ความเห็นเกี่ยวกับวิกฤตการเมืองไทย


(จากสกู๊ป 3 ผู้อาวุโสแนะผ่าทางตัน เลี่ยง สงครามกลางเมือง’” ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 8 กันยายน 2551 หน้า 2)

 

                                                                                                   ความเห็นของ ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม

                                                                                                  อดีตรองนายกรัฐมนตรี

พอจะเห็นทางออกของประเทศในยามนี้หรือไม่

                จริงๆ แล้วการดูแลและจัดการบริหารประเทศเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร จะดีหรือไม่ดีก็ตาม รัฐบาลต้องจัดการให้เรียบร้อย ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป ขณะที่ในส่วนของประชาชนควรเข้ามามีส่วนร่วม แต่ปัญหาคือตอนนี้ประชาชนถูกแยกเป็นกลุ่มๆ จึงเข้าไปจัดการลำบาก แต่รัฐบาลยังเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ ดังนั้น หลายฝ่ายจึงเห็นตรงกันว่า หากต้องการให้ความขัดแย้งคลี่คลายควรใช้สันติวิธี แต่ในทางปฏิบัติมีรายละเอียดที่ซับซ้อนมาก

                เราต้องหาคนกลางซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และไม่ใช่การตั้งโต๊ะนั่งเจรจากันเลย เพราะต้องผ่านหลายขั้นตอนและค่อยๆ ไป หาจุดเริ่มต้นให้ได้ก่อน อาจไม่จำเป็นต้องใช้เวลามาก แม้ไม่สำเร็จก็ต้องพยายามต่อไป เพื่อหาวิธีให้คู่ปรปักษ์ได้คุยกันซึ่งเป็นเรื่องยาก

แต่ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้คือทั้ง 2 ฝ่ายกำลังเผชิญหน้ากัน 

                ต้องทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายตระหนักว่าการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก ควรหาทางพูดจากัน แต่ตอนนี้รัฐบาลไม่อยากพูด พันธมิตรก็ไม่อยากพูด ยังดีที่มีคนอื่นเห็นว่าควรมีการพูดจากัน พูดทีละฝ่ายก็ได้แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นไปซึ่งตรงนี้เป็นศิลปะ การที่เสนอให้ประธานวุฒิสภาเข้ามาทำหน้าที่นี้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องทำกันหลายขั้นตอน เรื่องนี้คล้ายกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคู่ปฏิปักษ์คือรัฐและฝ่ายต่อต้าน เพียงแต่ภาคใต้ยากกว่าเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร และทั้งคู่ต่างใช้ความรุนแรงกันแล้ว จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งควรพูดคุยกับใคร แต่ที่นี่รู้แล้วว่าเป็นกลุ่มพันธมิตร                    จริงๆ แล้วสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเหมือนกัน คือประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในเหตุการณ์บ้านเมืองมากขึ้น เรื่องการใช้ความรุนแรงก็มีการออกมาต่อต้านกันมาก

พูดกันว่าหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปในลักษณะนี้อาจกลายเป็นสงครามกลางเมือง

                ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะการเกิดแผ่นดินไหวทุกครั้งมาจากการสะสมแรงกดดันทีละน้อย ดังนั้น เราต้องเปลี่ยนทิศทางการสะสมจากแรงกดดันมาสู่การผ่อนคลาย โดยเชื่อมต่อและพูดคุยกัน ยิ่งถ้ารัฐคิดอยากทำเรื่องสันติวิธีจะง่ายขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่ารัฐคิดเรื่องนี้หรือไม่ จริงๆ แล้วเคยมีคำสั่งของนายกรัฐมนตรี 187/2546 พูดถึงแนวทางและวิธีการสันติวิธีไว้แล้ว ดังนั้น หากริเริ่มโดยรัฐ ทุกอย่างจะง่ายขึ้นโดยมีปัจจัย 3 ประการ คือ 1.การสร้างกระบวนการและวิธีจัดการ 2.ทัศนคติในการสร้างบรรยากาศ และ 3.เรื่องสาระ 

                หากทั้ง 2 ข้อแรกไม่เกิดขึ้นก็ไม่อาจเกิดสาระที่ดีได้

คำสำคัญ (Tags): #ไพบูลย์
หมายเลขบันทึก: 207030เขียนเมื่อ 9 กันยายน 2008 08:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 16:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
  • ถ้าทั้งสองฝ่ายเป็ฯเด็กเล็กคงจะจับตีก้นทั้งคู่ไปแล้ว ในฐานะที่เล่นด้วยกันแล้วก็ตีกันเอง..ผิดทั้งคู่..
  • แต่นี่เป็นผู้ใหญ่กันจนป่านนี้แล้ว ถ้าไม่คิดถึงในหลวง+ชาติบ้านเมือง..ก็เสียทีที่เป็นชายชาติทหาร+ผู้ใหญ่ที่อ้างว่าจงรักภักดี   น่าจะถอยคนละก้าว ไม่ต้องวางฟอร์มมากมาย เพียงแต่ว่าข้างในลึกๆที่เรียกร้องกันมันจะมีความประสงค์อื่นๆแอบแฝง
  • ฝากบอกทั้งสองฝ่ายด้วยนะคะว่า ประชาชนคนทำงานเขาเบื่อกันแล้ว ทำเหมือนเล่นละครทั้งพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล..อยากเห็นเมืองไทยเจริญก้าวหน้ากว่านี้ค่ะ..

ผมไม่ต้องการเห็นสภาพอย่างนี้เลย ทำไมไม่ถอยคนละก้าวละครับ แล้วหันหน้ามาเจรจากันอย่างตรงไปตรงมา เรามาทำเพื่อประเทศชาติด้วยความรักชาติจริงๆ กันบ้าง

โดยเฉพาะกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวไหม่นั้นก็น่าจะระวังบ้าง เพราะเป็นการระดม

คนจับกลุ่มเป็นหลายกลุ่ม

  • ธรรมสวัสดีนะโยมไพบูลย์
  • วิกฤตการณ์เกิดจากเหตุการณ์
  • หลายเรื่องหลายเหตุการณ์ที่คณะรัฐบาลชุดนี้ทำ
  • ไม่ว่าการได้มาซึ่งอำนาจการปกครองซึ่งมาจากการซื้อเสียง
  • การนำบุคคลที่มีปัญหามานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี
  • การจะแก้กฎหมายเพื่อฟอกผิดให้กับหมู่คณะ
  • การยกปราสาทพระวิหารให้เขมรขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียวทำให้ไทยต้องเสียดินแดน โดยไม่ได้ผ่านรัฐสภาจนศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าผิดกฏหมาย
  • ความรุนแรงต่างๆไม่ได้เกิดจากการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแต่เกิดจากรัฐบาลที่เป็นฝ่ายทำทั้งนั้นการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ไปทำร้ายผู้หญิง คนแก่ทำลายข้าวของที่มัฆวาน หรือแม้แต่ที่อุดร รวมทั้งเมื่อล่าสุดที่กลุ่ม นปช.ได้เดินทางจากสนามหลวงไปทำร้ายประชาชนที่ชุมนุมด้วยความสงบ ปราศจากจากอาวุธที่มัฆวาน จนมีการตายและบาดเจ็บ..จนเป็นข้ออ้างในการประกาศภาวะฉุกเฉิน
  • วันนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า..ภาวะฉุกเฉินทหารไม่ได้ปฏิบัติตาม(อารยะขัดขืน)เพราะเป็นการจงใจสร้างสถานการณ์ของรัฐบาล
  • วันนี้นักเรียนนักศึกษาผู้รักชาติ-ศาสน์ -กษัตริย์..ได้ตื่นขึ้นมารับรู้ปัญหาของชาติบ้านเมืองและเข้าร่วมแก้ไขอย่างเต็มกำลัง
  • เป็นพลังบริสุทธิ์ที่มีคุณภาพด้วยพลังทางศีลธรรมซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีกับลูกหลานยุคนี้ที่มีจิตสำนึกที่ดีงามในความรักชาติ
  • ปัญหาที่เกิดทุกวันนี้มันเป็นเรื่องของ"ความดีกับความชั่ว"
  • ธรรมะกับอธรรม..ไม่ใช่ความขัดแย้งของกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
  • ที่มีผู้พูดว่าจะนำไปสู่สงครามกลางเมืองหากไม่รีบทำให้ยุติโดยเร็ววัน..อาตมามั่นใจประเทศไทยมีสิ่งดีงามมากมายคงจะไม่มีใครยอมให้เกิดเรื่องที่เลวร้ายอย่างนั้นแน่นอน..
  • อนุโมทนาสาธุ..

เห็นด้วยกับอาจารย์ที่ต้องหันหน้าเข้าหากัน ทุกคนอยากเห็นการบ้านเมืองสงบ ไม่ว่ามองซ้ายหรือขวาคือคนไทย และเราทั้งผองพี่น้องกัน ในระยะยาวผมคิดว่าต้องสร้างฐานรากของการเมืองภาคพลเมืองให้เข้มแข็ง ดังบทเรียนที่ได้จากการถอดบทเรียนการเมืองภาคพลเมืองที่จังหวัดน่าน ผมคิดว่าตรงนี้คือคำตอบที่แท้จริง แต่ตอนนี้การเมืองแบบนักการเมืองเริ่มเข้าไปแทรกตัวในระบบการเมืองภาคพลเมืองทีละน้อยๆ จนจุดดีเริ่มฝ่อลงๆ

ไม่เห็นด้วยกับการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม

รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย

มีความชอบธรรมที่จะปฎิบัติหน้าที่ในการบริหารประเทศ

ที่มาจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เพราะประชาชนให้การสนับสนุน

ตามระบอบประชาธิปไตย

ก็แล้วแกนนำกลุ่มพันธมิตรเป็นใคร

ทำไมเราต้องยกระดับความสำคัญให้เทียบเท่ารัฐบาลที่ได้รับการโปรด

เกล้าแต่งตั้งมาอย่างถูกต้องด้วย.

 

  • ถ้าให้ผมตัดสินนะสมมุติว่าประเทศไทยเป็นห้องเรียนผมเป็นครูนะ
  • ผมจะตัดสินให้ พธม.เลิกประท้วงแล้วให้ไปขึ้นศาล
  • ให้รัฐบาลทำงานต่อไป
  • เหตุผลทั้งหมดที่ตัดสินไปเพราะบ้านเมืองมีข้อตกลงต้องทำตามข้อตกลง ถ้าจะเปลี่ยนแปลงอะไรตามใจ พธม.คุณต้องทำตามข้อตกลง พธม.บอกรัฐบาลโกงคุณก็ฟ้องร้องศาลมี
  • พธม.บอกไมยอมไม่เลิกคิดว่ามีพวกมากอะไรก็ไม่เอาจะเอาการเมืองใหม่ 70-30 ตอนนี้พลังประชาชนมาเป็นรัฐบาลไม่ได้ออกไปอย่างเดียว(ความจริงเวลาเขาพูดหยาบคาย)ผมว่านะ"พธม.ต้องมีอำนาจจริงหนุนหลังยังไม่เผยโฉมหน้าออกมาไม่อย่างนั้นไม่กล้าบ้าบิ่นมากขนาดนี้

เรียน อ.ไพบูลย์

ผมเห็นคล้อยกับอาจารย์ ในประเด็นเชิงสังคมว่า ความรุนแรงขณะนี้กำลังจะสะสมตัวทีละน้อยและอาจจะ ถึงขั้นใช้ความรุนแรงเพื่อแตกหักกันในเวลาอันสั้น

ที่จริง นปก. พวกเขาก็มีเหตุผล คือ มุ่งเน้นประชาธิปไตย(แบบเลือกตั้ง) ไม่เอาการรัฐประหาร

และ พธม. ก็มีเหตุผล... คือ ต้องการธรรมาภิบาล ไม่เอาการคอร์รัปชั่น...

ที่ผมเขียน.. คือ สิ่งดีที่สองฝ่าย น่าจะเห็นพ้องต้องกัน... ส่วนประเด็นขัดแย้งแตกต่างกัน ก็ไม่ต้องนับ

คำถามคือ ทำอย่างทั้งสองฝ่ายจะทำการ Share Vision กันได้?

มรรคที่ดี ย่อมต้องเป็น สัมมามรรค และ การแบ่งปันวิสัยทัศน์(Share Vision) ของสองฝ่ายน่าจะ วิธีการหนึ่ง แต่ ปัญหาใหญ่ คือทำอย่างไรให้ วิสัยทัศน์ของสองฝ่ายมาผสมกันได้โดยไม่มีจุดยืนทางการเมืองมาปะปน

การเลือกตั้งไม่ใช่การตีตราที่ให้คนมาทำเลวร้ายกับบ้านเมืองได้ ไม่มีใครยอม ทุกประเทศเมื่อมีผู้ปกครองเลวย่อมเกิดการต่อต้านจากประชาชน มันเป็นสัจธรรม

ไอ้ พันธมิตร สัตว์ นรกมาเกิด

ทำให้บ้านเมือง ต้อยต่ำ วุ่นวาย

ไป ตาย ซะ ไอ้เดียรัจฉาน

  • สวัสดีค่ะ
  • ไม่เคยเห็นด้วยกับฝ่ายไหนเลย
  • ไม่มีฝ่ายไหนนึกถึงประเทศไทยจริง ๆ
  • ทุกฝ่ายมุ่งแต่ผลประโยชน์ของตน เน้นการเอาคืน แก้แค้น หวังผล
  • พูดแล้วเครียดค่ะ  ไม่มีใครทำให้ในหลวงสบายพระราชหฤทัยเลย
  • อย่างนี้ต้องให้พวกเขาฟังเพลง หนักแผ่นดินค่ะ
  • ขอบคุณคุณค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท