เมื่อลูกหลานจีน...พูดภาษาจีนไม่เป็น (3-2)


ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของ รากเหง้า เป็นวัฒนธรรม เป็นอัตลักษณ์ของกลุ่มชน หรือเรากลายพันธุ์ เป็นพวก โลกาภิวัตน์ชน กันไปหมดแล้ว

 

       

       ในวงอาหารเย็นเมื่อวานนี้ คนไม่มีราก ได้ยินพี่สาวเล่าแกมบ่นว่าลูกชายคนโตต่อว่าที่ม่าม้ากับป่าป้าไม่สอนพูดภาษาจีนเลย...ไปสมัครงาน เขาถามว่าพูดภาษาจีนได้หรือเปล่า...หลานตอบว่า พูดได้บ้างนิดหน่อย เขาเลยว่า...ทำไมลูกจีนถึงพูดภาษาจีนได้นิดหน่อยล่ะ...

 

       คนไม่มีรากเกิดในครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่มีเชื้อสายจีนทั้งคู่ตั้งแต่เด็กก็จะได้ยินพ่อแม่และพี่ ๆ พูดภาษาจีนแต้จิ๋วกันในบ้าน เพราะพ่อจะบังคับให้ลูกทุกคนพูดภาษาจีน คงกลัวว่าลูก ๆ จะลืมเชื้อสายเดิม ลูกรุ่นหลัง ๆ อย่างคนไม่มีรากนั้นฟังได้ แต่พูดได้น้อยมาก พอรุ่นหลาน ๆ ยิ่งห่างจากภาษาจีนแต้จิ๋ว แต่กลับใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันมากกว่าตอนพูดเรื่องส่วนตัว

 

       ลองถามต่อ...ทำไมต้องพูดภาษาจีนได้ล่ะ

       เขาว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน... จะส่งไปเมืองจีนด้วย

       เอาล่ะสิ..ถามต่อ  แล้วไงต่อล่ะทีนี้....

เขาให้พูดแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ...มันก็พูดได้สบายสิ... แน่ละก็เจ้าหลานคนนี้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่สอนโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก  คราวนี้ก็เลยเกิดอยากพูดภาษาจีนขึ้นมา ตื้อจะให้แม่สอนพูด คนเป็นแม่ก็อ่อนใจ

อ้าว...ทำไมล่ะ เด็กมันอยากหัดพูดก็ดีแล้วนี่

มันไม่เคยพูดกับลูกเป็นภาษาจีนนี่...  

ไม่เคยพูดก็พูดเสียสิ...  จะไปยากอะไรเล่า...แอบคิดในใจ

 

       เลยลองกลับมาดูที่เล่าเรียนมา ไอ้การจะสอน ผู้ใหญ่นี่จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายราวพลิกฝ่ามือ

      

       Malcolm Knowles (1980) ให้นิยามของคำว่า Andragogy ไว้ว่า เป็นศิลป์และศาสตร์ในการช่วยให้ผู้ใหญ่เกิดการเรียนรู้  

จะช่วยให้ผู้ใหญ่เกิดการเรียนรู้ ต้องเข้าใจก่อนว่าผู้ใหญ่นั้นมีลักษณะอย่างไร

       1. มโนภาพต่อตนเอง (self-concept) เมื่อบุคคลเจริญเติบโตและมีวุฒิภาวะแล้ว มโนภาพต่อตนเองจะเปลี่ยนแปลงจากการพึ่งพาผู้อื่นไปเป็นการนำตนเอง (Self Directed Learning) Knowles กล่าวว่าเมื่อบุคคลได้บรรลุถึงการควบคุมและการนำตนเองได้ บุคคลนั้นถือเป็นผู้ใหญ่ และจะเกิดความต้องการที่จะให้ผู้อื่นตระหนักว่าตนเองสามารถควบคุมและนำตนเองได้

       2. ประสบการณ์ (experience) เมื่อบุคคลมีวุฒิภาวะขึ้นจะมีการสะสมประสบการณ์อย่างหลากหลาย ทำให้เป็นแหล่งทรัพยากรอันมีคุณค่าของการเรียนรู้และจะเป็นผู้เปิดกว้างในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา

       3. ความพร้อม (readiness)  ผู้ใหญ่มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ เมื่อรู้สึกว่าสิ่งนั้น จำเป็นต่อบทบาท หน้าที่ และสถานภาพทางสังคม  ในฐานะที่เป็นสมาชิกของสังคมนั้น

       4. แนวโน้มต่อการเรียนรู้ (orientation to learning) การเรียนรู้ของผู้ใหญ่มีแนวโน้มที่จะยึดปัญหาเป็นแกนของการเรียนรู้ เนื่องจากการมีมโนทัศน์ต่อ เวลา ที่แตกต่างกัน เด็กจะมองเวลาว่าเป็นเรื่องของอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ผู้ใหญ่จะมองเวลาเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ความรู้นั้นจะต้องนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีในปัจจุบัน

 

 ถ้าเช่นนั้นแล้ว ปัจจัยที่จะส่งผลต่อกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ควรเป็น ดังนี้

1.ผู้ใหญ่จะตอบสนองต่อประสบการณ์การเรียนรู้ หรือข้อมูลตามการรับรู้ของตนเองโดยไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามทัศนะที่ครูเป็นผู้นำเสนอ

       2. ผู้ใหญ่จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด เมื่อกิจกรรมการศึกษาตลอดชีวิตที่จัดนั้น เปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ได้ดำเนินการจัดการ และบูรณาการการเรียนรู้ใหม่ ประยุกต์เข้าสู่มโนทัศน์ของตนเอง

       3. ผู้ใหญ่จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด เมื่อเนื้อหาที่เรียนเกี่ยวข้องกับประสบการณ์เดิม หรือความสนใจที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกระบวนการเรียนรู้ ควรจะต้องเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ชีวิตที่มีอยู่

4. ผู้ใหญ่จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด ในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนความสัมพันธ์อันไว้วางใจซึ่งกันและกัน เปิดโอกาสให้มีการปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนด้วยกัน และปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับครู ตลอดจนสนับสนุนให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมใหม่อย่างสม่ำเสมอ

5. ประสบการณ์เดิมของของผู้ใหญ่จะเพิ่มพูนมากขึ้น และมีความสำคัญยิ่งขึ้น เมื่อผู้ใหญ่มีอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งประสบการณ์เดิมดังกล่าวอาจจะสนับสนุนหรือเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ก็ได้

       6.การเรียนรู้ควรจะเน้นที่การแก้ปัญหา การแสวงหาหนทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งควรจะต้องมาจากประสบการณ์ของผู้เรียน หรือผสมผสานมาจากความคาดหวัง มาจากตัวผู้เรียนเองในฐานะของแหล่งทรัพยากรอันทรงคุณค่า มากกว่าจะมาจากบุคคลภายนอกที่เรียกว่าผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย

       7. ผู้ใหญ่มีแนวโน้มที่จะเรียนรู้ได้เร็ว ในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง ผู้ใหญ่จะไม่เต็มใจที่จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ หรือเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ หรือเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการเร่งด่วน และไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตของผู้ใหญ่เอง

 

       หันมาวิเคราะห์เจ้าหลานชายอายุ 24 ปีคนนี้  เขาตระหนักว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว และกำลังจะเข้าสู่โลกของการทำงาน ตอนนี้มีประสบการณ์พอสมควร ต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ จึงพร้อมที่จะเรียนรู้ เพราะตระหนักแล้วว่าภาษาจีนมีความจำเป็นและถ้าเรียนรู้แล้วจะนำไปใช้ในงานที่ต้องรับผิดชอบได้จริงทันทีทันใด ดังนั้นเขาจึงอยู่ในสภาวะที่พร้อมแล้วที่จะเรียนรู้...

 

       และเพื่อกระตุ้นส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ภาษาจีนอย่างต่อเนื่อง โดยอิงอาศัยแนวคิด/ทฤษฎี Andragogy คนไม่มีรากก็เลย เสนอว่า วิธีการง่าย ๆ ก็คือ ตอนที่หลาน ๆ จะมาขอเงินไปลงทะเบียนเรียน  ขอเงินไปช้อบปิ้งก็ต้องพูดเป็นภาษาจีน อธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องมาขอเงินเป็นภาษาจีน  แล้วก็ต้องมีคำถามเกี่ยวกับภาษาจีนมาคนละ 1 คำถามทุกวันตอนเย็น

 

       ทำไมลูกจีนถึงพูดภาษาจีนได้นิดหน่อยล่ะ... ฟังแล้วน่าคิดสะกิดใจ...ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของ รากเหง้า เป็นวัฒนธรรม เป็นอัตลักษณ์ของกลุ่มชน หรือเรากลายพันธุ์ เป็นพวก โลกาภิวัตน์ชน กันไปหมดแล้ว คนไม่มีรากจำได้แม่นยำว่า ครูภาษาอังกฤษที่คนไม่มีรากแสนรัก เคารพเคยสอนว่า จะพูดภาษาอะไรก็ให้ชัดเจน อย่าพูดปนกัน ไทยคำฝรั่งคำ อย่านึกว่าเท่...

 

       หันมามองตัวเอง ท่าจะจริงล่ะ... ภาษาอังกฤษไม่เข้มแข็ง ภาษาไทยก็อ่อนแอ  ภาษาจีนก็งู ๆ ปลา ๆ ไม่ได้การแล้วต้องขอลาไปฝึกฝนกระบวนยุทธ์ใหม่ ไม่อยากเป็น ลูกครึ่งลูกค่อน  ที่เอาดีไม่ได้สักอย่างเดียว.

 

 อ้างอิง : Knowles,M.S. The ModernPractice of Adult Education. New York : Cambridge University Press,1980

 

หมายเลขบันทึก: 175657เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2008 09:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 21:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (62)

สวัสดีค่ะน้องโก๊ะตาซื่อ.....

  • ครูอ้อย ก็มีเชื้อจีนทางแม่  คุณแม่มีคุณก๋ง
  • ครูอ้อย พูดได้เล็กน้อย แบบเข้าใจที่คนจีนพูดบ้าง  จีนกลาง  แต่คุณแม่ไม่ได้พาพูด  เพียงแต่ครูอ้อยสนใจ  และสนุกกับการพูดได้เล็กน้อย
  • ครูอ้อย ไม่ใช่ลูกครึ่ง  เขาบอกว่า  ลูกครึ่ง  สมองปราชญ์เปรื่อง  เรียนเก่ง  จริงไหมคะ
  • น้องโก๊ะ  เขียนเก่งจัง  มีการนำไปใช้ได้ด้วย  ครูอ้อยขอลอกด้วยนะคะ 

พี่อ้อยคะ

  • บันทึกนี้โก๊ะตั้งใจจะบันทึกเกี่ยวกับ แนวคิด/ทบ.ที่เรียนมาจากคณะครุศาสตร์ค่ะ  แต่ไม่แน่ใจว่าจะเขียนอย่างไรให้เข้าใจง่าย อ่านง่าย
  • พอเห็นพี่อ้อยให้ความเห็นเลยรีบเพิ่มเติมแหล่งอ้างอิงค่ะ นำไปใช้ได้เลย
  • ลูกครึ่ง 2 คนมาเจอกัน ต้องคุยภาษาต่างประเทศ (จีน) กันหน่อยแล้ว...นะคะ...
  • ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีค่ะ พี่ คนไม่มีราก
  • เป็นคนไทยเต็มตัว แต่บังเอิญมาเป็นสะใภ้คนจีน(จีนแคระ)ค่ะ เวลารวมญาติ เช่นไหว้เจ้า เชงเม้ง เค้าก็พูดภาษาจีนกัน เราซิมึนตึ๊บเลย
  • แต่ก็เรียนรู้จากแม่ได้มาเป็นบางคำค่ะ ว่าจะพยายามต่อไป
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับคนไม่มีราก

ปลายเดือน มีนาคม ศกนี้ ไปที่ชุมชนเผ่าตองเหลือง ต.แม่ขะนิง ที่นี่พูดภาษา มราบรี ชุมชนใกล้เคียงพูดม้ง และเมี้ยน เมื่อวานนี้ไปที่บ้านหลับมืนพรวน พูดภาษา พรวน และลาว ได้ฟังเขาพูด สำเนียงพอฟังเข้าใจ หากได้เรียนรู้ทุ่มเทเวลาจะพูดได้

ว่ากันไปแล้วเกี่ยวกับ " ภาษา " บรรพบุรษหากไม่พยายามจรรโลงกันไว้ จะหายไปง่าย ๆ ที่สำคัญ ความรู้ที่มีอยู่ในผู้สูงวัยไม่อาจถ่ายทอดจากรุ่นเก๋ามารุ่นเยาว์วัยได้สมบูรณ์แน่ ภาษาภาคเหนือเขามักพูดว่า " บ่แน่นอกแน่นใจ "

การได้ใช้ภาษาที่จนเองคุ้นเคยถนัดเป็นผมดี ทำให้ถ่ายทอดเรื่องราวได้มากกว่าภาษาที่ไม่ถนัด ผมมีโอกาสได้อยู่ดูแลผู้สนใจภาษาไทยเดินทางไกลจากฝรั่งเศสไป จ.น่าน จากที่รู้ไม่มากมายเมื่อลงพื้นที่มาเพียง ๒๐ วัน ( ระหว่าง ๒๐ พ.ค.๒๕๕๐ - ๑๐ มิ.ย.๒๕๕๐ )ผู้เรียนสามารถรู้หลักภาษาไทย อ่านและพูดได้คล่องแคล่ว เบื้องต้นเห็นว่าทุ่มเทเอาใจใส่ในด้านทฤษฎ ๒ ชั่วโมง ปฏิบัติ ๓ ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา ยังทำการบ้านนอกเวลาด้วยความมั่งมั่นอีก

ผมก็พูดจีนไม่ได้ ได้แต่ หว่ออ้ายหนี่ ...อยู่คำเดียว ฮา...ภาษาอังกฤษ ก็อ่อน คืนอาจารย์ไปหมดแหล่ว แวะมาอ่านครับได้ความรู้มากมายเลยครับ

สวัสดีค่ะคุณครูมะขามอ่อน

  • สะใภ้จีนจะได้เปรียบค่ะ เพราะมีคุณแม่สามีคอยเข้มงวดให้พูด
  • เป็นกำลังใจค่ะ ปัจจุบันเขาว่ากันว่า คนต้องรู้ภาษาอย่างน้อย 3 ภาษาค่ะ จึงจะอยู่ได้ในสังคมโลกาภิวัตน์
  • ขอบคุณค่ที่มาเยี่ยม

สวัสดีค่ะคุณผ่านมาอ่าน

  • ขอโทษนะคะตอบข้ามไป มีปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อยค่ะ
  • เรียนสาขาการศึกษานอกระบบโรงเรียนค่ะ อยู่สาขาเดียวกันหรือเปล่าคะนี่
  • ผู้ใหญ่จะเรียนได้ดีเขาต้องอยากเรียนและรู้ว่าเรียนแล้วนำไปใช้ประโยชน์ได้ นอกจากนี้ยังต้องเกี่ยวข้องกับประสบการณ์เดิมค่ะ การเรียนรู้จึงจะประสบผลดี
  • ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณธนู

  • " บ่แน่นอกแน่นใจ " เห็นภาพชัดเจนมาก ๆ เลยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะที่มาให้ความรู้

สวัสดีค่ะคุณกวินทรากร

  • แค่ หว๋ออ้ายหนี่ ก็เดินทางได้ทั่วโลกแล้วค่ะ  เพราะคนจีนมีอยู่ทั่วโลกเลย
  • การเป็นลูกศิษย์ที่ดีนั้น เมื่อเรียนแล้วต้องคืนความรู้ให้คุณครูบ้างค่ะ ไม่งั้นคุณครูก็ไม่มีสอนต่อสิคะ
  •  Blog นี้พยายามนำแนวคิด/ทบ.ที่เรียนมาประยุกต์ไว้น่ะค่ะ เผื่อเป็นการเผยแพร่และเกิดประโยชน์แก่ผู้อื่น
  • ขอบคุณค่ะ/โจ่ยเสี่ย/เซี่ยเซี่ยหนี่/Thank you....
  • หนีห่าวค่ะ คุณคนไม่มีราก
  • ภาษาจีน มีหลายเชื้อสาย ที่บ้านพ่อ (เตี่ย)เคยสอนให้พี่ๆของครูนัดเรียนภาษาจีนตอนเย็น   แต่พอมาถึงครูนัด พ่อก็หยุดสอน เพราะพวกเรามีการบ้านมาก  แล้วเตี่ยก็มาให้ลูกๆสอนเขียนภาษาไทยให้   จำได้ว่า ที่ครูนัดชอบเรียนวิชาภาษาไทย   เนื่องจาก กลับมาที่บ้าน เตี่ยจะให้ครูนัดเขียนภาษาไทยให้ดู   ให้ครูนัดก็อ่านเรื่อง พ่อหลี พี่หนูหล่อให้เตี่ยฟัง  แล้วเตี่ยก็ฝึกเขียนภาษาไทยไปกับครูนัดด้วย  จนเตี่ยอ่านและเขียนภาษาไทยได้ (อ่านเก่งค่ะ เตี่ยเรียนเองจากเด็กป.1 คือครูนัดนี่แหละ) เตี่ยไม่เคยเรียนภาษาไทย เพราะเป็นจีนที่อพยพมาจากประเทศจีน   เอาไว้ว่างๆ ครูนัดจะเล่าเรื่องราวความลำบากของเตีย  ที่เตี่ยเคยเล่าให้ครูนัดฟัง  เขียนนิยายได้เลยค่ะ
  •  ตัวครูนัด ได้ฝึกแต่เขียนชื่อตัวเองเป็นภาษาจีนเท่านั้น  ที่บ้านเป็น จีนแคะผสมแต้จิ๋ว ทั้งกินข้าว เจี๊ยะปึ่ง   ซิคผ่อน พูดได้แค่นี้แหละ

สวัสดี คนไม่มีราก

  • ได้รับความรู้ที่นำเสนอ ครับ ภาษายังก็สำคัญ ถ้ามันเป็นวิธีการไปสู่เป้าหมายที่ชัดเจน
  • ถึงเก่งภาษา แต่ไม่อ่านวารสาร นิตยสารต่างประเทศ Fiction Non-Fiction
  • ภาษาไม่ใช่เพียงเครื่องมือสื่อสารอย่างเดียว หรือสร้างโอกาสอย่างเดียว
  • ผมคิดของผมอย่างนี้ ครับ ผิด และ/หรือถูก ไม่ว่ากันนะครับ

เข้ามาเรียนรู้ครับน้องสาว ที่บ้านก็มีเชื้อสายจีนทั้งสองฝ่ายครับ ตอนคุณแม่(ยาย)ยังมีชีวิตอยู่ก็ทำพิธีไหว้เจ้าทุกปี ไปเช็งเม้งทุกปี มาหยุดเอาตอนที่ป่วยนอนแต่บนเตียงนี่แหละ ไม่ได้ทำเลย เมื่อท่านเสียไปก็เลยไม่มีใครพาทำ ญาติ พี่น้องที่ทำเป็นก็อยู่โน้นนนน ตรัง..โน้นแน่ะ

หนีฮ่าวค่ะ อ.นัด

  • คุณพ่ออ.นัดเก่งมากนะคะ และเป็นผู้มีวิสัยทัศน์มาก ๆ เลยค่ะ ได้ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ (มิน่าเล่าลูกสาวจึงเก่งขนาดนี้) ว่างเขียนเล่าเกี่ยวกับคุณพ่อนะคะ...อยากอ่านค่ะ
  • เตี่ยคนไม่มีรากมาจากเมืองจีนตั้งแต่อายุ 15 ปี ค่ะ ไม่ได้เรียนหนังสือเลย แต่ให้ลูกเรียนค่ะ ส่วนแม่เป็นลูกจีนที่เกิดเมืองไทย ไม่ได้เรียนหนังสือเช่นกัน แต่เก่งมากค่ะ ชอบฟัง และเล่าเรื่องเป็นนิทานให้ลูกฟังทุกคืน
  • ครูนัดโชคดีนะคะ ได้ทั้งจีนแคะ แต้จิ๋ว จีนกลาง ภาษาไทย แถมยังเชี่ยวชาญ ภาษามืออีกด้วย...โห..ไม่ธรรมดา
  • ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยม
  • ไจ้เจี้ยน...
  • ขอโทษค่ะ ... ที่จะบอกคือ คุณพ่อ อ.นัดเก่งทั้งภาษาจีนและภาษาไทย ค่ะ กลายเป็นภาษาอังกฤษไปได้...ขอโทษค่ะ

สวัสดีค่ะ อ.วิช

  • ไม่ว่าเลยค่ะ ความเห็นของแต่ละท่านคนไม่มีรากเคารพเสมอ...ถึงความเห็นแตกต่าง...แต่ความสัมพันธ์คงเดิมค่ะ ยังคงเป็นเพื่อน พี่ น้องใน G2K
  • ความจริงประเด็นที่นำเสนออาจไม่ตรงกับสิ่งที่ตั้งใจบอกนักค่ะ ต้องการนำเสนอแนวคิด/ทฤษฎี เรื่องการเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ มากกว่า เผอิญมีเหตุการณ์ของหลานชายก็เลยโยงกันเข้ามา
  • ความเห็นส่วนตัว คือ ภาษาสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือในการสื่อสารแล้ว ยังแสดงถึงความเป็นตัวตน,อัตลักษณ์ของคน มากกว่าที่จะเป็นเครื่องมือนำไปสู่โอกาสเท่านั้น
  • สนุกดีค่ะ มองหลาย ๆ มุม ปัญญาจะได้แตกฉานค่ะ
  • ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ชายบางทรายที่เคารพ

  • ดีใจค่ะ มีเชื้อสายจีนเหมือนพี่บางทรายเลย
  •  Blog นี้ น้องคนไม่มีรากตั้งใจจะนำเสนอเกี่ยวแนวคิด/ทบ.ที่เรียนมาน่ะค่ะ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และอาจจะเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นในประเด็นที่ต้องการนำไปใช้อ้างอิงค่ะ
  • แต่...ไม่รู้จะเขียนอย่างไรให้มันดูสนุก มีสาระ และได้ประโยชน์ไปพร้อม ๆ กัน เพราะเขียนแบบวิชาการก็จะทำให้คนเบื่อไม่อยากอ่าน ..เมื่อไม่อยากอ่าน.. ก็ทำให้พลาดโอกาสบางอย่างไป ในฐานะผู้ส่งสารจึงคิดหนักและทดลองดูว่าเขียนแบบนี้แล้วจะมีผลตอบรับอย่างไรค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ และช่วยติชมได้นะคะ

สวัสดีครับ

ตอนแรกก็งงๆ นิดหน่อยกับศัพท์เทคนิค "Andragogy" ผมเองก็ไม่เคยรู้จัก Malcolm Knowles แหะๆ

เคยเห็นผู้ใหญ่เรียนดนตรี ไปได้ไม่กี่น้ำ เลิกเสียมากกว่าครึ่ง

ตีว่า 1 ใน 10 คนเท่านั้นเอง ที่เรียนได้ตลอดรอดฝั่ง

แต่ที่เรียนภาษาอังกฤษ (เพื่อใช้งาน) เรียนได้ดี ราว 8 ใน 10

ที่เหลืออีก 2 ร่อแร่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกๆ

ผู้ใหญ่มักจะสงสัย ถามมากกว่าเด็ก

แต่จะติดกับความคิดเดิมๆ

ไม่ค่อยจะรับแนวทางใหม่ๆ ฯลฯ

เป็นบันทึกที่น่าสนใจครับ จะได้นำไปใช้บ้าง ;)

สวัสดีค่ะคุณธ.วัชชัย

  • ขอบคุณค่ะที่สนใจอ่านและจะนำไปใช้  ความจริงมันยังออกจะมีกลิ่นอายของวิชาการมากเกินไปสักนิด...ในความคิดของตัวเองนะคะ
  • เป็นบันทึกที่ต้องการนำเสนอแนวคิด/ทบ. เรื่องการเรียนรู้ของผุ้ใหญ่ สร้างกระบวนการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ให้สัมฤทธิ์ผลเพราะสิ่งทีเรียนคือ เรื่องราวเกี่ยวกับการศึกษานอกระบบโรงเรียน ที่โดยมากแล้วจะมุ่งเก็บตกผู้ที่พ้นจากการเรียนในโรงเรียนหรือพลาดจากการศึกษาในระบบโรงเรียนค่ะ
  • ยากเหมือนกันนะคะ...เคยคิดว่าเพราะอะไร...เมื่อนักวิชาการพูดมักจะมีคนเบ้หน้า...ทำให้ง่าย ๆ สนุก ๆ เหมือนฟังนิทานได้ไหม...จะได้สามารถส่งสารอันเป็นแก่นสาระของสิ่งนั้นได้จริง ๆ โดยไม่เครียด ไม่เบื่อ และไม่ออกนอกทาง...

สวัสดีค่ะครูวัลภา

หนิงไม่ใช่คนจีน ไม่มีเชื้อสายเลยค่ะ  แต่ชอบมีคนเข้าใจว่าเป็นลูกครึ่งไทย-จีน  อยู่เรื่อยเลยอ่ะค่ะ  บางทีก็เรียกหมวย(ตอนสาวๆ)  บางทีก็เรียกเจ้  ดูตาเราก็ไม่เล็กนา  สงสัยเพราะขาว  

ทุกเทศกาลของจีน  มักมีคนถามเสมอว่า ที่บ้านไม่ไหว้หรอ  ไม่ไปเชงเม้งหรอ  มีขนมเข่งกินไหม  อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ

ต้องอธิบายอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นลาว  อิอิ  มีแต่บุญข้าวปุ้น บุญข้าวจี่หละ

ภาษาจีนก็ชอบนะคะ  ชอบ เจี๊ยะฮ่อ  อี๋ๆ  อิอิ

สวัสดีค่ะคุณครู

ที่บ้านพ่อพูดจีนกลางเก่งเหมือนเจ้าของภาษาค่ะ แต่ลูกๆเคยมีครูพิเศษมาสอนจีนกลางที่บ้าน แต่พออายุมากขึ้น ทิ้งห่างไม่ได้ใช้ก็ลืมค่ะ ตอนนี้ถ้าไปเมืองจีนช่วยเพื่อนเจรจาต่อรองสินค้าได้ หาของกินได้แต่ถ้าพูดยาวๆก็งงแล้วค่ะ จีนแต้จิ๋วฟังออกตอบได้ แต่เวลาอาม่าถาม แต่จะตอบเป็นจีนปนอังกฤษ สงสัยแก่แล้วสมองสับสนค่ะ อาม่าบ่นและหัวเราะอย่างเดียว :)

ภาษาถ้าได้ใช้ประจำ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมช่วย เป็นเร็วแน่นอนค่ะ มาสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ฝึกต่อค่ะ จะไปฝึกฝนเหมือนกันค่ะ แล้วมาคุยกันนะคะ..ไจ้เจี้ยน

สวัสดีค่ะคุณหนิง

  • ไทย-ลาวก็ล้วนเป็นพี่น้องกัน
  • เชื้อชาติอะไร เกิดเมืองไทย ที่นี่ก็เป็นมาตุภูมิของเราจริงไหมคะ
  • ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยม

สวัสดีค่ะคุณ Alinlux

  • อาม่าของคนไม่มีราก เสียไปตั้งแต่ตอนเด็กๆ จำได้แต่ว่าอาม่าใจดี พูดแต่ภาษาจีน ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ แต่จะชอบเข้าไปเซ้าซี้ขอเงินกินขนม ก็จะพูดกับท่านว่า...อาม่าอั่วเหมย โหยวเฉียน...พร้อมแบมือ...ท่านก็จะหยิบเงินให้ค่ะ...
  • ภาษาเป็นเรื่องของ Skill ต้องได้ใช้บ่อย ๆ และอยู่ในบริบทนั้นยิ่งจะเรียนรู้ได้ดี ได้เร็ว ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเด็กไทยเรียนภาษาอังกฤษตั้งเกือบ 20 ปี กว่าจะจบมหาวิทยาลัย แต่ไม่กล้าพูดเลย..
  • ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะแล้วมาแลกเปลี่ยนความรุ้กันอีกนะคะ

มาเยี่ยม...

อ่านแล้วเป็นวิชาการดีนะครับ

ทุกวันนี้แม้ภาษาท้องถิ่นใต้เอง เด็กยุคใหม่ก็เริ่มพูดไม่ได้แล้วละ ฮา ๆ เอิก ๆ

สวัสดีค่ะ อ.ยูมิ

  • ฮ่า ฮ่า เอิ๊ก ... ไม่ถือว่าเป็นคำชมค่ะ
  • เพราะไม่อยากให้เป็นวิชาการ...แต่ทำไม...มันวิชาการก็ไม่ทราบ

สวัสดีครับ

ที่บ้านก็เป็นคนจีนแต้จิ๋วเหมือนกันครับ

พ่อแม่พูดได้หมด

แต่ตัวผมเองไม่ได้เลย พูดแทบจะไม่เป้นประโยคเลย

อยากหัดพูดให้ได้ครับ ต้องฝึกฝนมากๆครับ เผื่อได้ใช้ครับ

  • สวัสดีค่ะ คุณสิทธิรักษ์
  • เขี่ยง...ที่แปลว่า เก่ง ใช่ไหมคะ 
  • ไม่ใช่ เขียง นะคะ  อิ อิ อิ ...

สวัสดีค่ะ คุณ Head of art

  • หัดไว้ค่ะ...ดี...อย่างน้อยขอเงินด้วยภาษาจีนได้คุณพ่อคุณแม่ต้องปลื้มใจแน่เลย...อิ อิ อิ
  • พูด/ฝึกเป็นคำๆ ก่อนก็ได้ค่ะ พี่คนไม่มีรากเองก็ถูกฝึกเข้มตอนเรียมมัยมต้นแล้ว ... ตอนนี้ฟังได้ทุกคำ แต่พูดได้ 60 เปอร์เซ็นต์เอง ...
  • วิชา ความรู้ ทักษะอะไรก็แล้วแต่ฝึกไว้ต้องได้ใช้ประโยชน์สักวันค่ะ

สวัสดี คนไม่มีราก 
                 
ไม่ว่าจะเรียนภาษาไหนหรือเก่งสื่อสารภาษาดี หากไม่อ่านนิตยสาร วารสารต่างปะเทศ อ่าน FICTION หรือ NON-FICTION ก็ไร้...ไม่ทราบว่าผมคิดยังงี้ ผิดหรือถูก ก็ไม่รู้ เพียงภาษานำมาซึ่งปัจจัยชีวิตที่ดี ก็โอเค ครับ แต่คงไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิต

สวัสดี คนไม่มีราก
         
   ผมเขียนไปแล้ว ขออภัย ครับ

สวัสดีค่ะคุณครูวิช

  • ไม่เป็นไรค่ะ การแสดงความคิดเห็นซ้ำแบบเดิม เป็นการแสดงว่าคุณครูวิช เป็นผู้มีความคิดเห็นคงเส้นคงวา และมีหลักการไม่เปลี่ยนแปลงง่ายค่ะ...
  • คนไม่มีรากก็กคงต้องตอบเหมือนเดิม ตามประสาคนคงเส้นคงวา เหมือนกัน(แหะ แหะ..บางทีเขา Ficed Ideaหรือเปล่าคะ) ภาษาเป็นเครื่องมือค่ะ ส่วนเนื้อหา วิธีการ กระบวนการ กลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ในการทำงานและใช้ชีวิตต้องหาเอา ก็ตามที่คุณครูวิชว่า..อ่านหนังสือ อ่านนิตยสาร วารสารต่างประเทศ และต้องรู้ทันว่าอะไรเป็น Fiction Non-Fiction ต้องมีการวิเคราะห์แยกแยะเป็น ปรับเปลี่ยน ประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ ....
  • สรุปว่าคุณครูวิชคิดถูกแล้วค่ะ เห็นด้วยทุกประการเลยค่ะ 

หนีห่าวมะ, หว่อปู้ฉื้อจงกั๋วเหริน หว่อฉื้อไท้กั๋วเหริน ..หว่อเจี้ยว "ลี่จวิง"

..อิ อิ..พี่อ้วนไปเรียนมากำลังได้นิดหน่อยค่ะ..

..ครูจีนมาสอนให้ศึกษานิเทศก์..เพื่อจะได้รู้ไว้คุยกับคุณครู..ได้ค่ะ ได้ชื่อใหม่ด้วย

..เดี๋ยวนี้เป็นนโยบายของการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วที่ให้ภาษาจีนเป็นภาษาต่างประเทศภาษาที่สอง..ที่โรงเรียนสามารถเลือกสอนได้

..ชอบมากค่ะ..“จะพูดภาษาอะไรก็ให้ชัดเจน อย่าพูดปนกัน ไทยคำฝรั่งคำ อย่านึกว่าเท่ห์...”

..นึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวค่ะ..พระองค์ทรงเป็นห่วงมาก..ในเรื่องนี้..โดยเฉพาะการใช้ภาษาไทย..ซึ่งเป็นภาษาชาติ..อย่าพูดปนกัน ไทยคำฝรั่งคำ..

..เซี่ยะ..เซี่ยะ..(อิๆ ปนกันแล้ววว..)

สวัสดี คนไม่มีราก 
         ช่วงนี้ผมยังไม่ได้บันทึกอะไร ครับ แต่ก็ติดตาม งานเขียนของคนไม่มีรากเสมอ ครับ
              

มาแอบดู ค้าบ ถ้ารับสอนภาษาจีนขอสมัครเรียนเป็นคนแรก แลกกับการสอนแต่งกลอน...สนใจมั้ยครับ อิๆ

สวัสดีค่ะพี่อ้วนที่รัก

  • โห...นี่สิของจริง ...แปลว่าฉันไม่ใช่คนจีน เป็นคนไทย ชื่อลี่จวิง..อิ อิ ถูกไหมคะ
  • เรื่องมันพาไปค่ะ..ความจริงน้อง 12 จะนำเสนอแนวคิด/ทบ.ที่เรียนเกี่ยวกับการศึกษาผู้ใหญ่มากกว่าค่ะ แต่ถ้ามีแต่แก่นอย่างเดียวไม่มีกระพี้ เปลือกเสียบ้างเลยก็จะไม่น่าสนใจ
  • ขอบคุณค่ะที่พี่อ้วนเข้ามาเยี่ยม ช่วงนี้ยังยุ่งมากใช่ไหมคะ
  • รักษาสุขภาพนะคะ..เป็นห่วงค่ะ.

สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณครูวิช

  • บันทึกของคุณครูวิชมักจะมีสาระ...เต็มแน่นเลยเชียว...เขียนอีกนะคะจะตามไปอ่านค่ะ
  • ขอบคุณที่ติดตาม...ช่วยอ่านงานค่ะ...ยังต้องฝึกฝนอีกมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณกวินทรากร

  • ถ้าจะสอนภาษาจีนคนไม่มีรากจะรับคุณกวิน ฯ ป็นลูกศิษย์เป็นคนแรกเลยค่ะ
  • แลกกับการแต่งกลอนนี่...ต้องคิดหลาย ๆ รอบ...นะคะ คิดดีแล้วหรือจะรับคนไม่มีรากเป็นลูกศิษย์...คิดผิด คิดใหม่ พูดใหม่ได้ค่ะ...ให้โอกาสค่ะ...
  • ขอบคุณค่ะ...วันนี้เราคุยภาษาต่างประเทศกันจนเหนื่อยเลยนะคะ...555...เมื่อยมือ...
  • เดี๋ยวตามไปเยี่ยมบ้านคุณกวิน ฯ ค่ะ บันทึกใหม่แล้วใช่ไหมคะ แอบไปดูมาแล้วล่ะ.

 ที่บ้านเด็ก ๆ เชาไม่ยอมพูดภาษาจีนกันค่ะ  ไม่รู้อายอะไร แต่ก็ฟังได้  ส่วนภาษาเหนือนั้นก็ฟังได้แต่ไม่พูด ไม่รู้จะว่าไงค่ะ

ต้องขอบันทึกนี้ไปให้อ่านสักหน่อย จะได้รู้ว่า ภาษานั้นสำคัญอย่างไร

สวัสดีค่ะคุณแฟนเก่า

  • ขออนุญาตถามได้ไหมคะ แฟนเก่าของใครน้า...คงไม่ใช่แฟนเก่าคนไม่มีรากนะคะ เพราะไม่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงน่ะค่ะ เอ๊ะ..หรือจะมีนะ แต่ไม่รู้ตัว
  • ยังไงก้ขอบคุณนะคะ ที่คอยตามมาอ่าน มาให้กำลังใจเรื่อยเลย เหมือนคุ้นเคยกันมานานแล้ว ... ตกลงรับเป็นแฟนนะคะ..อิ อิ อิ ... คนไม่มีแฟนก็..โก๊ะ ๆ อย่างนี้แหละค่ะ
  • สวัสดีค่ะ..เห็นหัวข้อก็รี่เข้ามาอ่านเลย
  • ตรงใจตัวเอง..ที่เสียดายอยู่ไม่หายที่ไม่ได้รับเรื่องภาษาจีนมาสักเท่าไร
  • เป็นเชื้อสายคนจีนที่รู้คำแต้จิ๋วได้เล็กๆ น้อยๆ เขียนจีนกลางได้แต่คำว่าแม่ตัวเดียว
  • มาคิดย้อนหลังแล้ว อาจเป็นเพราะอยู่ในยุคที่รู้สึกว่าภาษาจีนไม่เท่ด้วยกระมัง
  • ตอนนี้ก็เลย รณรงค์ให้เด็กๆ พูดภาษาถิ่นของตัวเอง  เด็กบางคนพูดคำเมืองไม่ได้ ทั้งๆที่ครอบครัวไม่ใช่คนภาคกลาง  แต่เด็กบางคนก็พูดแต่ภาษายอง ไม่ยอมพูดภาษากลางอีก มีหลายแบบค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกที่ได้รับประโยชน์ทั้งในเชิงวิชาการและ แฝงอารมณ์สนุกสนานไปด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • เห็นไหมคะ มีแนวร่วมเยอะนะนี่
  • ภาษาเป็นเครื่องมือค่ะ ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมาก
  • แล้วเราค่อย ๆ แลกเปลี่ยนกันนะคะ

สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง สดชื่นแจ่มใสครับ

คณสิทธิรักษ์ค่ะ

  • สุขสันต์วันสงกรานต์เช่นกันค่ะ
  • มีความสุขและสุขภาพแข็งแรง และเป็นกำลังสำคัญในการรวบรวม คนดี นะคะ
  • ขอบคุณค่ะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

  • ตามมา post ให้ค่ะ เห็นบอกว่าไม่เห็นภาพ ใส่ภาพเป็นแล้วค่ะ 555+
  • ทำไงจะให้เขาเปลี่ยนหมวก เด็กๆ เรียนลูกเสือ ไม่ประสาจะเอาอย่าง

ขอบคุณค่ะคุณ Mosisawa

  • เป็นภาพที่ไม่น่าดูเลยนะคะ
  • ขอบคุณค่ะที่ทำให้เห็นภาพประกอบคำบรรยาย
  • กลับมาแล้วหรอ เหนื่อยค่ะ
  • พี่ใช้ภาษาเก่งขนาดนี้ ยังถล่มตัวอีก เดี๋ยวก็เป็นเซียนหรอกค่ะ พี่ คนไม่มีราก
  • เรียก โมจิก็ได้ค่ะ น้องหน้าหวานเรียกบ่อย
  • คุณโมจิ
  • ถ้าเหนื่อยก็ต้องพักนะคะ..ไม่ต้องตอบหรอกค่ะ...
  • การใช้ภาษาต้องอ่านมากค่ะ...ไม่ได้ถ่อมตัวแต่..ความจริงยิ่งพูดมากก็จะยิ่ง...หลงประเด็นนะคะ...ในบางครั้ง
  • คำพูดควรพินิจพิเคราะห์..ใคร่ครวญก่อน..จึงจะสื่อให้คนอื่นได้ง่ายขึ้นค่ะ
  • รักษาตัวนะคะ..ให้หายเป็นปกติโดยเร็วค่ะ
  • ครูปูสิคะ ต้องใคร่ครวญทั้งสองภาษาเลยค่ะ
  • ประกอบกับเป็นคุณครูจอมฮา เลยมักจะต้องเล่นคำสำนวน คาราโอเกะ ซิกแซกอยู่ตลอด เพื่อสร้างสเน่ห์ระหว่างเรียน
  • เรื่องไทยคำ ฝรั่งคำหน่ะถนัดนักค่ะ อิอิ  เพราะเป็นเทคนิคการประชดประชัน ให้เด็กได้เชื่อมโยง และฝึกการคิดสลับค่ะ ต่อไปจะพยายามระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เด็กสับสนค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ
  • คิดฮอดแต๊กา...
  • (คอมมีปัญหามากค่ะ อ่านได้แต่เข้าระบบไม่ค่อยได้ค่ะ แต่จะพยายามต่อไปค่ะ)

   

คุณครูปูคะ

  • ตามมาอ่านก็ไม่บอกกล่าวกัน ขอโทษค่ะที่กว่าจะตอบก็ข้ามไปเสียหลายวัน อย่าโกระนะคะ
  • ความจริงทึ่คุณครูปูทำเป็นการสร้างสีสรรค์ เป็นวิธีการให้เกิดความอยากเรียน มีเป้าหมายเพื่อให้การเรียนรู้ของเด็กสัมฤทธิ์ผล ไม่ใช่การใช้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
  • ...ก็ไม่มีความผิดใด ๆ ค่ะ
  • คิดถึงเช่นกัน ขอบคุณที่คอยส่งน้ำส่งข้าวนะคะ..^_^

 

  • โอ้โห ดูพูดเข้าดิ่ "ส่งข้าวส่งน้ำ" น่าจ๋งจ๋านจัง
  • กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
  • เลยส่งนี่มาปลอบใจ อิอิ

  • ครูปูคะ
  • นี่ขนมอาไรค้า...น่าทานนะ
  • ทานแล้วจะอ้วนไหมคะ...
  • ไม่สนแล้ว...อดจาย..ไม่ไหวค่ะ
  • อ้วนก็อ้วน (วะ)...ยอม....^_^

ชีวิตว่าง ๆ ก็ดีนะครับ.....ผมมีเชื้อจีนเหมือนกัน แต่ที่บ้านไม่มีใครพูดจีนกันเลย

คิดถึง อยากคุยกับคนไม่มีรากครับ คุยทางโทรศัพท์หรือทาง msn ได้ไหมครับ  วันหยุดทำอะไรบ้างครับ ...

ทำไมใช้ชื่อ คนไม่มีราก ครับ หรือ ชอบอิสระเสรี จนไม่ต้องการยึดติดกับอะไร และทำไมไม่ใช้ชื่อจริงครับ  ชื่อจริงน่าจะเพราะและหวาน ๆ ใจดี เหมือนที่คุณเขียนแน่

แล้วจะมาเยี่ยมใหม่ครับ...

สวัสดีค่ะคุณใบโพธิ์

เรียกชื่อใหม่แล้ว...

ความจริงเรื่องชื่อ...สำคัญไฉน...เราพูดคุยกัน...ก็เพราะต้องการแลกเปลี่ยนความคิด...ไม่ใช่หรือคะ

เข้ามาคุยในนี้ได้ค่ะ แต่คนไม่มีรากคงไม่สะดวกที่จะคุยทางอื่นค่ะ

                       (^__^)

สวัสดีค่ะคุณวิวัฒน์

เท่าที่ได้ทราบจากพี่ ๆ ที่เป็นศึกษานิเทศน์ ในจ.เชียงใหม่ ได้มีการพูดถึงประเด็น...การใช้...คำเมือง...อยู่ และก็ได้ข้อสรุปว่า....เด็ก ๆ ก็ยังใช้ คำเมือง ในโรงเรียนได้ต่อไปค่ะ

ในฐานะผู้ใหญ่อย่างเรา...คงต้องช่วยก้นนะคะ  เพราะอัตลักษณ์ของเรา ส่วนหนึ่งก็คือ...ภาษา...นี่เอง

ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้

สวัสดีค่ะ

มาอ่านบทความนี้บ้าง ที่บ้านคุณแม่บอกว่ามีคุณตามีเชื้อจีนค่ะ

เพลงประกอบบทความของพี่โหลน่ารักจัง

ฟังสบาย ... เสียงคนร้องก็น่ารัก

เป็นเวปที่มีสาระและยังมีเพลงดี ๆ เพราะให้ฟังด้วย

อ้อมจะบอกเพื่อน ๆให้มาอ่านนะคะ

สงสัยนิดหน่อยว่าทำไมพี่โหลใช้ชื่อว่า...คนไม่มีราก...ล่ะคะ แปลว่าอะ-ไรคะ

น้องอ้อมคะ

ดีใจที่น้องตามมาเยี่ยมหลายบันทึกจังค่ะ อย่าแนะนำเพื่อนมากเลย สาระยังน้อยมาก รอไปฟังพวกพี่จัดสัมมนาของคณะดีกว่า...ที่เขียนนี่ย่อมาก ๆ เพราะเป็นบันทึกคล้ายจะบันทึกเป็นส่วนตัว อาจใช้อ้างอิงไม่ค่อยได้ค่ะ..

                (^__^)

  • สวัสดีค่ะ
  • She ได้เปรียบมากเลยเรื่องภาษาเนี่ย
  • พ่อกับแม่เป็นลูกครึ่ง คือ จีนแคระ+ไทย และ จีนแต้จิ๋ว+ ลาวโซ่ง
  • ลูกเป็น จปล คือ จีนปนลาว เขาว่าจะสวยผิดปกติด้วย อิอิ
  • ต่อมาลูกได้เรียนภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสอีก
  • แถมไปทำงานที่ จ. มหาสารคามตั้ง 5 ปี
  • ไม่อยาก said  เลยว่าได้กี่ภาษา
  • แต้เน้นภาษาไทยให้ชัดเจน อ่านถูก เขียนถูก  เห็นถ้าจะสำคัญที่สุดนะคะ

พี่วัลภาคะ.คงเหมือนแอ๊วเหมือนกันค่ะ..

พ่อกะแม่พูดภาษาเขมร ส่วยได้นะคะ..แต่แอ๊วกะพี่ๆ..พูดไม่เป็นแต่ก็ยังดีที่ฟังออก..คงเพราะได้ย้ายตามพ่อไปหลายจังหวัดตั้งแต่เล็กมั๊งคะ..หรือไงก็ไม่ทราบ.น่าเสียดายค่ะ..ไม่งั้นจะได้กรอกความสามารถทางภาษาไปได้อีกสองภาษาแล้ว..อิอิ

พี่วัลภาสบายดีนะคะ.คิดถึงค่ะ..^^

เรียนภาษาจีนกับเจ้าของภาษา

เรียนเดี่ยว หรือกลุ่ม ที่บ้านท่าน

สามารถจัดกลุ่ม และเลือกเวลาเรียนได้

เรียนเดี่ยวชั่วโมงละ 200 บาท/คน

เรียน(3คน)ชั่วโมงละ 150 บาท/คน

เรียนกลุ่ม(5-7คน)ชั่วโมงละ 100 บาท/คน

คอร์สละ 20 ชั่วโมง ราคา 3,000 บาท/คน

เรียนได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 21.00 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

โทรศัพท์ : 02-542-2670 , 085-517-8827

MSN : thailand_09@hotmail.com

กษัตรย์ไทยไม่มีเชื้อจีน เลิกอ้างได้แล้ว

1. กษัตรย์ไทยไม่มีเชื้อจีน เลิกอ้างได้แล้ว

คนชั้นผู้นำในสมัยอยุธยาส่วนใหญ่เป็นคนไตจากภูเขาอัลไต และมีคนชั้นนำกลุ่มหนึ่งเป็นลูกผสมระหว่งคนขาว นั้นคือลูกผสมระหว่างคนไตคนผิวขาวกับมอญขาว คือ พระยาโกษราปาน เช่น มี 100 คน แต่มี 1 คนจาก 100 คนไปแต่งออกนอกเชื้อชาติ เช่น บ้างคนแต่งกับคนจีน หรือบางคนไปแต่งกับเปอร์เซีย แล้วคนจีนกับเปอร์เซียเป็นพ่อแม่ของคนชั้นนำส่วนใหญ่สมัยอยุธยาไหม เหมือนบารักโอบามา เป็นลูกครึ่งฝรั่งกับคนผิวดำแอฟริกา คือ มีฝรั่ง 1 คนจาก 100 คนไปแต่งกับคนผิวดำจากนั้นมีลูกครึ่งคนดำคนขาวคือโอบามา ซึ่งต่อมาเป็นผู้นำแอฟริกา แล้วไปผิวดำแอฟริกาที่เป็นพ่อโอบามาเป็นต้นตระกูลฝรั่งผิวขาวส่วนใหญ่ไหม ก็เปล่าเลย พ่อพระเจ้าตากสินที่เป้นจีนก็เหมือนกัน ไม่ใช่พ่อแม่ของคนชั้นนำส่วนใหญ่ชนชั้นนำผิวขาวที่เป็นลูกหลานคนไตกับคนมอญขาวเลย และพระเจ้าตากสินกับครอบครัวถูกฆ่าล้างโครตหมด โดยคนชั้นนำส่วนใหญ่ที่เป็นลูกหลานเชื้่อสายผสมระหว่างคนไตกับมอญขาวที่ไม่มีการแต่งงานกับคนจีน กษัตรย์ไทยมีลูกครึ่งอยู่เพียงคนเดียวที่ไม่มีลูกหลานสืบพันธ์ในรุ่นต่อมา กษัตรย์ไทยรุ่นต่อมาเป็นลูกผสมคนมอญขาวกับคนที่มีเชือผิวขาวจากคนไตภูเขาอัลไต จะเห็นว่าในหลวงของไทยเราท่านไม่เคยทำประเพณีจีนแต่อย่างใดเพราะต้นตระกูลกษัตรย์ไทยไม่มีเชืื้อสายจีน คนจีนไม่ใช่สายเลือดของกษัตรย์ แต่คนเชื้อจีนชอบหยิบยกมาพูดเพราะเรื่องจริงคนจีนอพยพถูกรัฐบาลไทยบังคับให้เลิกพูดภาษาจีน

2. คนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ผิวดำ ไม่ขาว เพราะคนจีนแต่งงานกับคนดำ ที่ไม่เชื้อผิวขาวของคนไตภูเขอัญไตหรือมอญเขมรขาว

3. คนเรียนเก่งของไทยไม่มีเชื้อจีน เราเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพญาไท เพื่อนเราหลายคนเป็นคนขาวมากอมชมพู เป็นคนเรียนเก่งมาก หน้าตาไม่เหมือนคนทั้งประเทศ และไม่ใช่คนเชื้อสายจีนแต่อย่างใด เรื่องจริงเป็นคนเชื้อสายที่มียีนส์ขาวจากคนไตภูเขาอัลไตกับมอญเขมรขาว เพื่อนสนิทเป็นคนขาวมาก มากว่ายิ่งกว่าผู้หญิงจีนในไทย เขามีแม่เป็นคนไทยผิวขาวเหลือง ไม่คล้ำและไม่ใช่คนเชื้อจีนแต่งานกับพม่าขาว และเรียนเก่งมาก ทำงานเป็นนักแปล

4. คนเหนือผิวขาวระัดบน้ำนม แต่เป็นคนกลุ่มน้อย ตอนเรียนที่จุฬา มีเพื่อนเป็นคนเหนือหนึ่งคน เขาผิวขาวระดับน้ำนม ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนเชื้อชาติไตตัวจริงอย่างภูเขาอัลไตที่ยังไม่ผสมพันธ์กับคนดำพื้นเมือง แต่เป็นคนกลุ่มน้อยของชาติ

5. บริเวณประเทศไทยที่มีคนเชื้อสายจีน หลายๆ จุดไม่ใช่ประเทศไทยเดิมแต่เป็นเมืองขึนของสยาม เช่น ภาคใต้ภูเก็ตเรื่องจริงเป็นดินแดนขยายของสยาม คนจีนไม่ได้แต่งงานกับผู้หยิงไทยโดยสายเลือดแต่งงานกับคนพื้่นเมืองที่ถูกทำให้กลายเป็นไทย ผู็หยิงเหนือที่มีผิวขาวมาก ๆที่มีเชื้อสายคนไตจากภูเขาอัลไตไม่เคยแต่งงานกับผู้ชายจีน

คนไร้การศึกษาฝันอยากเป็นจีน แต่คนมีการศึกษาต้องการมีสายเลือดเป็นคนไตจากภูเขาอัลไตซึ่งขาวเป็นน้ำนม ขาวยิ่งกว่าคนจีนที่มีผิวเหลืองและตัวเตี้ยสั้นเตอะ

คนจีนโดยประวัติศาสตร์ไม่เคยปกครองคนผิวดำ แต่คนไตจากภูเขาอัลไต คนมอญ เขมรขาวล้วนเป็นผิวขาวจากตอนเหนือที่รบชนะคนผิวดำทางตอนใต้และปกครองคนผิวดำ และคนจีนแท้ๆ ในไทยก็เรียนไม่เก่ง สอบเข้ามหาลัยปิดไม่ได้ ต้องไปเรียนมหาลัยเอกชน

คนดำไม่ใช่คนไทยโดยสายเลือดแต่เป็นคนที่มีวัฒนธรรมไทย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท