ในมนุษยเราทุกคนมีสองด้าน...ด้านบวก และด้านลบ
เรามักแอบซ่อนเร้น...ด้านลบไว้เบื้องหลังด้านบวกเสมอ หลบหน้าหลบตา และมักยอมรับต่อด้านลบนั้นของตนเองไม่ได้ แต่แม้จะพยายามบดบังให้มิดชิดภายใต้การนำเสนอออกมาเพียงด้านบวก แต่ด้านลบก็มักจะแหยมหน้ามาให้ได้เห็นอยู่เรื่อยๆ ในตัวบุคคล ปิดให้มิดเท่าไรก็ไม่จางหาย
แต่...
หากว่าเราลอง...ไม่ปิด ไม่กด ไม่ทับ เปลี่ยนจากการหลบซ่อนของพลังด้านลบ ... และยอมรับลงไปซะเลยว่าเรามีด้านลบอย่างไรบ้าง น้อมใจลงยอมรับ แล้วเรียกใช้พลังด้านบวก ด้านแห่งความดีงามมากขึ้น พลังด้านลบนั้นก็จะอ่อนกำลังลง
ด้านลบนั้น บางครั้งก็เป็นอณูเล็กๆ ที่แม้แต่บางครั้งเจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึก และปล่อยให้พลังด้านนี้ ซึมออกมาอยู่เรื่อยๆ และสั่งสมมากขึ้น และมากขึ้น เป็นเหตุก่อให้เกิดสิ่งต่างๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะทางด้านอารมณ์ ความรู้สึก นึกคิด
อย่า..
ได้รอช้า ที่จะใช้พลังด้านบวก แม้ว่าพลังด้านนี้จะมีออกมาเพียงน้อยนิด แต่ค่อยให้ไหลซึมออกมาเรื่อยๆ สักวันก็จะก่อเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่... ขอเพียงอย่างเดียว คือ น้อมใจลงและดึงพลังด้านดีดีนี้ออกมาใช้ให้ได้มากที่สุดในห้วงเวลาที่มีอยู่ ของลมหายใจเข้าและออกนี้
.......................................
ใช่แล้วครับ
พลังแห่งความดีเหมือนกระแสน้ำอันไหลซึม
จริงๆ
พลังด้านบวก..จะปลอดโปร่งโล่งสบาย.
ขอบคุณมากค่ะ..^^
สวัสดีรอบดึกค่ะ...คุณโย่ง
คุณแอ๊วขา...
(^___^)
คุณ คนพลัดถิ่น
(^___^)
เมื่อวานทานข้าวกับ คุณ Kareem
kareem |
วันนี้ ทานข้าวกับดิเรก และ น้องหมอสุพัฒน์
มีพูดถึง ดร.กะปุ๋ม ตลอดเวลา...จามบ้างมั้ยครับ
สองหนุ่ม (ดิเรก - สุพัฒน์)ที่ ถนนพระอาทิตย์
ขอบคุณนะคะกัลยาณมิตรที่มีการกล่าวถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปร่วมด้วย แด่ก็ได้ร่วมเป็นประเด็นพูดคุยด้วย
สวัสดีค่ะ
คุณ Ka-poom ได้อ่านเรื่องราวที่คุณกล่าวถึงก็คิดได้ว่าเคยอ่านหนังสืออยู่เล่มหนึ่งจำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร แต่เขียนโดย แม่ชีศันสนีย์ เป็นเรื่อเกี่ยวกับการมองในด้านดีของมนุษย์ ที่จริงแล้วมนุษย์เรา คงไม่มีใครทำอะไรได้ดีไปทั้งหมด และก็คงไม่มีใครทำแต่ในสิ่งที่ไม่ดีไปทั้งหมด ทุกๆอย่างและทุกๆ คน จะทำอะไร มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีก็อาจจะต้องมีเหตุผลในสิ่งที่ตนเองทำ แต่คนอื่นอาจไม่รู้ และการทำความดีสะสมไว้ถึงจะไม่มีใครมองเห็นแต่ก็เป็นสุขใจของคนทำดีอยู่เงียบๆๆๆนั้นเอง เหมือนมีน้ำเย็นๆๆๆไหลผ่านใจนั่นเอง
คุณต๋อยคะ...
มนุษย์เรานั้นมีสองด้าน...เราต้องเรียกใช้พลังด้านบวกให้มากที่สุด เพื่อการดำรงอยู่ด้วยใจที่สงบอย่างแท้จริง ณ ช่วงขณะที่เรามีลมหายใจอยู่
ขอบคุณนะคะสำหรับการแบ่งปันเรื่องเล่าดีดีนี้
(^___^)
เห็นด้วยค่ะ แล้ววิธีที่จะดึงพลังด้านบวกมาใช้ล่ะคะ ทำอย่างไรและ ทำอย่างไรถึงจะจัดความคิดให้ได้เป็นระบบ ไม่ขี้หลง ขี้ลืม แล้วก็ทำอย่างไรชีวิตจึงจะสดชื่น มีพลังในการทำงาน ไม่ง่วงเหงา หาวนอน อ่านแล้วเหมือนพูดเล่นๆนะคะ แต่ถามจริงๆ
วันนี้ได้ฟังคนๆนึงบอกว่า คนที่ไม่มีรังสีอำมหิตเลยไม่สามารถเป็นผู้นำได้ จริงหรือคะ?
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ