บทเพลงฤดูใบไม้ผลิ


"ม้าต้นฤดูใบไม้ผลิจะนำโชคมาให้ ถ้ามีใครฝันถึง" เสียงเพลงจากลูกสาวของคณะระบำม้าดังขึ้น



ปีโชวะที่ 27 (พ.ศ.2495) ปลายฤดูฝน
ความโศกเศร้ามาเยือนครอบครัวเล็กๆ ซึ่งมีสมาชิกเพียงสามคน "คุณปู่บุนโซ" "คุณย่า" และ "เด็กชายเคจิ" หลานผู้ซึ่งเป็นกำพร้า ปกติเคจิเป็นเด็กแข็งแรง เล่นกีฬาเก่ง สดใส ร่าเริง แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับเขา เคจิป่วยด้วยโรคร้ายที่ยังมิอาจรักษาได้ในสมัยนั้น "โปลิโอ" หมายถึงผู้เป็นต้องพิการ เขารักษาตัวอยู่เกือบปีแต่ขาก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิม ระหว่างนั้นเคจิเฝ้าฝันถึงแต่เพื่อนๆ ที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน เขารอคอยด้วยใจจดจ่อจนถึงวันที่กลับบ้าน เคจิคาดหวังถึงการต้อนรับทักทายเหมือนเก่า แต่เสียงตะโกนร้องเพลงจากบรรดาเพื่อนที่จับกลุ่มเล่นกันอยู่กลับเป็นคำล้อเลียน "เด็กขาเป๋---กิ๋วกิ๋ว หน้าไม่อาย" ถ้อยคำนั้นมันช่างเจ็บปวด เขารู้สึกเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออกจนหมด ซึ่งเพื่อนๆ ไม่รู้เลยว่าเด็กชายขาเป๋คนนั้นคือเคจิ แต่ไม่ใช่เคจิในสภาพเก่าที่เคยวิ่งเล่นหยอกล้อกับพวกเขา

เคจิปิดตัวเอง ขังตัวเองอยู่ในโลกแคบๆ ในบ้านที่รู้สึกปลอดภัย ปู่ก็ช่วยตอกปิดโอกาสจากภายนอกเพราะต้องการปกป้องความรู้สึกของหลาน แต่ลึกๆ แล้วเขาต้องการเพื่อน ต้องการการยอมรับเหมือนที่เคยเป็น อยากมีส่วนร่วม อยากวิ่งเล่น แต่ขาข้างนั้นช่างเป็นอุปสรรคเหลือเกิน และเขาก็ไม่อยากดูอ่อนแอในสายตาใคร ปู่พยายามหาสาเหตุของการป่วยเพื่อกลบความทุกข์โศก ปู่บุนโซเคี่ยวเข็ญให้ครูหาคนที่ผลักเคจิล้มในวันที่เริ่มป่วย ซึ่งปู่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่สาเหตุของโรคนี้ แต่อย่างน้อยโทษคนอื่นก็รู้สึกรับได้มากกว่าการโทษชะตากรรม ปู่กินเหล้า ปู่ทุกข์ใจ ปู่หาทางออกไม่ได้ จมปลักอยู่ในวังวนวันแล้ววันเล่า

คณะระบำม้าเป็นสิ่งบันเทิงใจที่เด็กชายเฝ้ารอ เนื่องจากปีที่ผ่านมาต้องไปรักษาตัวอยู่ในเมือง เคจิตั้งใจว่าถ้าได้ยินเสียงกลองของคณะระบำม้าเมื่อไหร่เขาจะลุกขึ้นยืนและเดินให้ได้ "ม้าต้นฤดูใบไม้ผลิจะนำโชคมาให้ ถ้ามีใครฝันถึง" เสียงเพลงดังขึ้นใกล้บ้านเขาเข้ามา เคจิเฝ้ารอเพื่อนๆ ที่จะตามหลังคณะระบำม้ามาผ่านบ้านอย่างใจจดใจจ่อ "โคจิ... ผมมีของมาฝาก" เคจิเก็บคำพูดนี้ไว้ถึงหนึ่งปีเพื่อจะบอกกับเพื่อนรักของเขา "แล้วจะมาเล่นด้วย" โคจิพูดได้แค่นั้นแล้วก็วิ่งตามคณะระบำม้าไป

แล้วสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงก็พัดมาพร้อมกับฤดูใบไม้ผลิ "โซโนโดะ เคโกะ" ครูสาวที่มารับตำแหน่งใหม่แทนครูคนเก่าของหมู่บ้านซึ่งขอย้ายออกเพราะปู่บุนโซไปอาละวาดทุกครั้งที่เมา เธอเป็นสาวรุ่นใหม่จากในเมือง ไม่คุ้นชินกับสภาพชนบทที่ยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม แต่ครูก็ตั้งใจไว้ว่าจะแก้ปัญหาของปู่และเคจิให้ได้ ในที่สุดครูก็ค้นพบพรสวรรค์อย่างหนึ่งของเคจิ ซึ่งมีส่วนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงทัศนคติในการเป็นศัตรูกับสังคมของปู่บุนโซ

มิตรภาพระหว่างเพื่อน ความหวัง ความรัก ความเจ็บปวด ความทุ่มเท ความเข้าใจต่อโลก ความงดงาม ไม่น่าเชื่อว่าหนังสือเล่มหนึ่งจะบันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้ได้หมด เล่ามากไปจะกลายเป็นเสียอรรถรสสำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน ที่เขียนมายืดยาวก็แค่อยากแนะนำหนังสือดีๆ อีกเล่มเท่านั้น

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทเพลงฤดูใบไม้ผลิ
โดย มิยาคาวะ ฮิโร  ค.ศ.1971
ผุสดี นาวาวิจิต แปล

ปล. หนังสือเล่มนี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่น ชื่อ "Song of the Spring Pony" กำกับโดย เซอิจิโระ คามิยามะ เมื่อปี 1985

หมายเลขบันทึก: 205497เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2008 01:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 12:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีครับ

-รูปสวย

-เดี๋ยวนี้คุณผุสดีเค้ายังแปลหนังสืออยู่รึเปล่าครับเนี่ย

ผุสดี นาวาวิจิต แปล หนังสือคุณผุสดี พี่ไม่ค่อยพลาด แต่ช่วงนี้ พลาดแฮะ

กำลังป่วยยังไม่ได้อ่านละเอียดค่ะ ;P

ภาพสวยจังครับ :) ใส งาม

พี่หมอเล็ก ขอให้หายป่วยเร็วๆนะครับ

  • แวะมาชื่นชมฤดูใบไม้ผลิค่ะ
  • เห็นซากุระบานเหนือธารน้ำใสเย็นแล้วจิตใจค่อยแช่มชื่นบ้าง
  • เคจิโชคดีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนะคะ

ซูซาน มาเล่าๆคาๆ ทำให้อยากรู้ อยากติดตาม นี่มีกี่เรื่องแล้วหล่ะเนี่ยที่จะต้องตามไปอ่าน จากการแนะนำ.. ช่วยทำลิสต์ให้ด้วยนะ กลับไปแล้วจะได้ไปตามเก็บ...

พยายามหาสาเหตุของการป่วยเพื่อกลบความทุกข์โศก ปู่บุนโซเคี่ยวเข็ญให้ครูหาคนที่ผลักเคจิล้มในวันที่เริ่มป่วย ซึ่งปู่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่สาเหตุของโรคนี้ แต่อย่างน้อยโทษคนอื่นก็รู้สึกรับได้มากกว่าการโทษชะตากรรม ปู่กินเหล้า ปู่ทุกข์ใจ ปู่หาทางออกไม่ได้ จมปลักอยู่ในวังวนวันแล้ววันเล่า

ครูสาวที่มารับตำแหน่งใหม่แทนครูคนเก่าของหมู่บ้านซึ่งขอย้ายออกเพราะปู่บุนโซไปอาละวาดทุกครั้งที่เมา เธอเป็นสาวรุ่นใหม่จากในเมือง ไม่คุ้นชินกับสภาพชนบทที่ยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม แต่ครูก็ตั้งใจไว้ว่าจะแก้ปัญหาของปู่และเคจิให้ได้ ในที่สุดครูก็ค้นพบพรสวรรค์อย่างหนึ่งของเคจิ ซึ่งมีส่วนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงทัศนคติในการเป็นศัตรูกับสังคมของปู่บุนโซ



ขอบคุณครับพี่ซูซาน ขอบคุณครับสำหรับหนังสือดีๆ ต้องไปหามาอ่านบ้างแล้วล่ะครับ ผมอยากรู้ว่า พรสวรรค์ นั้นคืออะไรที่ทำให้ เคจิ กลับมา มีความสุข ได้อีกครั้ง ผมว่าครูสาวคนนั้น เมื่อตัดสินใจช่วย เคจิ และปู่ ในระยะแรก นั้นย่อมต้องประสบกับสภาวะขับข้องใจ และลำบากใจ และอาจได้รับการต่อต้านจากคุณปู่ของเคจิ รวมทั้งเคจิด้วย แต่ผมว่าความ เมตตา กรุณา และความเอื้ออารี ของครูสาวนั้นคือสิ่งที่จะทำให้ทุกๆ อย่างดีขึ้น ถ้าครูปล่อยให้ เคจิ เป็นไปตาม ยถากรรม แน่นอนว่า สิ่งดีๆ ย่อมไม่เกิดขึ้น จริงมั้ยครับพี่

แวะมาชื่นชมความสวยงามด้วยคน หากคนทั้งหลายมองความสวยงามตามธรรมชาติทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้มีธรรมชาติในตัวเองนะ ขอให้สิ่งสวยงามนั้นอยู่คู่โลกต่อไป

ขอบคุณข้อมูลดีๆ น่าอ่านดีจังค่ะ

คุณซูซาน สบายดีไหมครับ

ภาพสวยด้วยมุมใหม่ ถูกใจครับ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนเราสร้างทุกข์จากความคิดและทัศนคติของตนและผู้อื่นเยอะเลยนะ

บทเรียนจากหนังสือที่ดีมากจ๊ะ ขอบคุณมากนะจ๊ะ ^ ^

เรื่องนี้ไม่เคยอ่าน แต่ผมชอบ โต๊ะโตะจัง ครับ คุณผุสดี นาวาวิจิต คงชอบแปลหนังสือที่ทำให้เราเห็นว่าโลกใบนี้ยังน่าอยู่

น่าดีใจที่เห็นหนังสือแกนะผมว่า ชอบโต๊ะโตะ กับ ดวงตากระต่าย เล่มหลังนี้ จำไม่ได้ว่าคุณผุสดีแกเปนคนแปลหรือเปล่า

คุณพี่อาจารย์ กมลวัลย์

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนเราสร้างทุกข์จากความคิดและทัศนคติของตนและผู้อื่นเยอะเลยนะ บทเรียนจากหนังสือที่ดีมากจ๊ะ ขอบคุณมากนะจ๊ะ ^ ^

อย่าไปตำหนิ คนแก่ (คุณปู่ บุนโซ) เลยนะครับ เราต้องสงสารคนแก่ผู้มัวเมาลุ่มหลงนี้ นะครับ เพราะคนแก่บางคน เกิดมาสักแต่ว่าเกิด ยังคงมัวเมาลุ่มหลง (เมากายคือกินเหล้า เมาใจคือ คิดลบ/คิดอกุศล) โคลงโลกนิติ บทหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า

อายุถึงร้อยขวบ      เจียรกาล
ธัมโมชอันโอฬาร      บ่รู้
เด็กน้อยเกิดประมาณ  วันหนึ่ง
เห็นถ่องธรรมยิ่งผู้      แก่ร้อยพรรษา


-คนแก่มีอายุ 100 ขวบ
-แต่ ธรรมอันโอชะ (ธัมโมช) และยิ่งใหญ่ นั้นกลับไม่รู้/ไม่เข้าถึงธรรมนั้น
-เด็กน้อยมีอายุ 1 วัน
-รู้รส ธรรมอันโอชะและยิ่งใหญ่นั้นอย่างถ่องแท้ ย่อม (ประเสริฐ)ดียิ่งกว่าคนแก่ที่เกิดมาแล้วตั้ง 100 ขวบแต่ไม่รู้ธรรม


คุณปู่บุนโซ คงยังต้อง เมาและเดินโซซัดโซเซ ต่อไป จนกว่าจะมีผู้มีปัญญา (คือครูสาวคนใหม่) มาชี้แนะแนวทางที่ถูก ที่ควร โคลงโลกนิติ อีกบทหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า

๏ ธิรางค์รู้ธรรมแม้     มากหลาย
บ่กล่าวให้หญิงชาย    ทั่วรู้
ดุจหญิงสกลกาย       งามเลิศ
อยู่ร่วมเรือนผัวผู้       โหดแท้ขันที ฯ

-นักปราชญ์(ธีระ+องค์=ธิรางค์) รู้มาก ใน ธรรม
-แต่บ่ได้กล่าวสั่งสอนธรรมนั้นให้แก่ หญิงชายทั่วไปได้รับรู้โดยทั่ว
-อุปมาเหมือน ผู้หญิงสวย
-อยู่ร่วมเรือน ร่วมรัก กับผัวผู้เป็นขันที (เป็นหมัน)
(ผู้รู้ธรรม หากไม่ กล่าวออกไป ก็เหมือนคนเป็น หมัน) ใครล่ะจะอยากเป็นหมัน? จริงมั้ยครับ  


แต่ทว่า ผมว่าคนแก่อย่างคุณปู่บุนโซ ก็ยังมีความดี ในข้อที่ว่า เมื่อครูสาว (ซึ่งเด็กกว่า) มาเตือน ว่า การมัวเมาลุ่มหลง นั้นเป็นสิ่ง ผิด แกก็ยังฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่ในท้ายที่สุด คุณปู่บุญโซคงฟัง (เดาเอานะครับเพราะยังไม่ได้อ่าน) โยดูจากในรูปประกอบด้านบน คุณปู่คงเลิกเมาแล้วล่ะนะครับ เพราะคนเมาคงไม่สามารถอุ้มหลาน (เคจิ) ได้

จากในภาพใบหน้าของคุณปู่ และหลานชาย เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ครูสาวเองก็ดูมีใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วย ความสุข ที่ได้ช่วยให้คนเมา และคนพิการ(พิการทางกายแต่ไม่พิการทางใจ) ได้กลับมามีชีวิตใหม่ (เกิดใหม่ ในครั้งที่ 2)

นี่ล่ะครับ ในเรื่องร้ายๆ ก็ยังมีเรื่อง ดีอยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมอง สูง หรือมองต่ำ มองดี หรือมองร้าย มองบวก หรือว่า มองลบ ที่สำคัญก็คือ อย่ารังเกียจคนแก่(กระโหลกกะลา) ที่มีพฤติกรรมมัวเมาลุ่มหลง สักวันเขานั้นจะ เลิกเมาได้ (ถ้าไม่เป็นตับแข็งตายไปซะก่อน) ว่ามั้ยครับ

รูปสวยมากๆนะคะ พี่ชอบจังค่ะ

ขอบคุณหนูซูซานสำหรับการแนะนำหนังสือดีที่มีคุณค่า...อ่านแล้วคงทำให้มี "กำลังใจ" และใช้วันเวลาที่เหลือของชีวิตอย่างมี "ความสุข" มากขึ้นนะคะ

คุณ Siam Collective: น่าจะยังแปลอยู่นะคะ แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

พี่หมอจริยา: หนังสือเล่มนี้น่าจะ reprint ค่ะ ชอบผลงานแปลของคุณผุสดีเหมือนกัน

เอก: ภาพไปยืมชาวบ้านเขามา แต่เห็นว่าสวยเลยเอามาลง ตามลิงค์กลับไปดูได้ มีสวยๆ อีกหลายรูปนะ

พี่อุ๊: แหม พึ่งแนะนำไปไม่กี่เล่มเอง อยากอ่านเล่มไหนก็บอกได้ ไม่หวงหรอก กลับมาจะให้ยืมนะ แต่จะมีเวลาอ่านหรือเปล่าหรอก นี่เรื่องกะทิเห็นว่าถ่ายทำอยู่ใกล้เสร็จ ไว้อาจจะได้ดูตอนกลับมานะ

คุณประถม: โลกนี้ก็มีหลายแง่มุม อยู่ที่จะเลือกมองค่ะ positive thinking ก็มีส่วนช่วยทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

กบ: สบายดีจ้า ภาพสวยจริงแหล่ะ แต่ไม่ใช่ฝีมือเราหรอก ยืมคนอื่นมา คิดถึงนะ เมื่อไหร่จะมีโอกาสไปเที่ยวกันอีก ถ้าได้ไปจริงจะชวนเอกด้วย แต่มีข้อแม้ว่าครั้งนี้ห้ามทิ้งเรานะ ยังจำได้ไม่ลืม ขาสั้นโดนทิ้งเฉยเลย

พี่ตุ๋ย: อ่านแล้วจะรู้ว่ามันเป็นความทุกข์ที่เกิดจากความรัก ไม่น่าเชื่อเนอะ ความรักฟังแล้วน่าจะเป็นสิ่งดี แต่ก็ทำให้ทุกข์ได้ ทุกข์เมื่อเห็นคนที่เรารักเจ็บปวด แต่เรื่องนี้ก็ happy ending นะ ไม่ถึงขนาดแบบว่าเคจิกลับมาวิ่งได้หรอก แต่เป็นเพราะการรู้จักโลกและทำความเข้าใจกับมัน ทำให้ทุกอย่างมันไม่หนักหนาเกินทน "ไม่มีทุกข์ใดใหม่บนโลกนี้" เป็นคำที่น้องชอบพูดให้เพื่อนฟัง นับว่าเป็นหนังสือดีนะ ถ้ามีเวลาอ่านก็ขอแนะนำ

คุณ gibbo: เจอแฟนคลับคุณผุสดีอีกคนแล้ะ ชอบหนังสือที่เขาแปลมานานแล้วเหมือนกัน เล่มแรกที่อ่านคือ "โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" อ่านตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ติดใจ อ่านซ้ำและซื้อมาหลายรอบแล้วเพราะยกให้เพื่อนไปอ่าน แต่อีกเล่ม "นางสาวโต๊ะโตะ" กลับไม่ชอบเท่าไหร่ รู้สึกเฉยๆ

คุณ Siam Collective: ก็ชอบหนังสือที่คุณผุสดีแปลอยู่ มีสะสมไว้หลายเล่มทีเดียว ส่วนใหญ่เป็นวรรณกรรมเด็กค่ะ เรื่องที่ถามไปหาข้อมูลให้ แต่ไม่เคยอ่านเหมือนกัน
ดวงตากระต่าย (Usagi-no me)
ผู้แต่ง: เค็นจิโร ไฮทานิ
ผู้แปล: ธราธร นางาชิมา
สำนักพิมพ์: มูลนิธิเด็ก

พี่ศศินันท์: อิ อิ ชมรูปอีกแล้ว ของชาวบ้านเขาค่ะ ตามลิงค์ไปดูรูปสวยๆ อื่นได้เลย ไว้ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อไหร่จะถ่ายภาพมาฝากพี่นะคะ เดี๋ยวจะไปลองค้นภาพดอกซากุระของลูกพี่ลูกน้องมาฝาก รายนั้นได้แลกเปลี่ยนไปฝึกงานตอนก่อนจบจากวิศวะ มธ. ส่งมาให้ดูเต็มเลย

อ.ตุ้ม: ค่ะ อ่านแล้วทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น ตอนแรกก็โหวงๆ เริ่มมีความหวังตอนกลางเรื่อง และในที่สุดก็จบอย่างที่ควรจะเป็น ไม่โอเว่อร์ ไม่โศก ไม่สมหวังแบบปาฏิหาริย์ แต่ก็มีความสุขค่ะ ไม่เล่าเพิ่มเพราะไม่อยาก spoil เดี๋ยวคนที่ยังไม่ได้อ่านจะบีบคอเอา ^ ^

กวิน: อย่าจริงจังมาก วรรณกรรมเด็ก อ่านแล้วสอนใจผู้ใหญ่ แต่ก็ทำให้มีความสุขมากกว่าทุกข์ อินมากไปหรือคาดหวังคิดแทนไปก่อนอาจจะทำให้อรรถรสในการอ่านลดลง ทุกคนและทุกอย่างในโลกมีปัจจัยแวดล้อมไม่เหมือนกัน เอาความรู้ความเข้าใจของคนๆ หนึ่ง ณ เวลาหนึ่ง ไปตัดสินบุคคลอื่นไม่ได้หรอก ไม่มีอะไรถูกผิดในเรื่องนี้ ก็เป็นแค่ชีวิตของคนที่พบกับปัญหา และในที่สุดเมื่อทำความเข้าใจได้ ทุกอย่างก็ยังคงเป็นอยู่เหมือนเดิม มีแค่ทัศนคติเท่านั้นที่เปลี่ยนไป สรุปว่าก็เป็นหนังสือดีที่อ่านแล้วมีความสุขพอประมาณค่ะ

  • เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ หัดเขียนอยู่ครั
  • search หาวิธีเปลี่ยน layouts ให้เป็นแบบของตัวเอง มาเจอ little jazz blog
  • ที่นี่มีเรื่องราวและมีชีวิตดี ขอสมัครเป็นแฟนคลับนะครับ
  • รูปสวยมากบอกเรื่องราวได้ดีจัง
  • ขออนุญาตนำ theame  ของคุณ little jazzไปใช้นะครับ(สวยทุกอัน เลยยังไม่รู้ว่าจะเอาอันไหนดี)

คุณทหารอากาศขนาดยักษ์: โอ...ชื่อยาวจัง ^ ^ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เรื่องธีมนั้นนำไปใช้ได้เลย ทำแจกอยู่แล้วค่ะ

สวัสดีจ้ะ น้องเล็ก

  • แวะมาอ่านหนังสือที่ดีมีข้อคิดดีๆ...โดยที่คนสายตาไม่ดีไม่ต้องลงทุนอ่านเองให้ปวดตาเลย.....
  • ได้ข้อคิดที่กินใจดีแท้ค่ะ....ขอบคุณมากๆนะคะ

สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท