ในวงอาหารเย็นเมื่อวานนี้ คนไม่มีราก ได้ยินพี่สาวเล่าแกมบ่นว่าลูกชายคนโตต่อว่าที่ม่าม้ากับป่าป้าไม่สอนพูดภาษาจีนเลย...ไปสมัครงาน เขาถามว่าพูดภาษาจีนได้หรือเปล่า...หลานตอบว่า พูดได้บ้างนิดหน่อย เขาเลยว่า...ทำไมลูกจีนถึงพูดภาษาจีนได้นิดหน่อยล่ะ...
คนไม่มีรากเกิดในครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่มีเชื้อสายจีนทั้งคู่ตั้งแต่เด็กก็จะได้ยินพ่อแม่และพี่ ๆ พูดภาษาจีนแต้จิ๋วกันในบ้าน เพราะพ่อจะบังคับให้ลูกทุกคนพูดภาษาจีน คงกลัวว่าลูก ๆ จะลืมเชื้อสายเดิม ลูกรุ่นหลัง ๆ อย่างคนไม่มีรากนั้นฟังได้ แต่พูดได้น้อยมาก พอรุ่นหลาน ๆ ยิ่งห่างจากภาษาจีนแต้จิ๋ว แต่กลับใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันมากกว่าตอนพูดเรื่องส่วนตัว
ลองถามต่อ...ทำไมต้องพูดภาษาจีนได้ล่ะ
เขาว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน... จะส่งไปเมืองจีนด้วย
เอาล่ะสิ..ถามต่อ แล้วไงต่อล่ะทีนี้....
เขาให้พูดแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ...มันก็พูดได้สบายสิ... แน่ละก็เจ้าหลานคนนี้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่สอนโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก คราวนี้ก็เลยเกิดอยากพูดภาษาจีนขึ้นมา ตื้อจะให้แม่สอนพูด คนเป็นแม่ก็อ่อนใจ
อ้าว...ทำไมล่ะ เด็กมันอยากหัดพูดก็ดีแล้วนี่…
มันไม่เคยพูดกับลูกเป็นภาษาจีนนี่...
ไม่เคยพูดก็พูดเสียสิ... จะไปยากอะไรเล่า...แอบคิดในใจ
เลยลองกลับมาดูที่เล่าเรียนมา ไอ้การจะสอน ผู้ใหญ่นี่จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายราวพลิกฝ่ามือ
Malcolm Knowles (1980) ให้นิยามของคำว่า Andragogy ไว้ว่า “เป็นศิลป์และศาสตร์ในการช่วยให้ผู้ใหญ่เกิดการเรียนรู้”
จะช่วยให้ผู้ใหญ่เกิดการเรียนรู้ ต้องเข้าใจก่อนว่าผู้ใหญ่นั้นมีลักษณะอย่างไร
1. มโนภาพต่อตนเอง (self-concept) เมื่อบุคคลเจริญเติบโตและมีวุฒิภาวะแล้ว มโนภาพต่อตนเองจะเปลี่ยนแปลงจากการพึ่งพาผู้อื่นไปเป็นการนำตนเอง (Self Directed Learning) Knowles กล่าวว่าเมื่อบุคคลได้บรรลุถึงการควบคุมและการนำตนเองได้ บุคคลนั้นถือเป็นผู้ใหญ่ และจะเกิดความต้องการที่จะให้ผู้อื่นตระหนักว่าตนเองสามารถควบคุมและนำตนเองได้
2. ประสบการณ์ (experience) เมื่อบุคคลมีวุฒิภาวะขึ้นจะมีการสะสมประสบการณ์อย่างหลากหลาย ทำให้เป็นแหล่งทรัพยากรอันมีคุณค่าของการเรียนรู้และจะเป็นผู้เปิดกว้างในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา
3. ความพร้อม (readiness) ผู้ใหญ่มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ เมื่อรู้สึกว่าสิ่งนั้น “จำเป็น” ต่อบทบาท หน้าที่ และสถานภาพทางสังคม ในฐานะที่เป็นสมาชิกของสังคมนั้น
4. แนวโน้มต่อการเรียนรู้ (orientation to learning) การเรียนรู้ของผู้ใหญ่มีแนวโน้มที่จะยึดปัญหาเป็นแกนของการเรียนรู้ เนื่องจากการมีมโนทัศน์ต่อ “เวลา” ที่แตกต่างกัน เด็กจะมองเวลาว่าเป็นเรื่องของอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ผู้ใหญ่จะมองเวลาเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ความรู้นั้นจะต้องนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีในปัจจุบัน
ถ้าเช่นนั้นแล้ว ปัจจัยที่จะส่งผลต่อกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ควรเป็น ดังนี้
1.ผู้ใหญ่จะตอบสนองต่อประสบการณ์การเรียนรู้ หรือข้อมูลตามการรับรู้ของตนเองโดยไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามทัศนะที่ครูเป็นผู้นำเสนอ
2. ผู้ใหญ่จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด เมื่อกิจกรรมการศึกษาตลอดชีวิตที่จัดนั้น เปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ได้ดำเนินการจัดการ และบูรณาการการเรียนรู้ใหม่ ประยุกต์เข้าสู่มโนทัศน์ของตนเอง
3. ผู้ใหญ่จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด เมื่อเนื้อหาที่เรียนเกี่ยวข้องกับประสบการณ์เดิม หรือความสนใจที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกระบวนการเรียนรู้ ควรจะต้องเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ชีวิตที่มีอยู่
4. ผู้ใหญ่จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด ในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนความสัมพันธ์อันไว้วางใจซึ่งกันและกัน เปิดโอกาสให้มีการปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนด้วยกัน และปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับครู ตลอดจนสนับสนุนให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมใหม่อย่างสม่ำเสมอ
5. ประสบการณ์เดิมของของผู้ใหญ่จะเพิ่มพูนมากขึ้น และมีความสำคัญยิ่งขึ้น เมื่อผู้ใหญ่มีอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งประสบการณ์เดิมดังกล่าวอาจจะสนับสนุนหรือเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ก็ได้
6.การเรียนรู้ควรจะเน้นที่การแก้ปัญหา การแสวงหาหนทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งควรจะต้องมาจากประสบการณ์ของผู้เรียน หรือผสมผสานมาจากความคาดหวัง มาจากตัวผู้เรียนเองในฐานะของแหล่งทรัพยากรอันทรงคุณค่า มากกว่าจะมาจากบุคคลภายนอกที่เรียกว่าผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย
7. ผู้ใหญ่มีแนวโน้มที่จะเรียนรู้ได้เร็ว ในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง ผู้ใหญ่จะไม่เต็มใจที่จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ หรือเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ หรือเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการเร่งด่วน และไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตของผู้ใหญ่เอง
หันมาวิเคราะห์เจ้าหลานชายอายุ 24 ปีคนนี้ เขาตระหนักว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว และกำลังจะเข้าสู่โลกของการทำงาน ตอนนี้มีประสบการณ์พอสมควร ต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ จึงพร้อมที่จะเรียนรู้ เพราะตระหนักแล้วว่าภาษาจีนมีความจำเป็นและถ้าเรียนรู้แล้วจะนำไปใช้ในงานที่ต้องรับผิดชอบได้จริงทันทีทันใด ดังนั้นเขาจึงอยู่ในสภาวะที่พร้อมแล้วที่จะเรียนรู้...
และเพื่อกระตุ้นส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ภาษาจีนอย่างต่อเนื่อง โดยอิงอาศัยแนวคิด/ทฤษฎี Andragogy คนไม่มีรากก็เลย เสนอว่า วิธีการง่าย ๆ ก็คือ ตอนที่หลาน ๆ จะมาขอเงินไปลงทะเบียนเรียน ขอเงินไปช้อบปิ้งก็ต้องพูดเป็นภาษาจีน อธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องมาขอเงินเป็นภาษาจีน แล้วก็ต้องมีคำถามเกี่ยวกับภาษาจีนมาคนละ 1 คำถามทุกวันตอนเย็น…
ทำไมลูกจีนถึงพูดภาษาจีนได้นิดหน่อยล่ะ... ฟังแล้วน่าคิดสะกิดใจ...ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของ รากเหง้า เป็นวัฒนธรรม เป็นอัตลักษณ์ของกลุ่มชน หรือเรากลายพันธุ์ เป็นพวก โลกาภิวัตน์ชน กันไปหมดแล้ว คนไม่มีรากจำได้แม่นยำว่า ครูภาษาอังกฤษที่คนไม่มีรากแสนรัก เคารพเคยสอนว่า “จะพูดภาษาอะไรก็ให้ชัดเจน อย่าพูดปนกัน ไทยคำฝรั่งคำ อย่านึกว่าเท่...”
หันมามองตัวเอง ท่าจะจริงล่ะ... ภาษาอังกฤษไม่เข้มแข็ง ภาษาไทยก็อ่อนแอ ภาษาจีนก็งู ๆ ปลา ๆ ไม่ได้การแล้วต้องขอลาไปฝึกฝนกระบวนยุทธ์ใหม่ ไม่อยากเป็น “ลูกครึ่งลูกค่อน” ที่เอาดีไม่ได้สักอย่างเดียว.
อ้างอิง : Knowles,M.S. The ModernPractice of Adult Education. New York : Cambridge University Press,1980
สวัสดีค่ะน้องโก๊ะตาซื่อ.....
พี่อ้อยคะ
สวัสดีครับคนไม่มีราก
ปลายเดือน มีนาคม ศกนี้ ไปที่ชุมชนเผ่าตองเหลือง ต.แม่ขะนิง ที่นี่พูดภาษา มราบรี ชุมชนใกล้เคียงพูดม้ง และเมี้ยน เมื่อวานนี้ไปที่บ้านหลับมืนพรวน พูดภาษา พรวน และลาว ได้ฟังเขาพูด สำเนียงพอฟังเข้าใจ หากได้เรียนรู้ทุ่มเทเวลาจะพูดได้
ว่ากันไปแล้วเกี่ยวกับ " ภาษา " บรรพบุรษหากไม่พยายามจรรโลงกันไว้ จะหายไปง่าย ๆ ที่สำคัญ ความรู้ที่มีอยู่ในผู้สูงวัยไม่อาจถ่ายทอดจากรุ่นเก๋ามารุ่นเยาว์วัยได้สมบูรณ์แน่ ภาษาภาคเหนือเขามักพูดว่า " บ่แน่นอกแน่นใจ "
การได้ใช้ภาษาที่จนเองคุ้นเคยถนัดเป็นผมดี ทำให้ถ่ายทอดเรื่องราวได้มากกว่าภาษาที่ไม่ถนัด ผมมีโอกาสได้อยู่ดูแลผู้สนใจภาษาไทยเดินทางไกลจากฝรั่งเศสไป จ.น่าน จากที่รู้ไม่มากมายเมื่อลงพื้นที่มาเพียง ๒๐ วัน ( ระหว่าง ๒๐ พ.ค.๒๕๕๐ - ๑๐ มิ.ย.๒๕๕๐ )ผู้เรียนสามารถรู้หลักภาษาไทย อ่านและพูดได้คล่องแคล่ว เบื้องต้นเห็นว่าทุ่มเทเอาใจใส่ในด้านทฤษฎ ๒ ชั่วโมง ปฏิบัติ ๓ ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา ยังทำการบ้านนอกเวลาด้วยความมั่งมั่นอีก
ผมก็พูดจีนไม่ได้ ได้แต่ หว่ออ้ายหนี่ ...อยู่คำเดียว ฮา...ภาษาอังกฤษ ก็อ่อน คืนอาจารย์ไปหมดแหล่ว แวะมาอ่านครับได้ความรู้มากมายเลยครับ
สวัสดีค่ะคุณครูมะขามอ่อน
สวัสดีค่ะคุณผ่านมาอ่าน
สวัสดีค่ะคุณธนู
สวัสดีค่ะคุณกวินทรากร
สวัสดี คนไม่มีราก
เข้ามาเรียนรู้ครับน้องสาว ที่บ้านก็มีเชื้อสายจีนทั้งสองฝ่ายครับ ตอนคุณแม่(ยาย)ยังมีชีวิตอยู่ก็ทำพิธีไหว้เจ้าทุกปี ไปเช็งเม้งทุกปี มาหยุดเอาตอนที่ป่วยนอนแต่บนเตียงนี่แหละ ไม่ได้ทำเลย เมื่อท่านเสียไปก็เลยไม่มีใครพาทำ ญาติ พี่น้องที่ทำเป็นก็อยู่โน้นนนน ตรัง..โน้นแน่ะ
หนีฮ่าวค่ะ อ.นัด
สวัสดีค่ะ อ.วิช
สวัสดีค่ะพี่ชายบางทรายที่เคารพ
สวัสดีครับ
ตอนแรกก็งงๆ นิดหน่อยกับศัพท์เทคนิค "Andragogy" ผมเองก็ไม่เคยรู้จัก Malcolm Knowles แหะๆ
เคยเห็นผู้ใหญ่เรียนดนตรี ไปได้ไม่กี่น้ำ เลิกเสียมากกว่าครึ่ง
ตีว่า 1 ใน 10 คนเท่านั้นเอง ที่เรียนได้ตลอดรอดฝั่ง
แต่ที่เรียนภาษาอังกฤษ (เพื่อใช้งาน) เรียนได้ดี ราว 8 ใน 10
ที่เหลืออีก 2 ร่อแร่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกๆ
ผู้ใหญ่มักจะสงสัย ถามมากกว่าเด็ก
แต่จะติดกับความคิดเดิมๆ
ไม่ค่อยจะรับแนวทางใหม่ๆ ฯลฯ
เป็นบันทึกที่น่าสนใจครับ จะได้นำไปใช้บ้าง ;)
สวัสดีค่ะคุณธ.วัชชัย
สวัสดีค่ะครูวัลภา
หนิงไม่ใช่คนจีน ไม่มีเชื้อสายเลยค่ะ แต่ชอบมีคนเข้าใจว่าเป็นลูกครึ่งไทย-จีน อยู่เรื่อยเลยอ่ะค่ะ บางทีก็เรียกหมวย(ตอนสาวๆ) บางทีก็เรียกเจ้ ดูตาเราก็ไม่เล็กนา สงสัยเพราะขาว
ทุกเทศกาลของจีน มักมีคนถามเสมอว่า ที่บ้านไม่ไหว้หรอ ไม่ไปเชงเม้งหรอ มีขนมเข่งกินไหม อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ
ต้องอธิบายอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นลาว อิอิ มีแต่บุญข้าวปุ้น บุญข้าวจี่หละ
ภาษาจีนก็ชอบนะคะ ชอบ เจี๊ยะฮ่อ อี๋ๆ อิอิ
สวัสดีค่ะคุณครู
ที่บ้านพ่อพูดจีนกลางเก่งเหมือนเจ้าของภาษาค่ะ แต่ลูกๆเคยมีครูพิเศษมาสอนจีนกลางที่บ้าน แต่พออายุมากขึ้น ทิ้งห่างไม่ได้ใช้ก็ลืมค่ะ ตอนนี้ถ้าไปเมืองจีนช่วยเพื่อนเจรจาต่อรองสินค้าได้ หาของกินได้แต่ถ้าพูดยาวๆก็งงแล้วค่ะ จีนแต้จิ๋วฟังออกตอบได้ แต่เวลาอาม่าถาม แต่จะตอบเป็นจีนปนอังกฤษ สงสัยแก่แล้วสมองสับสนค่ะ อาม่าบ่นและหัวเราะอย่างเดียว :)
ภาษาถ้าได้ใช้ประจำ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมช่วย เป็นเร็วแน่นอนค่ะ มาสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ฝึกต่อค่ะ จะไปฝึกฝนเหมือนกันค่ะ แล้วมาคุยกันนะคะ..ไจ้เจี้ยน
สวัสดีค่ะคุณหนิง
สวัสดีค่ะคุณ Alinlux
มาเยี่ยม...
อ่านแล้วเป็นวิชาการดีนะครับ
ทุกวันนี้แม้ภาษาท้องถิ่นใต้เอง เด็กยุคใหม่ก็เริ่มพูดไม่ได้แล้วละ ฮา ๆ เอิก ๆ
สวัสดีค่ะ อ.ยูมิ
เขี่ยง...........................อิอิ
สวัสดีครับ
ที่บ้านก็เป็นคนจีนแต้จิ๋วเหมือนกันครับ
พ่อแม่พูดได้หมด
แต่ตัวผมเองไม่ได้เลย พูดแทบจะไม่เป้นประโยคเลย
อยากหัดพูดให้ได้ครับ ต้องฝึกฝนมากๆครับ เผื่อได้ใช้ครับ
สวัสดีค่ะ คุณ Head of art
สวัสดี คนไม่มีราก
ไม่ว่าจะเรียนภาษาไหนหรือเก่งสื่อสารภาษาดี หากไม่อ่านนิตยสาร วารสารต่างปะเทศ อ่าน FICTION หรือ NON-FICTION ก็ไร้...ไม่ทราบว่าผมคิดยังงี้ ผิดหรือถูก ก็ไม่รู้ เพียงภาษานำมาซึ่งปัจจัยชีวิตที่ดี ก็โอเค ครับ แต่คงไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิต
สวัสดี คนไม่มีราก
ผมเขียนไปแล้ว ขออภัย ครับ
สวัสดีค่ะคุณครูวิช
หนีห่าวมะ, หว่อปู้ฉื้อจงกั๋วเหริน หว่อฉื้อไท้กั๋วเหริน ..หว่อเจี้ยว "ลี่จวิง"
..อิ อิ..พี่อ้วนไปเรียนมากำลังได้นิดหน่อยค่ะ..
..ครูจีนมาสอนให้ศึกษานิเทศก์..เพื่อจะได้รู้ไว้คุยกับคุณครู..ได้ค่ะ ได้ชื่อใหม่ด้วย
..เดี๋ยวนี้เป็นนโยบายของการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วที่ให้ภาษาจีนเป็นภาษาต่างประเทศภาษาที่สอง..ที่โรงเรียนสามารถเลือกสอนได้
..ชอบมากค่ะ..“จะพูดภาษาอะไรก็ให้ชัดเจน อย่าพูดปนกัน ไทยคำฝรั่งคำ อย่านึกว่าเท่ห์...”
..นึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวค่ะ..พระองค์ทรงเป็นห่วงมาก..ในเรื่องนี้..โดยเฉพาะการใช้ภาษาไทย..ซึ่งเป็นภาษาชาติ..อย่าพูดปนกัน ไทยคำฝรั่งคำ..
..เซี่ยะ..เซี่ยะ..(อิๆ ปนกันแล้ววว..)
สวัสดี คนไม่มีราก
ช่วงนี้ผมยังไม่ได้บันทึกอะไร ครับ แต่ก็ติดตาม งานเขียนของคนไม่มีรากเสมอ ครับ
มาแอบดู ค้าบ ถ้ารับสอนภาษาจีนขอสมัครเรียนเป็นคนแรก แลกกับการสอนแต่งกลอน...สนใจมั้ยครับ อิๆ
สวัสดีค่ะพี่อ้วนที่รัก
สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณครูวิช
สวัสดีค่ะคุณกวินทรากร
ที่บ้านเด็ก ๆ เชาไม่ยอมพูดภาษาจีนกันค่ะ ไม่รู้อายอะไร แต่ก็ฟังได้ ส่วนภาษาเหนือนั้นก็ฟังได้แต่ไม่พูด ไม่รู้จะว่าไงค่ะ
ต้องขอบันทึกนี้ไปให้อ่านสักหน่อย จะได้รู้ว่า ภาษานั้นสำคัญอย่างไร
สวัสดีค่ะคุณแฟนเก่า
สวัสดีค่ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง สดชื่นแจ่มใสครับ
คณสิทธิรักษ์ค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณ Mosisawa
คุณครูปูคะ
ชีวิตว่าง ๆ ก็ดีนะครับ.....ผมมีเชื้อจีนเหมือนกัน แต่ที่บ้านไม่มีใครพูดจีนกันเลย
คิดถึง อยากคุยกับคนไม่มีรากครับ คุยทางโทรศัพท์หรือทาง msn ได้ไหมครับ วันหยุดทำอะไรบ้างครับ ...
ทำไมใช้ชื่อ คนไม่มีราก ครับ หรือ ชอบอิสระเสรี จนไม่ต้องการยึดติดกับอะไร และทำไมไม่ใช้ชื่อจริงครับ ชื่อจริงน่าจะเพราะและหวาน ๆ ใจดี เหมือนที่คุณเขียนแน่
แล้วจะมาเยี่ยมใหม่ครับ...
สวัสดีค่ะคุณใบโพธิ์
เรียกชื่อใหม่แล้ว...
ความจริงเรื่องชื่อ...สำคัญไฉน...เราพูดคุยกัน...ก็เพราะต้องการแลกเปลี่ยนความคิด...ไม่ใช่หรือคะ
เข้ามาคุยในนี้ได้ค่ะ แต่คนไม่มีรากคงไม่สะดวกที่จะคุยทางอื่นค่ะ
(^__^)
สวัสดีค่ะคุณวิวัฒน์
เท่าที่ได้ทราบจากพี่ ๆ ที่เป็นศึกษานิเทศน์ ในจ.เชียงใหม่ ได้มีการพูดถึงประเด็น...การใช้...คำเมือง...อยู่ และก็ได้ข้อสรุปว่า....เด็ก ๆ ก็ยังใช้ คำเมือง ในโรงเรียนได้ต่อไปค่ะ
ในฐานะผู้ใหญ่อย่างเรา...คงต้องช่วยก้นนะคะ เพราะอัตลักษณ์ของเรา ส่วนหนึ่งก็คือ...ภาษา...นี่เอง
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
สวัสดีค่ะ
มาอ่านบทความนี้บ้าง ที่บ้านคุณแม่บอกว่ามีคุณตามีเชื้อจีนค่ะ
เพลงประกอบบทความของพี่โหลน่ารักจัง
ฟังสบาย ... เสียงคนร้องก็น่ารัก
เป็นเวปที่มีสาระและยังมีเพลงดี ๆ เพราะให้ฟังด้วย
อ้อมจะบอกเพื่อน ๆให้มาอ่านนะคะ
สงสัยนิดหน่อยว่าทำไมพี่โหลใช้ชื่อว่า...คนไม่มีราก...ล่ะคะ แปลว่าอะ-ไรคะ
น้องอ้อมคะ
ดีใจที่น้องตามมาเยี่ยมหลายบันทึกจังค่ะ อย่าแนะนำเพื่อนมากเลย สาระยังน้อยมาก รอไปฟังพวกพี่จัดสัมมนาของคณะดีกว่า...ที่เขียนนี่ย่อมาก ๆ เพราะเป็นบันทึกคล้ายจะบันทึกเป็นส่วนตัว อาจใช้อ้างอิงไม่ค่อยได้ค่ะ..
(^__^)
พี่วัลภาคะ.คงเหมือนแอ๊วเหมือนกันค่ะ..
พ่อกะแม่พูดภาษาเขมร ส่วยได้นะคะ..แต่แอ๊วกะพี่ๆ..พูดไม่เป็นแต่ก็ยังดีที่ฟังออก..คงเพราะได้ย้ายตามพ่อไปหลายจังหวัดตั้งแต่เล็กมั๊งคะ..หรือไงก็ไม่ทราบ.น่าเสียดายค่ะ..ไม่งั้นจะได้กรอกความสามารถทางภาษาไปได้อีกสองภาษาแล้ว..อิอิ
พี่วัลภาสบายดีนะคะ.คิดถึงค่ะ..^^
เรียนภาษาจีนกับเจ้าของภาษา
เรียนเดี่ยว หรือกลุ่ม ที่บ้านท่าน
สามารถจัดกลุ่ม และเลือกเวลาเรียนได้
เรียนเดี่ยวชั่วโมงละ 200 บาท/คน
เรียน(3คน)ชั่วโมงละ 150 บาท/คน
เรียนกลุ่ม(5-7คน)ชั่วโมงละ 100 บาท/คน
คอร์สละ 20 ชั่วโมง ราคา 3,000 บาท/คน
เรียนได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 21.00 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
โทรศัพท์ : 02-542-2670 , 085-517-8827
MSN : thailand_09@hotmail.com
1. กษัตรย์ไทยไม่มีเชื้อจีน เลิกอ้างได้แล้ว
คนชั้นผู้นำในสมัยอยุธยาส่วนใหญ่เป็นคนไตจากภูเขาอัลไต และมีคนชั้นนำกลุ่มหนึ่งเป็นลูกผสมระหว่งคนขาว นั้นคือลูกผสมระหว่างคนไตคนผิวขาวกับมอญขาว คือ พระยาโกษราปาน เช่น มี 100 คน แต่มี 1 คนจาก 100 คนไปแต่งออกนอกเชื้อชาติ เช่น บ้างคนแต่งกับคนจีน หรือบางคนไปแต่งกับเปอร์เซีย แล้วคนจีนกับเปอร์เซียเป็นพ่อแม่ของคนชั้นนำส่วนใหญ่สมัยอยุธยาไหม เหมือนบารักโอบามา เป็นลูกครึ่งฝรั่งกับคนผิวดำแอฟริกา คือ มีฝรั่ง 1 คนจาก 100 คนไปแต่งกับคนผิวดำจากนั้นมีลูกครึ่งคนดำคนขาวคือโอบามา ซึ่งต่อมาเป็นผู้นำแอฟริกา แล้วไปผิวดำแอฟริกาที่เป็นพ่อโอบามาเป็นต้นตระกูลฝรั่งผิวขาวส่วนใหญ่ไหม ก็เปล่าเลย พ่อพระเจ้าตากสินที่เป้นจีนก็เหมือนกัน ไม่ใช่พ่อแม่ของคนชั้นนำส่วนใหญ่ชนชั้นนำผิวขาวที่เป็นลูกหลานคนไตกับคนมอญขาวเลย และพระเจ้าตากสินกับครอบครัวถูกฆ่าล้างโครตหมด โดยคนชั้นนำส่วนใหญ่ที่เป็นลูกหลานเชื้่อสายผสมระหว่างคนไตกับมอญขาวที่ไม่มีการแต่งงานกับคนจีน กษัตรย์ไทยมีลูกครึ่งอยู่เพียงคนเดียวที่ไม่มีลูกหลานสืบพันธ์ในรุ่นต่อมา กษัตรย์ไทยรุ่นต่อมาเป็นลูกผสมคนมอญขาวกับคนที่มีเชือผิวขาวจากคนไตภูเขาอัลไต จะเห็นว่าในหลวงของไทยเราท่านไม่เคยทำประเพณีจีนแต่อย่างใดเพราะต้นตระกูลกษัตรย์ไทยไม่มีเชืื้อสายจีน คนจีนไม่ใช่สายเลือดของกษัตรย์ แต่คนเชื้อจีนชอบหยิบยกมาพูดเพราะเรื่องจริงคนจีนอพยพถูกรัฐบาลไทยบังคับให้เลิกพูดภาษาจีน
2. คนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ผิวดำ ไม่ขาว เพราะคนจีนแต่งงานกับคนดำ ที่ไม่เชื้อผิวขาวของคนไตภูเขอัญไตหรือมอญเขมรขาว
3. คนเรียนเก่งของไทยไม่มีเชื้อจีน เราเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพญาไท เพื่อนเราหลายคนเป็นคนขาวมากอมชมพู เป็นคนเรียนเก่งมาก หน้าตาไม่เหมือนคนทั้งประเทศ และไม่ใช่คนเชื้อสายจีนแต่อย่างใด เรื่องจริงเป็นคนเชื้อสายที่มียีนส์ขาวจากคนไตภูเขาอัลไตกับมอญเขมรขาว เพื่อนสนิทเป็นคนขาวมาก มากว่ายิ่งกว่าผู้หญิงจีนในไทย เขามีแม่เป็นคนไทยผิวขาวเหลือง ไม่คล้ำและไม่ใช่คนเชื้อจีนแต่งานกับพม่าขาว และเรียนเก่งมาก ทำงานเป็นนักแปล
4. คนเหนือผิวขาวระัดบน้ำนม แต่เป็นคนกลุ่มน้อย ตอนเรียนที่จุฬา มีเพื่อนเป็นคนเหนือหนึ่งคน เขาผิวขาวระดับน้ำนม ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนเชื้อชาติไตตัวจริงอย่างภูเขาอัลไตที่ยังไม่ผสมพันธ์กับคนดำพื้นเมือง แต่เป็นคนกลุ่มน้อยของชาติ
5. บริเวณประเทศไทยที่มีคนเชื้อสายจีน หลายๆ จุดไม่ใช่ประเทศไทยเดิมแต่เป็นเมืองขึนของสยาม เช่น ภาคใต้ภูเก็ตเรื่องจริงเป็นดินแดนขยายของสยาม คนจีนไม่ได้แต่งงานกับผู้หยิงไทยโดยสายเลือดแต่งงานกับคนพื้่นเมืองที่ถูกทำให้กลายเป็นไทย ผู็หยิงเหนือที่มีผิวขาวมาก ๆที่มีเชื้อสายคนไตจากภูเขาอัลไตไม่เคยแต่งงานกับผู้ชายจีน
คนไร้การศึกษาฝันอยากเป็นจีน แต่คนมีการศึกษาต้องการมีสายเลือดเป็นคนไตจากภูเขาอัลไตซึ่งขาวเป็นน้ำนม ขาวยิ่งกว่าคนจีนที่มีผิวเหลืองและตัวเตี้ยสั้นเตอะ
คนจีนโดยประวัติศาสตร์ไม่เคยปกครองคนผิวดำ แต่คนไตจากภูเขาอัลไต คนมอญ เขมรขาวล้วนเป็นผิวขาวจากตอนเหนือที่รบชนะคนผิวดำทางตอนใต้และปกครองคนผิวดำ และคนจีนแท้ๆ ในไทยก็เรียนไม่เก่ง สอบเข้ามหาลัยปิดไม่ได้ ต้องไปเรียนมหาลัยเอกชน
คนดำไม่ใช่คนไทยโดยสายเลือดแต่เป็นคนที่มีวัฒนธรรมไทย