อาทิตย์ทางตาล : Palm Sunday


ทางตาลประดับรับองค์ราชายิ่งใหญ่
ตามทางครรไลมองดูวิไลสะคราญตา
ชาวชนทุกหมู่รอคอยวันยลพักตรา
ด้วยใจปรีดามาชมพระบารมี
                            - เพลงทางตาล (The Palm) -


เอ่ยคำว่าอาทิตย์ทางตาล น้อยคนที่จะรู้จักว่าวันนี้คือวันอะไร และมีความสำคัญอย่างไรผู้เขียนจึงหยิบยกมาพูดถึง อันที่จริงวันนี้เป็นวันสำคัญหนึ่งทางศาสนาคริสต์ แต่คนทั่วไปคงไม่ทราบ เพราะไม่ดังเท่าวันคริสต์มาส หรือวาเลนไทน์

อาทิตย์ทางตาล (Palm Sunday)
นี้เป็นวันที่คริสตศาสนิกชนฉลองรำลึกถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูคริสต์เสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว ในวันนั้นมีผู้คนเนืองแน่นแย่งกันมามาต้อนรับพระองค์ มีคนนำลามาให้ขี่ บ้างก็นำเสื้อผ้าตนปูลาดลงบนพื้นให้พระองค์เสด็จผ่านไป ฝูงชนโห่ร้องแซ่ซ้องสรรเสริญ เด็กๆ นำใบปาล์มหรือใบตาลมาโบกต้อนรับการเข้าสู่เมืองเสมือนพระราชา
ดังความที่ปรากฏในพระคัมภีร์ มัทธิว 21:9 ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้า กับผู้ที่ตามมาข้างหลัง ก็พร้อมกันโห่ร้องว่า "โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด ขอให้ท่านผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงพระเจริญโฮซันนา ในที่สูงสุด" ตั้งแต่สมัยโบราณทางตาลหรือปาล์ม มักนิยมนำมาตกแต่งในการฉลองชัยชนะ เหตุนี้เองที่วันที่พระเยซูเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม จึงมีการนำทางตาลมาโบกสบัดต้อนรับ ซึ่งเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์

เพิ่มเติมขยายความเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน 20/3/08 จากคำถามของพี่ dd_L
คำว่าโฮซันนา (Hosanna) เป็นภาษาฮีบรูหมายความว่า "พระเจ้า...ขอทรงช่วยเราให้รอด" ชาวอิสราเอลใช้คำว่า "โฮซันนา" เพื่อร้องขอการช่วยกู้ให้รอด ซึ่งเล็งถึงพระเมสิยาห์หรือพระผู้ไถ่นั่นเอง เมื่อพระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม คนเหล่านั้นเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นผู้ที่มาเพื่อช่วยพวกเขาให้รอด ปลดปล่อยจากโรม และยกชนชาติอิสราเอลขึ้นตามพันธสัญญาที่พระเจ้าได้ตรัสไว้



ยุวชนคริสตจักรวัฒนา และนักร้องประสานเสียงเดินถือทางตาลเข้าพระวิหาร

และวันนี้นับได้ว่าเป็นวันเริ่มต้นของสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Week) ซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันอาทิตย์หน้าซึ่งเป็นวันอีสเตอร์ แต่ก่อนหน้านั้นก็จะมีอีกหนึ่งวันสำคัญคือ ศุกร์
ประเสริฐ หรือ Good Friday เป็นวันที่รำลึกถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูถูกนำไปตัดสินโทษจากบรรดาผู้นำชาวยิวที่ไม่พอใจเนื่องจากฐานอำนาจเริ่มสั่นคลอน และเสียผลประโยชน์จากการหากินกับศาสนา ณ เวลานั้น คนเหล่านี้ได้ทำการเป่าหู ยุยงประชาชน และผลสรุปของมวลชนก็คือให้นำไปตรึงกางเขน (เปลี่ยนใจง่ายจริงๆ อาทิตย์นี้พึ่งจะต้อนรับ พอวันศุกร์ก็เปลี่ยนใจซะแล้ว) ถัดจากศุกร์ประเสริฐก็จะถึงวันฉลองเทศกาลอีสเตอร์ นับเป็นวันที่สำคัญที่สุดไม่แพ้คริสต์มาสทีเดียว เดี๋ยวสัปดาห์ถัดไปจะมาเล่าเรื่องอีสเตอร์อีกทีค่ะ

นำภาพฉลองวันนี้ที่โบสถ์มาฝาก เพียบไปด้วยอาหาร ดนตรี ความสนุกสนาน มีความสุขกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนจะขนาดไหนก็ชมเองค่ะ



และผู้เขียนยังได้สอนเด็กๆ ทำไข่อีสเตอร์เพื่อเตรียมไว้โชว์ในอาทิตย์หน้าด้วย สนุก คนสอนกับคนวาดเละ แต่ผลงานออกมาสวยไม่เบา ตกบ่ายบรรดาทโมนตัวจิ๋วก็วาดลวดลายขึ้นเวทีบ้าง เป็นกองเชียร์ข้างเวทีบ้าง ผู้ใหญ่ก็เชียร์สุดตัวให้เด็กๆ กล้าแสดงออก ดูได้จากเจ้าตัวเล็กสุดที่ขี้นเวที ไม่ได้ร้องเพลงหรอกนะคะ ยังพูดไม่เป็นด้วยซ้ำ รู้แต่ว่าขึ้นไปแล้วมีแม่ยกให้ตังค์เลยไม่ยอมปล่อยไมค์ ^ ^

หมายเลขบันทึก: 171169เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2008 17:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (27)

 Sasinanda พอเห็นคำว่า Palm เข้ามาทันที คำนี้ มีความหมายสำคัญสำหรับพี่ค่ะ

เห็นเด็กๆรื่นเริงแล้ว น่าสนุกจัง ค่ะ ได้ความรู้จากบันทึกด้วยค่ะ

แวะมาดูภาพครับ สวยดี

  • มาทักทายยามเย็นจ้า แก้มยุ้ย
  • อิอิ  อาหารน่าทานจริงๆเลย 
  • เห็นชื่อเรื่องตอนแรกยังงงๆว่าหนูเขียนเกี่ยวกับอะไรกัน
  • อืมได้ความรู้ดีทีเดียวน้องรัก  ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณสำหรับบันทึกดี ๆ อีกแล้ว

เป็นเรื่องเล่าที่เคล้าสุขจริง ๆ

ไม่ลืมที่จะบอก "คิดถึง"

พี่ศศินันท์

เอ๋... มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับปาล์มหรือเปล่าคะ ^ ^ เด็กๆ สนุกกันมากค่ะวันนี้ โดยเฉพาะตอนละเลงสีลงบนไข่โฟม

P  คุณกวินทรากร

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ไว้อาทิตย์หน้าจะเอามาให้ดูอีก

P  พี่ลูกหว้า

หลายคนเอนจอยกับส้มตำ แต่น้องชอบผัดไทมากกว่า อร่อยดี วันนี้มีอาหารเยอะทีเดียว ผัดไท หอยทอด ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวมันไก่ หมูสะเต๊ะ ผลไม้ก็มีชมพู่ ขนมหวานเป็นพายกรอบที่หน้าเป็นน้ำตาล เรื่องนี้มันไกลตัวไปหน่อยใช่มะ ไม่คุ้นหู เห็นว่าแปลกก็เลยเอามาเล่าให้ฟังไงล่ะ

P  พี่อึ่งอ๊อบ

วันนี้มีความสุขจริงๆ ด้วยล่ะ เลยเผื่อแผ่มาให้คนอื่นบ้าง คิดถึงเหมือนกันนะค้า แต่วันนี้เสียอยู่อย่างคือร้อน กลับมาเลยปวดหัว ปกติอยู่แต่ห้องแอร์เลยไม่คุ้น

ได้ความรู้ใหม่ (ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย) พร้อมด้วยบรรรยากาศ ของ ความสุข  สนุกสนาน และความอิ่มอร่อย จากภาพ...ขอบคุณนะคะ

สวัสดีครับซาน

    ดูแล้วอบอุ่นเป็นญาติกันดีจังครับผม ขอบคุณมากครับ เป็นตัวอย่างให้กับสังคมที่วุ่นวายเอาเป็นตัวอย่างได้ดีครับ

ขอบคุณครับ

  • สวัสดีค่ะ
  • ตอนแรกคิดว่าเป็นชื่อภาพถ่ายสวยๆ ซะอีก
  • เข้ามาแล้วได้ความรู้ใหม่ๆ ค่ะ
  • ขอบคุณนะคะ

 

 Sasinanda    พี่ศศินันท์

เอ๋... มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับปาล์มหรือเปล่าคะ

มีมากค่ะ แต่อุบไว้ก่อนค่ะ เป็นเหตุผลว่า พอดีหลานกินขนมอยู่เลยแว่บมาเปิดคอม เห็นพอดีเลย ทั้งวัน ไม่มีโอกาสเปิดดูอะไรเลย ยุ่งกับเจ้าตัวเล็กทั้งวัน อิๆๆๆ

เห็นเด็กๆเล่นกัน น่ารักดี ไม่เห็นมีรูปหลานชายเลยค่ะ คนไหนเอ่ย...หนูคนที่ถือไมค์อยู่น่ารักนะ พูดไม่เป็น แต่รู้ว่า เงินสำคัญ

หลานพี่ พูดได้ยาวๆ จ่อยๆๆเลย แต่ไม่ค่อยชัดส่วนใหญ่ น่ารักดี เด็กหัดพูด...

สวัสดีครับ

คุ้นๆ ว่าเคยเห็นภาพเก่าๆ ใช้ใบไม้จำพวกตาล (อาจจะเป็นกะพ้อ หรือค้อ) ใช้บังแดดได้ด้วย

ภาพเด็กๆ น่ารักครับ คนมือไมค์ล่างสุด กำลังพูด หรือร้องเพลงครับ ;)

P  พี่แหวว

ดีใจที่พี่แวะเข้ามาดูค่ะ ก็อย่างที่เขียนไว้บนบล็อกนี้ไงคะว่า "จักรวาลนี้ช่างกว้างใหญ่ เรียนเท่าไหร่ก็ไม่หมด" บันทึกนี้เป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดีว่ามีอะไรอีกมากมายที่เราไม่รู้ แต่ทุกอย่างก็เรียนรู้ได้ทั้งนั้นค่ะ ถ้าไม่ปิดใจ

P  เม้ง

ก็พี่น้องเพื่อนฝูงกันทั้งนั้นแหล่ะ รู้จักกันมาตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อยเหมือนเด็กๆ ที่เห็นในรูป วันอาทิตย์เป็นวันที่ทุกคนที่นี่ทิ้งความวุ่นวายไว้ภายนอก เป็นวันแห่งความสุขค่ะ อาทิตย์ละหนดีกว่าไม่มีเลย

P คุณ Jaewjingjing

ไว้อาทิตย์หน้าที่เขียนเรื่องอีสเตอร์น่าจะมีรูปให้ดูค่ะ จิตรกรฝรั่งยุคเรอเนอซองส์วาดภาพเกี่ยวกับศาสนาไว้ค่อนข้างเยอะ อาจจะไปเลือกมาให้ชมกัน ครั้งนี้ก็อ่านเอาความรู้ใหม่ๆ ไปก่อนแล้วกันนะคะ

พี่ศศินันท์
ไว้ว่างๆ มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะถ้าเล่าได้ เด็กช่วงหัดพูดนี่น่ารักค่ะ เพราะจะพูดผิดพูดถูกสร้างเสียงหัวเราะให้เราได้เป็นอย่างดี รูปหลานชายนี่คนใส่เสื้อสีส้มค่ะ ที่ชื่อน้องทีม ตอนนี้โตแล้ว 8 ขวบกว่าแล้วค่ะ มีอยู่ในรูปแรกกับรูปที่สาม

P  คุณธวัชชัย

ถ้าเจอรูปก็เอามาแบ่งกันดูได้นะคะ อยากเห็นเหมือนกัน เด็กคนล่างสุดชื่อน้องนัมค่ะ ยังพูดไม่เป็นเลย ได้แต่กำไมค์แอ๊คท่าน่ารัก เต้นไปเต้นมา พอบอกจะถ่ายรูปให้ยิ้มหน่อยเล่นวางไมค์วางตังค์ นั่งยิ้มหวานให้ถ่าย ไม่ค่อยบ้ากล้องเลยค่ะ เจ้าตัวเล็กนี่เป็นตัวแสบ ใครๆ ก็รัก วันนี้ถือทางตาลกับพี่ๆ อยู่หน้าขบวน เผลอนิดเดียววิ่งปรู๊ดจะเข้าไปในพระวิหาร เขายังตั้งขบวนกันไม่เสร็จเลย ^ ^ สักพักคงเบื่อรอก็เลยเอาทางตาลหันมาฟาดฟันดาบกับพี่ๆ แทน ป่วนไปเหมือนกัน ให้ยืนเข้าแถวเหมือนจับปูใส่กระด้ง

สวัสดีค่ะ น้องซูซาน

  • โบสถ์และพิธีทางคริสตศาสนาให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์อย่างประหลาดค่ะ
  • ...พี่เคยเข้าโบสถ์กับคนที่บ้าน  ตอนเป็นแฟนกัน  ไปด้วยหลายรอบ....ไม่ค่อยเข้าใจ  ไปด้วยเฉยๆ..เขานั่งเราก็นั่ง  เขายืนเรา็ก็้ยืน...จำได้ว่ามีความสุขอย่างประหลาดค่ะ ตอนแต่งงานก็ได้เข้าโบสถ์
  • ขอบคุณน้องมากๆค่ะ
  • เห็นแล้วหิวครับ อิอิ

P  พี่ติ๋ว

มีโอกาสได้แต่งงานในโบสถ์ด้วย ดีจังเลย บรรยากาศดีเหมือนในหนังมะ แล้วบาทหลวงได้บอกคำนี้กับแฟนพี่มั้ย "You may kiss the bride"

P  คุณ Suksom

หิวล่ะจิ กลิ่นไก่ย่างนี่หอมฟุ้งทั่วสนามทีเดียว แต่ต้องไปหาที่นั่งหลบลมที่พัดมา ไม่งั้นนะ หัวมีแต่กลิ่นไก่ย่างแน่นอน อ้อ ลืมบอกว่าของหวานมีอีกอย่างด้วยคือไอศครีมกะทิ

  • อาทิตย์ทางตาล เป็นคำที่แปลกดีนะคะ ได้ความรู้ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
  • คุณซูซานก็อยู่ร.ร. วัฒนาเหรอคะ เพื่อนสนิทแณณก็อยู่วัฒนาค่ะ
  • เด็กๆ น่ารักมากๆเลย มีดนตรีเล่นด้วย น่าสนุกดี บรรยากาศคงน่ารักและอบอุ่นดีนะคะ
  • แต่ที่เร้าใจสุดๆ ก็คือ ไก่ย่าง ส้มตำ หมูสะเต๊ะ นี่สิ แงๆ คิดถึงบ้านจริงๆ เรย อยากทานส้มตำอร่อยๆ อ่ะค่ะ

พี่ชื่นชมเวลาเห็นคนไม่ว่าชาติ ศาสนาใด รักและสืบทอดประเพณีวัฒนธรรม พิธีกรรมของตนไว้ การที่คนเรามีสิ่งที่ยึดเหนี่ยว มีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ประณีต มีเมตตา ผู้คนย่อมงดงาม ชุมชนและสังคมย่อมมีความสุขสงบนะคะ

 

P  พี่นุช

การที่คนเรามีสิ่งยึดเหนี่ยวนี่ทำให้ไม่หลงเดินทางผิดง่ายๆ ค่ะ การที่มาชุมนุมกันทุกวันอาทิตย์แบบนี้นอกจากได้นมัสการพระเจ้า ได้ทำพิธีทางศาสนาแล้ว ก็ยังได้มีกิจกรรมดีๆ ทำร่วมกันหลังโบสถ์เลิก วัยรุ่นก็จับกลุ่มเล่นกีฬา ดนตรี ติวหนังสือ เด็กเล็กก็เล่นสนุกในสนามเด็กเล่นหรือห้องเด็ก คนแก่เฒ่าก็นั่งฟัง ร่วมพูดคุยสอนสิ่งต่างๆ ให้กับคนที่อ่อนอาวุโสกว่า คนวัยทำงานก็พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ตนเจอมาในระหว่างสัปดาห์ จัดปาร์ตี้เล็กๆ ตำส้มตำบ้าง ปิ้งบาร์บีคิวบ้าง ทุกคนเมื่อเหนื่อยจากกิจกรรมต่างๆ ก็จะมาล้อมวงกันกินอาหาร พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งเด็กๆ ก็จะได้รับการถ่ายทอดวัฒนธรรมแบบนี้ต่อไป เพราะเห็นมาแต่เล็กจนเกิดเป็นความเคยชิน นี่เป็นภาพของสังคมที่มีความสุขและอยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอดค่ะ

P  คุณแณณ

ไม่ได้เรียนวัฒนาค่ะ แต่อยู่โบสถ์นี้ เพื่อนจบที่นี่เยอะเหมือนกัน น่าจะรุ่นๆ เดียวกันนะคะ บอกไปเพื่อนคุณแณณคงรู้จัก รุ่นลอร่า เดียร์ ในฟ้า พวกนี้ล่ะค่ะ

บรรยากาศดีมากนะคะ ไว้กลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่มาแจมกันได้ โดยเฉพาะส้มตำ ไก่ย่างหรือไก่ทอดนี่มีเป็นประจำค่ะ รองๆ มาก็บาบีคิว หรือไส้กรอกทอดแนวปาร์ตี้แบบง่ายๆ ค่ะ แหม...คิดถึงอาหารไทยล่ะสิ ^ ^

Palm Sunday เนี่ยเคยได้ยินเป็นครั้งแรกจริงๆ ส่วน Good Friday เคยได้ยินมาบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยรู้ความหมายอยู่ดีจ๊ะ

เด็กๆ น่ารักทุกคนเลย เวลาซนคงแสบดีเหมือนกัน 5555

ของกินก็ดูอร่อย ดีว่ากินข้าวอิมแล้วนะ ไม่งั้นคงอยากกินมากเลย อิอิ

ซูซาน

เพิ่งเข้ามาเห็นก็เลยจำได้ว่าวันอิสเตอร์มาแล้ว น้องทีมโตขึ้นเยอะเลยเนอะ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น โมนีคนี่เปลี่ยนเป็นสาวไปเลย เห็นไก่ย่างแล้วน่ากินจัง แล้วนั่นใช่ทำผัดไทยหรือเปล่า? เพิ่งทำกินไปเมื่อวานเอง อร่อยสุดๆ ไม่เห็นพี่ต้นเลย...สงสัยกลายเป็นรุ่นลูกไปแล้ว

P  พี่ตุ๋ย

มันเป็นวันทางศาสนาโดยเฉพาะค่ะ ไม่ใช่เทศกาลสากลแบบที่คนทั่วไปรู้จัก ส่วน Good Friday นี่เรียกว่าศุกร์ประเสริฐเพราะว่าเป็นวันที่พระเยซูโดนตรึงกางเขนเพื่อไถ่บาปแทนมนุษย์ทุกคนค่ะ มีพิธีที่โบสถ์ทุกแห่งคืนวันศุกร์นี้ เป็นวันสำคัญมาก เพราะถ้าพระเยซูไม่ตาย บาปของมนุษย์ทุกคนก็ไม่ถูกไถ่ สงสัยว่ายังต้องฆ่าสัตว์เผาบูชากันอยู่จนทุกวันนี้ ทางคริสต์ถือว่าการตายของพระเยซูแทนที่กระบวนการทั้งปวงได้ หรือ Once for all ไม่ต้องมีการถวายสัตวบูชาอีกต่อไป ที่เดิมเขาต้องถวายสัตวบูชาเพราะเป็น symbolic สัตว์ที่ถวายบูชานั้นตายแทนเราและเป็นเครื่องตอกย้ำเวลาทำทุกครั้งให้เรารู้ว่า ที่ควรตายนั่นน่ะไม่ใช่สัตว์แต่ควรเป็นเราต่างหาก พิธีบูชาในสมัยก่อนก็ทำเพื่อเหตุนี้ค่ะ

ส่วนอีสเตอร์เป็นวันที่พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ คือถ้าไม่มีวันนี้การตายในวัน Good Friday ก็ไม่มีความหมายอะไร ไม่ต่างจากมนุษย์ปุถุชน แต่การฟื้นคืนพระชนม์มีการทำนายมาล่วงหน้าก่อนพระเยซูมาอีก ปรากฏในพระคัมภีร์เดิม และตัวพระองค์เองก็ทำนายไว้ด้วยในวันศุกร์ประเสริฐ หรือช่วงเวลา last supper นั่นเอง การฟื้นในสามวันให้หลังตามคำทำนายเป็นการมาทำให้สมบูรณ์ และเป็นการประกาศชัยชนะเหนือความตาย เดี๋ยวรายละเอียดมากกว่านี้จะเล่าในบันทึกหน้าค่ะพี่ นี่บรรยายแบบพรีวิวเหมือนหนังก่อน ^ ^

อาหารอร่อยมากค่ะ โดยเฉพาะผัดไท สุดยอดทีเดียว ไก่ย่างก็อร่อย เอื๊อก!!! แกล้งพี่อ่ะ อิ อิ

P  พี่อุ๊

ใช่เลยน้องทีมตอนนี้ตัวโตมาก แต่ยังชอบมานั่งตักให้หอมจุ๊บอยู่เลย ขาจะหัก เวลานั่งมีที่เยอะแยะไม่นั่งชอบมานั่งตักเรา จะเป็นหนุ่มอยู่แล้วอ่ะ - - " ส่วนโมณีคนี่โตขึ้นมาก ลอร่าท้องคนที่สองแล้วนะ ประมาณเกือบห้าเดือน ยังไม่รู้ว่าชายหรือหญิง

อยากกินละจิ ไก่ย่างหอมหวลแต่ต้องนั่งหลบควันไม่งั้นหัวเหม็นแน่นอน ที่ถามนั่นใช่เลย ผัดไทกับหอยทอด หอยทอดคนรอคิวยาวมากเพราะทำไม่ทัน

พี่ต้นก็อยู่แต่ไม่ได้ถ่ายโดน พึ่งซื้อแมคบุ๊คโปรมา เลยนั่งประกอบเล่นอยู่ในศาลาร่วมใจ (ที่พี่เคยนั่งไง) พี่ต้นตอนนี้เหงาหงอยเพราะพี่อ้อยเสียไปเมื่อเดือนกว่าที่แล้ว เป็นมะเร็ง ส่วนลูกชายสองคนก็เป็นหนุ่มแล้ว ไปไหนมาไหนกับแฟน พี่ต้นเลยแหง่วต้องอยู่คนเดียว แต่ก็ได้เพื่อนพ้องน้องพี่อยู่เป็นเพื่อนเลยพอหายเหงาได้

มาเยี่ยม

ใกล้ทานอาหารเที่ยงพอเห็นขาไก้น่าทานจริง

ได้มุมความรู้ทางศาสนาด้วยนะครับ

P  อ.Umi

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ วันนี้ก็กินไก่ แต่เป็นไก่ทอดไม่ใช่ไก่ย่างแบบในรูป : )

  • สวัสดีค่ะน้องซูซาน
  • มาอ่านได้ความรู้ใหม่ๆ  แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า "โฮซันนา" นี่มีความหมายมั๊ยคะ
  • ทีแรกพี่เข้าใจว่า ทางตาล นี่หมายถึง ทางที่ปูลาดด้วยใบตาลเสียอีก  แต่พออ่านๆไป เข้าใจว่า เป็นใบตาล  แต่ทำไมใช้คำว่า ทางตาล  หรือจะแบบ ทางมะพร้าว
  • เอ๊ะ แต่ทางมะพร้าวนี่มันเรียกเฉพาะส่วนใบย่อยๆ ของใบมะพร้าวทั้งก้านนี่เนาะ..เออ..เกิดจะอยากรู้จริงๆนะ
  • มาอ่านแล้วก็สัมผัสได้ถึงความสุข มิตรไมตรี ที่มีแก่กัน พลอยให้รู้สึกเป็นสุขด้วย
  • ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
  • อ้อ..มีเรื่องของเด็กๆ มาฝากที่นี่ค่ะ

P พี่ dd_L

ใช่เลยค่ะทางตาลนั้นถูกปูลาดบนพื้นด้วย ในพระคัมภีร์ก็บอกไว้

คำว่าโฮซันนา (Hosanna) เป็นภาษาฮีบรูหมายความว่า "พระเจ้า...ขอทรงช่วยเราให้รอด" ชาวอิสราเอลใช้คำว่า "โฮซันนา" เพื่อร้องขอการช่วยกู้ให้รอด ซึ่งเล็งถึงพระเมสิยาห์หรือพระผู้ไถ่นั่นเอง เมื่อพระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม คนเหล่านั้นที่เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นผู้ที่มาเพื่อช่วยพวกเขาให้รอด ปลดปล่อยจากโรม และยกชนชาติอิสราเอลขึ้นตามพันธสัญญาที่พระเจ้าได้ตรัสไว้ จึงได้เอาก้านใบปาล์มมาโบกไปมาและวางกับพื้นต้อนรับพระองค์ และร้องว่า "โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด ขอให้ท่านผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงพระเจริญโฮซันนา ในที่สูงสุด"

แต่พระเยซูทำให้คนเหล่านี้ต้องผิดหวัง เพราะพวกเขาคิดว่าผู้ช่วยให้รอดหรือพระเมสิยาห์จะมาพร้อมอิทธิฤทธิ์อำนาจ มาพร้อมเพลิงเผาผลาญชนชาติที่ไม่ใช่อิสราเอล เป็นความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่คิดว่าตนเองเป็นชนชาติที่ถูกเลือก คนอื่นควรพินาศถึงจะถูกต้อง พระเมสิยาห์ต้องมาปลดปล่อยเฉพาะชนชาติอิสราเอลเท่านั้น พวกเขาปิดใจไม่ยอมรับว่าวัตถุประสงค์ในการมายังโลกมนุษย์ของพระเยซูยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก คือมาช่วยให้คนทั้งหลายทุกชนชาติรอดพ้นจากความบาป ดังข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวไว้ว่า "เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานของพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา" โรม 6:23 "For the wages of sin is death, but the free gift of God is eternal life in Christ Jesus our Lord." Roman 6:23

หึๆ ถามมานิดเดียวเกิดอาการของขึ้นรอบดึก เลกเชอร์ให้ฟังยาวเพราะติดลมค่ะ ^ ^

  • น้องซูซานคะ
  • กลับมาเอาคำตอบยามเช้า ได้รู้เพิ่มขึ้นอีก ติดลมบ่อยๆนะ ชอบจริงๆ
  • เรื่องราวทั้งหลายมีที่มา  เคยอ่านพระคัมภีร์เล่มเล็กๆ จนจบ แต่ได้ฟังที่มาของเรื่องราวเหล่านั้นทำให้เข้าใจขึ้น

 

  • พวกเขาปิดใจไม่ยอมรับว่าวัตถุประสงค์ในการมายังโลกมนุษย์ของพระเยซูยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก คือมาช่วยให้คนทั้งหลายทุกชนชาติรอดพ้นจากความบาป ดังข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวไว้ว่า "เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานของพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์
  • ได้ประโยชน์จากการอ่านตรงนี้ด้วยค่ะ
  • บางทีเราก็ทุ่มเถียงกัน ด้วยมีวัตถุประสงค์ต่างระดับกัน  แต่กว่าจะได้รู้จักเป้าหมายที่สูงกว่าก็ต้องใช้เวลา ใช้การพิสูจน์นะคะ
  • พี่ชอบที่หนูเล่าเรื่องราวของเพลงด้วยนะ  แอบมาฟังบ่อยๆ  และมีเพลงอยู่เพลงหนึ่งที่ไม่รู้ว่าซูซานเคยฟังหรือยัง ชื่อ From the distance ฟังแล้วมีเรื่ยวแรงในยามเหนื่อย  อยากส่งมาให้ แต่ด้วยความอ่อนด้อยทางเทคโนโลยี  แล้วไม่ค่อยเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยเลยไม่กล้า
  • เออ..เขียนซะยาว..ของขึ้นยามเช้าหรือเปล่านะ..อิ..อิ.. 

P พี่ dd_L

แค่ความตั้งใจที่จะส่งให้ก็ซาบซึ้งแล้วค่ะ หนูเลยจัดให้ เผื่อใครอยากจะฟังเพลงเพราะๆ แบบนี้ก็กดดาวน์โหลดที่ชื่อเพลงได้เลย แล้วจะรู้ว่าทำไม่ฟังแล้วมีเรี่ยวแรงกลับคืนในยามเหน็ดเหนื่อย ^ ^ ไว้ว่างๆ จะนำเพลงที่มีความหมายดี ใช้ถ้อยคำสวยงาม ไพเราะ และมีประวัติที่น่าสนใจมาฝากอีกค่ะ ไม่นานเกินรอแน่นอน (แต่ไม่ได้บอกนะคะว่าเมื่อไหร่ อิ อิ)

From a distance by Bette Midler

From a distance the world looks blue and green,
and the snow-capped mountains white.
From a distance the ocean meets the stream,
and the eagle takes to flight.

From a distance, there is harmony,
and it echoes through the land.
It's the voice of hope, it's the voice of peace,
it's the voice of every man.

From a distance we all have enough,
and no one is in need.
And there are no guns, no bombs, and no disease,
no hungry mouths to feed.

From a distance we are instruments
marching in a common band.
Playing songs of hope, playing songs of peace.
They're the songs of every man.
God is watching us. God is watching us.
God is watching us from a distance.

From a distance you look like my friend,
even though we are at war.
From a distance I just cannot comprehend
what all this fighting is for.

From a distance there is harmony,
and it echoes through the land.
And it's the hope of hopes, it's the love of loves,
it's the heart of every man.

It's the hope of hopes, it's the love of loves.
This is the song of every man.
And God is watching us, God is watching us,
God is watching us from a distance.
Oh, God is watching us, God is watching.
God is watching us from a distance.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท