วิธีการกำจัดความเครียด


วิธีการกำจัดความเครียด
12 วิธีการกำจัดความเครียดเมื่อเจ้าตูบต้องย้ายบ้านใหม่

บ้านหลังใหม่ของคุณสุดแสนจะสวยงามและน่าอยู่ ภรรยาและลูกน้อยของคุณกำลังมีความสุข ที่จะได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่ที่ว่านี้ แต่เดี๋ยวก่อน! คุณรู้สึกว่าอะไรๆ มันดูจะสวยสดงดงามเกินไปไหม นั่นไง! เจ้าเหมียวตัวแสบกำลังข่วนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ของคุณอยู่ โอ..ไม่นะ ! มันกำลังชิ๊งฉ่องใส่พรมเปอร์เซียราคาแพงของคุณด้วย ! อ๊ะ อ๊ะ มันกำลังมองหาที่ซ่อนตัว แล้วอะไรอีกล่ะนั่น มันอาจจะกำลังคิดแผนการหนีออกจากบ้านแสนสวยของคุณก็ได้

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ? ความจริงก็คือการย้ายบ้านทำให้แมวเกิดความเครียดได้ คุณอาจไม่ชอบนักหากได้รู้ว่าแมวมันติดที่อยู่ หรืออาณาเขตของมันมากยิ่งกว่าติดเจ้าของเสียอีก !!

ในทางกลับกันสุนัขดูจะติดเจ้าของมากกว่า และมีความเครียดเนื่องจากการย้ายที่อยู่น้อยกว่าด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่เครียดเลย ต่อไปนี้เป็นวิธีการกำจัดความเครียด ของสัตว์เลี้ยงเมื่อต้องพบความเปลี่ยนแปลงอย่างการย้ายบ้านค่ะ

สำหรับสุนัขและแมว

1. ยกเฟอร์นิเจอร์ให้มัน ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งเป็นพิเศษ คุณก็ต้องยกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นให้มันไป การปล่อยให้สัตว์เลี้ยงได้อยู่กับของที่มันชื่นชอบ หรือเคยชินเป็นพิเศษนั้นจะทำให้มันรู้สึกผ่อนคลายได้เร็วขึ้น สาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะว่าที่ของชิ้นนั้นมีกลิ่นของมันติดอยู่ เมื่อสุนัขหรือแมวได้กลิ่นที่มันคุ้นเคยมันก็จะรู้สึกสบายและผ่อนคลาย

2. สละเชิ้ตตัวเก่ง ทางหนึ่งที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงคุ้นเคยกับที่ใหม่เร็วขึ้น ก็คือทำให้ที่นั้นมีกลิ่นเหมือนคุณ โลกที่สัมผัสได้ด้วยกลิ่นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสัตว์ สัตว์จะรู้สึกผ่อนคลายหากได้กลิ่นสิ่งที่มันคุ้นเคยอยู่ทุกวัน ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เราหาทีเชิ้ตหรือเสื้ออะไรก็ได้ ที่เพิ่งสวมและยังไม่ได้ซักมาวางไว้บริเวณที่นอนของมัน ยิ่งตัวที่มีกลิ่นเหงื่อของคุณอยู่ด้วยล่ะก็... ยิ่งแจ๋ว

3. หาที่เงียบๆ ในระหว่างย้ายบ้านสัตว์เลี้ยงของคุณจะมีความเครียดเกิดขึ้น คุณควรหาที่เงียบๆ ให้สัตว์เลี้ยงของคุณอยู่ และอย่าลืมวางของใช้ประจำวันของมันไว้ในบริเวณนั้นด้วย หรือถ้าอยากให้พิเศษยิ่งขึ้น คุณก็อาจใส่ของเล่นจำพวกของขบเคี้ยวไว้ในบริเวณนั้นด้วยก็ได้

4. คงชีวิตประจำวัน ดำเนินชีวิตในบ้านใหม่ให้เหมือนกับชีวิตประจำวันตามปกติ ทั้งนี้เพราะสัตว์เลี้ยงต้องการการดำเนินชีวิต ที่เป็นแบบแผนและสามารถคาดเดาได้ อะไรที่แปลกไปจากสิ่งที่มันคุ้นเคยจะทำให้มันตกใจ ถ้าก่อนย้ายบ้านคุณมักจะพาสุนัขไปเดินเล่น เมื่อย้ายบ้านคุณก็ควรพามันไปเดินเล่นตามปกติ ถ้าคุณเคยให้เหมียวนอนกับคุณที่บ้านเก่า ตอนนี้คุณก็ต้องเอาน้องเหมียวมานอนกับคุณด้วย และถ้าคุณเคยให้อาหารมันยังไงตอนนี้คุณก็ยังต้องให้อาหารมันอย่างนั้น

5. ออกกำลังซะบ้าง การให้สัตว์เลี้ยงได้ออกกำลังจะช่วยลดความเครียดของมันได้ คุณควรเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงให้มากขึ้นโดยเล่นกับมัน หรือพามันไปเดินเล่นบ้าง การออกกำลังนี้นอกจากจะทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณ สนุกสนานกับชีวิตใหม่แล้วยังจะทำให้มันมีสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

6. นักย่องเบาตัวแสบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจับตาดูสัตว์เลี้ยงของคุณตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ดอดไปไหน เวลาที่คุณเปิดประตูเข้ามาในบ้าน วิธีที่จะไม่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงหายไป ก็คือคุณต้องแน่ใจว่ามันอยู่ภายใต้การควบคุม คุณอาจจะผูกเชือกจูงไว้หรือให้มันอยู่ในคอกก็ได้ ซึ่งนั่นจะทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวไปได้ เกินกว่าอาณาบริเวณที่เรากำหนดไว้ให้นั่นเอง แต่ถ้าคุณจะปล่อยมันออกไปนอกบ้านก็ควรจะรออย่างน้อย 1 เดือนจนมันคุ้นเคยกับบ้านใหม่ดีแล้ว (ทั้งนี้ขึ้นกับความพร้อมของสุนัขด้วย) ที่สำคัญอย่าลืมเปลี่ยนป้ายบ้านเลขที่ทีปลอกคอให้มันเสียก่อนล่ะ

7. ปลอดภัยไว้ก่อน บ้านใหม่ไม่ใช่บ้านที่สมบูรณ์แบบเสมอไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณสำรวจดูบ้านใหม่ ทีละห้องเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งที่เป็นอันตรายกับสัตว์เลี้ยงของคุณอยู่ เช่น หลุมบ่อที่อาจทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณตกลงไปขาแข้งหัก วัสดุแปลกปลอมอย่างโฟมที่สัตว์เลี้ยงอาจแทะเข้าไป หรือแม้กระทั่งลวดแหลมๆ ที่อาจทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณบาดเจ็บได้

8. วางแผนล่วงหน้า วางแผนไว้ล่วงหน้าเสมอ เผื่อว่าเวลาที่คุณต้องไปไหนหลายๆ วัน คนอื่นจะได้ช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณแทนได้ เพราะสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในการย้ายบ้าน ก็คือการที่คุณปล่อยให้เจ้าหนูน้อยอยู่บ้านตามลำพัง หลังจากที่สร้างความหวาดกลัวให้มันแล้ว

สำหรับสุนัขเท่านั้น

9. สำรวจสถานที่ เพื่อให้สุนัขชินกับสถานที่ ปล่อยสุนัขออกจากสายจูงสัก 10-15 นาที แล้วพาไปเดินเล่นรอบๆ บ้าน สำหรับสัตว์แล้ว การให้มันคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบตัวเป็นสิ่งสำคัญมาก

10. จ้างคนมาเลี้ยงเบบี๋ ถ้าคุณต้องทำงานและปล่อยเบบี๋อยู่ตัวเดียวทั้งวัน คุณควรจะหาใครสักคนมาดูแลมันหรือพามันไปเดินเล่นบ้าง หากคุณปล่อยให้มันเหงาอยู่ตัวเดียว มันก็จะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขาดความอบอุ่น ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง และไม่อดทนในการขับถ่ายอีกด้วย

สำหรับแมวเท่านั้น

11. เอาเหมียวไว้ใกล้ตัว สำหรับแมวแล้วไม่ใช่เรื่องปกติเลย ที่มันจะหนีออกจากบ้านใหม่แล้วกลับไปยังบ้านเก่าได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เหมียวน้อยของคุณหายไป ให้แน่ใจว่าเหมียวอยู่ใกล้ๆ คุณตลอดเวลา หรือไม่ก็ผูกมันไว้กับสายจูงซะ อย่างน้อยก็สักเดือนหนึ่งจนกว่ามันจะชินกับที่ใหม่ และเมื่อคุณปล่อยมันออกจากสายจูงก็อย่าปล่อยมันไว้นานเกินไป

12. หาห้องให้เหมียว เพื่อให้น้องเหมียวรู้สึกปลอดภัยในบ้านใหม่ คุณควรหาห้องให้มันอยู่สักห้องหนึ่ง ในอาทิตย์แรกอาจเป็นห้องหรือพื้นที่เล็กๆ เมื่อแมวของคุณรู้สึกคุ้นเคยกับพื้นที่ตรงนั้นแล้ว ก็ปล่อยให้มันสำรวจบริเวณอื่นๆ ไป แมวจะสำรวจพื้นที่รอบๆ ตัวอย่างช้าๆ และระมัดระวัง และจะคุ้นเคยกับเขตแดนใหม่ของมันในที่สุด

 

อ้างอิงจาก http://kidsquare.com/content/content_details.php?catid=459&catsubid=&id=1514&

หมายเลขบันทึก: 173151เขียนเมื่อ 26 มีนาคม 2008 13:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 08:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นวิธีการคลายเครียดที่ดีมากนะคะ มีการเอาเจ้าตูบและแมวเหมียวมาเป็นตัวช่วยในการสรรหาวิธีการคลายเครียดอีกด้วย

วิธีการคลายเครียดของคนไม่มีบ้างหรือครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท