จดหมายถึงพ่อ (2-18)


คิดถึงจังค่ะ...เข้ามาได้อ่านบันทึกใหม่ของพี่โก๊ะพอดี   เพลงจดหมายถึงพ่อนี้ได้ยินทีไรก็กินใจทุกทีเลยนะคะ  พ่อแม่ต้องเข้าไปทำงานในเมืองหลวงปล่อยลูกไว้กับปู่ย่าตายาย  ความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูกก็น้อยลง  ความรักความอบอุ่นภายในจิตใจของเด็กก็เลยหดหายไปด้วย 

พอดีกับที่มิมกำลังหาอ่าน CSR อยู่พอดี แล้วนำข้อมูลไปเขียนไว้ ที่นี่ ค่ะ แต่ข้อมูลก็ยังไม่สมบูรณ์สักเท่าไร  ยังต้องอ่านอีกมากค่ะ  เพราะอ่านแล้วยังสรุปไม่ได้เลยว่า CSR แท้ กับ CSR เทียม นั้นมันแตกต่างกันอย่างไร หรือผู้บริโภคต้องใช้วิจารณญานกันเอาเอง..

ขอบคุณพี่โก๊ะค่ะสำหรับบทความนี้  ชอบค่ะ 

แทรกเพลงได้แล้วสินะครับเก่งจัง  ขออ่านหน่อยครับ จดหมายผิดซอง หรือเปล่านะ :)

- สวัสดีค่ะ คุณคนไม่มีราก

- สภาพสังคมครอบครัวแบบสมัยก่อน คงจะค่อยเลือนหายไป และ เลือนหายไป  นะคะ

- นำบทเรียนสมัยก่อนโน้นมาให้ดูค่ะ เป็นหนังสือของเด็กชั้นประถมปีที่ 2  เขาส่งเสริมให้รู้จักหน้าที่ของครอบครัว

สวัสดีค่ะครูมิมคนดี

คิดถึงมากถึงมากที่สุดค่ะ...^_^...

หายไปนานมากกกกกก....

ขอบคุณค่ะที่ครูมิมติดตามอ่าน...บันทึกนี้พี่ตั้งใจไว้นานมากแล้ว แต่เพิ่งได้มีโอกาสเขียน ... เพราะเพิ่งมีเวลา

โลกเปลี่ยนไป คนเปลี่ยนไป .... ถ้าเราไม่ใช้เวลาที่จะตระหนักและใคร่ครวญถึงบ้าง...เราก็คงเพียงมีชีวิตในโลกอย่างฉาบฉวย...แล้วก็จากไปราวกับ....ไม่เคยมีชีวิตมาก่อนเลย

จะหาเวลาไปอ่านบันทึกของครูมิมที่ลิงก์มาให้นะคะ

ระลึกถึงค่ะ...^_^...

อ่านจบแล้ว อ่านแล้วก็เลยอยากปลูกต้นมะละกอ ปลูกต้นทานตะวัน ปลูกต้นกระดังงา มีลูกสักสองคน แบบในเพลงเลยนะครับ :)แต่กลัวว่าต้องออกไปทำงานจนไม่มีเวลาอยู่กับลูกๆ อ่านบทความนี้และ ฟังเพลงจดหมายถึงพ่อ แล้วนึกถึง  »  กวีเต๋าเถาหยวนหมิง

คืนสู่ชนบท
เถาหยวนหมิง แต่ง
โชติช่วง นาดอน แปล
เนารัตน์  พงษ์ไพบูลย์ ร้อยกรอง


ข้ามิอาจปล่อยตัวตามกระแส                   ด้วยธาตแท้ข้ารักอยู่ภูดอยผา
เคยหลงเข้าข่ายโลกีย์นานปีมา                ถึงสิบสามปีพาข้าหลงไป
นกในกรงถวิลหาถิ่นป่าเก่า                      ปลาสระเล่าถวิลหาสาครใหญ่
บัดนี้ข้าเบิกร้างถางถิ่นไพร                      ดังเคยให้คำมั่นจักหันคืน      

อยู่กับที่กระผีกริ้น ผืนดินข้า                    กระท่อมหญ้าหลังน้อยก็พลอยชื่น
หลิวครึ้มลานหลังร่มคลุมห่มพื้น               ลานหน้ารื่นสาลี่ท้อ ลออราย
หมู่บ้านห่างห่างอยู่ดูตะคุ่ม                      ควันจับกลุ่มเคลื่อนคล้อยค่อยลอยหาย
เสียงหมาเห่าอยู่ตามตรอกซอกทางกราย  ไก่ขันเจื้อยแจ้วกระจายปลายหม่อนนั้น

บ้านห่างร้าง อลวลสับสนกระแส               ห้องโล่งแต่ปิติหฤหรรษ์
นกน้อยถูกขังกรงมานานครัน                  บัดนี้ผันคืนรังอีกครั้งครา
ชนบทไร้บันเทิงเริงสถาน                        ทุกตรอกย่านไร้จอแจรถแห่หา
ยามกลางวันหับประตูไม่ตรูตรา                ห้องว่างเปล่าไม่ต้องมาคอยห่วงใย

ความเป็นอยู่ในหมู่บ้านนั้นธรรมดา           คนแหวกหญ้าหาสู่อยู่ชิดใกล้
ไม่ต้องมีทีท่ามายาใด                             ยามพบหน้าปราศรัยไร่หม่อนปอ
ทั้งต้นหม่อนต้นปอก็เริ่มใหญ่                   ดินข้าไถข้าถากมากแล้วหนอ
กลัวหิมะเหมยร้ายทำลายกอ                    เหลือแต่ตอตายเห็นเป็นพงร้าง

ปลูกถั่วอยู่เชิงหลูซานงานเหนื่อยยาก       ถั่วไม่มากแต่หญ้าดกรกเหลือถาง
ออกดายหญ้าแต่รุ่งตะวันลาง                  แบกจอบพลางจูงจันทร์กลับบ้านเรือน
ทางแคบไม้ครึ้มคร่าหญ้ารกรื้น                หมอกค่ำคืนชื้นเสื้อชื้นเหงือเปื้อน
เปื้อนไปเถิดเปื้อนเปรอะเปื้อนเลอะเลือน     ไม่กระเทือนปณิธานอันมั่นคง

ห่างป่าเขาลำเนาไพรไปนานนม              บัดนี้ข้าได้มาชมไพรระหง
กับลูกหลานฝ่าไปในไพรพง                    เที่ยวดั้นดงถึงสถานหมู่บ้านร้าง
เดินเวียนวนด้นอยู่ในสุสาน                      แล ทำเลหย่อมย่านอันกว้างขวาง
ยังเห็นซากบ่อเก่าเตาไฟวาง                   แลเศษไผ่หม่อนค้างอยู่กลางคัน

ลองถามคนตัดฟืนช่วยยืนชี้                    คนเหล่านี้หนีไปที่ไหนนั่น
คนตัดฟืนตอบคำที่ถามพลัน                   เขาทั้งนั้นตายหมดไม่เหลือเลย    
จริงดั่งคำ "สามสิบปีทุกที่เปลี่ยน"            ไม่ผิดเพี้ยนเลยสักนิด นิจจาเอ๋ย
ชีวิตคนดั่งมายามายั่วเย้ย                      แล้วลงเอยสู่ความว่างเช่นดังนี้

ถือไม้เท้าย่ำทางอย่างหมองหม่น             เดินวกวนตามทางหว่างวิถี
ถึงธารติ้นรื่นพักวักวารี                           พอล้างเท้าเข้าถึงที่กระท่อมทับ
เอาเหล้าหมักออกมากรองร้องทักเพื่อน    เมื่อตาวันผันเผื่อนเลื่อนห้องหับ
จุดคบไต้ต่างเทียนเวียนไหววับ               โอราตรีมีแต่ลับล่วงเร็วจริง
       

(จากหนังสือ กวีเต๋าเถาหยวนหมิง โดย ทองแถม นาถจำนง หน้า  118-120)  

สวัสดีค่ะคุณกวิน

บันทึกนี้ยกเครดิตทั้งหมดที่อาจจะพอมี...ให้กับคุณกวินค่ะ...^_^...

ที่กรุณาให้ทั้งโค้ดเพลง และสอนวิธีการใส่โค้ดเพลงด้วย (แม้จะยังอยู่ในตำแหน่งที่น่าจะเป็นกว่านี้)

จดหมายคงไม่ผิดซองแน่ค่ะ แต่ส่งมาไม่ถึง...พ่อ...เพราะพ่อของเด็กน้อย...ย้ายไปตามกระแสของสังคมทุนนิยมที่ใช้แรงงานของมนุษย์ในการสร้างความร่ำรวยด้านวัตถุให้กับตัวเอง...

อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดนะคะ เรื่องจริงยังมีสิ่งที่รอเราอยู่...อีกเยอะเลย...

(^__^)

สวัสดีค่ะคุณครูนัด

ขอบคุณมากค่ะที่อุตส่าห์ส่ง ... บทเรียนสมัยก่อน สำหรับสอนประถมปีที่ 2

คนไม่มีรากฉงนและมีคำถามกับตัวเองในห้วงหลายปีที่ผ่านมาว่า...ความละเอียดอ่อน ความประณีต ความเบิกบานในความง่ายงามในการดำรงชีวิตกำลังเลือนหายจากสังคมของเราแล้วหรือ..

คุณครูนัดคงสบายดีนะคะ

ระลึกถึงมาก ๆ ค่ะ...^_^...

ส่วนน้องหญิงยิ่งยามเย็นค่ำ อ้อนประจำเหตุผลไม่ฟัง
ไม่เอาบ้านโตไม่เอาทุกอย่าง จะเอาขี่หลังของพ่อคนเดียว

ชอบความบริสุทธิ์ของจิตใจที่ถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง

อนุโมทนาสาธุ

คุณกวินคะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ที่นำ..คืนสู่ชนบท...มาช่วยเติมเต็มบันทึกนี้

โดยเฉพาะบทที่ว่า.....

ปลูกถั่วอยู่เชิงหลูซานงานเหนื่อยยาก       ถั่วไม่มากแต่หญ้าดกรกเหลือถาง
ออกดายหญ้าแต่รุ่งตะวันลาง                 
แบกจอบพลางจูงจันทร์กลับบ้านเรือน
ทางแคบไม้ครึ้มคร่าหญ้ารกรื้น                หมอกค่ำคืนชื้นเสื้อชื้นเหงื่อเปื้อน
เปื้อนไปเถิดเปื้อนเปรอะเปื้อนเลอะเลือน     ไม่กระเทือนปณิธานอันมั่นคง

จินตนาการเห็นภาพ...แบกจอบจูงจันทร์กลับบ้านเรือน...

และ .....เปื้อนไปเถิดเปื้อนเปรอะเปื้อนเลอะเลือน     ไม่กระเทือนปณิธานอันมั่นคง

                        (^___^)

สวัสดีค่ะอ.ประจักษ์

ขอบพระคุณที่ท่านมาทักทายค่ะ

ระลึกถึงอ.เสมอค่ะ..^_^...

นมัสการท่าน  tukkatummo ค่ะ 

เนื้อเพลงในเพลงนี้ กินใจและให้ภาพของความรู้สึกที่บริสุทธิ์งดงามจากน้ำใจซื่อใสของเด็ก ๆ และยังสะท้อนมุมมองที่น่าเศร้าบางส่วน.... เช่นที่ว่า สุดท้ายนี้ขออวยพรให้พ่ออยู่แดนไกล หัวใจเด็ดเดี่ยว  ขอพระคุ้มครองยามใจห่อเหี่ยว ปกป้องแลเหลียวร่ำรวยกลับมา

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว...น้อยรายเหลือเกินที่จะร่ำรวยกลับมา...มักจะกลับมาพร้อมกับร่างกายที่ตรากตรำทำงานหนักเกินแรง และ จิตใจที่กระด้างจาก...ความเอารัดเอาเปรียบของนายทุนเสียมากกว่าค่ะ

สาธุค่ะ

 

สวัสดีค่ะ เพื่อนรัก

  • เข้ามาเป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ แต่โพสต์ไม่ได้ค่ะ
  • แปลกมั่ก ๆ มีเฉพาะกล่องข้อความให้คีย์ แต่ไม่มีปุ่มกดบันทึกค่ะ
  • เฝ้ารอแล้ว รออีก ในที่สุด ก็ปรกติ
  • นี่คงเพราะ รออย่างไม่ร้อนรน รอด้วยความเข้าใจ จึงยังคงความรู้สึกและความรับรู้ไว้ได้เท่าเดิมมั๊งคะ
  • คุณคนไม่มีราก ทำครูปูคิดถึงบ้านอีกแล้วค่ะ
  • ปรกติที่บ้านจะ เลี้ยงลูกแบบฮา ๆ เหมือนเป็นเพื่อนเล่นกัน แซวกันขำ ๆ ทั้งวัน
  • แต่ช่วงหลัง ๆ คุณยายกับคุณแม่ เริ่มพูดอะไรแบบซึ้ง ๆ ประมาณว่า ..ไม่รู้จะอยู่ได้อีกกี่ปี... ปูไม่อยู่ ยายกับแม่เหงา.. เวลาปูไม่อยู่ยายไม่มีเพื่อนกินข้าว..
  • เจ็บป่วยแค่ไหน ถ้าครูปูไม่ไปก็ไม่ยอมไปหาหมอ
  • ได้ยินทีไร จุกไปทั้งวันเลยค่ะ
  • จะด้วยภาระ ด้วยหน้าที่ที่ต้องอยู่ไกลบ้าน ครูปูจึงต้องเติมเต็มความขาดนั้น ทุกเสาร์อาทิตย์ ด้วยการขับรถกลับสุราษฎร์ เป็นว่าเล่น
  • เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่คุ้มสุดคุ้มค่ะ
  • สูญเสียเฉพาะไขมันบางส่วนของร่างกาย ที่แลกไม่ได้กับความอิ่มเอิบใจ  และรอยยิ้มของครอบครัวที่จะติดตาอยู่ตลอดสัปดาห์   จนกว่าจะกลับไปสร้างใหม่อีกทีในสัปดาห์ต่อไป
  • ขอบคุณค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
  • อยากเจอคุณคนไม่มีรากจัง จะกอดให้กระดูกเบี้ยวเลยหล่ะค่ะ อิอิ

 

  • ฟังเพลงแล้วคิดถึงบ้าน
  • ถึงแม้ว่าจะไม่มีพ่อ
  • แต่มีบ้านที่อบอุ่น
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆๆ
  • เอามาให้ดู
  • บ้านไร่ที่อบอุ่น

ให้ความรู้สึกที่ดีมาก และชอบเพลงจดหมายถึงพ่อ

ศิลปิน อี๊ด วงฟุตบาท

สวัสดีค่ะ  ครูปู~natadee t'ซู๊ด

ซาบซึ้งใจในความพยายามจังค่ะ...อะไรหนอช่างมากลั่นแกล้งหรือจะเป็นการลองใจในความอดทนและตั้งใจจริงต่อ...เพื่อน...เสียล่ะมั้ง...^_^...

ชื่นชมและส่งเสริมที่สุดกับสิ่งที่ครูปูปฏิบัติต่อคุณยายและคุณแม่...อยากทำอะไรก็ต้องรีบทำ อย่ารีรอ เพราะไม่มีอะไรแน่นอนในโลกที่เป็นอนิจจังนี้...

...ก่อนจะต้องมานั่งเสียใจว่า...รู้งี้...เราจะ...ดีกว่า....

อยากเจอตัวจริงเหรอคะ เจอแล้วอาจจะบอกว่า...รู้งี้...ไม่เจอดีกว่า...ไม่เห็นน่ารักเหมือนในบันทึกเลย....

เฮ้อ...อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นมากนักนะคะ .... ตัวจริงน่ะ น่ารักกว่าในรูปเยอะเลย....

เอิ๊ก...ล้อเล่นน่า....(^__^)

สวัสดีค่ะคุณครูขจิต

ดีจังค่ะที่ทำให้มีคนคิดถึงบ้านได้....อย่าลืมกลับบ้านไปกอดแม่บ้างนะคะ มัวแต่ทำงาน ทำงาน และทำงานอย่างนี้...

มะละกอดกมาก ๆ เห็นแล้วนึกถึงสัมตำ...ฮา...น่าทานจัง...

ขอบคุณภาพบ้านไร่ที่อบอุ่นค่ะ...^_^...

สวัสดีครับ

กลับมาจากแพร่แล้วเมื่อวานครับ...

ชอบบันทึกนี้ครับ ทั้งเพลง ทั้งภาพ

ภาพที่แม่ฮ่องสอน สดชื่น เขียวขจีดีจัง

ส่วนเพลงนี้เคยฟัง แต่ไม่ได้ติดใจมากนัก จนได้รู้ที่มาของเพลงจากคุณคนไม่มีราก เลยรู้สึกว่าเพลงนี้เพราะขึ้นและมีความหมายอีกมากโข...

ขอบคุณที่สะท้อนภาพ บางมุมที่เรามักจะหลงลืมไป...อาจเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ในภาวะลำบาก ต้องหาเช้ากินค่ำเช่นครอบครัวในเพลง เราไม่รู้ซึ้งถึง...ความต้องการ โหยหาของเด็ก ๆ ที่อยากให้พ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันมากกว่าจะต้องการ...บ้านโต...นะครับ

ชอบมากครับ

สวัสดีค่ะ  MSU-KM :panatung

ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาทักทาย ...

คนไม่มีรากชอบเพลงนี้มากเช่นกันค่ะ...^_^...

เรามีเรื่องวุ่นวายกับโลกมาก

จนต้องจากดวงใจที่โหยหา

จนต้องจากฟังเสียงของกายา

วิ่งแต่หาเงินทองจนอ่อนแรง

...............................

มาสวัสดีค่ะ...เพิ่งเลิกยุ่งๆ...มีเวลากับธรรมชาติมากขึ้นหน่อยค่ะ :D

สวัสดีค่ะคุณใบโพธิ์

ยินดีต้อนรับกลับกทม.ดินแดนที่แสนสะดวก แต่ ไม่สบาย....^_^...

ภาพนี้ถ่ายในรีสอร์ทที่ไปพักในจ.แม่ฮ่องสอนเมื่อปี 2550 ค่ะ สดชื่นเหมาะกับการพักผ่อนมาก ๆ อากาศเย็นสบายดีค่ะ

ขอบคุณค่ะที่ชอบเนื้อหาและที่มาของเพลงที่คนไม่มีรากหามา...

บางสิ่ง บางเรื่องราวแล้ว...ถ้าเราได้รับรู้ประวัติ ก็จะตระหนักในคุณค่าของสิ่งนั้นมากขึ้นนะคะ...

เราโชคดีที่ไม่ต้องลำบากแบบเด็กน้อยในเพลง...เห็นไหมคะ...ยังมีสิ่งดี ๆ ที่เราหลงลืมไป และยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่รอให้เรายื่นมือออกไปช่วยเหลือมิใช่หรือ...

(^__^)

สวัสดีค่ะคุณ CK

....วิ่งแต่หาเงินทองจนอ่อนใจ.....^_^...

ขอให้มีความสุขกับธรรมชาติใกล้ตัวนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีคะ พี่คนไม่มีราก

คิดถึงบ้านจังเลย...

ไม่ค่อยได้มีโอกาสมาทักทายกันเท่าไร หวังว่าคงสบายดีนะคะ

---^.^---

  • พยาบาลตึกเด็ก..
  • ต้องทิ้งลูกตัวเองที่นอนป่วยอยู่ที่บ้าน..
  • ขับรถเครื่องผ่าสายฝนตอนเกือบเที่ยงคืนไปเข้าเวรเพื่อดูลูกคนอื่น..
  • ..นี่หรือคืองานที่ทำเพื่อลูก...

สวัสดีคนไม่มีราก

วันนี้คงได้รับข่าวดีเรื่องผลสอบนะครับ

บันทึกนี้เป็นอีกบทความหนึ่งที่ชอบ ความจริงก็มักจะชอบความคิดของคนไม่มีราก เพราะมีมุมมองทึ่คล้ายกัน (ตีขลุมนิดหน่อย) แม้ในเรื่องที่มองต่างมุมก็ยังทำให้ได้โลกทัศน์ใหม่ที่น่าทึ่งขึ้นอีก

หนังสือ The Spirit of Silence ของ John Lane นี้ พี่อ่านเป็นภาคภาษาอังกฤษ ตั้งแต่อยู่ออสเตรเลีย เพราะเพื่อนแนะนำให้อ่านและชอบมาก เพิ่งรู้ว่ามีคนแปลเป็นภาษาไทย คงต้องขอยืมอ่านบ้างเมื่อมีโอกาส

ในหนังสือเล่มนี้มีส่วนที่อ้างถึงคำพูดของ Jame Lees ... แปลเป็นไทยด้วยภาษาของพี่เองคือ

"....ผมนอนบนพื้นหญ้า เฝ้ามองดอกแดนดิไลออน อย่างเพ่งพิศ รู้สึกราวกับได้เห็นลึกเข้าไปถึงรากเหง้าของดวงอาทิตย์ กลีบดอกไม้นั้นกลมกลืนก้นอย่างแนบแนน เมื่อได้คิดว่าดอกแดนดิไลออนนับล้านดอกที่บักกิงไชร์ ที่ดาษดาไร้ค่านั้น แท้จริงแล้วคือดวงดาวอัศจรรย์แห่งความงามสีทอง มนุษย์เราตาบอดกับสิ่งดีงามที่มีรายรอบตัว กลับเพ่งมองแต่สิ่งเลวร้าย..."

บางครั้งบางครา เรามักมองข้ามสิ่งดีงามใกล้ตัว คนใกล้ตัว ไม่เห็นคุณค่า ตั้งแง่กับคนที่เรารักและรักเรามากที่สุด...ลืมเห็นความรัก ความตั้งใจดีที่เขามีให้เราอย่างเต็มเปี่ยม ....

รอฟังข่าวดีนะครับ

 

กำลังฝึกการจัดการบล็อค ... ขอยืมภาพมาให้เจ้าของบล็อคหน่อยนะครับ..

ลองเดาใจ...คิดว่าน่าจะชอบภาพนี้มากกว่าภาพอื่น ๆ ...

P83003700

ทดลองเดาใจอีกภาพ น่าจะชอบภาพนี้เช่นกัน

20080517_13888

ปล.ถ้าทายถูกคงได้รางวัลนะครับ

 

ภาพนี้คงชอบมากเช่นกัน...เพราะเป็นดอกไม้สีม่วง

ขอยืมมาจากมิตรรักอักษราของคนไม่มีราก คุณกวินครับ

112244

มาชม คุณคนไม่มีราก

เคยฟังเพลงนี้เหมือนกันนะ

เห็นภาพสวยดีจังนะนี่

Great new !!!!

Congratulation...You passed the qualified exam.

So prout of you.

สวัสดีครับ

แวะมาแสดงความยินดีด้วยครับ...

รู้ข่าวจากน้องอ้อมแล้ว...ผมมั่นใจว่าคุณคนไม่มีรากทำได้แน่นอน

I believe on your potential...you 're cool.

รอลุ้นสอบปากเปล่าพรุ่งนี้อีกวันนะครับ

  • ค่ะ ชอบเพลงนี้มากเช่นกันค่ะ
  • วันก่อนได้ดูรายการทีวีรายการหนึ่งค่ะ
  • ประทับใจในครอบครัวคุณอิ๊ดนะคะ เค้าเป็นคครอบครัวคุณภาพมากๆ ค่ะ  ลูกสาวสองคนก็เก่งและเป็นเด็กดีค่ะ
  • ขอบบคุณเรื่องราวดีๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณคนไม่มีราก

บันทึกนี้เป็นเรื่องสังคมโลกแตก และปัญหาที่ว่าก็คงมีตลอดไป ตราบใดที่คนยังเห็นแก่ตัว และ ความร่ำรวย โดยไม่สนคนอื่น ขอให้ตัวเองและผองพวกรอดตัวก็แล้วกัน...

สงสารเจ้าหนูน้อยสองคน พ่อก็อาจจะไม่กลับมา เพราะเท่าที่เห็น ก็ไปมีเมียใหม่ในไซด์งานเดียวกัน ลืมลูกลืมเมียที่บ้าน รอไปเถอะ จดหมายถึงพ่อ ก็เลยไม่ถึงเสียที พอย้ายไซด์งานเขาก็มีคู่ใหม่ นี่เป็นเรื่องจริงนะคะที่เคยพบมา

วันนี้เครียด ๆ นิดหน่อยค่ะ แต่คิดถึง อ่านด้านบน เลยพอจะจับความได้ว่า คุณคนไม่มีรากสอบผ่าน...ยินดีด้วยนะคะ ... มั่นใจในตัวคุณคนไม่มีรากค่ะ เพราะเป็นคนที่มีระเบียบในตัวเอง มองโลกแง่บวก แล้วยังชอบช่วยคน คนดีอย่างนี่ ที่บ้านเรียก ผีบ้านต้องคุ้มค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะ

คิดถึงและชอบเพลงนี้ขึ้นจมเลย เมื่อรู้ที่มา...

สวัสดีครับพี่คนตัดไม้ คุณใบโพธิ์ และคนไม่มีราก อ่านข่าวสาส์นจากพี่คนตัดไม้ว่า คนไม่มีรากสอบผ่านแล้ว มาแสดงความดีใจด้วยนะครับ

สวัสดีค่ะ

เข้ามายินดีกับพี่โหลค่ะ สอบผ่าน QE แล้ว เก่งจัง พรุ่งนี้จะไปให้กำลังใจหน้าห้องสอบ oral นะคะ อ้อมไปดูมาแล้วห้อง 504 เย้....สู้ ๆ ๆ ๆ ค่ะ 

You are the best .... !!!!!

สวัสดีค่ะคุณคนไม่มีราก คิดถึงพ่อด้วยคนค่ะ... ยังมีชีวิตที่สงบเงียบอยู่ห่างออกไปในชนบท ยังมีวัวควายพอหลงเหลือให้ดูอย่างเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง..ไม่ไช่การจัดฉาก..ชีวิตในวังวนดังกล่าวหาง่ายกว่าหาดูชีวิตที่เรียบง่าย อบอุ่น ผู้คนมีความอิ่มเต็มภายในใจ มีจิตวิญญาณที่เปี่ยมเต็มด้วยความรัก ปรารถนาดีต่อกัน.....อยากบอกพ่อว่าพ่อเป็คนชนบทที่โชคดีค่ะ...

คุณปูนิ่มครับ

สู้ ๆ ๆ ๆ นะครับ วันนี้แล้ว จะไปพักไงล่ะ

รู้ว่าเธอเหนื่อยนะ เห็นสภาพก็รู้แล้ว ไม่ต้องบอก....

อีกอึดใจเดียวเองนะเพื่อน ฉันรู้ว่าเพื่อนทำได้ จิ๊กฝากบอกว่า...ให้ไปนครสวรรค์ จะพาไปกินเจ เที่ยวงานแห่ของโรงเจ...

ฝากบ่นนิดหน่อยว่า...ปิดโทรศัพท์อีกแล้ว ให้เอามือถือไปโยนทิ้งน้ำซะ ไม่ต้องใช้แล้ว....เอา ๆ ๆ บ่นพอหอมปากหอมคอ เพลงนี้เพราะอ่ะ เธอเขียนเรื่องทางสังคม ผู้ยากไร้ได้ดีนะ มันกระทบใจ อ่านแล้วหดหู่อย่างที่เธอว่าล่ะ รีบเรียนให้จบแล้วออกไปทำงานเพื่อสังคมในถิ่นทุรกันดารดีไหมล่ะ...

ส่งกำลังใจให้นะ ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอนะ...

สวัสดีค่ะ น้องสาว หน้าตาซื่อ ของพี่

  • ครูอ้อยมาบอกว่า..คิดถึงมากๆค่ะ
  • รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะ คนไม่มีรากคะ

  • มีเรื่องตลกจะเล่าให้ฟังค่ะ
  • ครูปู กำลังตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเองเป็นอะไรนะ
  • จะต้องจบประโยคด้วย อิอิ ตลอด
  • ก็เลยไปแอบดูคนนู้นคนนี้ค่ะ
  • ตั้งแต่พ่อครูบา ลุงเอก อาจารย์ Handy คนชอบวิ่ง และทู๊กๆๆคน ก็มี อิอิ ค่ะ
  • แต่ กลับพบว่า
  • คุณคนไม่มีราก  มี อิอิ น้อยมาก
  • และ  อิอิ ที่มีนั้น  เชื่อหรือไม่คะ
  • ว่ามีเฉพาะ ตอนถูกครูปูแซวเท่านั้น

BELIEVE IT OR NOT!

P
20. JJ
เมื่อ อา. 28 ก.ย. 2551 @ 21:35
847587 [ลบ]

เรียนท่าน ฅ ฅน ไม่ มี ราก เครียดมากเกิด นิ่วใหมนี่

อิอิ

สวัสดีค่ะคุณคนไม่มีราก

ได้เข้ามาแล้วรอบหนึ่ง แต่ไม่ได้ยินเพลงเลยค่ะ คนไม่มีรากมากระตุ้นเตือนเรื่องจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ ตั้งหน้าตั้งตาหาชื่อเสียง เงินทอง ไม่รู้เมื่อไหร่จะหากันเสร็จนะคะ

อยากบอกอีกทีว่าตัวเองนั้น ณ ขณะนี้บางทีเห็นเงิน(ดอลล่าร์)เหมือนเศษกระดาษไม่มีค่า  ที่บ้านทิ้งๆวางๆกันแบบไม่ค่อยได้ใส่ใจให้คุณค่ามัน (คิดอย่างนั้นจริงๆ ฟังๆดูเว่อร์)...มีความสุขกับสิ่งที่ทำและธรรมชาติรอบๆตัว คิดๆก็ตลกดีเหมือนกันค่ะ แต่พอกลับเมืองไทย ทุกอย่างต้องใช้เงินทองไปหมด เป็นเรื่องจำเป็นขึ้นมาทันที..สงสัยเป็นกับสังคมเมืองใหญ่ๆนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณคนไม่มีราก

คนในสังคมเมืองมักมีอาการโดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คนค่ะ ใบไม้ได้พบพานหลายคนที่เปรยทำนองว่า 

..มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน มารู้ตัวอีกที ไม่มีเวลาให้เพื่อน เพื่อนหายไปหมดแล้ว..

..ไม่ค่อยมีคนคุยกับผมเท่าไรหรอก มีคนคุยกันได้ก็รู้สึกดี..

..แค่เจอคนทำงานที่คุยกันรู้เรื่อง เข้าใจกัน ก็มีความสุขแล้ว..

..มานับดูเพื่อนที่ได้ว่าสนิท มีไม่ถึงจำนวนนิ้วบนฝ่ามือข้างหนึ่ง..

..ผมเป็นคนไม่มีเพื่อน..

ใบไม้คิดว่าการได้มีชุมชนเล็ก ๆ ที่แลกเปลี่ยนกันได้อย่างจริงใจ เป็นความอบอุ่นในหัวใจชนิดหนึ่ง

การให้เวลากับครอบครัว อ่อนโยน ใส่ใจเขา เป็นการสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้เกิดขึ้นในใจของสมาชิกครอบครัว

บางคนอาจรู้สึกว่าคุยกับคนในบ้านไม่ค่อยรู้เรื่อง คิดไปคนละทาง

แต่ว่า..ในเวลาที่เราตกอยู่ในภาวะยากลำบากก็คนเหล่านี้แหละค่ะที่คอยดูแล ไม่ทอดทิ้ง แม้บางครั้งไม่เข้าใจความคิดของกันและกัน

เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข..ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความห่วงใย..

การทำงานหาเงินเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อรับผิดชอบชีวิตตัวเองและผู้อื่น  เพียงแต่..การได้เงินมา บางทีเราต้องแลกด้วยการสูญเสียบางอย่างที่เงินซื้อไม่ได้ไป

แต่ละคนคงต้องหาคำตอบให้ตัวเองว่า ความพอดีของตัวเองอยู่ที่ไหน

 ความงาม ความรื่นรมย์ ความอบอุ่น มิตรภาพ ยังอยู่แวดล้อมเราเสมอ เพียงแต่เราต้องเปิดใจ เปิดตา มองให้เห็น..

เชื่อค่ะว่า ถ้าเลือกได้.. มนุษย์ทุกคนต้องการเป็นคนดี..

ขอให้ทุกคนได้ยินเสียงจากหัวใจตัวเอง และแลเห็นความงดงามที่อยู่แวดล้อมรอบตัว..^__^..

อาปิงน้องรัก

บทความนี้ เพลงนี้ กระทบใจพี่มาก บางทีเราไม่มองเลยกับสิ่งที่เราประสบและอยู่กับมันทุกวัน ตอนนี้ลูก ๆ พี่โตหมดแล้ว ยังเสียดายว่าตอนเขายังเล็กๆ ให้เวลาเขาน้อยไปหน่อย ตอนนี้พ่อแม่ต้องนั่งชะเง้อ รอลูกกลับมาต่างหาก...

สู้ ๆ นะ อีกอึดใจเดียว จะได้ทำงานตามที่อยากทำ....ยาวเลย

วันนี้ไม่ได้ไปให้กำลังใจหน้าห้องนะน้อง ต้องไปตจว.ตามนาย เย็นนี้จะโทรมาคุย (ถ้ารับสาย)

รู้ว่าทำได้และต้องทำได้ดีแน่ ๆ

 

สวัสดีค่ะ

* เข้ามาอ่านจดหมายถึงพ่อ

* ถ้ารู้จักพอเพียงเท่านี้  .......

* ฝากรูปมาแสดงความคิดถึงค่ะ

สวัสดีค่ะ

ไม่ได้แวะเข้ามาเสียนานค่ะ ระยะนี้ยุ่ง ๆ มาก คงรู้ว่าเป็นเพราะใกล้หมดงบประมาณนั่นแหละค่ะ

ชอบเพลงนี้มานานแล้ว เพราะพื้นเพเป็นคนอีสาน เสียงดนตรีคล้ายเสียงพิณ เสียงแคน

แล้วจะเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเด็นนี้ค่ะยาวเลย เพราะมีความเห็นหลายเรื่องเลยค่ะ ทั้งคน ทั้งสังคม

ตอนนี้ต้องไปทำงานเพื่อชาติก่อนค่ะ

 

แวะมาบอกอีกครั้งว่าส่งข้อมูลเรื่อง Eneagram ในทางเมลแล้วนะคะ

โชคดีแล้วค่อยคุยกันค่ะ

สวัสดีครับ

มาส่งแรงใจ ให้สู้เต็มที่ แม้มีเวลาเตรียมตัวคืนเดียว...

ทำได้แน่นอนครับ

สอบผ่านจะพาไปเลี้ยงอาหารมังสวิรัตน์ที่ร้านอ.ปรีชา ก้อนทอง

ที่ให้ทายภาพที่ชอบอีกภาพจึงจะครบ 4 ภาพนั้น...คิดทั้งคืน น่าจะเป็นภาพนี้ครับ...

20080517_1166

มาแสดงตน ลืมใส่ชื่อครับ

เย็นนี้ช่วยรับสายด้วยนะครับ

สวัสดีค่ะน้องพิมพ์ดีด

คิดถึงมากเช่นกันค่ะ สบายดีหรือเปล่าคะนี่...

คิดถึงบ้าน ก็ต้องหาเวลากลับบ้านค่ะ...นะ...

รักษาสุขภาพนะคะ...^_^...

สวัสดีค่ะคุณ  เกษตร(อยู่)จังหวัด

คนไม่มีรากเคยเป็นพยาบาลตึกเด็กอ่อนที่รพ.ศิริราชค่ะ...และเข้าใจสภาพของชีวิต...พยาบาลดี....

บางที่เราก็มีบทบาท อันนำมาซึ่ง...หน้าที่...หลากหลาย และหลายครั้งที่บทบาทนั้นก็ซ้อนทับกัน แยกกันไม่ออก แต่เมื่อสภาพของคำว่าพยาบาลที่ต้องขึ้นเวรบ่าย เวรดึก ซึ่งมีจำนวนพยาบาลจำกัด จึงต้องลำบากกับคำว่า รับผิดชอบต่อหน้าที่

ตอนที่ยังเป็นพยาบาลนั้น คนไม่มีรากมักจะรับขึ้นเวรดึกเวรบ่ายให้พี่ ๆ ที่มีครอบครัว เพราะเห็นใจว่าพี่เขามีภาระที่ต้องดูแล แต่เรายังเด็ก ๆ ก็ไม่มีภาระอะไร แถมยังได้ค่าเวรเป็นค่าขนมเพิ่มอีกด้วย....

วิถีชีวิตของผู้อยู่ในอาชีพด้านสาธารณสุข...น่าเห็นใจและน่าภาคภูมิใจนะคะ .... ให้กำลังใจ สู้ ๆ ๆ ๆ ค่ะ 

สวัสดีค่ะพี่คนตัดไม้

ขออนุญาตตอบรวมกันนะคะ...^_^...

หนังสือ The Spirit of Silence ของ John Lane แปลเป็นไทยโดยคุณสดใส ขันติวรพงศ์ ค่ะ เป็นหนังสือที่ดีมาก และ มีส่วนที่อ้างถึงคำพูดของ Jame Lees ... ซึ่งต้องชมว่าพี่ใช้ภาษาที่...สวยงาม ได้เห็นภาพมากค่ะ (อาจมากกว่าที่คุณสดใสแปลด้วยซ้ำไป)

ภาพที่พี่ทายทั้ง 3 ภาพแรกและภาพสุดท้ายนั้น เป็นภาพที่ชอบจริง ... เดาเก่งอย่างน่าทึ่งค่ะ...(^__^)

ส่วนรางวัล จะหาซื้อหนังสือ ความเงียบ ให้พี่หนึ่งเล่มค่ะ...น่าจะชอบนะคะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งให้ตลอดเวลาอย่างสม่ำเสมอ ซาบซึ้งใจและตระหนักอยู่ในใจค่ะ...ไม่เคยมองข้ามเลย

ขอบคุณดัง ๆ อีกครั้งค่ะ...(^__^)

มอบภาพที่ชอบอีกภาพให้พี่ค่ะ...

สวัสดีค่ะคุณใบโพธิ์

ขอบคุณที่มาส่งกำลังใจค่ะ วันนี้ผ่านไปแล้ว ทำได้ตามอัตภาพค่ะ ...

ได้ข่าวไวจังค่ะ มีสายลับคือน้องอ้อมนี่เอง...

คราวนี้ก็รอฟังผลสอบอีกทีค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะพี่  Bright Lily

ขอบคุณค่ะที่กรุณาแวะมาทักทาย ดีใจที่พี่ชอบบันทึกนี้ค่ะ

ชอบภาพสวย ๆ ที่พี่ส่งมาให้ดูด้วย....คราวหน้าไม่เอาภาพที่ใส่แว่นดำนะคะ ทำให้บดบังดวงตาสวย ๆ ของพี่หมดเลย...^_^...

 

สวัสดีค่ะคุณเด็กพังงา

ดีใจที่ได้คุยกันอีกครั้งค่ะ นึกว่าคราวนี้จะหายไปนานเสียแล้ว...

หายเหนื่อย หายเครียดจากเรื่องธุรกิจที่บ้านหรือยังคะ

เรื่องการเปลี่ยนคู่ของคนทำงานก่อสร้างที่เปลี่ยนไซด์งานก็เปลี่ยนคู่นั้น คงจะจริงค่ะ ตอนเป็นพยาบาล เคยมีแม่หลังคลอดที่ต้องเข้าไปให้คำแนะนำ มีลูกมาแล้ว 6 คน ยังไม่ยอมทำหมัน ถามยังไงก็ไม่ยอมบอกเหตุผล จนหลายวันเข้าเริ่มสนิทคนไข้ก็เลยยอมบอก เพราะท้องนี้เป็นลูกคนแรกของสามีคนที่ 3 ... อึ้งไปเลย เปลี่ยนไซด์งานทีก็เจอคู่ใหม่ค่ะ ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมทำหมัน เผื่อว่าเจอสามีอีกคนซึ่งต้องการลูก... ก็คงไม่ว่ากัน แต่ต้องให้ความรู้ว่า การมีลูกมาก ๆ นั้น แม่มีภาวะเสี่ยงอย่างไร และจะเลี้ยงลูกอย่างไรในสภาวะที่เศรษฐกิจแบบนี้...

ยาวเลย...พอแค่นี้ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะพากันเครียดไปหมด...

คนไม่มีรากเพิ่งสอบปากเปล่าเสร็จค่ะ ยังไม่ทราบผล แต่ไม่ค่อยกังวลเพราะคิดว่าตัวเองทำดีที่สุดตามศักยภาพแล้ว...

รักษาสุขภาพกาย-ใจนะคะเช่นกันนะคะ...^_^...

สวัสดีค่ะคุณกวิน

วันนี้เพิ่งสอบปากเปล่า...ทำไมเรียกปากเปล่าก็ไม่ทราบนะคะ ... ฮา....ทำได้ค่ะ คือ ทำได้ดีที่สุดเท่าที่เตรียมตัวทัน สนุกสนาน รื่นเริงมาก เพราะพูดเรื่องธรรมะซึ่งตัวเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง อาจารย์ก็งง เลยงง ๆ งัน ๆ กันไปทั้งห้อง ... (^_^)...

ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทาย

น้องอ้อมคะ

ปีหน้าจะส่งไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์  หรือ จะอัญเชิญพระเกี้ยวดีคะ

ขอบคุณกาแฟ ขนมและกำลังใจค่ะ...

(^__^)

สว้สดีค่ะพี่ nussa-udon

ยินดีกับคุณพ่อของพี่ค่ะ...เห็นภาพตามที่พี่บรรยายเลยค่ะ...^_^...

...ยังมีชีวิตที่สงบเงียบอยู่ห่างออกไปในชนบท ยังมีวัวควายพอหลงเหลือให้ดูอย่างเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง..ไม่ไช่การจัดฉาก..ชีวิตในวังวนดังกล่าวหาง่ายกว่าหาดูชีวิตที่เรียบง่าย อบอุ่น ผู้คนมีความอิ่มเต็มภายในใจ มีจิตวิญญาณที่เปี่ยมเต็มด้วยความรัก ปรารถนาดีต่อกัน.....อยากบอกพ่อว่าพ่อเป็คนชนบทที่โชคดีค่ะ...

วาดภาพได้เลยว่าท่านต้องมีความสุขมาก ๆ แน่ค่ะ

ขอบคุณพี่ค่ะ...(^__^)

สวัสดีครับ

  • นานแล้วที่ไม่ได้ทักทาย
  • สบายดีไหมครับ
  • เพลงนี้ชอบมาก โดยเฉพาะท่อนสุดท้าย
  • มันสูงเน๊าะ ใครจะไปร้องถึง ไม่แน่ใจว่า น้องปิ๊ก หรือ น้องเปรียว ลูกสาวคูรอิ๊ดฟูทบาท พูด

แต่ที่แน่ๆ ไม่มีใครเขียนจดหมายของผมครับ  ฮือๆๆๆๆ

ขอบคุณครับ

สวัสดีต้องเพื่อนรัก

เรื่องไปนว.เทศกาลกินเจคงไม่ได้ เหตุผลคือ .. ติดสอนจ้ะ..

ถ้าเพื่อน ๆ เห็นดีว่าควรเอาโทรศัพท์ไปโยนทิ้งน้ำ พรุ่งนี้ก็จะดำเนินการจ้ะ ดีเหมือนกัน ไม่มีภาระ ต้องรู้สึกผิดว่าไม่ได้รับสาย ไม่ได้โทรกลับ สารพัด...หมดภาระไปที คราวนี้เพื่อน ๆ ก็ว่าไม่ได้แล้ว...ดีไหมล่ะ...^_^...ทำได้จริง ๆ นะ เพราะคิดไว้นานแล้วล่ะ...

วันนี้สอบแล้ว รอผลอีกที ไม่ทราบว่าจะประกาศวันไหน แต่ก็ไม่ค่อยกังวลอะไรจ้ะ

ขอบใจกำลังใจที่เพียรมาส่งให้สม่ำเสมอจ้ะ

(^__^)

สวัสดีค่ะพี่อ้อย

ขอบคุณค่ะ

คิดถึงพี่มาก ๆ เช่นกัน แม้ไม่ค่อยได้เข้าไปทักทายค่ะ...^_^...

คุณใบไม้คะ

อ่านแล้วก็เหมือนใจคิด...ใช่แล้ว...คนในสังคมเมืองมักมีอาการโดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คน....

หลายครั้งที่คนไม่มีรากก็เคยรู้สึกเช่นนี้นะคะ...แต่มักจะเป็นอยู่ไม่นาน บางครั้งไปอยู่ท่ามกลางผู้คนบางกลุ่มในบางสถานการณ์ ก็รู้สึกแปลกแยกออกจากสภาพที่อยู่จริง ๆ ด้วย และเมื่อนั้นจะมีอาการ...ยิ้มกับตัวเอง โยกตัว เกาคาง พอรู้ตัวก็จะรีบหาจุดสนใจค่ะ ... ชอบสังเกตอิริยาบทของผู้คนค่ะ ... มันบอกถึงความคิดของเขาได้...สนุกนะ...^_^...

..เห็นด้วยหมดใจค่ะ...การมีชุมชนเล็ก ๆ ที่แลกเปลี่ยนกันได้อย่างจริงใจ เป็นความอบอุ่นในหัวใจชนิดหนึ่ง

ชอบประโยคที่ว่า...เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข..ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความห่วงใย..ส่วนตัวคิดว่า ความรักควรจะไม่มีเงื่อนไขค่ะ รักที่เป็นเนื้อเป็นตัวของคนที่เรารักและห่วงใย ..แต่เราจะพัฒนาไปได้ถึงขั้นนั้นหรือเปล่านี่...ไม่แน่ใจ...

และยกมือ 2 มือขึ้นสูง ๆ ...ขอให้ทุกคนได้ยินเสียงจากหัวใจตัวเอง และแลเห็นความงดงามที่อยู่แวดล้อมรอบตัว..^__^...

....โลกคงงดงามน่าอยู่มากขึ้นแน่นอนเลย....

ครูปูยอดกัลยาณมิตร

(^__^) ยิ้มให้ก่อนแลย....อิ อิ อิ ...หลังฟังเรื่องตลกไงคะ...

เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจค่ะ ....คุณคนไม่มีราก  มี อิอิ น้อยมาก และ  อิอิ ที่มีนั้น  เชื่อหรือไม่คะว่ามีเฉพาะ ตอนถูกครูปูแซวเท่านั้น...

โอ้ละหนอ...ช่างสังเกตเสียจริงเพื่อนของเรา...

อาจจะเป็นคนที่หัวเราะไม่ค่อยมีเสียงค่ะ แต่จะชอบยิ้ม อมยิ้ม หัวเราะหึ ๆ อยู่ในคอมากกว่า แต่ถ้าสังเกตดี ๆ คนไม่มีรากจะมีรอยยิ้มเกือบทุกข้อความเลยนะคะ หรือคำว่า..555 ...ฮา...อะไรทำนองนี้

แต่ก็คงจริงค่ะ อ่านและตอบคอมเม้นท์ครูปูทีไรต้องหัวเราะและอมยิ้มทุกครั้งเลย เหมือนอ่านและตอบคอมเม้นท์ของคุณใบไม้อีกคนด้วยค่ะ

...^_^... 

(^__^)

จะบอกว่า...เพื่อนไม่เครียดหรอก ... ไม่ต้องห่วง เพียงแต่เป็นคนจริงจัง จริงใจ แต่ไม่ชอบทำเคร่งขรึมค่ะ

เอ้า...ยิ้ม ๆ ๆ ๆ อิ อิ หุ หุ คริ คริ ฮา ๆ ๆ 5555 ...สุขใจจัง....

 

สวัสดีค่ะคุณอุ๊

ยินดีต้อนรับค่ะ นาน ๆ จะได้เจอกันในบันทึก เพราะเรามักคุยกันในอนุทินมากกว่า...^_^...

สังคมเมืองหลวงอย่างกรุงเทพ ฯ เป็นดังที่คุณอุ๊ว่าจริง ๆค่ะ ทุกอย่างต้องใช้ .. เงิน...แลกทั้งนั้นเลย...

ทำให้คนมุ่งหน้าหาเงิน เงินสำคัญมากเสียจนลืมสิ่งสำคัญบางสิ่งที่สำคัญกว่าคือ...ความรัก ความอบอุ่นที่ควรมีให้แก่กัน

ขอบคุณข้อคิดดี ๆ ค่ะ...^_^...


This is a นก (เฮ้ ไปเกาะต้นไม้ดิ ชิ้วๆ ชื่อเรื่องเขาบอกว่า นกเลือกเกาะกิ่งไม้ นะคุณนก)

นำภาพลูกนกลูกกา? มาฝากครับนึกถึงกลอนลุงเวทย์ ที่สะท้อนเกี่ยวกับสภาพสังคมเมือง-ชนบท เดี๋ยวจะพิมพ์มาให้อ่านนะครับ


บ้านเรือนไทยที่ จังหวัดเพชรบูรณ์

ไม่เอาบ้านโต ขอมีบ้านแบบนี้ก็พอ :) แต่มันก็หลังโตเหมือนกันนะ แถมไม้มีราคาแพงอีกด้วย

สวัสดีค่ะพี่กฤษณ์

กำลังจะตอบคอมเม้นท์ของพี่ พี่ก็โทรมาพอดี....(^__^)...

ภาษิตฝรั่งว่า...Time and Tide wait no man...

ต่ออาปิงว่า...เมื่อผ่านไปแล้วป่วยการจะมาครุ่นคิด อยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งที่ดีที่สุด ควรทำที่สุดดีกว่าค่ะ...^_^...ว่าไหมคะ

ขอบคุณค่ะ


บ้าน (รีสอร์ท) ณ จังหวัดกาญจนบุรี ภาพถ่ายโดยลุงเวทย์

สวัสดีค่ะอ.พรรณา

ขอบคุณค่ะ...ที่มาร่วมอ่าน...จดหมายถึงพ่อ

รักษาสุขภาพนะคะ...^_^...

สวัสดีค่ะคุณยุวดี

ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งค่ะ คนไม่มีรากได้ไปเยี่ยมที่บล็อกแล้วนะคะ

ขอบคุณข้อมูล Eneagram ค่ะ ได้ประโยชน์มากค่ะ

สวัสดีค่ะ ครูข้างถนน / ขุนเขา ฯ

ดีใจค่ะที่ชอบเพลงนี้เช่นเดียวกัน...^__^...

อย่าเสียใจ น้อยใจว่าไม่มีใครเขียนจดหมายถึงเลยค่ะ ...

ใครไม่เขียนถึงเรา เราก็เพียรที่จะเขียนถึงเขา...สักวันเขาคงเห็นความตั้งใจจริงค่ะ...

สู้ ๆ  ๆ ๆ นะคะ...(^__^)

สวัสดีค่ะคุณกวิน

ดีใจจังมีภาพดี ๆ แปลก ๆ ทั้งรูปนก (ไม่ทราบนกอะไร) บ้านเรือนไทย รีสอร์ท .. .ครบเลย...

รออ่านกลอนเกี่ยวกับสังคมชนบทและสังคมเมือง...ของคุณลุงเวทย์นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ..^_^..

ครูปูค้า

....มายืน มานั่งหัวเราะอะไรเพื่อนเนี่ย...55555....

(^__^)

ยาวนานอันพ่อนั้น   ไปไกล
ไปเพื่อความวิไล     ใฝ่ต้อง
บางคืนแม่หลับไหง  นัยน์เอ่อ
คุณแม่ผมแลน้อง    ร่ำร้องพ่อหวน

กลอน : ฝันดี หน้า 77-78
แต่งโดย : เพิ่มบุญ (เสริมศักดิ์) เปลี่ยนภู่ (นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,เนติบัณฑิตไทย)
นามปากกา : เวทย์
หนังสือชื่อ : ข้างกองไฟ ( สำนักพิมพ์พรศิวะ, กรุงเทพฯ.พิมพ์ครั้งแรก 2547 . 116 หน้า)


ป้องกันสิทธิ์ส่วนตัวด้วยรั้วล้อม
ความโอบอ้อมอารีมีสิ่งขวาง
สายสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนจึงเลือนลาง
เมื่อเส้นทางไมตรีจิตถูกปิดตาย

ในสังคมคนเมืองอันเคืองเข็ญ
ที่ความเป็นชุมชนกลับหล่นหาย
เหมือนหลงป่าที่เปลี่ยวเพียงเดียวดาย
อันตรายเร้นหลืบรอคืบคลาน

เมื่อต่างคนก็อ้างว่าต่างอยู่
ไม่รับรู้เรื่องราวของชาวบ้าน
คำว่าความร่วมมือหรือเจือจาน
เป็นตำนานล้าสมัยใกล้ลบเลือน

สัญชาตญาณระวังภัยใช้พร่ำเพรื่อ
จนไม่เหลือศรัทธาคำว่าเพื่อน
สังคมที่มีแต่ความแชเชือน
บ่อยครั้งเราเผาเรือนเพื่อนกันเอง

ท่ามกลางความอึกทึกน่าครึกครื้น
ทุกวันคืนครองชีพอย่างรีบเร่ง
เมืองที่ไม่เคยหลับกลับวังเวง
คนคว้างเคว้งขาดใครให้พึ่งพา

วันที่ความสันโดษตามโขดเขา
รอแค่เราเปลืองแรงแสวงหา
หลังอ่อนเพลียล้มพับนอนหลับตา
ฝันไปว่าทั้งหมดนั้นแค่ฝันไป


http://gotoknow.org/blog/2etc/213335

กราบท่านอ.ทนันค่ะ

ขอบคุณค่ะ สำหรับโคลงอันเปี่ยมความหมาย...^_^...

ยาวนานอันพ่อนั้น   ไปไกล
ไปเพื่อความวิไล     ใฝ่ต้อง
บางคืนแม่หลับไหง  นัยน์เอ่อ
คุณแม่ผมแลน้อง    ร่ำร้องพ่อหวน

25. คนตัดไม้
เมื่อ จ. 29 ก.ย. 2551 @ 10:48
848111 [ลบ]

สวัสดีคนไม่มีราก

วันนี้คงได้รับข่าวดีเรื่องผลสอบนะครับ

บันทึกนี้เป็นอีกบทความหนึ่งที่ชอบ ความจริงก็มักจะชอบความคิดของคนไม่มีราก เพราะมีมุมมองทึ่คล้ายกัน (ตีขลุมนิดหน่อย) แม้ในเรื่องที่มองต่างมุมก็ยังทำให้ได้โลกทัศน์ใหม่ที่น่าทึ่งขึ้นอีก

หนังสือ The Spirit of Silence ของ John Lane นี้ พี่อ่านเป็นภาคภาษาอังกฤษ ตั้งแต่อยู่ออสเตรเลีย เพราะเพื่อนแนะนำให้อ่านและชอบมาก เพิ่งรู้ว่ามีคนแปลเป็นภาษาไทย คงต้องขอยืมอ่านบ้างเมื่อมีโอกาส

ในหนังสือเล่มนี้มีส่วนที่อ้างถึงคำพูดของ Jame Lees ... แปลเป็นไทยด้วยภาษาของพี่เองคือ

"....ผมนอนบนพื้นหญ้า เฝ้ามองดอกแดนดิไลออน อย่างเพ่งพิศ รู้สึกราวกับได้เห็นลึกเข้าไปถึงรากเหง้าของดวงอาทิตย์ กลีบดอกไม้นั้นกลมกลืนก้นอย่างแนบเนียน เมื่อได้คิดว่าดอกแดนดิไลออนนับล้านดอกที่บักกิงไชร์ ที่ดาษดาไร้ค่านั้น แท้จริงแล้วคือดวงดาวอัศจรรย์แห่งความงามสีทอง มนุษย์เราตาบอดกับสิ่งดีงามที่มีรายรอบตัว กลับเพ่งมองแต่สิ่งเลวร้าย..."

บางครั้งบางครา เรามักมองข้ามสิ่งดีงามใกล้ตัว คนใกล้ตัว ไม่เห็นคุณค่า ตั้งแง่กับคนที่เรารักและรักเรามากที่สุด...ลืมเห็นความรัก ความตั้งใจดีที่เขามีให้เราอย่างเต็มเปี่ยม ....

รอฟังข่าวดีนะครับ

*****************************

พี่คนตัดไม้คะ

คัดลอกบทเดียวกันที่แปลโดยคุณสดใส ขันติวรพงศ์มาให้อ่านค่ะ...

ผมนอนบนพื้นหญ้า มองดอก (แดนดิไลออน) ดอกหนึ่งอย่างใกล้ชิด ผมรู้สึกเหมือนได้มองเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของดวงอาทิตย์ กลีบดอกไม้ว่ายวนลามเลียกันและกัน เมื่อคิดไปว่า ดอกแดนดิไดออกนนับล้าน ๆ ดอกที่บักกิงแฮมไชร์ ซึ่งไร้คนใส่ใจนั้น แท้จริงแล้วคือดวงดาวอัศจรรย์แห่งความงามสีทอง มนุษย์เราตาบอดกับสิ่งดีที่สุดที่มีอยู่รอบกาย เห็นแต่สิ่งเลว ๆ

                                                         เจมส์ สีส์ - ไมล์น

ขออนุญาตบอกว่า...ชอบบทที่...พี่แปลมากกว่าค่ะ ให้พี่เลือกหนังสืออีก 1 เล่มแล้วก้นค่ะ ตอบแทนที่แปลได้สละสลวยและถูกใจค่ะ

          (^__^)

สวัสดีค่ะคุณกวิน

ขอบคุณที่ลอกให้มาให้อ่านค่ะ กำลังพยายามหัดทำความเข้าใจกับ...ร้อยกรอง ทำใจให้เข้าใจและเข้าถึงความหมายอันงดงามและซ่อนเร้นในถ้อยคำนั้น ๆ ....

ขอเวลาบ่มเพาะความสามารถหน่อยนะคะ...

(^__^)

มาเยือนค่ะ...อ่านแล้วอึ้งจริง ๆ เศร้า..เหงา..คิดถึงบ้าน คิดถึงวันเก่า ๆ วันวานที่ผ่านมาในวัยเยาว์ ที่เคยอยู่รวมกัน พ่อ แม่ และน้อง ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป อะไร ๆ ก็เปลื่ยนไปตามสิ่งแวดล้อม ตามสภาพ เศรษฐกิจ การเมือง และอะไร ๆ อีกหลายอย่าง ปวดหนึบในใจเหมือนกันนะ

โหลเอ้ย....

คิดถึง ทำไงจะได้คุยกันเนี่ย ปิดเทอมแล้วนี่นา

คืนนี้จะโทรไปคุยนะจ้ะ

จุ๊บ ๆ ๆ ๆ ....คิดถึงมากแล้วนะ ทนไม่ไหวแล้ว...

สวัสดีค่ะคุณ ดอกบัว

ยินดีต้อนรับค่ะ...^_^...

โลกเปลี่ยนไปตลอดเวลาค่ะ...เราหยุดโลกไม่ได้ ต้องตามให้ทัน แต่ก็ต้องตระหนักและระลึกรู้ว่า...เราควรทำอะไร แค่ไหน....

ส่งกำลังใจให้ค่ะ อย่าปวดใจเลย เราต้องเดินไปข้างหน้าค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

หน่อย-ขวัญ

คิดถึงมากเช่นกัน ... ดีใจที่เธอสองคนได้เจอกันบ่อยจัง

แล้วคุยกันนะจ้ะ

....^_^....

+ สวัสดีค่ะคุณคนไม่มีราก...ที่แสนคิดถึงค่ะ...

+ ปกติอ๋อยก็เข้ามาป่วนเปี้ยนแถวบ้านคนไม่มีรากประจำ...

+ แต่พอจังหวะไปทำบุญเดือนสิบส่งบางส่วนของจิตใจ...และกลับไปหลายวัน..เพิ่งมาถึงตานีเช้าวันนี้ค่ะ....

+ ชอบเพลงนี้มากค่ะ...แอมแปร์และแม่อ๋อยร้องด้วยกันบ่อย ๆ ค่ะ....

+ เข้ามาฟังเพลงค่ะ...และกำลังใช้ความคิดค่ะ...

+ แต่แหม...แอมแปร์กวน..งอแงนิดหน่อย...

+ ตามด้วยคำถามด้วย...ทำให้สมาธิในการคิดมันไม่ดีพอ.. อืม..ยังไงขออนุญาตนำเจ้าคนดีไปนอนก่อนแล้วพรุ่งนี้เช้าจะมาร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ...

+

+ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ...ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

คุณอ๋อยคะ

ดีใจจัง เห็นสาวน้อยแล้ว โตเร็วมากและหน้าตาก็น่าเอ็นดูจัง...^_^...

ไม่ต้องกังวลค่ะ ทราบว่าคุณอ๋อยอยู่ไม่ไกล และในยามที่เหงา ๆ คนไม่มีรากรู้ว่า...คุณอ๋อยคอยมาเยี่ยมและทักทายเสมอไม่เคยขาด ไม่เคยปล่อยให้เพื่อนเหงาเลย

ส่งข่าวนิดหน่อยค่ะว่า ได้รับซีดีเพลงของคุณใบไม้เหมือนคุณอ๋อยแล้วล่ะ ตอนนี้เราได้ฟังเพลงด้วยกันแล้ว

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...^_^...

พี่คนตัดไม้คะ

คัดลอกบทเดียวกันที่แปลโดยคุณสดใส ขันติวรพงศ์มาให้อ่านค่ะ...

ผมนอนบนพื้นหญ้า มองดอก (แดนดิไลออน) ดอกหนึ่งอย่างใกล้ชิด ผมรู้สึกเหมือนได้มองเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของดวงอาทิตย์ กลีบดอกไม้ว่ายวนลามเลียกันและกัน เมื่อคิดไปว่า ดอกแดนดิไดออกนนับล้าน ๆ ดอกที่บักกิงแฮมไชร์ ซึ่งไร้คนใส่ใจนั้น แท้จริงแล้วคือดวงดาวอัศจรรย์แห่งความงามสีทอง มนุษย์เราตาบอดกับสิ่งดีที่สุดที่มีอยู่รอบกาย เห็นแต่สิ่งเลว ๆ

                                                         เจมส์ สีส์ - ไมล์น

ขออนุญาตบอกว่า...ชอบบทที่...พี่แปลมากกว่าค่ะ ให้พี่เลือกหนังสืออีก 1 เล่มแล้วก้นค่ะ ตอบแทนที่แปลได้สละสลวยและถูกใจค่ะ

 

อ่านคำตอบก็ปลื้มใจแล้วครับ....ความจริงพี่แปลไม่ได้ดีกว่าคุณสดใส แต่...อาจเพราะชอบบทนี้เป็นพิเศษ คนอื่นอ่านแล้ว อาจไม่คิดเช่นคนไม่มีรากก็ได้...(รีบถ่อมตัวไว้ก่อน) ....

ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ คิดก่อนว่าอยากได้หนังสืออะไร...

+ หวัดดีค่ะ..คนไม่มีราก...

+ เช้านี้ตื่นตอนเจ็ดโมงกว่า ๆ...ตื่นมาฟังเพลงของพี่ใบไม้...

+ อบอุ่นใจจังเลยค่ะ...คิดถึงสิ่งที่ฝันและหวัง...คิดถึงคนไม่มีราก..คิดถึงพี่ใบไม้...คิดถึงกวิน...คิดถึงเจ้านพ(ครุข้างถนน) คิดถึงเจ้าปู....

+ อืม...เมื่อคืนแว๊บไปมาเจอเจ้าปูปรากฏตัวด้วย...ดีใจมากมายเลยค่ะ...

+ ที่นี้มาถึง.."จดหมายถึงพ่อ"....ชอบทุกอย่างของเพลงนี้..

+ ไม่เข้าใจหรอกนะค่ะว่าทำไมถึงชอบ...เพราะพูดกันตามจริง..อ๋อยก็ไม่สนิทกับพ่อเท่าไหร่...พ่อก็ไม่ใช่ฮีโร่ประจำใจด้วย...ทุกอย่างยกให้แม่ค่ะ....แม่คือทุกสิ่งทุกอย่าง....

+ อืม..พ่อก็โอเคนะค่ะ...แต่ไม่สนิทค่ะ...ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่สนิท...รักนะรักค่ะ...แต่ไม่สนิท...เอ...พูดอะไรละนี่...

+ คนเรามักคิดว่าบ้านโต เงินทอง ทรัพย์สมบัติมากมาย คือ ความสุข

+ นั่นเพียงเพราะ เขายังไม่เคยได้สัมผัสถึงสุขที่แท้จริง...

+ ตอนเด็ก บ้านอ๋อยถางป่าทำสวนยาง แม่กรีดยางจ้าง ชีวิตลำบากมาก อ๋อยต้องช่วยแม่ทำงานตั้งแต่ 4 ขวบ ต้องเดินเป็นเพื่อนพี่สาวกรีดยางตอนตีสาม เดินตามทุกต้น

+ แต่เราไม่รู้สึกว่าทุกข์นะค่ะที่เป็นแบบนั้น เราไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกเพียงว่าสนุกดี กินข้าวพร้อมๆ กัน โอ้ยสนุก..เคี้ยวตุ้ย ๆ

+ เพื่อนๆ แต่งตัวสวยงาม อยู่บ้านเฉย ๆ วิ่งเล่นกันสนุก แต่เราต้องช่วยแม่ทำงาน เราก็ไม่รู้สึกลำบากหรือทุกข์ใด ๆ ...ที่ไหนมีแม่ มีพี่ มีน้อง ต่อให้ลำบากแค่ไหนก็มีความสุข

+ พอโตต้องเข้าเรียน...ก็กลับมาอยู่กับยายที่บ้าน...ช่วงนี้แหละที่เรารู้สึกว่าเหงามาก...เหงาเข้าไปในซอกหลืบของสรรพร่างกาย...เวลาเห็นรถสองแถววิ่งผ่านหน้าบ้าน...รอลุ้นว่ามันจะหยุดไหม...ถ้าหยุดแล้วแม่จะลงจากรถไหม...เฝ้ารอจริง ๆ เลยค่ะ...

+ โตขึ้นมา..ไปเรียนราม ยิ่งพิสูจน์ชัดในใจว่า สายใยแห่งรักของครอบครัวคือ ความสุขที่แท้จริง...เราเลยกลับบ้าน..กลับมาเป็นครูบ้านนอก..แต่สุขสงบใจที่สุด

+ ไม่ใหญ่ ไม่โต ไม่โก้ ไม่หรู ไม่รวย แต่เรามีความสุข...สุขสงบกับงาน กับครอบครัว กับวิถีชีวิต...เราคงไม่หวังอะไรมากไปกว่านี้...

" ไม่เอาบ้านโตไม่เอาทุกอย่าง จะเอาขี่หลังของพ่อคนเดียว"

+ นี้แหละคือสุขที่แท้จริง......

+ สุดแต่ใจจะไขว่คว้าค่ะ.....

+

พี่คนตัดไม้คะ

ตอนนี้ตรวจและส่งคะแนนนิสิตเสร็จเรียบร้อยแล้วแน่เลยค่ะ จึงมีเวลามากมายมาคอยเยี่ยมทุกบันทึก...^_^...

ที่ชื่นชมนั้นเป็นความจริงค่ะ ... ไม่ได้แกล้งชม...เชื่อใจได้ค่ะ

(^__^)

สวัสดีค่ะคุณอ๋อย

อ่านที่เล่าแล้วเห็นภาพเลยค่ะ...รู้สึกไหมคะว่าเราชอบอะไรคล้าย ๆกันนะคะ ทั้งเรื่องราว เพลง และคน...^_^...

.....คนเรามักคิดว่าบ้านโต เงินทอง ทรัพย์สมบัติมากมาย คือ ความสุข นั่นเพียงเพราะ เขายังไม่เคยได้สัมผัสถึงสุขที่แท้จริง...

จริงที่สุดค่ะ...ถ้าพูดถึงความสุข ผู้คน (รวมทั้งเราด้วย) ก็จะคิดถึง บ้าน รถ ทรัพย์สิน ที่ดิน หุ้น เงินในธนาคาร ความสะดวกสบาย ไม่ใช่หรือคะ

ลืมคิดไปว่า ถ้ามีทุกอย่างที่คิดว่าเป็นความสุขแล้ว...แต่ขาดครอบครัว ขาดสมาชิกที่รัก เข้าใจกัน เอื้ออาทรต่อกัน ... สิ่งที่ว่านั้นจะมึค่าอะไร

เรามักจะมีความสุข-ทุกข์อยู้กับอดีตและอนาคต...เราไม่ค่อยจะอยู่กับ "ปัจจุบ้น" ไม่ค่อยมีเวลาให้กับการคิดใคร่ครวญ ไตร่ตรองและมีความสุขกับ "การก้าวเดินของชีวิต" ที่เราต้องก้าวไปทุกวัน ทุกเวลา นาที

เรามามีความสุขกับปัจจุบันกาล...กันดีกว่านะคะ

          (^__^)

มาบทความนี้ยิ่งถูกใจ เข้ามาก็เจอเพลงเพราะ ๆ

เพลงดี ๆ ส่งให้ใจปลื้มและตื้นตัน ฟองฟู กระตุกเตือนให้เราหันกลับมามอง พิจารณาตัวเองบ้าง

คนเราจะต้องการอะไรมากไปกว่า ... อยู่กับคนที่เรารักและรักเราล่ะคะ

สวัสดีค่ะคุณแฟนเก่า

เพลงดี ๆ จรรโลงใจ ช่วยเตือนสติเราไม่ให้ฟองฟู ไปกับ...บางสิ่งบางอย่างที่ไม่จีรัง แต่ยวนใจ...น่าหลงใหลได้ปลื้ม

ขอบคุณค่ะที่ยังมาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าเสมอ

สวัสดีค่ะคุณไม่แสดงตน

ยินดีค่ะ ที่ชอบเพลงนี้ เข้ามาฟังเพลงได้ตามสบายค่ะ..^_^...

มาฟังเพลงเพราะ ... จรรโลงใจครับ

ชอบภาพและเพลงมาก ๆ ครับ

พี่คนตัดไม้คะ

บันทึกนี้เป็นบันทึกที่ตัวเองก็ชอบมากค่ะ ทั้งภาพทั้งเพลงเลยเช่นกันค่ะ....ใครเลียนแบบใครคะเนี่ย... I am joking !!!

...^_^...

อ่านแล้วคิดถึงบ้านที่ร้อยเอ็ดครับ

ผมมาเรียน อาศัยบ้านญาติ จนตอนนี้อยู่ปี 4 แล้ว ไม่ชอบกรุงเทพ ฯ เลย อึดอัด คับคั่งจริง ๆ

ตั้งใจว่าเรียนจบจะกลับบ้าน ไปพัฒนาบ้านเกิดดีกว่าครับ

ขอบคุณครับ ชอบเพลงนี้มาก ๆ

สวัสดีค่ะคุณเด็กบ้านนอก

ตั้งใจว่าเรียนจบจะกลับบ้าน ไปพัฒนาบ้านเกิดดีกว่าครับ

กรุงเทพ ฯ คับคั่งจริง ๆ ค่ะ ถ้ามีพื้นฐานอยู่ต่างจังหวัดคนไม่มีรากก็กลับบ้านแน่นอนค่ะ...ต้องร้องเพลง อย่าไปเลยบางกอก....

(^_^)

สวัสดีค่ะ

รอประชุมค่ะ..โรงเรียนเปิดแล้วค่ะ

ผอ. ขอดูบันทึกจากบล็อกของครูคิมค่ะ

...มาปรบมือให้กับเพลงโปรด..ของครูคิมค่ะ

ทำเป็น mp3 ไปเปิดให้เด็กฟัง...ก็นับว่าเป็นที่นิยมค่ะ

ชอบเสียง..เด็กตอนท้ายค่ะ...น่ารักมาก

โอกาส..ในชีวิตของแต่ละคน..

ในการบอกรักคนใกล้ชิดสำคัญที่สุดนะคะ

เป็นเรื่องที่สะท้อนสังคมทุนนิยมสามานย์ได้อย่างดีที่สุด

สังคมที่เน้นการสร้างเงิน สร้างผลผลิต โดยลดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ลง

ใช่แล้วครับ เห็นด้วยอย่างมาก ผมอ่านงานของวิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธหลายเล่มครับ

วิลเลี่ยม เวิร์ดสเวิร์ธ กล่าวไว้ว่า...

“...เรามีเรื่องวุ่นวายกับโลกมากขึ้น

เสียเวลากับการหาและใช้จ่ายเงิน

แทบไม่เห็นธรรมชาติที่เรามี

เราปล่อยปละหัวใจให้กับความสุขง่าย ๆ ไร้ศีลธรรม

ทะเลที่เปิดใจให้แสงจันทร์

สายลมที่รำเพยทั้งคืนวัน

ปัจจุบัน ถูกเก็บอัดเหมือนดอกไม้ที่ใหลหลับ

เราไม่ตอบรับกับสิ่งเหล่านี้และทุกสิ่ง

ธรรมชาติไม่อาจทำให้เราสะท้านสะเทือนใจได้อีกแล้ว...

สวัสดีค่ะคุณเด็กบ้านนอก

ดีใจที่บันทึกนี้เป็นแรงกระตุ้นให้คุณเด็กบ้านนอกมีความรู้สึก....นำผมกลับสู่ความรู้สึก...เดิม  รีบเรียน รีบกลับถิ่นฐานบ้านเกิดที่รอเราอยู่

โชคดีและประสบความสำเร็จในการเรียนและการกลับไปพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนนะคะ

(^__^)

สวัสดีค่ะพี่ ครูคิม

ยินดีค่ะ เพลงความหมายดี ๆ ช่วยสร้างสรรค์และจรรโลงใจค่ะ

(^__^)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท