไทมส์ออนไลน์ ฉบับวันที่ 27 มีนาคม 2549 ซึ่งตีพิมพ์ผลการศึกษาวิจัยของศาสตราจารย์ริชาร์ด ลินน์ แห่งมหาวิทยาลัยอัลซเทอร์ บริทอน สหราชอาณาจักร

อาจารย์ท่านทำการศึกษาวิจัยติดต่อกันมานานมากกว่า 3 ศตวรรษ ใช้แบบทดสอบนับร้อยๆ แบบ เพื่อทำการศึกษา IQ ของฝรั่งชาติต่างๆ ในยุโรป

IQ คนปกติมีค่าอยู่ในช่วง 85-115 ยกเว้นในคนที่มีความสามารถสูงเป็นพิเศษจะมี IQ ระดับ 145 ขึ้นไป

ผู้เขียนขอนำบทความและข้อมูลจากอาจารย์ท่านอื่นๆ (ดังปรากฏใน “แหล่งที่มา” ข้างท้าย)มารวบรวม และเล่าสู่กันฟังในรูปคำถาม-คำตอบ (Q&A) ดังต่อไปนี้...

  1. คนยุโรป ชาติใด IQ สูง:                             
    การศึกษาในยุโรปพบว่า เยอรมันกับดัตช์(เนเธอร์แลนด์)มี IQ สูงสุดเท่ากับ 107 รองลงไปเป็นโปแลนด์ (106) สวีเดน(104) อิตาลี(102) ออสเตรีย(101) สวิตเซอร์แลนด์(101) หมู่เกาะอังกฤษ(สหราชอาณาจักร 100) นอร์เวย์ (100) เบลเยียม (99) เดนมาร์ค (99) ฟินแลนด์ (99) สาธารณรัฐเชค (98) ฮังการี (98) สเปน (98) ไอร์แลนด์ (97) รัสเซีย (96) กรีซ (95) ฝรั่งเศส (94) บัลแกเรีย (94) โรมาเนีย (94) ตุรกี (90) และเซอร์เบีย (89) ตามลำดับ
    (ตาราง: มาจาก The Times, March 27, 2006)
  2. คนยุโรป แถบไหน IQ สูง:                          
    ชาวยุโรปเหนือและยุโรปกลาง IQ สูงกว่าชาวยุโรปตะวันออกเฉียงใต้

  3. อะไรทำให้ IQ ต่างกันมากที่สุด:                   
    ศาสตราจารย์ริชาร์ด ลินน์สันนิษฐานว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ IQ ของคนในยุโรปต่างกันได้แก่ “อาหาร” คนที่อยู่ในเขตหนาวต้องต่อสู้กับฤดูหนาวที่โหดร้ายทารุณ ไม่มีอาหารสด ทำให้ต้องพัฒนาการแสวงหา และจัดเก็บอาหารมาหลายชั่วอายุคน ทำให้ชาวยุโรปเหนือและยุโรปกลางมีปริมาตรสมอง (1,320 มิลลิลิตร) มากกว่าชาวยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ (1,312 มิลลิลิตร)
  4. อะไรทำให้ IQ ต่างกันมากรองลงไป:             
    สมองคนเราใหญ่ไม่เท่ากัน ชาวยุโรปตะวันออกเฉียงใต้กินเนื้อน้อยกว่า ทำให้ได้รับโปรตีน แร่ธาตุ และวิตะมินน้อยกว่าชาวยุโรปเหนือและยุโรปกลาง
  5. สหราชอาณาจักร:                                    
    สหราชอาณาจักรหรือหมู่เกาะอังกฤษเดิมมีชนเผ่าเคลต์ (Celt) อยู่ ต่อมามีเผ่าพันธุ์ใหม่คือ แอลโกลแซกซอน (Anglo-Saxon) จากภาคพื้นยุโรปแถบเยอรมนีอพยพเข้าไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน เมื่อศึกษา IQ พบว่า IQ ของบริเวณที่มีคนแองโกลแซกซอนอยู่จะสูงกว่าบริเวณที่มีคนเคลต์อยู่ดังปรากฏว่า บริเวณลอนดอนและแถบตะวันออกเฉียงใต้มี IQ 102 หน่วย อังกฤษและเวลส์มี IQ 100.5 หน่วย ไอร์แลนด์และสก๊อตแลนด์มี IQ 97 หน่วย
  6. ฝรั่งเศส:                                                 
    คนเมืองหลวงมีแนวโน้มจะมี IQ สูงกว่าคนบ้านนอก การศึกษาในฝรั่งเศสพบว่า คนปารีสมี IQ สูงกว่าคนที่อยู่บ้านนอก ข่าวนี้อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับคนเมืองหลวงทั่วโลกด้วย
  7. เพศ:                                                     
    ผู้ชายมี IQ สูงกว่าผู้หญิง 5 หน่วย น่าเสียดายที่ผู้ชายจำนวนมากกลับหันมาทำลาย IQ ตัวเอง เช่น ดื่มเหล้า(ทำลายสมอง) สูบบุหรี่(ทำลายเส้นเลือด) พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้สมองกระทบกระเทือนโดยไม่จำเป็น เช่น เมาแล้วขับ ขับขี่โดยไม่เคารพกฎจราจร ทะเลาะวิวาท ฯลฯ
  8. การศึกษา:                                              
    คนที่มีการศึกษาในมหาวิทยาลัยมีแนวโน้มจะมี IQ สูงกว่าค่าเฉลี่ย นักศึกษาปริญญาตรี (undergraduate) สหราชอาณาจักร(หมู่เกาะอังกฤษ)มี IQ สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก (109 หน่วย) อันดับ 1 คือ นักศึกษาปริญญาตรีสหรัฐอเมริกา (110 หน่วย)
  9. สงคราม:                                                
    การศึกษาประวัติศาสตร์ยุโรปพบว่า ฝ่ายที่มี IQ สูงกว่ามีแนวโน้มจะเป็นฝ่ายชนะ ยกเว้นกรณีที่ฝ่าย IQ ต่ำกว่ามีปริมาณของกำลังพลมากกว่า

  10. เอเชีย ชาติใด IQ สูง:                               
    เด็กตะวันออกไกลมีค่า 104 เด็กยุโรปและอเมริกาเหนือมีค่า 98 ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยว่า ตะวันออกไกลอยู่ที่ไหน คำตอบคือ กลุ่มประเทศเอเชียค่อนไปทางเหนือที่ได้รับอิทธิพลของขงจื๊อ มีวัฒนธรรมเด่นคือ ขยัน กตัญญู อดออม ชอบค้าขาย และชอบทำกิจการส่วนตัว ประเทศเหล่านี้ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ผู้เขียนขอสันนิษฐานว่า ถ้านำวัฒนธรรมขงขื๊อ (confucion) เป็นตัวตั้ง ต่อไปกลุ่มประเทศเหล่านี้อาจจะรวมเวียดนามด้วย...
  11. เด็กไทย IQ เท่าไร:                                   
    เด็กไทยมี IQ ต่ำลงเรื่อยๆ จาก 91 ในปี 2540 เป็น 88 ในปี 2545 ผลการศึกษาของอาจารย์นิชรา เรืองดารกานนท์ในปี 2547 พบว่า เด็กไทยทั่วประเทศมีระดับ IQ เฉลี่ยรวมทั้งประเทศ 88 จุด ถ้าใช้วิธีคำนวณพิเศษ โดยถ่วงน้ำหนักประชากรจะได้ระดับ IQ เฉลี่ยทั้งประเทศ 91.1 จุด เมื่อแบ่งเป็นรายภาคพบค่าเฉลี่ยดังต่อไปนี้ กรุงเทพฯ 94.6 จุด ภาคกลาง 88.8 จุด ภาคเหนือ 84.2 จุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 85.9 จุด ภาคใต้ 88.1 จุด

    แหล่งข้อมูล:                                    

    • ขอขอบคุณ > Helen Nugent. Germans are brainiest (but at least we’re smarter than the French). The Times (http://www.timesonline.co.uk/article/0,,2-2105519,00.html) > March 27, 2006.
    • ขอขอบคุณ > เยอรมนี-ดัตช์ ฉลาดมากที่สุดในยุโรป. ไทยรัฐ. 29 มีนาคม 2549. หน้า 2.
    • ขอขอบคุณ > (ข่าว) พระเทพฯ ทรงห่วงเด็กไทย “ไอคิว” ต่ำ: พินิจ” ดันไอโอดีนเป็นวาระชาติ ส่งเสริมครัวไทยใช้เกลือมาตรฐาน. ไทยรัฐ. 23 มีนาคม 2549. หน้า 15.
    • ขอขอบคุณ > อาจารย์แพทย์หญิงสายพิณ โชติวิเชียร. เด็กจะฉลาดต้องไม่ขาดไอโอดีน. คลินิก. มีนาคม 2549 (ปี 22 ฉบับ 3). หน้า 273-276.
    • ขอขอบคุณ > แม่ขาดสารไอโอดีนทำเด็กไทยเสี่ยงเอ๋อ. มติชนรายวัน. 23 มีนาคม 2549. หน้า 5.
    • ขอขอบคุณ > search for “Far East Asia” > http://dictionary.reference.com/search?r=2&q=Far%20East > March 29, 2006.
    • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > ๒๙ มีนาคม ๒๕๔๙
    หมายเลขบันทึก: 21504เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2006 11:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (15)

    ขอขอบคุณอาจารย์หมอวัลลภมากครับที่ค้นคว้ารวบรวมเรื่องนี้มาให้พวกเราได้อ่านกัน มีการอ้างอิงแนะนำข้อมูลเพิ่มเติมอย่างเป็นระบบอีกต่างหาก ผมได้ข้อคิดอะไรมากมาย

    ผมสนใจตรงข้อ 3 - แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่อง "อาหาร" เป็นหลัก ผมว่าเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดมากกว่า ความลำบากสอนให้คนคิดเป็นทำเป็นและแก้ปัญหาเป็น ทำให้มี IQ สูง ตรงกันข้ามกับคนที่เกิดมาในประเทศที่แม้แต่สุนัขก็ไม่อดตาย ความจำเป็นที่จะต้องคิดวางแผนล่วงหน้ามีน้อย ไม่ต้องทำอะไรก็อยู่รอด ปัญหาหนัก ๆ ก็ไม่มีมาให้หัดแก้ไข แล้ว IQ มันจะสูงไปได้อย่างไร

    ขอบคุณอีกครั้งครับ

    นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
    • ขอขอบคุณอาจารย์วิบูลย์ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
    • ข้อ (3) ถ้าลองพิจารณาทางเอเชียบ้าง... ประเทศเขตอบอุ่น เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ จะมีพัฒนาการไปไกลกว่าประเทศเขตร้อน
    • ปัจจัยสำคัญในทัศนะของผมมี 2 เรื่องคือ ภาษาเขียนซึ่งวัดได้ด้วยอัตราการอ่านออกเขียนได้ (literacy) และวัฒนธรรมอุตสาหกรรม (industrial culture)
    • พระธรรรมคุณาภรณ์(ป.ปยุตโต) แสดงไว้ชัดเจนว่า ชาติที่จะเจริญได้จะมีชุมชนของคนดี คนขยัน คนที่ได้อะไรมาโดยชอบธรรม(ไม่คดโกง) มองไกล ใจกว้างเพ่มขึ้นเรื่อยๆ...
    • ดูไปแล้วคือ ชาติที่มี progressive km (มีกิจกรรมคุณภาพ และส่งเสริมองค์ความรู้อย่างกว้างขวาง และต่อเนื่อง)
    • มีนักศึกษาปี 3 สาขาคอมพิวเตอร์ สถาบันหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ)ไปฝึกคอมพิวเตอร์ที่โรงพยาบาล อ่อนทั้ง hardware & software ลงโปรแกรมพื้นฐานยังไม่เป็นเลย
    • เรียนรู้อะไรด้วยตนเอง (self-learning) ไม่ได้ ไม่รู้จักค้นคว้าหนังสือ-วารสารในห้องสมุด ได้แต่รอรับการสอน กับท่องชี้ต (sheets) บางทีอาจจะอ่านหนังสือไม่เป็น เพราะข้อสอบมีอยู่ในชี้ตเป็นหลัก...
    • ระบบการเรียนการสอนแบบนี้ (spoon feeding) ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ iQ ของประเทศไทยตกต่ำ
    • ข้อ (4) ผมมีความเห็นต่างคือ ทางเอเชียพัฒนาผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองได้อย่างกว้างไกล ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง สาหร่าย ปลาทะเล และข้าวกล้องก็มีสารอาหารส่งเสริมพัฒนาการของสมองได้ โดยเฉพาะระยะในครรภ์จนถึง 5 ปีแรก ไม่จำเป็นต้องกินเนื้อมากอย่างชาติยุโรป
    • ขอขอบคุณอาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
      ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดี มีโอกาสส่งเสริมชุมชนของคนเก่งและดี เพื่อให้ประเทศชาติของเราพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืนต่อไป...

    สวัสดีครับท่านอาจารย์หมอวัลลภ

     วันนี้ท่อง Blog ครับ เห็นเรื่อง IQ เลยเข้ามาแจม ครับ

      ไม่ทราบว่า ความรวย กับ IQ มีความเชื่อมโยงกันใหมครับ

    นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
    • ขอขอบคุณอาจารย์ JJ...
    • เท่าที่ทราบ... ฐานะทางเศรษฐกิจ หรือความรวยมีผลต่ออายุครับ คนรวยมีแนวโน้มจะอายุยืนกว่าคนจน เข้าใจว่า โอกาสในการเข้าถึง (accessibility) บริการสาธารณสุข และความรู้มากกว่า
    • ส่วนความรวยกับ IQ... ผมไม่ทราบข้อมูล ขอเดาว่า คนชั้นกลางกับคนรวยมีแนวโน้มที่ IQ สูงกว่าคนจน ปัจจัยหลักได้แก่ โอกาสทางการศึกษามีมากกว่า
    • คนจนทั่วโลกมีโอกาสขาดอาหารในวัยเด็ก โดยเฉพาะไอโอดีน(ผลต่อสมอง) เหล็ก(ผลต่อสมอง และการนำออกซิเจน) วิตะมินเอ(เด็กที่ขาดจะป่วยบ่อย ขาดเรียนมากขึ้น)
    • เมื่อคนจนโตขึ้นมีโอกาสทำลาย IQ ตัวเองเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด เหล้า อุบัติเหตุ วัฒนธรรมทำลายตัวเอง (self-destructive culture) เช่น ภาพยนต์อิจฉาริษยา ฯลฯ
    • ผมไปสิงคโปร์มา 2 ครั้ง แท็กซี่ที่นั่นชี้ให้ดูแหล่งรวมแรงงานไทยทั้ง 2 ครั้ง เขาพูดเหมือนกัน 2 ครั้งว่า วันหยุดคนไทยชอบกินเหล้า และทะเลาะกัน
    • ผมบอกเขาไปว่า ถ้าคนไทยปรับวัฒนธรรมให้มีความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด... แบบ Confusion (คำสอนขงจื๊อเป็นที่ยอมรับในวัฒนธรรมตะวันออกไกลได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี)น่าจะดี เขาว่าใช่เลย

    เรียน อาจารย์หมอวัลลภ

     ประเด็นสุดท้าย ที่อาจารย์แนะนำ เป็นเรื่องที่สำคัญครับ การปรับ กระบวนทัศน์ ค่านิยม และ สร้างวัฒนธรรม ของชาติเรา โดยเฉพาะ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเรื่องที่ต้อง ใส่ใจกันอย่างจริงจัง เพื่อประเทศเราจะได้พัฒนาก้าวไกลไปกว่านี้ครับ

    วัลลภ พรเรืองวงศ์
    • ขอขอบคุณอาจารย์ JJ...
    • ก่อนอื่น ขออภัยที่สะกดผิดครับ คำสอนขงจื๊อดูจะสะกดว่า Confucian ส่วน Confusion แปลว่า สับสน >>> http://dictionary.reference.com/search?r=2&q=Confucian
    • "เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นยุทธศาสตร์ใหญ่ของโลกที่จะช่วยให้คนอยู่ได้อย่างมีความสุข มีศักดิ์ศรี และมีทรัพย์โดยไม่เป็นหนี้เกินตัว
    • เท่าที่จำได้... มีนักเศรษฐศาสตร์เยอรมัน (Schumacher นามสกุลท่าน = shue + maker = ตระกูลช่างทำรองเท้า) หนีไปอยู่สหราชอาณาจักรในช่วงสมครามโล
    • ครั้งที่ 1 หลังสงครามฯ อังกฤษจ้างท่านไปช่วยเศรษฐกิจพม่า
    • เมื่อท่านไปพบว่า คนพม่าจน+อยู่กินแบบเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผักผสมผสาน ไปวัด ไหว้พระเจดีย์ นับว่า ยากจน แต่มีความสุขมากกว่าคนอังกฤษ
    • ท่านผู้นี้เขียนตำรา เช่น "Small is beautiful" 
    • ผมเชื่อมั่นว่า ถ้าคนไทยขยัน หมั่นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อยู่อย่างพอดี ยินดีอนุโมทนาในความดีของผู้อื่น หันมาอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียง ไทยจะก้าวไปไกลแน่นอนครับ...
    วัลลภ พรเรืองวงศ์
    • ขออภัยอาจารย์ JJ อีกครั้ง... Schumacher ไปพม่าหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ...

        เข้ามาเก็บเกี่ยวข้อมูลครับ  ขอบพระคุณอ.หมอวัลลภ มากครับ สำหรับข้อมูลที่แน่นปึ๊ก... ผมเชื่อว่า IQ น่าจะสัมพันธ์อย่างยิ่งกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่คนเราอาศัยอยู่นะ

       การอบรมบ่มเพาะโดยธรรมชาติที่แปรปรวน มีภัยพิบัติเกิดขึ้นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว น่าจะทำให้คนกลุ่มนั้นใช้สมองมาก และคิดอ่านทำอะไรอย่างมีระบบ เพราะความตายหรือหายนะอยู่ใกล้แค่เอื้อม IQ ก็สูงได้  คนไทยนั้นธรรมชาติเมตตา เอื้ออาทรมากไป  จนไม่ต้องคิดจริงจังกับอะไร  อยู่ไปแบบเรื่อยเฉื่อย IQ ก็ต้องเป็นอย่างที่เห็นๆแหละครับ 

    นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
    • ขอขอบคุณอาจารย์ Handy, ท่านผู้แสดงข้อคิดเห็น และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
    • เห็นด้วยกับอาจารย์ที่ว่า การใช้สมอง และการคิดอ่านอย่างเป็นระบบทำให้คนฉลาดขึ้น...
    • การช่วยเหลือเกื้อกูลให้คนอื่นคิดเป็น ทำเป็นอย่างที่อาจารย์ว่า น่าจะดีที่สุด และดีแบบยั่งยืน (sustainable) ด้วย
    • ขอให้ท่านผู้แสดงข้อคิดเห็น และท่านผู้อ่านทุกท่านมีโอกาสฝึกสมองบ่อยๆ จะได้มี IQ, EQ ไว้ทำประโยชน์ให้ส่วนรวมได้มาก และได้นานครับ...

    เรียนท่านอาจารย์หมอวัลลภ

     JJ ขออนุญาต เพิ่มเติม นอกจาก IQ/EQ สังคมปัจจุบัน น่าจะเน้น

      1.MQ = Moral Q สมรรถนะด้านจริยธรรม จรรยาบรรณ

      2.SQ = Social Q สมรรถนะในการอยู่ร่วมในสังคม สันติสุข

      3.TQ = Team Q สมรรรถนะในการทำงาน สหสาขาวิชาชีพ

    วัลลภ พรเรืองวงศ์
    • ขอขอบคุณอาจารย์ JJ ท่านผู้แสดงข้อคิดเห็น และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
    • เรื่อง MQ, SQ & TQ ทราบจากท่านอาจารย์เป็นครั้งแรก ทำให้ได้ข้อคิดใหม่ ความรู้ใหม่...
    • ถ้าคนไทยรุ่นใหม่หันมาพัฒนา MQ-SQ-TQ อย่างท่านอาจารย์ว่าได้ น่าจะไปได้ไกลแน่นอนครับ
    • ขอขอบคุณท่านอาจารย์อีกครั้ง และขอแสดงความเคารพ
    วัลลภ พรเรืองวงศ์
    • ขออนุญาตนำกระบวนทัศน์ของท่านอาจารย์ jJ มาประมวลใหม่เล็กน้อยครับ...
    • อาจารย์ท่านแนะนำว่า นอกจาก iQ & eQ แล้ว คนเราน่าจะพัฒนา mQ (moral Q), sQ (social Q) & tQ (team Q) ด้วย
    • ขออนุญาตประมวลเข้าเป็นว่า คนเราน่าจะพัฒนา iQ & vQ (I = ตัวเรา >>> iQ = IQ+EQ) ส่วน vQ (v = we = เราหรือพวกเรา >>> vQ =MQ+SQ+TQ)
    • ขอให้อาจารย์ JJ ท่านผู้แสดงข้อคิดเห็น และท่านผู้อ่านทุกท่านมีสุขภาพดี มีแรงกายแรงใจ ช่วยกันพัฒนาสังคมไทยให้มี iQ+vQ ต่อไปนานๆ ครับ...

    คนที่ฉลาดที่สุดในโลก มี IQ EQ MQ AQ SQ มากที่สุดคนปัจจุบัน คือ ใครค่ะ ?

    • ขอขอบคุณอาจารย์ nisa yuya...                              
    • ชาวโลก(ปุถุชน = คนหนาด้วยกิเลส เข้าใจว่า นี่เป็นที่มาของโฆษณากระเบื้อง "อย่างหนา" ด้วย ภาษาไทยมีคำอื่น เช่น หนังหนา หน้าหนา ฯลฯ) ชาวโลกทั่วไปนี่... ผมไม่ทราบเหมือนกันว่า ใครจะมี iQvQ สูงสุด...

    • ถ้านับเฉพาะ iQ ชาวโลก(ปุถุชน)คงจะสมมุติกันว่า ไอนสไตน์ (Einstein) กระมัง ทีนี้เราอาจจะสงสัยกันว่า อะไรเป็นเหตุ(เฉพาะชาติปัจจุบัน)...

      1). ไอนสไตน์มีแม่ดี ครอบครัวอบอุ่น
      2). แม่ของท่านสอนให้เล่นเปียโนกับไวโอลินมาตั้งแต่เด็ก เล่นดนตรีเก่ง ปัจจุบันเชื่อกันว่า "Mozart effect" หรือการฟังดนตรีบรรเลง (เขาทดลองกับเพลงโมซาร์ท) ตั้งแต่เด็กน่าจะมีส่วนช่วย
      3). การฟังเพลงมีเนื้อร้องมากๆ ดังๆ หรือการดูโทรทัศน์มากเกิน โดยเฉพาะรายการโชว์น้ำเน่า ละครน้ำเน่า ข่าว 4 จังหวัดภาคใต้ ข่าวรัฐบาล-ฝ่ายค้านมากเกินไปน่าจะทำลายสมาธิ ทำให้สติปัญญาเสื่อมทราม โชคดีที่ไอนสไตน์ไม่มีโอกาสชมรายการโทรทัศน์เมืองไทย

      4). การเล่นดนตรี โดยเฉพาะเปียโนในวัยเด็ก หรือการฝึกทำอะไรด้วยแขน 2 ข้าง โดยเฉพาะการใช้แขน-มือข้างที่ไม่ถนัดช่วยฝึกสมอง 2 ซีก

      5). การเรียนภาษาหลายภาษาตั้งแต่เด็กมีส่วนให้ฉลาดขึ้น ไอนสไตน์เป็นยิวในเยอรมนี คนยุโรปส่วนใหญ่จะพูดได้มากกว่า 1 ภาษา

      6). โอกาสทางการศึกษา การศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ และการศึกษาต่อเนื่องตลอดชีวิตมีส่วนช่วยให้ฉลาดขึ้น สมัยนี้โชคดีมากครับ เพราะมี Gotoknow ช่วยให้เราได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ลปรร.) กัน
    • อย่างไรก็ตาม... คนฉลาด(ถ้าไม่ระวัง)ยังถูกมืออาชีพหลอกได้...

      ตอนไอนสไตน์อพยพไปอยู่อเมริกา นักวิทยาศาสตร์+นักการเมืองที่นั่นดูจะหลอกไอนสไตน์ว่า เยอรมนีสร้างระเบิดปรมาณูได้แล้ว ไอนสไตน์จึงลงชื่อเสนอประธานาธิบดีให้สร้างระเบิดปรมาณูชื่อแรก บาปไปบานเลย น่าเห็นใจไอนสไตน์ นี่เพราะคบเพื่อนชั่วแท้ๆ

      ไอนสไตน์กล่าวตอนหลังสงครามหลังได้ศึกษาพระพุทธศาสนาว่า "เสียใจ"
    • ไอนสไตน์กล่าวว่า "ศาสนาแห่งอนาคต จะเป็นศาสนาแห่งจักรวาล ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนเหตุผลและประสบการณ์ ปฏิเสธความเชื่อที่ไร้เหตุผล ถ้าหากจะเสาะหาศาสนาที่สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์ ศาสนานั้นน่าจะเป็นพุทธศาสนา
    • ที่มา: 
      1).
      ไพโรจน์ ชินศิรประภา. ท่องเที่ยวทางธรรม. ซีเอ็ดฯ 2549. หน้า 7.
      2). กองบรรณาธิการ. Mozart effect. วงการแพทย์. ปี 8. ฉบับ 22. (16-30 เมษายน 2549). หน้า 11-12.
      3). Music for the Mozart Effect. ดนตรีโมสาร์ตเพื่อพัฒนาศักยภาพสมอง. Spring Hill Music. ซีเอ็ดฯ 2548. หน้า 8-24.

    ท่านว่าเด็กไทย "โง่" หรือ

    รู้ไหมว่าท่านดูถูกเด็กไทยอยู่

    มีแบบทดสอบ IQ อยู่ในเว็บไซต์ (แต่ไม่รู้ว่ามั่วหรือเปล่าอ่ะน่ะ)

    พวกเด็กไทยโดยเฉลี่ยทำได้ 100 อัพ (ประมาณ 105-120)

    ซึ่งนับว่าเป็น IQ คนปกติ 

    อย่าโทษแค่การศึกษาไทย

    กรุณาดูตัวเองบ้าง ท่าผู้ปกครองทั้งหลาย

    วันเสาร์-อาทิตย์ ท่านได้ปล่อยเด็กน้อยตื่นบ่ายโมงรึเปล่า

    ปล่อยเด็กน้อยเล่นเกม ฯลฯ มากเกินไปเปล่า

    พอเถอะ

    ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท