1. ชุดกิจกรรมทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน 8 ชุด ชุดละ 1 ทักษะแต่ละ ชุดกิจกรรมประกอบด้วยกิจกรรมย่อยดังนี้
1.1 ทักษะการสังเกต จำนวน 3 กิจกรรม
1.2 ทักษะการวัด จำนวน 3 กิจกรรม
1.3 ทักษะการใช้ตัวเลข จำนวน 2 กิจกรรม
1.4 ทักษะการจำแนกประเภท จำนวน 2 กิจกรรม
1.5 ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล จำนวน 2 กิจกรรม
1.6 ทักษะการจัดกระทำข้อมูลและสื่อความหมาย จำนวน 2 กิจกรรม
1.7 ทักษะความสัมพันธ์ระหว่งสเปสกับสเปส จำนวน 2 กิจกรรม
และสเปสกับเวลา
1.8 ทักษะการพยากรณ์ จำนวน 2 กิจกรรม
2. แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน 1 ฉบับ จำนวน 40 ข้อ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ (Objective multiple choice) แต่ละข้อมี 4 ตัวเลือก ซึ่งจะมีคำตอบที่ถูกต้อง ข้อละ 1 คำตอบ ข้อละ 1 คะแนน ดังนี้
2.1 ทักษะการสังเกต จำนวน 6 ข้อ
2.2 ทักษะการวัด จำนวน 5 ข้อ
2.3 ทักษะการใช้ตัวเลข จำนวน 6 ข้อ
2.4 ทักษะการจำแนกประเภท จำนวน 5 ข้อ
2.5 ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล จำนวน 4 ข้อ
2.6 ทักษะการจัดกระทำข้อมูลและสื่อความหมาย จำนวน 5 ข้อ
2.7 ทักษะความสัมพันธ์ระหว่งสเปสกับสเปส จำนวน 4 ข้อ
และสเปสกับเวลา
2.8 ทักษะการพยากรณ์ จำนวน 5 ข้อ
การสร้างชุดกิจกรรมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน
การสร้างชุดกิจกรรมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน จำนวน 8 ชุด แต่ละชุดมี 1 ทักษะ ซึ่งสร้างขึ้น โดยพัฒนาจากชุดกิจกรมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของ วรรณทิพา รอดแรงค้า และ พิมพ์พันธ์ เดชะคุปต์ (2534) วัตถุประสงค์ของการสร้างชุดกิจกรรมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานครั้งนี้ ต้องการให้ได้ชุดกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพ สามารถนำไปใช้ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ลพบุรี เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และพันธกิจของการจัดตั้งโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ลพบุรี ที่จัดการเรียนการสอนที่เน้นพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ และสร้างคนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับประเทศชาติ เพื่อรองรับความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอนาคต
ลำดับขั้นตอนในการสร้างชุดกิจกรรม
ขั้นที่ 1 วิธีดำเนินการสร้างชุดกิจกรรม
ขั้นที่ 2 ลักษณะของชุดกิจกรรม
ขั้นที่ 3 การใช้ชุดกิจกรรม
ขั้นที่ 1 วิธีดำเนินการสร้างชุดกิจกรรม
1. ศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ สาระที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามมาตรฐานที่ ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ แก้ปัญหา รู้ว่าปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามรถอธิบายและตรวจสอบได้ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่าวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี สังคม สิ่งแวดล้อม มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน
2. จัดทำคำอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชื่อวิชารายวิชา แวววิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว30204 เวลา 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และกำหนดหน่วยการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐาน ว 8.1 ประกอบด้วย 6 หน่วยการเรียนรู้ คือ
หน่วยที่ |
รายการเนื้อหา |
จำนวนคาบ |
หน่วยที่ 1 |
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อการสร้างสรรค์ - ความหมายของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี - ประเภทของความรู้ - ผลงานของนักวิทยาศาสตร์ - ผลกระทบของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี |
8 คาบ |
หน่วยที่ 2 |
เรียนรู้วิธีการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ - ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ - การใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน - เจตคติทางวิทยาศาสตร์และลักษณะนิสัยของนักวิทยาศาสตร์ - ผลงานของนักวิทยาศาสตร์โลก |
8 คาบ |
หน่วยที่ 3 |
กระบวนการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ - ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน - ทักษะการสังเกต - ทักษะการวัด - ทักษะการใช้ตัวเลข - ทักษะการจำแนกประเภท - ทักษะการสื่อความหมายและการจัดกระทำข้อมูล - ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล - ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปสและสเปสกับเวลา - ทักษะการพยากรณ์ |
16 คาบ |
หน่วยที่ 4 |
ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ - การตั้งสมมติฐาน - การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ - การกำหนดตัวแปรและควบคุมตัวแปร - การทดลอง - การสรุปและตีความหมายข้อมูล |
8 คาบ |
หน่วยที่ 5 |
สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ - ของเล่นที่อาศัยหลักทางวิทยาศาสตร์ - การประดิษฐ์จากวัสดุใกล้ตัว |
8 คาบ 8 คาบ |
หน่วยที่ 6 |
กระบวนการแก้ปัญหาอย่างง่าย - การกำหนดปัญหา - กระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ - การนำเสนอวิธีแก้ปัญหา - การลงมือแก้ปัญหา - นำเสนอผลการแก้ปัญหา |
4 คาบ 2 คาบ 2 คาบ 8 คาบ 8 คาบ |
3. ศึกษาเนื้อหาสาระของทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากหน่วยการเรียนรู้ที่ 3จัดทำแผนการเรียนรู้ เรื่องทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน จำนวน 8 ทักษะ เวลาทักษะละ 120 นาที โดยศึกษาแต่ละทักษะในเรื่องของความหมาย และพฤติกรรมบ่งชี้ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นกรอบในการสร้างชุดกิจกรรมที่ใช้ฝึกทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
4. กำหนดจุดมุ่งหมายและรูปแบบของกิจกรรม
4.1 การกำหนดจุดมุ่งหมายของชุดกิจกรรม แยกเป็น 2 ประเภท คือ จุดมุ่งหมายทั่วไป และจุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม
4.2 รูปแบบของการจัดกิจกรรม ช่วงแรกเป็นการให้ความรู้จากใบความรู้ โดยครูป้อนคำถาม เช่น ความหมายของทักษะ และวิธีการนำทักษะไปใช้ จากนั้นจึงจัดให้ผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะต่างๆ ตามกิจกรรมที่กำหนดไว้
5. การเลือกและการจัดเนื้อหาสาระ ผู้ศึกษาเลือกและจัดเนื้อหาในชุดกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน โดยใช้เนื้อหาที่เกี่ยวกับทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ ขั้นพื้นฐาน 8 ทักษะและวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้เองโดยใช้ทักษะดังกล่าว
6. กำหนดมาตรฐานการวัดและประเมินผล การประเมินผลชุดกิจกรรม ใช้เกณฑ์ประเมินผลผ่านรายกิจกรรมและเกณฑ์ผ่านทุกกิจกรรมรวมกัน โดยกำหนดมาตรฐานของเกณฑ์ ทั้งสอง ที่ร้อยละของคะแนนทั้งหมดเป็น 75/75 (ชัยยงศ์ พรหมวงศ์ , 2528)
6.1 เกณฑ์ผ่านกิจกรรมหลังการฝึกในแต่ละกิจกรรมนักเรียนจะต้องได้คะแนนแต่ละกิจกรรมผ่านเกณฑ์ที่กำหนดตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไปของคะแนนเต็ม
6.2 เกณฑ์ผ่านทุกกิจกรรมรวมกันหลังจากฝึกทุกชุดกิจกรรมนักเรียนจะต้องได้คะแนนรวมทุกกิจกรรมผ่านเกณฑ์ที่กำหนดตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป สำหรับเกณฑ์ผ่านการประเมินสรุป กำหนดด้วยคะแนนรวมของทุกกิจกรรม ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 75 ของคะแนนเต็ม
(ชัยยงศ์ พรหมวงศ์ , 2528)
7. ดำเนินการสร้างชุดกิจกรรมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ชุดกิจกรรมที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น เพื่อฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ครั้งนี้มี 8 ชุด ชุดละ 1 ทักษะแต่ละชุดกิจกรรมประกอบด้วยกิจกรรมย่อย 1-3 กิจกรรม คือ
1. ทักษะการสังเกต
2. ทักษะการวัด
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มี 13 ทักษะใช่ไหมค่ะ
ความหมายของทักษะการสังเกตคืออะไร
ประเภทข้อมูลจากการสังเกต คือ ?
หลักในการสังเกต ?
ความปลอดภัยในการสังเกต ?
ประโยชน์จากการสังเกต ?
พฤติกรรมบ่งชี้ทักษะการสังเกต ?
กำลังพัฒนาแบบฝึกทักษะกระบวนการวิทย์ ต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก
ประโยชน์ของทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์คืออะไร
อิอิ เป็นขอมูลที่ดีมาก
ต้องการรู้เรื่อง
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ
ค่ะ
ข้อสอบง่ายมากครับ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
กำลังสืบค้นทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา