ลาวศึกษา : ก่อนไปลาว


บทเรียนแรกก่อนไปลาว : การทำงานทุกอย่างต้องมีอุปสรรค : ต้องมีความอดทน : ต้องรู้จักวาทะศิลป์ และการประสานงานที่ดี : ไม่มีก้าวแรกแห่งชีวิตของใครที่จะไม่ล้มลงก่อนที่จะก้าวต่อไป

สวัสดีครับ

ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าทำไมถึงมีบันทึกนี้ (จริงๆแล้วจะเขียนตั้งนานแล้วครับ แต่มีอุปสรรคอยู่คือ ความง่วงนอน เพราะว่าบ้านอยู่ไกลมหาวิทยาลัยมาก กลับมาถึงก็ง่วงแล้ว และก็ญาติป่วยต้องไปเฝ้าไข้อีกอ่ะครับ)

มีเหตุผลอยู่ 3 ประการนะครับ เอาประการแรกก่อนนะครับ คือ ถึงอย่างไรก็หนีไม่พ้นที่จะต้องได้รับมอบหมายจากท่านอาจารย์พันธุ์ทิพย์ และอาจารย์ไหมให้ต้องเขียน แบบว่าแกมบังคับ แม้ไม่เขียนตอนนี้ อีกไม่นานก็จะต้องมีเสียงสวรรค์สั่งมา...555

ประการต่อมา อยากเขียนความในใจจริงๆครับผมว่าการที่เราอยู่เบื้องหลังนี่ มันช่างแสนจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และยากจริงๆ

ประการสุดท้าย นิสัยรักการเขียนนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และกิจกรรมยามว่างของข้าพเจ้าไปเสียแล้ว (จริงๆนะ) เพราะอะไรหรือครับ ก็เพราะว่าจากเหตุผลใน 2 ประการแรกนั่นแหล่ะครับ

และมีข้อเท็จจริงหนึ่งนะครับที่อยากจะสาระภาพครับ ว่าคุณพ่อของผมมีนิสัยรักการอ่านและเขียนมาก คุณพ่อเป็นคนฉลาดและหัวดี ทำบัญชีก็ได้ ค้าขายก็เก่ง มีความรอบรู้ และเป็นนักประดิษฐ์ดัดแปลง ซึ่งข้าพเจ้าจะไม่มีนิสัยเหล่านี้เสียเลย คือ ไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบเขียน ชอบโดดเรียน พอคุณพ่อให้ช่วยงานก็จะหนี และพอคุณพ่อคิดจะดัดแปลงอะไร หรือว่าทำงานในบ้าน เช่น ต่อท่อน้ำประปา หรือเปลี่ยนหลอดไฟ หรือคิดดัดแปลงอุปกรณ์ภายในบ้านข้าพเจ้าก็จะต้องเลี่ยงไปที่อื่นโดยมีแม่เป็นผู้สนับสนุนหลายครั้ง....555

เอาหล่ะครับ ทีนี้มาว่าเรื่องของเรากันต่อ เมื่อครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้ทราบข่าวว่าจะไปเที่ยวนครเวียงจันทร์นั้น วินาทีแรกก็ตอบตกลงโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดเลย เพราะว่าข้าพเจ้าชอบท่องเที่ยว ไปตั้งเหนือจรดใต้ (แม้จะเกิดระเบิดก่อนหน้าที่ข้าพเจ้าจะไปถึง แต่ก็ยังไป)  ตะวันออกจรดตะวันตก

และประเทศลาวนั้นก็อยู่ในความคิดเสมอว่าจะต้องไปให้ได้

แต่แล้วก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้เลื่อนข้ามปี ข้ามเดือน และข้ามอาทิตย์ จนมาตกลงว่าเราจะได้ไปประเทศลาวกันในวันที่ 3-8 กันยายน 2551 นี้แน่นอน

            ทีนี้จะลองสรุปผล หรือถอดบทเรียนนะครับ

            1. เราทราบวันไปแน่นอนแล้ว

            2. เวลา ตามกำหนดการก็ค่อนข้างแน่นอน 80 %

            3. สถานที่นั้น เนื่องจากว่าเรากำหนดโดยมีพี่บุญมีคนพื้นที่ และทางเราเองด้วย จึงค่อนข้างจะแน่นอน แต่เนื่องจากว่าสถานที่ที่เราจะไปนั้น

(1) เป็นสถานที่ราชการส่วนใหญ่ การขออนุญาตค่อนข้างลำบาก เพราะต้องส่งเอกสารข้ามประเทศไปลาว

(2) จำนวนสถานที่ไปของภาคเรานั้นเยอะมาก จึงต้องมีการประสานงานค่อนข้างมาก

(3) ไม่มีผู้ประสานงานที่เป็นคนของเรา ในประเทศลาว (ไม่มีคน Survay) ที่สามารถยืนยันการเข้าเยี่ยมชมได้

(4) เนื่องจากว่าสถานที่ที่ไปนั้นค่อนข้างเป็นสถานที่สำคัญ และบางหน่วยงานก็ไม่เคยมีใครไปดูงาน ดังนั้น การขออนุญาตจึงมีขั้นตอนมาก, ยุ่งยาก และนานกว่าจะได้คำตอบ       

 (5) การกำหนดสถานที่โดยที่ไม่มีแผนที่ หรือได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ยุ่งยากมากในการจัดวัน และเวลา และมีการเปลี่ยนไปมา

            4. คน เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะยุ่งยากมากทีเดียว เพราะว่าต่างคนต่างก็จะให้สมประโยชน์ตนเอง แต่ก็คลี่คลายไปได้

ประเด็น : คนไปน้อย

(1.1) เพราะ ปี 3-4 ที่ได้หัวข้อแล้วต่างก็ต้องรีบทำวิทยานิพนธ์ให้จบ (เบื่อ)

(1.2) เพราะ ปี 2 ที่สนใจด้านนี้จริงๆ มีน้อยด้วย (ส่วนใหญ่ เรียนวิชาอื่นเพื่อไปสอบผู้ช่วย)

(1.3) เพราะ ปี 1 ไม่กล้าขาดเรียน อีกทั้ง ต้องทำรายงานที่เสนออย่างไรก็ไม่มีวันผ่าน

(1.4) เพราะ ราคาค่าเดินทางค่อนข้างสูง มหาวิทยาลัย แม้จะช่วยเหลือก็จริงอยู่แต่ก็ยังแพงนะ อันที่จริงคนไปน้อยมหาวิทยาลัยก็เสียเงินน้อย ก็น่าจะออกให้พวกเราไปฟรีเลยก็ได้นะเนี่ย

(1.5) เพราะคนทำงานลางานไม่ได้

(1.6) เพราะเปลี่ยนวันเดินทาง

(1.7) คนนอก ไปน้อยเพราะ การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างมีราคาสูงทีเดียว อีกทั้งลางานไม่ได้ และส่วนใหญ่เป็นคนที่ลังเล ตัดสินใจช้า คาดการณ์นาน แบบว่ามองการไกลมาก คำนวณประโยชน์นาน จึงยังไม่ให้คำตอบ...สงสัยว่าถ้าเรากลับมาเค้าคงจะคิดได้อ่ะนะ...(แอบกัด เพราะค่อนข้างจะเป็นคนอารมณ์ร้อน แบบว่าเอาแน่ๆเลยไปหรือไม่ไป เนี่ยจนจะไปอยู่แล้ว โทรไปถามยังบอกว่าพรุ่งนี้จะให้คำตอบ เฮ้อ!!! คนเรา )

5. การประสานงาน

(5.1) การประสานงานกับสมาชิกผู้ร่วมทาง อันที่จริงแล้ว จะต้องมีการนัดประชุมกันทำลาวศึกษาก่อน หรือนัดคุยกันก่อนนะครับ แต่ว่ารวมตัวกันยากยิ่ง ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย และนักศึกษาที่ไปก็น้อย มีการเปลี่ยนแปลงไปมาเยอะมาก

(5.2) การประสานงานกับประเทศลาว เรื่องนี้มีอุปสรรคอยู่บ้างเพราะต้องมีการส่ง Fax วุ่นวาย และโทรกันชุลมุน ก็เคยถามเจ้าหน้าที่นะครับว่าภาคอื่นเค้าทำอย่างไรกัน ยุ่งแบบนี้ไหม เจ้าหน้าที่ก็ตอบมาว่า ยุ่งเหมือนกัน แต่เราไปหลายที่ (ก็ยิ่งโคตร) ยุ่งไปใหญ่

เอาหล่ะครับ พอสรุปได้คร่าวๆเท่านี้ ต่อไปจะต้องเตรียมการศึกษาเส้นทางและสถานที่กันก่อน งานแรกนี้เป็นบทเรียน แต่ต้องชมว่า อ.มิว กับ อ.ไหม เก่งมากนะครับ ที่ร่วมกันทำจนงานนี้สำเร็จมาได้ ส่วนผมก็แค่ตัวช่วย (แบบว่าไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเท่าไรครับ ไปช่วยแบบสันนาการ ฮาๆ ไปวันหนึ่ง น่านะครับ ก็ได้คลายเครียดไปด้วยนะครับ) แต่ขอเม้าท์ อ. ไหมหน่อยนะครับ ว่าถ้ามีอะไรจะให้ทำเนี่ย กรุณาช่วยบอกล่วงหน้าสัก 1-2 วันนะครับ (ฟ้องประชาชนเลย) ไม่เอาแบบนี้นะครับ อ.ไหม แบบว่าบอกก่อน 1 ชั่วโมง (พร้อมกับประโยคที่น่าประทับใจว่า "มาสิ เดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าว" แหม...แหม...แหม อย่ามา...ว่าเราเห็นแก่กินนะ แต่ว่าก็ไปกินข้าวกับพวอ.เค้าทุกที...นะคนเรา) ทุกครั้งอะไรแบบนี้อ่ะ ผมอยู่สระบุรีก็ต้องรีบมาเลยนะ หรือว่ายังไม่ได้ลุกจากเตียงก็แทบจะตกเตียงเลย (หรือไปส่งใคร ไปทำอะไรที่ไหน ปุณฑวิชญ์จะต้องเป็นคนสุดท้ายที่ อ. ไหมชวน (งอลแระ) ...ง่า ง่า ง่า

แต่ก็ต้องขอขอบคุณ อ.มิว กับ อ.ไหม นะครับที่ไว้วางใจให้มาช่วยงาน และเป็นการทำงานเป็นทีมครั้งแรก สนุกมากเลยครับ และคาดว่าจะทำต่อไปครับ

เอาหล่ะครับ เขียนมามากแล้วต้องไปแล้วครับ งานนี้ไปได้สำเร็จดีก็ดีแล้วครับ แล้วกลับมาจะเล่าให้ฟังต่อนะครับ

 

ปล.       1. ปุณฑวิชญ์ป่วย

2. เกือบลืมไปเลย แรงบันดาลใจให้เขียนบันทึกมีอีกคนนะครับ คือ ผู้หมวดตี้ เพราะว่าได้อ่านบันทึกกับสัมภาษณ์ครอบครัวแล้ว รู้สึกสะท้านใจมาก น้ำตาไหลเลย และทำให้คิดได้ว่า การเขียนบันทึกนั้นจะเป็นชีวิตของเราหลังความตาย พอมีคนอ่านก็ยิ่งสะเทือนหัวใจผู้อ่านมาก หมวดตี้จะรู้ไหมหนอว่า บันทึกของเขาทำให้คนรู้จักเค้ามากกว่าตอนเค้าอยู่เสียอีก เมื่อรู้แล้วก็รีบๆเขียนๆกันไว้บ้างก็ดีนะครับ หลับให้สบายนะครับผู้หมวด

            3. ขณะที่เราทำงานไปลาวอยู่นั้น ประเทศไทยวุ่นวายทีเดียว มีการประท้วง มีการต่อสู้กันระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุม...เฮ้อ !!!! ดูซิ นักกีฬาโอลิมปิกเลยไม่ค่อยมีข่าวเลย

                        และอีกเหตุการณ์ก็เกิดระเบิด และทหารถูกยิงที่ภาคใต้อีก เนี่ยเคยดูดวงมานะเค้าบอกว่าเป็นทหารไม่รุ่ง ไม่อย่างงั้นนะ สมัครไปใต้เลยนะเนี่ย (ปากดีจริง) ....แง แง แง ทำไงดีครับ มีแต่คนรังแกประเทศไทย แม่จ๋า ช่วยลูกด้วย

                        4. วันนี้ไปทำบุญมาด้วย ขอพรให้ประเทศไทยสงบสุข (ป๋อยรักเด็กค่ะ)

                        5. อากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก

                        6. ละครที่ชอบกำลังจะจบบริบูรณ์

                        7. คิดถึงแม่จังเลยครับ อาทิตย์นี้ และอาทิตย์หน้าก็ไม่ได้กลับบ้าน (เหงาจัง)

                        8. อ.แหววเลิกเลี้ยงปลาแล้ว หันมารีดผ้าแทน

9. เงินไม่พอใช้ ทำไงดีครับเนี่ย ปัญหาหลักเลยนะเนี่ย

10. เนี่ยวันนี้ 31 ส.ค. เป็นวันชาติของ Trinidad และ Tobago

 

หมายเลขบันทึก: 204651เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2008 18:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 09:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ฮาดีค่ะ แต่อย่าพลาดพิงคนอื่นดีไหมคะ

แก้ไขเสียนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท