พลังแห่งความรัก...คือพลังเยียวยาการป่วยทางจิตใจในเด็ก


ครุ่นคิด...

วันนี้ได้ Counseling ผู้ป่วยหลายรายในจำนวนนั้นมีผู้ป่วยเด็กด้วย ทำให้เกิดคำถามต่อตนเองว่า.. เดี๋ยวนี้ปัญหาสุขภาพจิตในเด็กมีมากขึ้นเยอะเหลือกัน โดยเฉพาะอาการ Hyperventilation หลายๆ case ที่รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ พิจารณาสาเหตุ เด็กส่วนใหญ่มีลักษณะร่วมที่คล้ายกันคือ...

เป็นเด็กที่มีรูปแบบการเลี้ยงดูแบบประคับประคอง

ส่วนใหญ่...มีปัญหาในครอบครัว ที่มาจากความขัดแย้ง...ระหว่างผู้ใหญ่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่พ่อแม่ แต่ป็นสมาชิกในครอบครัว บุคลิกของเด็กมักจะไม่มีความมั่นใจในตัวเองไม่กล้าตัดสินใจ มีภาวะพึ่งพิงสูงความสามารถในการเผชิญสิ่งแปลกใหม่มีน้อย เดาว่าพ่อแม่หรือคนเลี้ยงดูจะใช้ภาวะปกป้องเด็ก...มากกว่าที่จะให้เด็กได้เรียนรู้ตามสภาพจริง นั่นคือ ความหวังดีหากแต่ว่าเป็นความหวังดีที่ส่งผลภายหลังต่อเด็กได้...

ก็เลยเกิดความคิดต่อในตนเองว่า... การมีครอบครัวการมีลูกหนึ่งคนนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเป็นการรวมกลุ่มของคนมีทุกข์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ซึ่งหากคนสองคนไม่มีรูปแบบการเผชิญความทุกข์ที่เหมาะสมก็จะเกิดการสาดทุกข์ใส่กัน ออกมาในหลายๆ รูปแบบ ... ขาดจิตใจที่อ่อนโยนและมีเมตตาต่อกัน รักที่ว่ารักกันจึงเป็นความรักที่เจือปนกิเลสมากมาย...เป็นรักที่ยึดในอัตตาตนเอง ถือเอาตนเองเป็นที่ตั้ง ... ยึดมั่นในตนเอง พอนานไปที่ว่ารักกันก็เจือจาง กลายเป็นความขม ความทุกข์ พัฒนาไปสู่เป็นความขัดแย้ง ขัดเคือง มีปากเสียง .. บรรยากาศในครอบครัวปราศจากสัญญาณแห่งความสุข เพราะใจของผู้เป็นสามีก็ทุกข์ ใจของผู้เป็นภรรยาก็ทุกข์...ต่างๆ มีหนทางขจัดทุกข์ที่ไม่เหมาะสม ไม่ทำความเข้าใจในทุกข์... จึงตั้งหน้าตั้งตาสาดทุกข์ใส่กัน ครอบงำกัน... ควบคุมกัน ...

ดื่มสุรา เล่นการพนัน นอกใจ ... ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และอีกต่างๆ มากมาย

ล้วนมาจากการยึดมั่นในตนเองทั้งสิ้น... ผู้รับผลทางอารมณ์คือ ลูก

แม้ว่าในบางครอบครัวจะแย้งว่าไม่มีการทะเลาะกัน ข้าพเจ้าก็จะย้อนถามกลับไปว่า แล้วใจ...สงบสุขไหม ใจของผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นอย่างไรบ้าง เป็นใจที่หมองๆ มัวๆ เศร้าๆ ทึบๆ ทึมๆ ... ขุ่นๆ หรือเบา โล่ง โปร่งสบาย...

คิดต่อสำหรับตนเองอีกว่า...

การมีครอบครัวนี่เหมือนเรากำลังขยายเผ่าพันธุ์ของความทุกข์หมองมัว... จริงๆ แล้วการมีครอบครัวนี่น่าจะเป็นการขยายผลพลังแห่งความรัก และความดีมากกว่า... เพราะการแต่งงานนั้นส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ความรัก แต่ปัจจุบันนี้พัฒนาการความรักกลับถดถอยลงมากในหลายๆ ครอบครัว แทนที่จะเจริญขึ้น

คนที่จะมีครอบครัวนี่ น่าจะเป็นผู้ทีมีความมุ่งมั่นในการขยายผลในเรื่องพลังแห่งความรัก และในที่สุดจะพัฒนาไปเป็นพลังแห่งความเมตตา...หากเป็นดั่งที่ว่า ปัญหาสุขภาพจิตในบุคคลคงน่าจะบรรเทาเบาบางลงไปได้เยอะเหมือนกัน... ความขัดแย้งในสังคมในเรื่องราวต่างๆ ก็แทบจะไม่มี เพราะผู้คนต่างเปี่ยมไปด้วยความสุขที่มาจากใจที่มีความรักความเมตตานั่นเอง...

 

-----------------------------------

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 207445เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2008 11:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม 2012 18:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะพี่กะปุ๋ม

ครอบครัวคือสิ่งสำคัญค่ะ

เด็กเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างไรก็มีพื้นฐาน

มาจากครอบครัวค่ะ...พี่สบายดีนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ..

พี่กะปุ๋มสบายดีค่ะ...น้องกล้วยแขกหน้าตาดี ^__^.. จุดเริ่มต้นของการแบ่งสุขร่วมทุกข์ ก็เริ่มที่สถาบันครอบครัวนี่แหละค่ะ...

ตอนนี้น้องกล้วยแขกเป็นอย่างไรบ้าง...แล้วคุณยายสบายดีไหมคะ...

อยู่บ้านอย่าง สบายใจ และมีความสุข ถ้าครอบครัวอบอุ่นครับ

สิ่งสำคัญ... คือ การทำบ้านให้เป็นบ้าน ตามความหมายของดำรงอยู่นะคะ...

ขอบคุณ พระเอก ที่มาเพิ่มเติม...

กะปุ๋มเคยเห็นช่วงหนึ่งที่ทางกรมสุขภาพจิตมีโครงการคล้ายกับการให้คำปรึกษาเตรียมตัวก่อนแต่งงาน... ซึ่งจริงๆ แล้วหากว่า ผู้ที่คิดหรือทำงานด้านนี้อย่างจริงๆ จังๆ ... จะเป็นผู้ร่วมสานสร้างสถาบันครอบครัว... ไปในทิศทางที่ส่งเสริมการเกิดความรัก-ความเมตตาของคนในครอบครัวได้อย่างแท้จริงนะคะ

ปัญหาต่างๆ ในสังคม และโลกก็จะน้อยลง... ผู้คนได้เกิดการพัฒนาทางจิตใจมากขึ้น โดยไม่ต้องรอให้เกิดปัญหาแล้วจึงแก้ไข...

ขอบคุณค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท