สวัสดีค่ะ
ดีจังค่ะที่ได้ดูภาพยนตร์กับลูก และได้คุยกับลูกเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
บังเอิญได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จากทีวีในวันนี้เช่นกันค่ะ
ดิฉันเคยชมภาพยนตร์ต่างประเทศ(จำชื่อเรื่องไม่ได้)
เป็นเรื่องที่สะท้อนเรื่องราวของผู้ที่ติดเชื้อเอดส์
ซึ่งตัวละครที่เป็นภรรยาได้รับเชื้อเอดส์
และสามีทำเป็นว่ารับได้ เข้าใจเอดส์ อยู่ร่วมกันแบบปกติ
และมีเพศสัมพันธ์ตามหมอแนะนำ ซึ่งทุกอย่างปลอดภัยจากการติดเชื้อ
แต่จะมีฉากที่ตัดสลับกลับไปว่า...สามีรีบไปอาบน้ำและถูสบู่แรงๆ
เป็นภาพที่บ่งบอกว่าการทำต่อหน้าภรรยานั้นเสแสร้าง
แท้ที่จริงสามีก็กลัวและรังเกียจภรรยาของตนเองเพราะความไม่เข้าใจโรคเอดส์เพียงพอ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีอีกครั้งค่ะ
ดิฉันเคยเข้าร่วมสังเกตุการณ์ในโครงการสร้างงานศิลปะโครงการหนึ่ง
ซึ่งศิลปินต้องพบผู้ติดเชื้อเอดส์เพื่อพูดคุย และถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะ
ผู้ติดเชื้อบางท่านบอกว่าเขาได้รับเชื้อมาถึง 10 ปี แล้ว
แต่หากเขาไม่พูด ดิฉันไม่ทราบแน่ๆ ว่าเขาคือผู้ติดเชื้อ
เพราะเขาดูแข็งแรงปกติดีทุกประการค่ะ เพราะคนรอบข้างเข้าใจ และให้กำลังใจเช่นกัน
ดิฉันคิดว่า...ความรัก ความเข้าใจ และกำลังใจจากคนใกล้ชิด
เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ สำหรับผู้ป่วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ..นายทอง
- ไม่เคยดูเลยค่ะ เรื่อง "เสียดาย 2" ตอนนี้เลยทำให้รู้สึก "เสียดาย" ค่ะ ไว้มีโอกาสคงต้องหามาดูบ้างแล้ว :)
- คงต้องร่วมด้วยช่วยกันนะคะ อย่างน้อยการให้ความรู้เรื่องโรคเอดส์ที่ถูกต้อง ก็จะช่วยยืดอายุให้ผู้ติดเชื้อได้อีกทางหนึ่งค่ะ.. คิดอย่างนั้นนะคะ
เป็นเรื่องที่ดี
นะครับ
สวัสดีคะ
เสียดาย2 คงสะท้อนให้เห็น เรื่องเอดส์เมื่อหลายปีที่แล้ว แต่คิดว่าไม่ล้าสมัยนะคะ เพราะสื่อให้เห็นว่า ความไม่รู้ไม่เข้าใจ ส่งผลกระทบให้หลายอย่าง คุณพ่อรักลูกมาก แต่ก็กลัวเอดส์มาก แม้จะพยายามไม่รังเกียจ แต่ความรังเกียจในโรค ความไม่เข้าในมีมาก มากพอกัน จึงยิ่งทำให้ลูกรู้สึกได้ถึงความกลัว และความรังเกียจนั้น ทุกอย่างก็ยิ่งแย่มากขึ้นสำหรับลูก ดีนะคะ เรื่องนี้สะท้อน ให้เห็นได้หลายอย่าง มาก
ทั้งเรื่องเ สียดาย
และเสียดาย2 เป็นเรื่องที่สะท้อนสังคมได้ดีมากค่ะ
สอนใจดีคะ