ความซื่อสัตย์สุจริต


ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง

มีเรื่องให้อิ่มใจในสัปดาห์แรกของการเปิดเรียน 
ตอนเย็นวันศุกร์ ขณะที่กำลังจะปิดประตูห้องเรียน 
ได้ยินเสียงเรียก "คุณครูครับ ๆ" มาแต่ไกล 
เห็นเด็กชาย ๒ คน วิ่งหน้าตั้งมาหาครู   พอมาถึง
ก็ยื่นเงินเหรียญ  ๑๐  บาท ให้พร้อมกับบอกว่า
"ผมเก็บเงินได้ที่ข้างถนนด้านนอกโรงเรียนครับ"

     ครูซักถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และกล่าวชมเชย
ชื่นชมในคุณความดีครั้งนี้พร้อมกับให้พร  เพื่อเป็นกำลังใจ
และให้ความมั่นใจในการทำดีต่อๆ ไป 

                                      วันนั้นครูเดินยิ้มออกจากโรงเรียนด้วยความสุขใจ 
                               นึกถึงเด็กชายที่เก็บเงินได้  ถ้าเก็บเอาไปใช้เองก็ไม่มีใครรู้ 
                               บอกเพื่อนแล้ว ทั้งสองแบ่งกันคนละ ๕ บาท ก็ย่อมได้ 
                               แต่เด็กทั้งสองไม่คิดเช่นนั้น    คิดว่าเงินไม่ใช่ของเขา
                               ครั้นจะถามหาเจ้าของก็ไม่ได้ จึงนำมาให้ครู 
                              นั่นก็แสดงถึงคุณธรรมที่มีอยู่ในจิตใจ  สะท้อนถึงสภาพ
                              ครอบครัวที่อบอุ่น  มั่นคง มีจริยธรรม และการอบรมบ่มเพาะ
                              ของพ่อแม่ ครูอาจารย์  ทีสำคัญคือจิตใจใฝ่ดีของเด็กเอง
                              ที่มุ่งมั่นพัฒนาให้คุณธรรมเจริญงอกงามขึ้นในจิตใจดวงน้อยๆ
                              ครูเชื่อว่า เติบใหญ่ภายหน้าย่อมเป็นคนดีอย่างแน่นอน

      จาก "คำพ่อสอน" ว่า

            " ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง 
              เด็กๆจึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง 
              เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิต
              ที่สะอาด  ที่เจริญมั่นคง..."

             (พระบรมราโชวาทพระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก พ.ศ.๒๕๓๑ )

                          "...รากฐานที่นับว่าสำคัญ คือ รากฐานทางจิตใจ
                           อันได้แก่  ความหนักแน่น  มั่นคงในสุจริตธรรม
                           อย่างหนึ่ง  ในความมุ่งมั่นที่จะประกอบกิจการงาน
                           ให้ดีจนสำเร็จอีกอย่างหนึ่ง 


                           เหตุใดจึงต้องมีความสุจริตและความมุ่งมั่น

                          ก็เพราะความสุจริตนั้นย่อมกีดกันบุคคลออกจาก
                          ความชั่ว และความเสื่อมเสียทั้งหมดได้ จึงช่วยให้
                          บุคคลมีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถแต่ในทางที่ถูก
                          ที่เจริญแต่เพียงทางเดียว..."

                          (พระราชดำรัสพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชา อาจารย์และนายทหารนักเรียน
                           โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ ๕๗ ซึ่งเดินทางมาศึกษาภูมิประเทศ
                           ทั่วๆไปทางภาคใต้ ในโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ ศาลาบุหลัน
                           ทักษิณราชนิเวศน์ วันอังคารที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๒๒)

                   ค่ะ  ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง 
                  ครูก็หวังให้ลูกศิษย์ทุกคนมีคุณธรรมข้อนี้ เป็นคนดีของสังคม
                  ของประเทศชาติ ....... 
                                                  คนดีทำอะไรย่อมเป็นประโยชน์ทั้งนั้น

 

หมายเลขบันทึก: 183252เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2008 16:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:04 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • สวัสดีค่ะ พี่แจ่มใส ตามมาเยี่ยมที่โรงเรียนค่ะ และขอชื่นชมลูกศิษย์ตัวน้อยในเรื่องความซื่อสัตย์ด้วยค่ะ
  • ต้องช่วยกันปลูกฝังคนละไม้คนละมือนะคะ เพราะโดยภาพรวมแล้วคนไทยยังได้ชื่อว่าไม่ค่อยมีวินัยเรื่องความซื่อสัตย์ค่ะ  
  • ที่แคนาดามีรถไฟฟ้า ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ชานชะลาคอยตรวจตั๋ว หรือที่กั้นอะไรทั้งนั้น ทุกคนซื้อตั๋วจากตู้แล้วก็เดินเข้าชานชาลาได้เลย นาน ๆ ครั้งจะมีนายตรวจขึ้นมาเดินตรวจสักที ( แต่ถ้าถูกจับได้ เสียค่าปรับหลายตังค์ค่ะ ) ได้ข่าวว่ามีนักเรียนไทยมาถูกจับได้กันหลายคน
  • แล้วคุยกันอีกเรื่อย ๆ นะคะ

สวัสดีค่ะน้องตุ้ม

  • ดีใจจัง ตามมาเยี่ยมพี่เร็วเกินคาด
  • คิดถึงทับแก้วนะ  พี่กลับไปช่วงปลายเดือนมีนาคม
  • ได้พบครูเก่า "อาจารย์จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ" ที่ถนนหน้าคณะริมสระแก้ว  ไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์ยังจำพี่ได้อยู่
  • มีความสุขจังเลยที่ได้กลับไปเยือนถิ่นอีกครั้ง

สวัสดีค่ะท่าน ผอ.ประจักษ์

ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม

  • ตอนเรียน ตุ้มเอกภาษาไทยค่ะ ได้เรียนกับอาจารย์จุไรรัตน์บ่อยมาก แต่แกคงจำตุ้มไม่ได้
  • บล็อกเกอร์ชื่อน้องจิ กำลังจะเข้าไปเรียนที่คณะอักษรค่ะ จะย้ายเข้าไปอยู่หอดีสามอาทิตย์นี้ น้องจิแกคงถ่ายรูปให้ดูในโกทูโนว์บ้าง ตุ้มก็จะคอยติดตามบล็อกแก อยากเห็นทับแก้วเหลือเกิน ไม่ได้เข้าไปเกือบสิบปีแล้วค่ะ
  • พี่แจ่มใสเข้าไปมาเมื่อเดือนมีนา รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ เปลี่ยนไปแบบแทบจำไม่ได้ หรือว่าเปลี่ยนนิดหน่อย
  • จะคอยติตตามบล็อกพี่แจ่มใสอย่างเหนียวหนึบนะคะ

สวัสดีค่ะน้องตุ้ม

  • พี่เรียน  - เอก : ประวัติศาสตร์ 
              - โท   : รัฐศาสตร์ 
              - ความสามารถพิเศษ : วิทยาศาสตร์
  • อยากเห็นบรรยากาศทับแก้วไปดูที่ไฟล์อัลบั้มนะ มีให้ดูหลายภาพพอให้หายคิดถึง ถ่ายไว้ตอนที่ไปร่วมงานคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของ สสวท. "วทร.๑๘" ซึ่ง ม.ศิลปากรเป็นเจ้าภาพ
  • ทับแก้วเติบโตขึ้นเยอะ  เห็นแล้วชื่นใจค่ะ  คณะอักษรย้ายมาอยู่ฝั่งทรงพลเป็นจุดเดียว  ตึกเก่าเอ ๑ เอ ๒ รวมทั้งสระน้ำทั้งด้านหน้าและหลังอาคาร สร้างเป็นคณะศึกษาศาสตร์ไปแล้ว   สะพานสระแก้วก็ยังเด่นเป็นสง่าอยู่เช่นเดิม  แต่กอบัวในสระไม่มีแล้วล่ะ 
  • ต้นเฟื่องฟ้ายังอยู่ยงคงกะพันเช่นเดิม 
  • หอสมุดร่มรื่นขึ้นมาก  สมัยพี่เป็นตึกโดดๆ กลางแจ้ง
    แดดเปรี้ยง ถนนเป็นโคลนลื่น  ขี่จักรยานไปดูเหมือนจะไกลมากๆ  กว่าจะถึงเล่นเอาเหงื่อตกซิกๆ
  • มีประตูด้านหลังเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง (ด้านโรงเรียนตำรวจ)
  • มีอาจารย์รุ่นบุกเบิกเหลือ ๓ ท่าน คือ อาจารย์จุไรรัตน์   อาจารย์อมรรัตน์ (สอนภาษาอังกฤษ) อาจารย์พัฒนพงศ์ (สอนประวัติศาสตร์)

 

วันนี้ เด็กดีคนเดิม "ศุภชัย เถรนิยม" เก็บคูปองที่ตกในโรงอาหารได้ หาเจ้าของไม่พบจึงนำมาส่งครู

  • บันทึกชื่อเด็กดีมีความซื่อสัตย์
  • ด.ญ.ชนัฎการ แสงจันทร์
  • ด.ญ.ลาวัลย์ แสง
  • ด.ช.ศรัณยู ก๋องอิ่น
  • ด.ช.มนัส  พรมเสน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท