การผลิตกุ่ยฉายขาว
สถานการณ์การปลูกและผลิตกุยฉ่ายขาว
กุยฉ่ายจัดเป็นพืชผักชนิดหนึ่ง แบบแบ่งปลูกส่วนใหญ่อยู่ภาคกลาง มีการปลูกกระจายตามจังหวัดใหญ่ ของประเทศ ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แทบทุกจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางการเดินทาง
การปลูกกุยฉ่ายมักประสบปัญหาหลายอย่าง ทำให้การผลิตต้องหยุดชะงักแม้ว่าเกษตรกรชาวสวนบางพื้นที่จะสามารถนำเทคนิคการจัดการปรับใช้ในการผลิตกุยฉ่ายก็ตาม แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาโดยเฉพาะการจัดการผลิตไม่สามารถแก้ปัญหาได้ผลดีเท่าที่ควร เนื่องจากยังขาดวิทยากรที่จะใช้สำหรับแก้ปัญหาและไม่รู้วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อปรับปรุงการผลิตปริมาณและคุณภาพสูงขึ้น
ปัญหาและอุปสรรคในการผลิตกุยฉ่ายสามารถสรุปได้
1. ผลผลิตต่อพื้นที่มีความแปรปรวนมากขึ้นกับความชำนาญและการจัดการของชาวสวน อายุต้น ความอุดมสมบูรณ์ของดินและพื้นที่
2. ผลผลิตไม่สม่ำเสมอ
3. พันธุ์ที่ปลูกแปรปรวน ไม่มีความรู้เรื่องพันธุ์และแหล่งผลิตพันธุ์
4. ขาดความรู้ที่เหมาะสมในการจัดการ
การปลูกกุ่ยฉายที่ผ่านมาการปลูกกุยฉ่ายที่ผ่านมา ยังไม่สามารถที่จะผลิตให้ได้ปริมาณและคุณภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด กล่าวคือ พื้นที่ปลูกกุยฉ่ายขาวมีการนำเข้าสู่ตลาดน้อย ตลาดมีความต้องการสูง
พันธุ์กุยฉ่าย ในประเทศไทยมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น หรือชื่อยังไม่มีความชัดเจนที่พบทั่วไป ได้แก่ พันธุ์พื้นเมือง พันธุ์จีน พันธุ์ใบเล็ก พันธุ์ใบใหญ่ พันธุ์ดอก
ที่นิยมปลูกเพื่อเป็นการค้า คือ พันธุ์พื้นเมือง พันธุ์จีน พันธุ์ดอก มีลักษณะเป็นพืชผักใบเป็นใบเดี่ยว ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม
การคัดเลือกพันธุ์ พันธุ์ที่นิยมปลูกมี 3 พันธุ์ คือ พันธุ์พื้นเมือง พันธุ์จีน พันธุ์ดอก การจำแนกพันธุ์ทำได้ค่อนข้างยากเนื่องจากลักษณะภายนอกแตกต่างกันไม่ชัดเจน ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้นปลูก แยกหัวปลูก
วิธีการดำเนินการปลูก
การเตรียมพื้นที่ปลูก
1. ยกร่องแปลงสูงจากผิวดินเดิม 20 – 30 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง มีความกว้าง 1 – 1.20 เมตร ยาวตามพื้นที่
2. ปรับปรุงสภาพพื้นที่ดินด้วยปุ๋ยคอก แกลบดิบ หรือปุ๋ยหมักอัตรา 1 – 2 กิโลกรัม / พื้นที่ 1 ตารางเมตร
3. ย่อยดินตากแดดไว้ 1 สัปดาห์เพื่อฆ่าแมลงและเชื้อโรค บดย่อยดินอีกครั้งก่อนทำการปลูก
วิธีการปลูก
ปลูกโดยใช้หัวหรือแยกต้นปลูก โดยการตัดใบออกยาวประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร ระยะปลูก 20 x 20 เซนติเมตร ใช้ประมาณ 4 – 5 ต้น / หลุม
การปฏิบัติดูแลรักษา การดูแลรักษาด้วยความเอาใจใส่จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์จนถึงระยะเก็บเกี่ยว
การให้น้ำ ต้องให้น้ำอย่างเพียงพอตอนเช้า – เย็น
การให้ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยรองพื้นคือใส่เมื่อเวลาเตรียมดินก่อนปลูกปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก แกลบดิบ คลุกให้ทั่วก่อนปลูก ปุ๋ยคอก 2 – 3 กก / พื้นที่ 1 ตารางเมตร
การป้องกันกำจัดวัชพืช ควรบำรุงกุยฉ่ายให้แข็งแรงโดยการกำจัดวัชพืชให้น้ำอย่างเพียงพอ
วิธีการทำผักกุยฉ่ายขาว หลังจากปลูกได้ประมาณ 3 - 4 เดือน ทำการตัดครั้งที่ 1 เรียกว่าตัดเขียวขาย กิโลกรัมละ 15 – 20 บาท ต่อมาปล่อยให้เจริญเติบโตเพื่อให้ต้นแข็งแรงก่อนปล่อยไว้ประมาณ 1 เดือน ครั้งที่ 2 ตัดเขียวขายอีกหลังจากตัดเขียวตอนบ่ายช่วงเช้าทำการครอบเพื่อจะทำกุยฉ่ายขาว
วิธีการครอบโดยใช้กระถางดินเผาหรือใช้ไม่ไผ่แห้ง โดยไม่ให้แตกหรือมีแสงเข้าสู่ต้นผักเพราะถ้าโดนแสงจะทำให้เป็นเขียวได้ หลังจากครอบได้ 8 – 10 วัน ทำการตัดกุยฉ่ายขาวได้ การตัดกุยฉ่ายขาวต้องทำการตัดเวลาช่วงบ่ายถึงค่ำ หากตัดช่วงเช้าจะทำให้ผักสังเคราะห์แสงจะทำให้เขียวได้ จะมีสีเขียวออกมากทำให้ไม่มีราคา หากผักสมบูรณ์ดีใน 1 กิโลกรัม จะใช้ผักกุยฉ่ายขาว 10 – 12 กอ/ กก การตัดใน 1 รอบปี จะทำการตัดเขียว 4 – 5 ครั้ง ตัดขาวโดยประมาณ 3 – 4 ครั้ง ครบ 1 ปี ต้นไม่สมบูรณ์ก็ทำการปลูกขยายใหม่
การใส่ปุ๋ย หลังจากตัดเขียวทำการพรวนดินใส่แกลบดิบและปุ๋ยคอก 2 -3 กก / พื้นที่ 1 ตารางเมตร หากเป็นปุ๋ยมูลไก่จะดีที่สุดเพราะต้นจะสมบูรณ์และไม่มีเมล็ดหญ้าปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยขี้วัวขี้ควาย จะมีเมล็ดหญ้าติดมา หลังจากนั้นถ้ามีน้ำหมัก 2 อาทิตย์จะทำการรดน้ำหมักอีกครั้งหนึ่ง น้ำหมัก 4 ช้อน / น้ำ 20 ลิตร รดต้นผักจะสมบูรณ์และแข็งแรงดี
การควบคุมวัชพืช หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีทุกชนิด
การให้น้ำ จะให้น้ำ 2 – 3 วัน / ครั้ง โดยระบบเปิดสปริงเกอร์หรือรดเอาก็ได้
การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวก่อนจำหน่าย ตัดแต่งส่วนที่แห้งจากขอบปลายใบออกและลอกคลุมใบที่ท่อหุ้มด้านนอกก่อนแล้วนำมามัด ๆ ละ 1 กิโลกรัม ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์
ตลาด ส่งตลาดทั่วไปตามตลาดสด หรือส่งที่ร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม ราคา 100 – 120 บาท / กิโลกรัม
สวัสดีครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่แบ่งปันครับ
ปลูกยากขนาดนี้ ถึงได้แพง แต่ไม่เป็นไร ชอบทานค่ะ