ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้หาโอกาสเยี่ยม เครือข่าย โรงพยาบาลในจังหวัดสงขลา ได้เรียนรู้จาก คุณพรเพ็ญ (พี่อ๋อย ) อิงคะวณิช พยาบาลหัวหน้าหอผู้ป่วยสัลยกรรมอุบัติเหตุ รพ.สงขลา เล่าให้ฟังว่า ที่ สงขลา มี โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ผอ.มีนโยบาย ห้าม นร. ขับขี่ จักรยานยนต์ มา รร.เด็ดขาด มีนร.แอบขับมาจอดร้านค้าข้างรร. ครูทราบจะตามไปดูและตักเตือน
ผลปรากฎว่า แทบไม่มีลูกค้ามาพิการที่หอผป. จาก รร.แห่งนี้ แต่พบบ่อย จาก รร.มัธยมอื่นๆ จึงขอช่วยเพื่อนสอบถามค้นความจริงว่า รร.นวมินราชูทิศ รร.ใหญ่ริมถนน ทางไปเกาะยอ มีนโยบาย ผอ.รร.เช่นนั้นจริงๆ เพราะเล็งเห็นว่า สำหรับ นร.มัธยม จักรยานยนต์ เพิ่มความเสี่ยงตามมาหลายอย่าง เช่น ในการใช้เป็นพาหนะลองผิดลองถูก ประลองความเร็ว การมีอิสระเกินกว่าสามารถจะติดตามดูแลบ่มเพาะโดยผู้ปกครอง กลับบ้านช้ากว่าที่ควรได้ง่าย เพราะไม่ต้องอาศัยรถประจำทางแล้ว ปรากฎว่า นโยบายดังกล่าว ส่งผลดีแก่ นร.อย่างเห็นได้ชัด
ชมรมลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเมืองหาดใหญ่ ได้ติดต่อขอเชิญ ช่วยเล่าประสบการณ์ดี ดี แล้วหวังว่าจะช่วยเป็นส่วนหนึ่งของ ขจัดร้าย ขยายดี ( สำนวนของสถาบันรามจิตติ ) ให้แก่เยาวชนในจังหวัดสงขลา และผมหวังว่า สื่อมวลชนที่สนใจ นโยบายสาธารณะ จะมาช่วยจับภาพบทเรียนนี้ สื่อต่อไปยังสังคมไทย
น่าจะมีการขยายผลไปยังโรงเรียนอื่นๆ บ้างนะครับ เช่น ในหาดใหญ่ เมืองที่ใหญ่แต่ชื่อแต่ขนาดไม่ใหญ่นัก ราวๆ 21 ตารางกิโลเมตร ประมาณหยาบๆ ก็ 4.6 กม. x 4.6 กม. ระยะทางขนาดนี้ปั่นจักรยานสบายๆ แถมพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ไม่น่ามีปัญหาในการปั่นจักรยานแต่อย่างใด ยิ่งน้ำมันแพงอย่างทุกวันนี้ น่าจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยส่งเสริมการใช้รถจักรยานและการเดินเท้าให้มากขึ้น รวมถึงเมืองอื่นๆ ด้วยครับ นอกจากประหยัดแล้วยังช่วยลดมลภาวะได้ด้วย