ปวงประชาสุขศานติ์ เพราะทรงพระราชทานสติปัญญาแก่ประชาชาวไทย


จงใช้ปัญญาพิจารณาการใช้จ่ายเงินให้มากขึ้น

 

 

 

 

ปวงประชาสุขศานติ์ เพราะทรงพระราชทานสติปัญญา

แก่ประชาชาวไทย

 

          "ขอให้ทุกท่านได้สามารถปฏิบัติงานในด้านการเงินให้เรียบร้อย      ไม่ให้บ้านเมืองต้องล่มจม    ซึ่งเดี๋ยวนี้ใกล้ล่มจมแล้วเพราะการใช้เงินไม่ระวังท่านก็ระวังให้   ก็ขอบใจที่ท่านระวังการใช้เงินระหว่างการดำเนินกิจการต่างๆ ด้านการเงิน   ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการบริหารการเงินของประเทศชาติ    ขอบใจท่านที่เหน็ดเหนื่อยในงานการนี้  รู้ว่าท่านเหน็ดเหนื่อย รู้ว่าท่านลำบากใจเพราะว่าท่านเหน็ดเหนื่อยแล้วยังถูกว่าว่าทำไม่ดี   ทำไม่ถูกต้อง   แต่ขอให้ท่านทำถูกต้อง      ขอบใจท่านทุกคนที่มาในวันนี้และที่ได้ทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อให้ชาติบ้านเมืองมีเงินใช้ มีการเบิกคลังได้ดี  ใครบริหารการคลังก็ควรจะรู้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญของชาติบ้านเมือง ขอบใจทุกท่านที่ปฏิบัติงานเพื่อความสำเร็จของชาติบ้านเมือง ขอให้ท่านมีความสุข ความสบายในงานการ มีความสำเร็จ "

          พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่คณะผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย   17.31 น. วันที่ 20 สิงหาคม  ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

                   ผมอัญเชิญพระราชดำรัสที่ทรงพระราชทานแก่คณะผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยมาพิจารณาด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีแก่ชาติบ้านเมืองเป็นล้นพ้น

                  ประการแรก  คือทรงให้กำลังใจแก่คณะผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งก็คือตัวแทนของประชาชนที่ทำหน้าที่บริหารการเงิน การคลังของชาติ ให้มั่นคงแข็งแรง  ทำให้ประเทศอยู่ได้ไม่ล่มจม เหมือนเมื่อครั้งที่ ต้องเชิญ IMF เข้ามาจัดการพยุงการเงินของประเทศ  คนไทยสมัยนั้นยังเจ็บช้ำน้ำใจ ที่ต้องเป็นหนี้เขาท่วมหัว เครดิตของประเทศถูกลดอันดับจนแทบกลายเป็น "คนจนแห่งเอเซีย" ทีเดียว  เราคนไทยทุกคนก็ควรเป็นกำลังใจให้คณะผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยเช่นกัน  เพราะถ้าการเงินของประเทศต้องล้มละลาย เราทุกคนก็ได้รับผลกระทบสาหัสกันทั้งนั้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  การที่ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยได้บริหารควบคุมดูแลอยู่จึงเป็นคุณประโยชน์ยิ่งแก่ประชาชนคนไทยทุกคน  รัฐบาลเองก็ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนให้มากด้วย  ท่านเป็นผู้ใช้ ก็อย่าใช้เก่ง       ใช้ฟุ่มเฟือยนัก  ท่านต้องหาต้องเก็บคืนคลังให้เก่งด้วย  

                 ประการที่สอง  ผมคิดว่าพระราชดำรัสนั้นสามารถนำมาพิจารณาขยายประโยชน์ถึงคนไทยทุกคนได้ด้วย  ผมจึงน้อมนำพระราชดำรัสมาพิจารณาว่า    คนไทยทุกคนควรจะได้พิจารณาการเงินของครอบครัวของตนในทำนองเดียวกัน  ใครหา ใครใช้  ใครดูแลควบคุม   ต้องแบ่งหน้าที่กัน  ช่วยกันดูแลการเงินของครอบครัวให้มั่นคง อย่าให้ล้มละลายเพราะมือเติบ  บ้านเมืองเราอยู่ในภาวะพลังงานแพง สินค้าแพง  เงินเฟ้อ ทำให้เงินมีค่าน้อยลง สามี ภรรยา ลูกหลานและญาติๆ ต้องช่วยกันพิจารณาให้ดี หลายครอบครัวอาจกำลังมีปากเสียงทะเลาะกันเพราะเงินขาดแคลน  หลายครอบครัวอาจกำลังกู้หนี้ยืมสินเสียดอกเบี้ยแพงๆ จนหาเงินมาส่งแทบไม่ทัน หรืออาจกำลังคิดหนีหนี้ เชิดหนี้ อะไรก็แล้วแต่  เพราะขาดสติในการใช้เงิน

                เราต้องช่วยกันลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงบ้าง

                เราต้องรู้จักประนอมหนี้บ้าง

                เราต้องช่วยกันทำงานหนักมากขึ้น หรือเสริมรายได้เพื่อหาเงินเข้าครอบครัว

               เราต้องรู้จักเก็บออมบ้างเพื่อเป็นกองทุนฉุกเฉินของครอบครัว 

               หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้เกิดความเจ็บป่วย เสริมสร้างกำลังกายที่แข็งแรง

               จงใช้ปัญญาพิจารณาการใช้จ่ายเงินให้มากขึ้น  

              ผมคิดว่า พระราชดำรัสดังกล่าวนี้  คนไทยน่าจะได้นำมาพิจารณาและน้อมนำมาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ตน และประเทศชาติอย่างจริงจัง 

              เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแล้วของปวงข้าพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอน ชี้แนะทางปัญญาสว่างไสวให้เกิดขึ้นในใจของข้าพระพุทธเจ้า  ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเถิด พระพุทธเจ้าข้า

 


 

หมายเลขบันทึก: 202506เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2008 17:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นครับ อาจารย์สบายดีไหมครับ คิดถึงๆๆๆๆๆๆ

สวัสดีครับคุณขจิต

ขอบคุณมากที่คิดถึงครับ ช่วงนี้พอมีเรี่ยวแรงครับ เลยพยายามเขียนมาบ้าง ยังคิดถึงชาว G2k ทุกท่านครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท