การอ่าน : หัวใจสำคัญของการพัฒนาชาติ


สวัสดี Blog ที่ 6.....ช่วย Comment ด้วยค่ะ

Blog ที่ 6 นี้ เป็นบทความเกี่ยวกับการอ่าน : หัวใจสำคัญของการพัฒนาชาติต่อเนื่องจาก Blog ที่ 5 “ ให้หนังสือคือสื่อชีวิต  การอ่าน : หัวใจสำคัญของการพัฒนาชาติ     สังคมไทยขาดวัฒนธรรมในการอ่าน และขาดปัจจัยสนับสนุน โดยคนไทยอ่านน้อยมาก เมื่อเทียบกับต่างประเทศ คนไทยอ่าน 5 เล่ม ต่อคนต่อปี ในขณะที่สิงคโปร์ อ่าน 17 เล่ม ต่อคนต่อปี และสหรัฐอเมริกา 50 เล่ม ต่อคนต่อปี ส่วนสถิติการใช้ห้องสมุด พบว่า คนไทยต่ำกว่า 3 % ที่เข้าห้องสมุดประชาชน 1 ครั้ง 1 ปี ที่สำคัญ พบว่ามีคนไทยต่ำกว่า 1 % ที่เป็นสมาชิกห้องสมุดประชาชน  จากข้อมูลดังกล่าว ตอบได้หรือไม่ว่า เพราะเหตุใด คนไทยจึงมีอัตราการอ่านต่ำ ในขณะที่เพื่อนบ้านไทย อย่างสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆกลับมีอัตราที่สูงกว่า?

     ดังนั้น การรณรงค์และส่งเสริมให้ประชาชนรักการอ่าน ควรเริ่มตั้งแต่เยาว์วัย เราเปรียบเด็กเป็นดั่งผ้าขาว เมื่อถูกแต่งแต้มด้วยสีใด พวกเขาก็จะกลืนไปกับสีสันเหล่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ในวัยเริ่มต้นที่จะเรียนรู้กับสิ่งต่างๆ บนโลกแห่งความจริงใบนี้ สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่สามารถบรรจงมอบให้กับเด็กๆนั้น นอกจากจะเป็นความพร้อมทางด้านร่างกายแล้ว ควรเป็นสิ่งที่จะทำให้เขาได้เติบโตทางความคิด และสติปัญญา เพื่อเขาจะได้ใช้ชีวิตและพัฒนาสังคมประเทศชาติในวันข้างหน้าได้ จึงต้องเริ่มต้นตั้งแต่ครอบครัวเป็นลำดับแรก โดยพ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก เพื่อให้ลูกได้ซึมซับพฤติกรรมดังกล่าวตั้งแต่แรกเกิด เพราะพ่อรักหนังสือ….เรารักพ่อ เราก็เลยรักหนังสือหรือเพราะแม่รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ เราก็รักการอ่านไปด้วย หรือใช้หนังสือนิทานเน้นภาพประกอบที่ง่ายต่อการรับรู้และเข้าใจของเด็ก โดยการเล่าเรื่องผ่านคนรอบข้าง ผู้ปกครอง คุณครูหรือแม้แต่ในหมู่พี่น้องกันเองก็ได้ และการอ่านนอกจากทำให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านแล้ว ผลจากการอ่านยังทำให้เด็กรู้จักคิด ได้เรียนรู้ พฤติกรรมที่ดี มีจริยธรรมและรักการค้นคว้าหาความรู้จากการอ่านด้วย นอกจากนี้ สถานศึกษาก็มีส่วนสำคัญที่จะผลักดัน ให้เด็กรักการอ่าน โดยควรจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กได้อ่านหนังสือเพิ่มขึ้น รวมถึงรัฐบาลควรมีส่วนร่วมในการกำหนดราคาหนังสือให้ถูกลง และจัดให้มีห้องสมุดประจำหมู่บ้าน ชุมชนเพิ่มขึ้น

โลกยุคนี้เป็นยุคของการแข่งขัน ในอนาคตยิ่งทวีความรุนแรงและหนักหนาสาหัสกว่านี้อีกหลายเท่า การพัฒนาคน จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำเคียงบ่าเคียงไหล่กับการพัฒนาบ้านเมือง เรียนรู้เพื่ออยู่รอดจึงไม่ใช่ความคิดของคนในยุคสหัสวรรษใหม่ และเป็นความคิดที่ตกสมัย ประเทศเล็กๆอย่างประเทศไทย หากประชาชนทั้งชาติสนใจและใส่ใจการเรียนรู้ ก็สามารถก้าวขึ้นไปสู่ความเป็นมหาอำนาจของโลกใบนี้ได้      ครูหยุย (วัลลภ ตังคณานุรักษ์) ” ให้ทรรศนะที่โดนใจว่า หนังสือส่วนใหญ่ ไม่มีเล่มไหนที่สอนให้คนไปตีกัน แม้จะเป็นหนังสือที่รบราฆ่าฟันกัน มักจะลงท้ายว่า ธรรมะชนะอธรรม ถ้าอ่านดีๆจะมีคำสอนอยู่ตลอด คนที่เขียนจะถ่ายทอดประสบการณ์ ออกมา คนอ่านจะเรียนรู้ประสบการณ์ จากหนังสือนั้นได้มาก จะเป็นฟอร์มบุคลิกภาพ ของคนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าคนไม่อ่านจะไปเลียนแบบแทน เพราะการเรียนรู้จากสิ่งที่เห็นในโรงเรียน ในสื่อโทรทัศน์ต่างๆ โดยสิ่งเหล่านั้นบอกเลยว่า อย่างนี้ต้องไปตี ไปฆ่ากัน เพราะคิดว่า คือทางในการแก้ปัญหา เพราะสิ่งที่เห็นมันไม่ต้องให้คนคิดมาก ตรงนี้เป็นอันตราย    หากจะต้องแข่งขันกับโลก สรรพกำลังทั้งมวลต้องเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ การเรียนรู้จึงเป็น ประทีป สำคัญที่จะส่องนำทางไปสู่ความรุ่งเรืองและ การอ่าน : คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาชาติ   

    

 

คำสำคัญ (Tags): #km : knowledge management
หมายเลขบันทึก: 158431เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2008 12:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 08:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)
ปัจจัยที่ทำให้คนชอบอ่านหนังสือมีหลายอย่างนะ อย่างเราพ่อแม่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กให้อ่านหนังสือ ไม่เคยว่าเคยบ่นเวลาซื้อหนังสือมาอ่าน เราเลยชินกับการอ่านหนังสืออ่ะ
พรพิสิทธิ์ เลี้ยงอยู่

ในความคิดของผม การอ่านเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาชาติ  นั้น  ผมว่าการอ่านเป็นเพียงครึ่งทาง ของการพัฒนาประเทศ  เพราะว่าหากเราอ่านอย่างเดียวแล้วไม่สามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านมาประยุกใช้แก้ปัญหา  หรือนำมาพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น ฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เมื่อเราอ่านแล้ว จะต้องทำความเข้าใจ ให้ถ่องแท้ เพื่อนำมาประยุกใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับผู้เขียน   ในเรื่องการให้คนไทยมาสนใจการอ่านให้มากขึ้น   เพราะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ  โดยเฉพาะในปัจจุบันเราสามารถสืบค้นหาเรื่องต่าง ๆ ที่สนใจได้จากอินเตอร์เน็ต   และสามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็วข้ามทวีป   แต่ก็จะต้องมีการคัดกรองข้อมูลต่าง ๆไปพร้อมกันด้วย   เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกหลอกลวง   อยากให้รัฐบาลช่วยเพิ่มห้องสมุด  รวมทั้งติดตั้งอินเตอร์เน็ต  ซึ่งสามารถค้นหากลุ่มวิชาที่สนใจ  ให้กับผู้เข้ามาใช้บริการทั่วประเทศ   เพื่อให้คนไทยพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

การปลูกฝังให้คนรักการอ่านั้นย่อมต้องเปลี่ยนแปลงกันทั้งระบบ ทั้งการศึกษา สังคมแวดล้อม และตัวผู้ปกครองเองด้วย ต้องลดค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการซื้อหนังสือจะต้องไม่มากเกิน  และต้องสร้างวัตถุดิบคือหนังสือให้มากพอกับความต้องการ ประเทศไทยคงจะมีสถิติไม่น้อยหน้าเพื่อนบ้านแน่ๆ

การอ่านถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าจะทำให้เราได้รู้ถึงสิ่งเรายังไม่รู้ได้มากขึ้น และเป็นสิ่งที่ที่สามารถที่จะพัฒนาในการอ่านให้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้ในการอ่านหนังสือของเด็กไทยไม่สามารถที่จะเทียบเท่ากับชาวต่างชาติได้เลย และสำหรับในเรื่องของการอ่านนั้นไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน หนังสือวรรณกรรม หรือหนังสืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งเหล่านี้สามารถที่พัฒนาศักยภาพให้กับตนเองได้มากขึ้น

นางสาวพัชรภรณ์ บุญเลี้ยงมา

จากข้อความดังกล่าวถือว่าการอ่านนั้นสำคัญมากและเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาชาติก็จริงตามที่กล่าวมา เพราะการอ่านทำเด็กๆยุคใหม่ได้มีความรู้รอบตัวและมีสมาธิมากยิ่งขึ้น

นางสาวบุญขวัญ สืบดี
การอ่านที่เริ่มฝึกตั้งแต่ยังเด็กนั้นถือว่าดีมากเลยช่วยทำให้เขาติดเป็นนิสัยรักการอ่านหนังสือต่างๆซึ่งทำให้เขามีความรอบรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆรอบตัวที่สามารถช่วยให้เขานำไปพัฒนาประเทศได้
นางสาวอังสนา ประสานทรัพย์

การอ่านหนังสือของคนไทยถือว่าน้อยมาก  เมื่อเทียบกับการอ่านของประเทศอื่น  การที่คนไทยไม่อ่านหนังสือ เพราะว่าไม่มีการปลูกฝังมาตั้งแต่เริ่มแรก ไม่มีการส่งเสริมหรือสนับสนุนที่ดีพอ จึงทำให้คนไทยขาดความรู้  ความพัฒนาที่จะพัฒนาในด้านต่างๆ  และถ้าตอนเด็กไม่อ่านหนังสือตั้งแต่แรก  พอโตขึ้นก็จะไม่ชอบการอ่าน  ดั้งนั้นจึงควรที่จะให้เด็กอ่านหนังสือตั้งแต่ตอนนี้เพื่อวันข้างหน้าจะได้นำความรู้ต่างๆมาพัฒนาประเทศชาติต่อไป

ปัจจุบันเยาวชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจการอ่านหนังสือ จึงทำให้ประเทศเราไม่ค่อยพัฒนา ดังนั้นเราจึงควรปลูกฝังให้เด็กอ่านหนังสือให้มากที่สุด

ข้าพเจ้าคิดว่าการที่คนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือนั้นอันเนื่องมาจากคนไทยส่วนใหญ่มัวแต่ทำงานเวลาว่างก็หายากเด็ก และวัยรุ่นก็เล่นแต่เกมส์ เล่นอินเตอร์เน็ต ไปเดินเที่ยว ในเวลาว่างกัน อีกอย่างปัจจุบันนี้พ่อแม่จะไม่คอยมีเวลาให้ลูกด้วยค่ะเด็กก็เลยเปลี่ยนค่านิยมตามสมัยไปกันหมด

 

จริงๆแล้วตัวผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือนะครับ แล้วหนังสือก็เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ผมว่าสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ
สิทธิ์พงศ์ กลิ่นพิโรจน์

คนไทยไม่ชอบการอ่านก็จริงอ่านได้วันละ 3บรรทัดเต็มที่เเล้วก็หลับ เเต่อาจจะจดจำทางการฟัง เขียน ซึ่งไม่น่าเบื่อเท่ากับการอ่านก็เป็นอีกวิธีนึงที่ใช้ทดเเทนการอ่านได้บ้าง ถ้าคนไทยไม่ชอบการอ่านก็ควรส่งเสริมพัฒนาทักษะ ทางการฟัง  พูด อ่าน เขียนให้มากขึ้นเพื่อที่จะจำได้บ้าง เเต่นิสัยคนไทยชอบขี้เกรียจ ทำอะไรได้เเปปเดียวก็ไม่ทำต่อเเล้ว คนไทยควรพัฒนาตรงจุดนี้เพื่อสังคมที่ดีขึ้น

นวลปรางค์ ขันตยาภรณ์

ความจริงแล้วการส่งเสริมการอ่านต้องเริ่มจากความรักที่จะอ่านค่ะ อยากที่จะทำ การอ่านเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้และเข้าใจว่า เป็นสิ่งที่ดี เปรียบดั่งตัวหนูเองไม่ชอบอ่านดังนั้นไม่ว่าอะไรก็ไม่มีจุดสนใจทำให้หนูรักการอ่านได้นี่ก็เป็นผลเสียกับชีวิตค่ะ ไม่น่าเลยค่ะ

นายวีรวุฒิ ปกรณ์เลิศตระกูล

คนไทยสมัยนี้มักจะแรงงานมากกว่าจะที่รับรู้สิ่งต่างๆรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเศรฐกิจบ้านเมือง การเมือง และอื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เราด้อยกว่าประเทศอื่นๆในบางเรื่อง

ให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมครับผลการวิจัยที่ได้ทุนทำร่วมกับอาจารย์ฤๅเดชเมื่อ 5 ปีก่อนพบว่า ในเด็กระดับมัธยมศึกษา ทั้งการอ่านหนังสือ และการรับสื่ออื่น เช่นการชมรายการสารคดี จะแปรผันบวก ต่อผลการเรียน และความสามารถในการคิดพอๆกันครับ ทั้งนี้ค่าสหสัมพันธ์ของทั้ง 2 ตัวนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ แต่มีความสัมพันธ์ในทิศทางที่เป็นลบครับ นั่นคือ ยิ่งดูรายการสารคดีน้อยก็ยิ่งอ่านหนังสือมาก ขณะเดียวกันยิ่งดูรายการสารคดีมากก็ยิ่งอ่านหนังสือน้อย ฉะนั้นไม่ต้อง Serious กับการอ่านหนังสือน้อยหากเขาสามารถรับสาระจากด้านอื่นครับ
น.ส.อรอนงค์ เอื้อสถาพรกิจ

ในความคิดของข้าพเจ้าว่าเดี๋ยวนี้คนไทยอ่านหนังสือที่ดีดีมีกันน้อยมาเนื่องมาจากมีสิ่งจูงใจมากมายอย่างเช่น ทีวี วิทยุ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์อย่างเล่นเน็ต แซทกันมากมายนั้นบางคนก็ใช้กันในทางการศึกษาแต่บางคนใช้ในทางที่ไร้สาระไม่ดีประโยชน์เลยค่ะ

น.ส. สุปราณี ศรีสว่าง 026

เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ไม่ค่อยสนใจหรือไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือกันมากนัก  จึงทำให้ประเทศของเราไม่ค่อยพัฒนา  ดังนั้นเราควรค่อยๆปลูกฝังกันทีละนิด  เพื่อที่เด็กไทยจะได้เก่งและประเทศชาติจะได้พัฒนามากขึ้นกว่านี้

นางสาวมาลินี แพบำรุง

การอ่านหนังสือเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เราควรจะศึกษาเอาไว้ ถ้าหากเราไม่สนใจโลกภายในและภายนอกเลย ก็ไม่จะทันโลกว่าประเทศมีปัญหาหรือเกิดวิกฤตอะไรอยู่ในตอนนี้

นางสาวจุฑารัตน์ สุขสวัสดิ์
การอ่านหนังสือเป็นปัจจัยหนี่งในการทำสิ่งต่างๆหลายอย่าง เพียงแค่เราอ่านหนังสือว่าเราอ่านไปนั้นนำไปใช้อะไรได้บ้างและเราจะเอาสิ่งที่นั้นไปใช้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด
นางสาวกนกอร สมาธิวัฒน์

ปัจจุบันเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยรักการอ่านเท่าที่ควร เราควรจะปลูกฝังให้เด็กๆหรือทุกคนเป็นคนรักการอ่าน การอ่านเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเรามากค่ะ ทำให้เรารู้จักคิด  ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย และมีประโยชน์ต่อเราอีกด้วยค่ะ

นางสาวพรชนก สมาธิวัฒน์

การอ่านนั้นเป็นสิ่งที่ดีถ้าเราอ่านมากก็ได้มากถ้าอ่านน้อยก็ได้น้อย แต่เด็กสมัยนี้ไม่ชอบการอ่านหนังสือ ดังนั้นเราควรที่จะปลูกฝังในการรักการอ่านตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะทำให้เราชอบอ่านหนังสือ ถ้าเรามีความรู้มากก็จะทำให้เราได้ทำงานที่ดี เราควรที่จะพัฒนาตนเองให้หันมาอ่านหนังสือให้เพื่ออนาคตของเราและอนาคตของประเทศชาติ

นายสุรศักดิ์ รัตนมังสังค์

การอ่านเป็นสิ่งที่ดีทำให้เรารู้สิ่งใหม่ในการมองโลกกระทันในโลก

และการอ่านเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะการเอาช่วยในการเพิ่มประสบการณ์

ด้านต่างๆได้การอ่านเป็นสิ่งคนเราได้พบระจำวันในการใช้ชีวิต

นางสาวอริสรา อินทรขุนทศ

การอ่านเป็นการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆคนเราทุกคนต้องมีนิสัยรักการอ่าน ความรู้จากตัวหนังสือนั้นมีประโยชน์กับเรามาก อ่านมากยอมได้มาก อ่านน้อยย่อมได้น้อยอยู่ที่คนอ่าน เมื่อเรามีนิสัยรักการอ่านเราก็จะมีนิสัยชอบการเรียนรู้ชอบสิ่งแปลกใหม่ชอบทดลองต่างๆเพื่อให้ได้มาซึ่งประสบการณ์ที่ดีและที่เราต้องการ

ชารวี บุตรบำรุง ( ผู้เขียน )
    วันนี้เด็กไทยอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นหรือยัง? นี่คือสิ่งที่เราทุกคนต้องช่วยปลูกฝังต่อไป ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นดีดีนะค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท