บันทึกที่อยากเขียน และพื้นที่ที่แตกต่าง


มีบันทึกที่อยากเขียนมากมาย...

  • ทฤษฎีของโลกที่เปลี่ยนไป เพราะอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์... คือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา แต่มีสิ่งเดียวที่อยู่เหนือกฏนี้คือ "ความจริงแห่งธรรม" เมื่อสักครู่ไปต่อยอดเรื่องนี้ที่บันทึกคุณเม้ง เมื่อก่อนถูกครอบงำด้วยความเชื่อเรื่องโลกแบน จากนั้นโลกกลมมาแทนที่ และตอนนี้กำลังมีทฤษฎีโลกเบี้ยว...มาแทนหรือเปล่า คงต้องพิสูจน์กันต่อไป
  • เส้นทางการปฏิบัติธรรมะ... ของตนเอง เป็นการถอดบทเรียนเรื่องราวที่เราเชื่อว่าเป็น tacit knowledge ซึ่งตอนนี้ขอทบทวนเรื่อง KM ใหม่แล้วเพราะตนเองอาจมีความเข้าใจผิดบางประเด็นผิดพลาดไปหรือเปล่า ข้าพเจ้าเป็นนักวิชาการเงียบๆ ไปตามเส้นทางของตนเองก็ได้และมุ่งมั่นต่อการปฏิบัติธรรม ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ จริงหรือความคิดนี้?
  • สัจจบารมี อยากเขียนมาก เพราะพิจารณาเรื่องนี้อยู่ค่อนคืน ปฏิบัติธรรมที่ไม่ได้เริ่มมาจากเรียนปริยัติแต่เริ่มเข้าสู่การปฏิบัติกรรมฐานเลย ปริยัติเพิ่มเติมจากอาศัยฟังคำเทศน์สอนของครูบาอาจารย์ ... อย่างน้อยตอนนี้ที่เป็นสัจจสำหรับตนเองคือ "ละเว้นการทำความชัว" ละชั่วก่อนหากไม่ละชั่วก็จะไม่สามารถทำความดีได้เลย และไม่เคยบอกใครว่าตนเองปฏิบัติธรรม... เพราะพิจารณาว่าข้างในตนเองยังเน่าอยู่
  • ความกลัว เรื่องความกลัวที่ซ่อนอยู่ในจิตใจคนเรา ความกลัวเป็นเหตุหนึ่งที่ผลักให้เรากระทำอะไรได้อย่างมากมาย ข้าพเจ้าก็ยังมีความกลัวเกาะกินจิตใจอยู่ คือ กลัวการทำชั่ว... 

 

______________________________________________________________________________

นึกถึงเรื่อง "อะตอมทำตุ๊กตาแก้วของน้ากะปุ๋มแตก" แม่ผู้เป็นยายของอะตอมรักหลานมาก และรักลูกมาก อยากถนอมน้ำใจลูกและหลาน จึงไปหากาวมาช่วยกันติดตุ๊กตานี้ให้ได้ดั่งเดิม แต่ลืมดูไปว่าตุ๊กตานั้นแตกไปแล้ว...

_______________________________________________________________________________

Note : ตอนนี้มองไม่เห็นความแตกต่างว่า GotoKnow แตกต่างจาก Webblog อื่นๆ ตรงไหน... บางทีพื้นที่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้แต่ละที่อาจเหมาะสำหรับแต่ละบุคคล อะไรที่คุ้นชินความมหัศจรรย์อาจกลายไปเป็นเรื่องปกติ..

  • ทบทวนการเขียนใน Blogspot, Multiply, Nation และ GotoKnow อ้อ !! โน๊ตไว้ก่อนกันลืมมีพื้นที่ใหม่...น่าเขียนเพราะเปี่ยมด้วยใจที่นอบน้อม...

 

.....................................

"หลายคนกลัว แต่ข้าพเจ้าไม่กลัวเพราะไม่มีข้าพเจ้าอยู่ที่นี่"

 

 

คำสำคัญ (Tags): #บันทึกความคิด
หมายเลขบันทึก: 188612เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2008 20:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 13:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

...บันทึกที่แตกต่างและพื้นที่ที่อยากเขียน...

ขอบคุณครับผม...

ค่ะ..คุณดิเรก...

  • มีอะไรหลายๆ อย่างทำให้งง... แต่พอตั้งสติได้ก็ไม่งงค่ะ ... ใจว่าง จะมองเห็นเหตุและความเป็นไป อันมาจากภายในผลักดัน และก็เช่นกันกะปุ๋มเขียนบันทึกนี้ ก็มีเหตุเช่นกัน ไม่มีเหตุก็คงไม่เขียน และเขียนนี้คือ การเขียนบันทึกผ่านความคิด ความรู้สึกของตัวเองเพื่อเก็บไว้...ค่ะ...
  • หากคนในสังคมไม่ช่วยกัน แล้วใครกันเล่าก็ช่วย
  • เมื่อสักครู่เดินไปหน้าปากซอยนึกถึงคำพูดประโยคหนึ่งของผู้คอยตัดสินความเที่ยงตรงทางโลก "อย่าทำผิดให้เป็นถูก" ยังคงดังก้องกังวาลอยู่ในใจค่ะ
  • เราเห็นเราละวาง... นั่นไม่ใช่วิสัย... แต่ไม่ใช่การมาทำให้บิดเบือนมากยิ่งขึ้น หากบิดเบือนมากขึ้นมันก็ error โลกมันก็อาจจะดูเอียงๆ...นะคะ...
  • เขียนไปเขียนมาทำให้นึกถึงเมล์ที่เคยเขียนถึงหมอสุธี... ขอค้นก่อนสักครู่นะคะ... น่าจะสำเนาเก็บไว้

(^___^)

เรียน...คุณหมอสุธีที่นับถือ

 

เหมือนจะถูกมัดมือชก...ซึ่งก็ถูกมัดมือมาหลายครั้ง

แต่กะปุ๋มก็เบี้ยวเสมอต่อการเข้าร่วมในกิจกรรมเฮฮาศาสตร์

 

แต่มาทำตัวน่าเกลียดคอยกระทุ้ง...เฮฮา+ศาสตร์...หลายครั้งต่อหลายครั้งอย่างผู้เฝ้ามอง...

 

จริงๆ แล้วกะปุ๋มไม่ชอบกิจกรรมของการพบปะ ... (หากเลือกได้)

 

ครั้งนี้พิจารณา...อย่างไม่ใคร่ครวญนัก เมื่อถึงเสี้ยววินาทีสุดท้ายอาจมีหักลำได้เสมอ... เสียงสะท้อนจาก...บางกลุ่มคนทั้งใน G2K และนอกแต่ติดตาม G2K วิพากษ์กิจกรรมของชาวเฮฮา(ศาสตร์)... (ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอ่ยออกมาให้ทราบคือใคร อะไร ที่ไหน อย่างไร)...แต่การมองมองว่า "เฮฮาศาสตร์" เป็นเรื่อง กิน เที่ยว พบปะเฮฮา..แต่ไม่ได้กระทำเพื่อสังคม

 

โจทย์ที่ท้าทาย... คือ เรายังไม่สามารถดึงศักยภาพ..ของใจที่มารวมกันนี้ แสดงปรากฏการณ์ที่เป็นรูปธรรมอันเป็นประโยชน์เชิงสังคมได้

 

แม้แต่คนที่ไปเข้าร่วม ก็ไม่สามารถ...บอกได้ชัดเจนว่าได้เกิดการเรียนรู้อะไรบ้าง และปรากฏการณ์ที่นำไปสานต่อ จุดนี้คงอาศัยเวลาเป็นตัว...บอกให้รอ...ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อแน่ว่าเกิดแน่นอนไม่วันใดก็วันหนึ่ง

 

(โจทย์: เกิดอะไรขึ้นทำไม...ใครๆ ก็อยากไปเข้าร่วม นั่นอาจอธิบายได้อานุภาพแห่งพลัง...บางอย่างที่ดึงดูดผู้คนมาพบปะกัน..ด้วยกระแสคลื่นทางจิตวิญญาณ...และเมื่อไปเข้าร่วมแล้วทำไม...พลังแห่งอานุภาพนี้จึงไม่ชัดเจนนักหรือมากพอที่จะก่อเกิดการเรียนรู้ออกมาให้ปรากฏชัดเจนยิ่งกว่าตอนไป)

 

และในมุมมองของกะปุ๋มเอง.. มองว่านี่คือ ปรากฏการณ์ของการรวม..กลุ่ม..คนที่มีระดับจิตวิญญาณที่ละเอียดกว่าคนปกติโดยทั่วไปอีกหลายๆ ล้านๆๆ คน ที่มีทั้งเฮฮาและศาสตร์ แต่จนแล้วจนรอด.. ศาสตร์ของกลุ่มเฮฮาก็ปรากฏออกมายากเหลือเกินต่อสาธารณชนให้รับทราบ

 

กะปุ๋มอาจคาดหวังสูงต่อการเกิดปรากฏการณ์อันมหัศจรรย์นี้ก็ได้... ตอนนี้จึงเป็นผู้เฝ้าดู...อย่างใจและอารมณ์ที่เป็นกลางมากขึ้น ไม่เข้าไปเร่งปฏิกิริยา ปล่อยให้ดำเนินไปตามทิศทางและเหตุแห่งการเกิดและเป็นไปตามธรรมชาติของกลุ่ม

 

อยากให้ปรากฏการณ์ "เฮฮา+ศาสตร์" นี้ปรากฏและเดินไปมากกว่าที่สักวันอาจแปรเปลี่ยนไปเป็น "ไร้สาระ + ศาสตร์"...

 

และที่น่าเป็นห่วงคือ พลังของกลุ่ม ไม่ว่าจะเกิดเป็นกลุ่มอะไรก็ตาม แนวโน้มมักจะกลายไปเป็นรูปแบบกลุ่มที่เป็นการสั่งสมอัตตา... ตัวกู ของกูเกิดขึ้น... ใครมาแตะต้องไม่ได้ วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ แทนที่กิจกรรมจะเป็นการขัดเกลาระดับจิตวิญญาณ...แต่กลายเป็นกิจกรรมที่รวมพวกพ้อง...และสั่งสมสภาวะแห่งตัวกู-ของกูเกิดขึ้น... แต่ตรงกันข้ามหากกลุ่มได้พัฒนาไปจนถึงระดับลึกทางจิตวิญญาณ...แห่งความมีเมตตา..กลุ่มเฮฮาศาสตร์...นี่ก็อาจจัดเป็น "สังฆะ"..หนึ่งได้โดยไร้เงื่อนไขและพันธนาการ

 

ด้วยความปรารถดี ... เพียงแค่อยากพูดคุยประเด็นนี้ แบบเรื่อยเปื่อยค่ะ

 

(^_____^)

 

กะปุ๋ม

 

........................................................

พิจารณาอยู่นานว่าจะ...เขียนจดหมายนี้ถึงคุณหมอสุธี หรือจะตีพิมพ์ด้วย...

ตัดสินใจ ขอเสี่ยงชีวิตตีพิมพ์จดหมายนี้ ลงบันทึก...ไว้ใน Blog ของตัวเอง... แบบประมาณว่าอาจมีโอกาสไม่มีที่ว่างยืนอยู่ในสังคม... เฮฮา + ศาสตร์ นี้ก็อาจเป็นไปได้...

 

บทหนึ่ง...ของการที่เราต้องเรียนรู้ในเรื่อง สัมมาวายามะ ------> การเพียรชอบต่อการทำสิ่งดีดี... ที่ออกไปไกลจากตัวเรา เรื่องราวนี้ไม่ได้หมายถึง ชาวเฮฮาศาสตร์ไม่ได้ทำ แต่ท่านทำ... แต่ขอให้เป็นการทำดี เพื่อทิ้งร่องรอย ให้...สังคม ประเทศชาติ และโลกได้มีโอกาสเรียนรู้...จิตฝ่ายดี จากท่าน...ท่าน...

 

บันทึกนี้เขียนไว้เพื่อเตือนตนเอง...

และอยากรวมรวมแนวคิดดีๆ ...มาเก็บไว้ด้วยค่ะ อาจเป็นเรื่องบังเอิญที่หลานชายเปิดโดเรมอนพอดี

_______________________________________________________________

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้สอนนักศึกษาเรื่อง การจัดการทรัพยากรแบบบูรณาการ ผมได้ยกตัวอย่างหลาย ๆ กรณีที่ได้ใช้ชีวิตแบบบูรณาการ และกรณีหนึ่งที่เป็นเรื่องที่นักศึกษา ส่วนใหญ่คงรู้จักดี

 

ผมจึงยกตัวอย่างของภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่น “โดราเอมอน”

 

ซึ่งมี โนบิตะ เป็นตัวสำคัญของเรื่อง ที่โดราเอมอน พยายามจะเข้ามาช่วยให้โนบิตะ พัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม

 

แต่ปรากฏว่า โดราเอมอน ทำสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ส่วนใหญ่ล้มเหลวซะมากกว่า

 

นักศึกษาหลายคนไม่ทราบว่า โดราเอมอน เป็นใคร เข้าใจว่า เป็นเพียงตัวละครใดตัวหนึ่งเท่านั้น

 

แต่จริงแล้ว โดราเอมอน..เป็นหุ่นยนต์จากโลกอนาคต ที่ลูกหลาน ของโนบิตะ ได้สร้างขึ้นมา เพื่อแก้ไขโนบิตะ ที่จะทำให้โนบิตะ เป็นบรรพบุรุษที่ดีของตระกูล พอที่จะทำให้ ตระกูลของโนบิตะ สามารถพัฒนาไปในทางที่ดีที่จะส่งผลถึงลูก หลาน เหลน ของโนบิตะเอง

 

ผมได้อธิบายเรื่องนี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการมีบรรพบุรุษที่ดี จึงจะพัฒนาชีวิตได้

 

โดยเฉพาะในเรื่องการเลือก คู่ครอง

 

การได้คู่ครองและครอบครัวของคู่ครองที่ไม่ดี ครอบครัวก็จะล้มลุกคลุกคลาน ลำบากทั้งในปัจจุบัน และอีกหลายชั่วคน เพราะเป็นพันธุกรรมที่ส่งต่อไปเรื่อยๆ

 

ตราบใดที่ยังมีโอกาสเลือกได้ก็ควรจะเลือกซะ แทนที่จะยอมเสียสละชีวิตตัวเองไปกับอนาคตที่ไร้ความหมาย

 

นี่คือ การจัดการวางแผนทรัพยากรในระดับตัวบุคคล

 

ซึ่งกรณีของ โดราเอมอน ก็เป็นตัวอย่างที่สะท้อนว่า

ถึงขนาดต้องให้ลูกหลาน สร้างหุ่นยนต์ย้อนเวลาลงมาแก้ไขปัญหาของปู่ย่า ตาทวด

 

แต่เรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่เขาถือว่า

 

 คนดีของสังคม คือคนที่เป็นบรรพบุรุษที่ดี

 

แต่ในสังคมไทย คงไม่คิดการณ์ไกลขนาดนั้น แค่คิดว่า ปฏิบัติตนให้ดีในปัจจุบัน ก็เพียงพอแล้ว

 

แต่คนญี่ปุ่นนั้น เขาคิดถึงลูกหลาน เหลน ภายหน้า ซึ่งทำให้เขาอยู่ในกรอบ ศีลธรรม จริยธรรม ซึ่งทำให้ลูกหลานนับถือได้ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

 

เพราะฉะนั้น บทเรียนจากการดูภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง โดราเอมอน

จึงเป็นที่น่าสนใจมาก เหมาะแก่การศึกษาเรียนรู้ เพื่อเตรียมตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ดี เป็นบรรพบุรุษที่ดี เพื่อที่ลูกหลานจะได้ไม่ลำบากกับเราอีก

 

ลองคิดดูนะครับ ว่า

 

เราเตรียมตัวเป็นบรรพบุรุษที่ดี หรือยัง

 

สวัสดีครับ

 

 ......................................................

ที่มา : Blog ของ ดร.แสวง รวยสูงเนิน

http://gotoknow.org/blog/sawaengkku/188601

เรียนพี่กะปุ๋มที่รัก

* น้องปูไม่ค่อยเข้าใจบันทึกพี่หรอกนะ บางคราครั้ง

* แต่น้องปู ก็รับรู้เพียงว่า ชื่นใจ และมีความสุข

* โดยเฉพาะ เมื่อวานที่ได้รับเมลติดต่อจากพี่กะปุ๋ม

* ซึ่งน้องปูมิเคยคาดคิดเลยว่า ฝันปูจะเป็นจริง อิ อิ

* น้องปู แอบอ่านบันทึกพี่อยู่ตั้งนานแน่ะ .. นานหลาย

* น้องปูก็เขียนที่ multiply เช่นกันค่ะ แต่เป็นส่วนตัวมาก

* ตั้งแต่เข้ามาที่นี่ น้องปู ก็ติดหนึบ และมั่นใจมาถูกทาง

* .... ตอนนี้พี่อยู่ที่ยโสธร หรือเปล่าคะ สักวันปูจะไปหาเด้อ ...

เร็วๆ นี้ล่ะคะ  ... ไม่เกิน 3 เดือนก่อนกลับปักษ์ใต้ ได้ไหมคะ

ว้าย เด้ง ภาพสองรูปเลย

แต่ก็ดีเหมือนกันนะคะ ไว้สำหรับเราสองคนไงค่ะ

- - เตรียมตัวไปปั่น กระจุย กระจาย - -

ในวันว่างๆ ละวางทุกสิ่งอย่าง แล้ว ปั่น ปั่น ปั่น

ฝันดีล่วงหน้า ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

... ขอบคุณภาพ จากพี่เบิร์ด ศิราณี ที่น่ารักค่ะ ...

ขอบคุณค่ะน้องปู...

  • บันทึกนี้พี่เขียนไว้เพื่อเตือนตัวเองค่ะ ... ไม่ได้เป็นเรื่องเล่าอะไร บางครั้งอาจเข้าใจยาก แต่ไม่ซับซ้อนนะคะ...
  • พี่กะปุ๋มดีใจที่ได้เจอน้องปูที่นี่อีกครั้ง... ณ ขณะนี้อยู่ยโสธรค่ะ...
  • ขอบคุณนะคะสำหรับการแวะเยือนค่ะ

(^____^)

คุณกะปุ๋มครับ

ผมชอบที่คุณกะปุ๋มสะท้อนความรู้สึกที่มีต่อสังคม G2K ด้วยความรู้สึกที่รับรู้ได้ถึงความบริสุทธิ์ใจ

-สิ่งที่ผมมองต่อเฮฮาศาสตร์หรือไร้สาระศาสตร์คือการมองแบบมองโลกในแง่ดี เพราะมองเห็นการช่วยเหลือเกื้อกูล การช่วยกันแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่ดันทุรังเห็นผิดเป็นถูก เป็นเรื่องดีที่ผู้คนในสังคมให้กันและกัน

-เฮฮาศาสตร์แต่ละครั้งผมรับทราบว่ามีการเรียนรู้ทุกครั้ง และเป็นการเรียนรู้ในเรื่องราวที่หลากหลายในความคิด แต่ผมไม่เคยไปร่วมเฮฮาศาสตร์ที่ไหนนอกจากที่จัดที่ภูเก็ต และผมก็คิดว่าเราจะจัดเฮฮาศาสตร์อย่างไรให้สมาชิกได้เรียนรู้เรื่องราวของภูเก็ตจริง เฮฮาศาสตร์ที่ภูเก็ตจึงเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมของภูเก็ต

-ถามว่าเฮฮาศาสตร์ยกระดับทางจิตวิญญาณบ้างไหม ผมเห็นว่ามีการยกระดับความคิด อย่างน้อยก็ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกที่ดีต่อกันมีความคิดในแง่บวกต่อสังคม เคารพอาวุโสซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกัน แม้จะไม่ใช่เป็นการยกจิตวิญญาณระดับสูง

-สิ่งที่เราคิดทำเพื่อสังคมกำลังยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างเช่นขณะนี้เราช่วยกันพัฒนาบุคลากรให้เป็นกระบวนกรการจัดการความรู้ ช่วยกันพัฒนาชาวบ้านให้เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง พัฒนานักเรียนนักศึกษาให้เขาได้เรียนรู้ธรรมชาติการอยู่ร่วมในสังคมอย่างมีความสุข ค่อยเป็นค่อยไปครับ ขณะนี้เรากำลังคิดช่วยกันลดปัญหาความขัดแย้งในสังคมว่าพวกเราที่อยู่ในแต่ละภูมิภาคจะช่วยเหลือกันแก้ไขปัญหาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน

-การจะไปพบปะกันแล้วสนุกสนานกันผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเสียทีเดียวเพราะในความสนุกสนานย่อมมีการเรียนรู้ อย่างน้อยก็เป็นการศึกษาว่ามนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเราเขาเป็นอย่างไร เราก็หันมาทบทวนตัวเราได้เช่นกัน

-ผมชอบบทความของคุณกะปุ๋มที่สอดแทรกธรรมะตลอดเวลา และส่วนตัวผมเชื่อว่าธรรมะคือธรรมชาติครับ

ท่านอัยการค่ะ :

  • นี่เป็นช่วงคืนอีกครั้งที่กะปุ๋มนั่งอยู่ในตอนดึก เกิดคำถามต่อตนเองเช่นกันค่ะว่า ... อยู่เพื่อทำอะไรกันเหรอ...ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นวันปฏิวัติรัฐประหาร... ปกติไม่ยุ่งเรื่องการเมือง เพราะเป็นเรื่องของความคิด...แต่ก็อยู่ ณ สงคมจนรุ่งสางด้วยความห่วงใย สังคม และโลก...
  • โลกป่วย เพราะใจคนป่วย... โลกต้องการการเยียวยา และคนในโลกก็ต้องการการเยียวยา...แล้วใครเล่าจะเป็นผู้เยียวยา หากไม่ใช่ตัวเราเอง...
  • และกะปุ๋มเอง... ก็กำลังเป็นผู้เรียนรู้เช่นกันผิดบ้าง พลาดบ้างบ่อยครั้ง แต่ลุกขึ้นมาทบทวนด้วยใจที่นอบน้อมอยู่เสมอ... และมักไม่ไปก้าวก่ายทางความคิดใดใด อันนำไปสู่การเบียดเบียนผู้อื่นทางใจโดยเจตนา...
  • แต่ใจเราก็มักจะเอียงไปด้านนั้นด้านนี้เสมอ ซึ่งกะปุ๋มมองใจตนเองเป็นสองด้าน คือ ด้านชอบใจ และไม่ชอบใจ... แม้ตอนนี้ก็ทบทวนใจตัวเองอยู่ตลอดเวลา

ด้วยความนอบน้อมค่ะ...

(^____^)

กะปุ๋ม

 

บันทึกนี้ตรงใจผมตอนนี้มากครับ...

หลังจากที่ได้อ่านหลายเรื่องราวที่มีมิตรหลายท่านให้อ่าน ให้วิเคราะห์ ผมคิดว่าพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เราศรัทธา ...กำลังจะเปลี่ยนไป ภาพลักษณ์จากสายตาคนข้างนอก ทำให้เราไร้ซึ่งความชอบธรรม

สังคมเล็กๆที่เป็นพื้นที่เสมือนที่อุดมปัญญาแห่งนี้น่าหวงแหนยิ่งนักนะครับ

แต่หากไร้ซึ่งความชอบธรรม ...ก็ไร้ซึ่งคุณค่า

น่าเป็นห่วงพลังของกลุ่มที่เกิดขึ้น หากประคับประคองกันไปสู่เส้นทางแห่งปัญญา ที่มีพื้นฐานของความดีงาม ตามเหตุผลและความจริง  ผมคิดว่าไปได้ดี เพราะเรารู้สึกได้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่

แต่หากเป็นพลังแห่งมิจฉาทิฐิ ความหลงผิด ที่ใช้พลังกลุ่มครอบงำ ชี้นำสังคมไปในทางที่ผิดผมคิดว่าจะฉุดรั้งสังคมที่ดีอยู่แล้วพังภิณท์ตามกันไป

ผมรู้สึกเป็นห่วงและเสียดายจริงๆ...

 

 

 

 

แต่มาทำตัวน่าเกลียดคอยกระทุ้ง...เฮฮา+ศาสตร์...หลายครั้งต่อหลายครั้งอย่างผู้เฝ้ามอง...

ความเห็น :  การแสดงความคิดเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่น่าเกลียดนะครับ 

สังคม ( ไม่ใช่เฉพาะ เฮฮาศาสตร์ ) รับทราบนะครับ  อย่างที่ท่านอัยการชาวเกาะท่านแสดงความเห็นไว้

 ผมชอบที่คุณกะปุ๋มสะท้อนความรู้สึกที่มีต่อสังคม G2K ด้วยความรู้สึกที่รับรู้ได้ถึงความบริสุทธิ์ใจ

 

ความเห็นและการกระทำของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป  แต่ยอมรับซึ่งกันและกัน

คนชอบวิ่งเป็นคนที่ไม่ชอบให้ความสงสัยติดอยู่ในใจ

สงสัยสวนป่าเป็นยังไง  ก็บุกไปนอนคุยกับครูบาที่สวนป่าเลย  ไม่เก็บความสงสัยไว้

สงสัยว่ากลุ่มวงน้ำชาที่เชียงรายเป็นอย่างไร  ก็เรียน อ. วิศิษฐ์  ขอพบปะพูดคุยกับอาจารย์  อาจารย์ท่านก็สละเวลานั่งพูดคุยด้วย

ชอบใจที่มีคนถาม อ. วรภัทร์  ว่าไปร่มธรรมแล้วจะได้อะไร  อ. วรภัทร์ตอบว่า  ไม่ได้อะไร

ชอบที่ลุงเอกสรุปเรื่องของเฮฮาศาสตร์ไว้ครับ

เฮฮาศาสตร์ก็คือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เวียนว่ายใช้ชีวิตในโกทูโน  เป็นองค์กรที่มีชีวิต  ไม่ตายตัว  ขยายได้  หดได้ตามธรรมชาติ  ไม่มีใครเป็นผู้นำ  เราแบ่งเวลาและเทศะในการนำพากลุ่ม  หากเปรียบร่างกายเราคืออวัยวะส่วนหนึ่งของ g2k

สนใจอ่านเต็มๆได้ที่นี่ครับ

เฮฮาศาสตร์ก็เป็นกลุ่มเล็กๆใน G2K  ในสังคมไทย  ในโลก  ในจักรวาฬนี้  ไม่ได้มีอะไรพิเศษ  แปลกแยกไปจากกลุ่มอื่นๆอีกมากมาย  หลากหลาย  ทั้งใน G2K  และสังคมอื่นๆ

เพียงแต่เฮฮาศาสตร์พยายามทำอะไรดีๆให้ G2K  สังคมไทย  สังคมโลก  อีกทั้งคงไม่สามารถผูกขาดกิจกรรมต่างๆได้  อยากให้มีกลุ่มที่เข้มแข็งและหลากหลายทั้งใน G2K  และในสังคมไทย  

เฮฮาศาสตร์พร้อมที่จะร่วมกิจกรรมต่างๆร่วมกับกลุ่มอื่นๆทั้งใน G2K  และสังคมไทย

อิอิอิอิอิอิ

 

 

ขอบพระคุณค่ะ...

  • จริงๆ แล้วตอนนี้กะปุ๋มไม่ได้มองหรอกค่ะว่า...ใครเป็นใคร เกิดอะไรกับใคร...แต่กำลังพิจารณาในเรื่อง "ความชอบธรรม" มากกว่าซึ่งเป็นเรื่องที่คนทั้งโลกกำลังพูดถึงเรื่องนี้อยู่ ซึ่งการก้าวเดินไปให้ได้มาซึ่งความชอบธรรมนี้ นอยู่กับว่าเราจะเดินไปอย่างไร...ใช้ความรุนแรงหรือสันติวิถี
  • ตระหนักเสมอว่านี่ คือ โลกสมมติ แต่ภายใต้โลกสมมตินี้ก่อนหมดลมหายใจ...เราจะยังคงว่ายน้ำในน้ำคลองที่เต็มไปด้วยปริมาณออกซิเจนอันน้อยนิด หรือว่าจะเพิ่มความสมดุลให้เกิดขึ้นในน้ำ
  • เราพูดถึงเรื่องโลกร้อน...แต่เราไม่เคยลงมือทำอะไรเพื่อโลก แล้วเราพูดถึงกัน "โลก" ไปทำไมกัน... ทุกคนต่างมีชะตากรรม และวิถี หากไม่พยายามสั่งสมวิถีที่ดี...เราก็ดำเนินชีวิตไปอย่างนั้น
  • ...

สวัสดีค่ะ น้องกะปุ๋ม

  • ป้าแดงเฝ้าติดตามอ่านบันทึกของกระปุ๋มเสมอมา ด้วยแปรความหมายได้บ้างไม่ได้บ้างหมายถึงไม่ค่อยเข้าใจนัก
  • แต่วันนี้ป้าแดงเข้าใจและเห็นด้วยกับความคิดเห็นเรื่องเฮฮาศาสตร์
  • ป้าแดงไปร่วมงานเพราะใจอยากไปร่วม ส่วนหนึ่งมาจากการสัมผัสได้ของน้ำใจสมาชิกที่รู้สึกว่าต้องจริตกัน อย่างเช่น พี่หมู อ.ขจิต น้าอึ่ง พี่นุช พี่รุ่ง คุณปาลียน คนชอบวิ่ง ท่านอัยการชาวเกาะ นายช่างใหญ่ ป้าจุ๋ม และอีกหลายท่าน
  • ป้าแดงไปดงหลวง เพราะอยากดูวิถีชีวิตพี่น้องชาวโซ ไปภูเก็ตเพราะอยากเห็นวิถีชีวิตชาวภูเก็ตหลังจากที่ไปภูเก็ตที่ไร ก็ไปดูแต่ฝรั่งกับทะเล ไปสวนป่าเพราะอยากเห็นป่ายูคาและป่าธรรมชาติ
  • ที่กล่าวมาล้วนเป็นเรื่องของส่วนตัว แต่ส่วนรวมแล้ว ป้าแดงก็ยังไม่ได้ทำอะไรที่ชัดเจน นอกจากส่งเงินวันละบาทเข้ากองทุน g2k เดือนนี้ยังไม่ได้ส่งเลย อิอิอิ
  • ถ้าเป็นไปได้ ซึ่งคงกำลังจะเกิดหรืออาจเกิดแล้ว กับสังคมโดยรวม ก็อยากเห็นอย่างชัดเจนและมีส่วนร่วมค่ะ
  • ขอบคุณมากเลยค่ะ ที่ทำให้ป้าแดง เขียนอะไรยาวๆๆได้
  • รักษาสุขภาพนะคะ น้องเพชร อิจฉา ในความสดใสของน้องกะปุ๋มมาก :-))

 

สวัสดีค่ะป้าแดง :

  • ขอบพระคุณค่ะสำหรับการต่อยอดทางความคิดค่ะ ... กะปุ๋มก็เห็นพลังที่ดีงามนี้เช่นกันค่ะ... ไม่ได้ไปร่วมไม่ได้หมายถึงปฏิเสธแต่ห้วงแห่งวาระนั้นมีสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำและจำเป็นมากกว่า เราก็พิจารณาไปตามเหตุและปัจจัยที่มี ... และสิ่งที่นำมาเขียนถึง... ก็ไม่ได้หมายถึงการโจมตี ปราศจากการบิดเบือนใดใดทั้งสิ้น มีแต่ความเป็นห่วง ... และปรารถนาดี อยากช่วยและร่วมทำความดี บางครั้งการช่วยและร่วมทำอาจไม่ได้หมายถึงว่าต้องไปทำพร้อมกัน แต่พึงทำตามบทบาทหน้าที่ที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เป็นประชากรที่ทำประโยชน์ได้มากที่สุดเท่าศักยภาพที่มีอยู่
  • ในเมื่อเรากำลังพูดถึงการร่วมมือกันทำสิ่งที่ดี เราต้องมีแนวทางไปในทางเดียวกันคือ มาตรฐานร่วม ซึ่งตอนนี้กะปุ๋มพูดถึงสิ่งที่เราพึงปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน
  • ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด...จบ แล้วช่วยกันพัฒนาและเยียวยาสังคมนี้ต่อไปค่ะ

(^____^)

ขอบพระคุณค่ะ

กะปุ๋ม

ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้น ขอโทษด้วยครับรบกวนพี่กะปุ๋มลบด้วยนะครับ

โลกและธรรมชาติมีมุมที่มนุษย์สามารถมองได้ 360 องศา

หากมีคนที่มีมุมมองที่แตกต่างออกไปด้วยเหตุและผลแล้วไซร้

ไยจึงไม่น่าสนใจที่จะรับฟังและทำความเข้าใจแนวความคิดนั้น

ถึงจะห่างวัด ห่างธรรมหลายโยชน์ เป็นแค่มนุษย์ต่างดาว

ก็ขอบคุณบันทึกที่แตกต่างและอยากเขียนบันทึกนี้

ทางสายกลาง ... มีไว้ให้เราเลือกเดิน และให้ใจเดิน

ขอบคุณครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท