สอนลูก... ชวนกันดูหนัง "เสียดาย 2"


เขาไม่ได้กลัวเอดส์เกินกว่าเหตุจนไม่สามารถเข้าใจมันได้
  • วันนี้เผอิญมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องเสียดาย 2 พร้อมลูก ที่เผอิญเพราะไม่ได้ตั้งใจ ลูกกลับมาจากเที่ยวเล่น ผมเปิดทีวีไว้แต่ไม่ได้ดู มัวแต่ทำงานด้วยคอมฯ เห็นเอาก็ตอนที่ "ดูลูกดูละคร" จึงทราบว่าเป็นเรื่องเสียดาย 2 ทางช่อง 9 ไม่เคยดูเหมือนกัน เพียงจำได้เค้าโครงเรื่องของเสียดายที่ภาคแรกกล่าวถึงปัญหายาเสพติด ภาคที่ 2 เรื่องการติดเชื่อเอดส์ และทราบว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมได้ดีมากในยุคสมัย
  • เท่าที่ทราบ หากหนังเรื่องนี้ลูกผมได้ดูตอนที่เขาฉายในโรงใหม่ ๆ อาจจะยังไม่เคลียร์นัก แต่ตอนนี้เหมาะสมมากเพราะจากคำถาม ดูว่าเขาเข้าใจเรื่องโรคเอดส์มากขึ้น ตรงนี้สอบถามดูเขาบอกว่าครูที่โรงเรียนสอนเรื่องนี้โดยเฉพาะ และเขาก็ได้เห็นทางทีวีบ่อย ๆ ที่เวลาไม่รู้จะดูช่องไหน (คำตอบเขาตรงนี้น่าคิดมาก นักสื่อสารมวลชนน่าจะใช้ประโยชน์ได้บ้าง) โดยสรุปความความรู้เรื่องโรคเอดส์ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ คนเข้าใจเอดส์มากขึ้น ไม่กลัวเกินไป แต่กลัวอย่างมีสติ
  • หลาย ๆ ฉากในหนัง และที่ผมชอบคำถามลูกมากคือ
    • จะให้เพื่อนที่โรงเรียนไม่กลัวเอดส์จากโรส (ตัวละครผู้ติดเชื้อ จากการรับเลือด) ในเมื่อพ่อตัวเองที่บอกว่ารักลูก ยังกินน้ำแก้วเดียวกับลูกแล้วยังรีบไปกลั้วคอกับน้ำยาป้วนปากเลย...
    • พ่อ... เวลาทหารโดนระเบิดแล้วต้องการเลือด เขาจะยังติดเอดส์ได้อีกไหม
    • พ่อว่าแถวบ้านเรามีคนเป็นเอดส์ไหม ลูกไม่เคยเห็นใครเลย หรือไม่รู้
  • งานนี้ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก เขารู้ไม่ต่างจากที่ผมรู้เกี่ยวกับเรื่องโรคเอดส์ แถมจับได้ว่าเขาไม่ได้กลัวเอดส์เกินกว่าเหตุจนไม่สามารถเข้าใจมันได้ คิดว่าอย่างนั้น
หมายเลขบันทึก: 183287เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2008 20:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 19:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีค่ะ

ดีจังค่ะที่ได้ดูภาพยนตร์กับลูก และได้คุยกับลูกเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

บังเอิญได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จากทีวีในวันนี้เช่นกันค่ะ

ดิฉันเคยชมภาพยนตร์ต่างประเทศ(จำชื่อเรื่องไม่ได้)

เป็นเรื่องที่สะท้อนเรื่องราวของผู้ที่ติดเชื้อเอดส์

ซึ่งตัวละครที่เป็นภรรยาได้รับเชื้อเอดส์

และสามีทำเป็นว่ารับได้ เข้าใจเอดส์ อยู่ร่วมกันแบบปกติ

และมีเพศสัมพันธ์ตามหมอแนะนำ ซึ่งทุกอย่างปลอดภัยจากการติดเชื้อ

แต่จะมีฉากที่ตัดสลับกลับไปว่า...สามีรีบไปอาบน้ำและถูสบู่แรงๆ

เป็นภาพที่บ่งบอกว่าการทำต่อหน้าภรรยานั้นเสแสร้าง

แท้ที่จริงสามีก็กลัวและรังเกียจภรรยาของตนเองเพราะความไม่เข้าใจโรคเอดส์เพียงพอ

ขอบคุณค่ะ

  • สวัสดีครับคุณjaewjingjing ขอบคุณครับที่แลกเปลี่ยนไว้ เห็นภาพเลยครับ
  • เอดส์ กว่าที่สังคมจะเข้าใจ ก็ได้ทำร้ายคนที่ติดเชื้อไปเยอะแล้วเหมือนกัน
  • เคยได้คุยกับผู้ป่วยระยะสุดท้าย ตอนไปเยี่ยมเขา เขาบอกว่าที่อยู่มาได้ตั้งนานนี่ก็เพราะได้กลับมาอยู่บ้าน และแม่ไม่ได้รังเกียจเขาเลย ทำให้ญาติ ๆ คนอื่น ๆ เข้าใจเอดส์ไปด้วย และไม่ได้รังเกียจเขา เขาเลยอยู่ได้นานขึ้น เขาบอกว่าที่หนักตอนนี้ก็เพราะเชื้อราในสมองคงมาก บวกทานได้น้อย
  • ตอนที่เขาคุยกับผม ผมจับได้เลยคือสุขภาพจิตเขาดีมาก
  • เขาบริจาคสร้างกุฎิไว้ 1 หลังก่อนเสียชีวิตไป ตอนผมบวชก็ยังได้จำวัดที่นั่นเลยครับ

สวัสดีอีกครั้งค่ะ

ดิฉันเคยเข้าร่วมสังเกตุการณ์ในโครงการสร้างงานศิลปะโครงการหนึ่ง

ซึ่งศิลปินต้องพบผู้ติดเชื้อเอดส์เพื่อพูดคุย และถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะ

ผู้ติดเชื้อบางท่านบอกว่าเขาได้รับเชื้อมาถึง 10 ปี แล้ว

แต่หากเขาไม่พูด ดิฉันไม่ทราบแน่ๆ ว่าเขาคือผู้ติดเชื้อ

เพราะเขาดูแข็งแรงปกติดีทุกประการค่ะ เพราะคนรอบข้างเข้าใจ และให้กำลังใจเช่นกัน

ดิฉันคิดว่า...ความรัก ความเข้าใจ และกำลังใจจากคนใกล้ชิด

เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ สำหรับผู้ป่วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

  • เหรอครับ ดีจังเลยครับ ผมเคยได้ยินว่าศิลปะบำบัด ศิลปะบำบัดเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังพิการบ่อย ๆ ผมยังคิดว่าดีมากเลยครับ สำหรับศิลปะนี้ เพราะผมมองเป็นภาษาระดับต่ำ (หมายถึงใกล้ชิดกับความเป็นคน) ที่ใคร ๆ ก็เข้าใจได้ง่าย อย่างเช่น ดนตรี ภาพวาด ...
  • ครับเข้าใจอย่างนั้นนะครับว่า ความรัก ความเข้าใจที่แท้จริง และกำลังใจเป็นยาขนานเอกของการบำบัดการเจ็บป่วย และลดความเจ็บปวดลงได้ครับ

สวัสดีค่ะ..นายทอง

- ไม่เคยดูเลยค่ะ เรื่อง "เสียดาย 2" ตอนนี้เลยทำให้รู้สึก "เสียดาย" ค่ะ ไว้มีโอกาสคงต้องหามาดูบ้างแล้ว :)

- คงต้องร่วมด้วยช่วยกันนะคะ อย่างน้อยการให้ความรู้เรื่องโรคเอดส์ที่ถูกต้อง ก็จะช่วยยืดอายุให้ผู้ติดเชื้อได้อีกทางหนึ่งค่ะ.. คิดอย่างนั้นนะคะ

  • ครับผม ขอบคุณ คุณแสงตะวันมากครับที่คอยติดตาม
  • ระบบนี้ดีนะครับ มีเมล์มาบอกทันทีที่มีความเห็นเข้ามา ทำให้ทราบได้ไวดี
  • หนังเก่านี่ครับ หากใหม่ ๆ ตอนนี้ต้องเป็นอินเดียน่า โจนส์ (เชื่อเลยว่าการโฆษณามีผลต่อการตัดสินใจ จริง ๆ) เสียดาย 2 สะท้อนสังคมได้ดีมาก
  • ผมชอบตรงที่ผมสรุปได้ว่าสังคมนี้จะอยู่กันด้วยความไม่รู้จริง ไม่ได้ เสียหายมาก ดูจากหนังเรื่องนี้แล้วนะสรุปเลย สังคมต้องเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และต้องช่วยกันสร้างความรู้และนำมาแลกเปลี่ยนกัน แลกกันเรียน แลกกันใช้่ครับ จำเป็นมาก

เป็นเรื่องที่ดี

นะครับ

  • คุณที่ไม่แสดงตนครับ
  • ขอบคุณนะครับที่ชม
  • เยี่ยมมากเลยครับ นายทอง
  • นานมาแล้ว ผมนั่งดูข่าว "เด็กชายจักกฤษ์ กระโดดตึก เสียชีวิต" ณ โรงเรียนสาธิต แห่งหนึ่ง(แถวสามแยกเกษตร)  ในภาพข่าว คุณยาย(อายุประมาณ 70 ปี ) กำลังเป็นลม คุณพ่อ  คุณแม่ กำลังร้องให้   ผมเลยเรียกลูกมาดูข่าว  ตอนนั้นลูกสาวผมน่าจะอยู่ชั้น ป.3  ลูกสาว ถามผมว่า "คุณยาย จะตายไหม พ่อ"   ผมตอบว่า....คุณยายคงจะไม่เสียชีวิต แต่คงจะอยู่อย่างทุกข์ทรมาน หรือตายทั้งเป็น ประมาณ 20 ปี(จนกว่าอายุจะ 90 ปี) ส่วนคุณพ่อ คุณแม่ คงจะอยู่อย่างทุกข์ทรมาน หรือตายทั้งเป็น ประมาณ คนละ 50-60 ปี(ดูหน้าตาคุณพ่อ-คุณแม่ ขณะนั้น ประมาณ 30 ปี).....ลูกสาวผมหน้าเศร้า...แล้วเงียบไป
  • ผมรู้ว่า การสอนหน้าจอที่วี จากสื่อชีวิตจริงในวันนั้น  มีผลต่อการคิด วิเคราะห์ของลูกผมครับ
  • ดร.สุพักตร์ครับ หากเป็นเช่นที่ว่านะครับ ผมมองว่ากรณีของท่านคือ พ่อแม่ทำต้องหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง (mentor หรือ Coach )
  • ผมมองว่าตรงนี้สำคัญที่คอยให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา ให้ข้อคิด แนะนำทางเลือกต่าง ๆ แต่ไม่ชี้นำจนกดดัน ผมนึกเคียงเอากับการสร้างนักวิจัยหน้าใหม่ ๆ สักคนที่มีคุณภาพ ระบบ metor สำคัญ
  • ในชีวิตจริงยังมีการคุยกับลูกอีกหลายแบบมาก แต่ไม่ได้เป็นประเด็นให้บันทึก หรือมีเวลาพอที่จะบันทึกครับ บอกตรงนี้เพื่อว่าจะได้ไม่เข้าใจกันไปในทางว่าต้องใช้ทีวีสอนลูกเท่านั้น
  • ขอบคุณท่านมากนะครับ ผมรู้สึกดีกับการแลกเปลี่ยนประเด็นแบบนี้มาก ๆ เลยครับ

สวัสดีคะ

เสียดาย2 คงสะท้อนให้เห็น เรื่องเอดส์เมื่อหลายปีที่แล้ว แต่คิดว่าไม่ล้าสมัยนะคะ เพราะสื่อให้เห็นว่า ความไม่รู้ไม่เข้าใจ ส่งผลกระทบให้หลายอย่าง คุณพ่อรักลูกมาก แต่ก็กลัวเอดส์มาก แม้จะพยายามไม่รังเกียจ  แต่ความรังเกียจในโรค ความไม่เข้าในมีมาก มากพอกัน จึงยิ่งทำให้ลูกรู้สึกได้ถึงความกลัว และความรังเกียจนั้น ทุกอย่างก็ยิ่งแย่มากขึ้นสำหรับลูก  ดีนะคะ เรื่องนี้สะท้อน ให้เห็นได้หลายอย่าง มาก

  • สวัสดีครับคุณก้ามปู
  • หนังนอกจากให้ความบันเทิงเป็นหลักแล้ว มองว่าหากเราดูชมด้วยปัญญา ก็จะเจอปัญญาของผู้สร้าง ผู้กำกับ และนักแสดง ที่ได้แอบอิงมาด้วยมากมาย ตรงนี้คงต้องใช้คำว่า ดูหนังด้วย "ตาใน"
  • ครับสังคมจำเป็นครับต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ ตอนนั้นเราไม่ควรจะนึกโทษใครว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดการรังเกียจผู้ติดเชื้อ แต่เราคงต้องทำอย่างไรให้วันนี้ พรุ่งนี้ไม่เกิดเรื่องทำนองนั้นอีก หรือให้เกิดน้อย ๆ ในระดับที่ไม่ทำร้ายใครนะครับ
  • คิดว่า "ความรู้ที่แม้จริง" ยังจำเป็นอีกมากครับ

ทั้งเรื่องเ สียดาย

และเสียดาย2 เป็นเรื่องที่สะท้อนสังคมได้ดีมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท