ล่องแก่ง ชมธรรมชาติ 2 คืน 3 วัน ที่สตูล


พักผ่อน ชมธรรมชาติ ชาร์ตแบตเตอรี่ชีวิต เตรียมพลังงานพร้อมรับมือการทำงานในปีใหม่ 2551 ค่ะ

     ไม่ได้เขียนบันทึกมานานมากๆ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสได้ไปเที่ยวพักผ่อนสิ้นปีกับเพื่อนๆ มา จึงอยากจะมาเล่าความประทับใจจากการท่องเที่ยวครั้งนี้ให้ฟังกันค่ะ                

     รีสอร์ทที่เราไปพักกันมีชื่อว่า วังสายทองรีสอร์ท (ฅนชายขอบ) ค่ะ เราไปกัน 2 คืน 3 วัน ราคา 1500 บาท/คน ราคานี้รวมอาหาร ที่พัก ค่าเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั้งหมด ราคาไม่แพงนะคะ และเนื่องจากว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นกลางสัปดาห์ (วันอังคาร-พฤหัส) จึงทำให้ทั้งรีสอร์ทมีแค่กลุ่มของเราค่ะ ก็แหงล่ะคงไม่ค่อยมีใครเที่ยวกลางสัปดาห์อย่างเราหรอก แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะว่าไม่ต้องแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว เหมือนทั้งรีสอร์ทเป็นของเราเลย  มาเริ่มเที่ยวไปพร้อมกันเลยนะคะ

     วันแรก เราขับรถไปที่รีสอร์ทกันเองค่ะ ขับตามแผนที่ที่เจ้าของรีสอร์ทเขาให้มา ไปถึงที่ทำการรีสอร์ทประมาณเที่ยงๆ จากนั้นก็รับประทานอาหารเที่ยง จากเดิมโปรแกรมเที่ยวล่องแก่งของเราจะเป็นวันที่สอง แต่ว่าวันนั้นมีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งมาเที่ยวล่องแก่งอย่างเดียว เราจึงขอเปลี่ยนโปรแกรมเที่ยว ไปล่องแก่งพร้อมนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นด้วย เพราะทางกลุ่มเราลงความเห็นกันว่า ล่องแก่งต้องหลายๆ คน จึงจะสนุก หลังจากเข้าบ้านพัก เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เราก็เตรียมตัวล่องแก่งกันค่ะ ระยะทางประมาณ 7.5 กม. ใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชม. ตลอดระยะทางที่ล่องสวยมากๆ ค่ะ น้ำใสมากๆ มีดอกไม้ป่าให้ดูด้วย ไกด์บอกเราว่าถ้ามาประมาณช่วงเดือนเมษายน ดอกซากุระป่า (ชาวบ้านแถวนั้นตั้งชื่อให้) จะบานเต็มสองฝั่งแม่น้ำ ส่งกลิ่นหอมตลอดสายน้ำเลยค่ะ ความแรงของสายน้ำที่เราล่องก็แรงเป็นช่วงๆ สำหรับมือใหม่หัดพายอย่างพวกเราก็เป็นไปตามระเบียบค่ะ พายเข้าป่าบ้าง ชนฝั่งบ้าง คว่ำบ้าง เพื่อนของฉันคว่ำไปหลายรอบมากๆ สนุกไปพร้อมๆกับหัวเข่าที่เขียวช้ำเลยล่ะค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปตอนล่องแก่ง เพราะกล้องที่เราเอาไปมันไม่กันน้ำ ก็เลยไม่กล้าเสี่ยงเอาลงเรือไปด้วยค่ะ

     วันที่สอง เราตื่นสายกันมากๆๆๆ เพราะทางรีสอร์ทบอกเราว่าให้นอนตามสบายให้สมกับมาพักผ่อน ปรากฎว่าเราตื่นสายกันจริงๆ ค่ะ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว (ประมาณ 10 โมงเช้า) ไกด์ก็พาเราเดินชมสวนผลไม้ ก็มีทั้งส้มโอ ขนุน ชมพู่ มะพร้าว ลำไย ล็องก็อง เงาะ กล้วย มังคุด ทุเรียน (ของโปรดเราด้วย) ฯลฯ ซึ่งไกด์บอกเราว่าผลไม้ทั้งสวนให้กินฟรี แถมอนุญาตให้เก็บกลับบ้านได้อีกด้วย แต่......เดือนที่เราไปไม่ใช่หน้าผลไม้ จึงเหลือผลไม้ไม่กี่อย่างที่ออกผล เสียดายจัง L ก็เลยตั้งใจไว้ว่าหน้าผลไม้ออกผลปีหน้าเราจะไปอีก หลังจากนั้นไกด์ก็พาเราออกเดินทางไปเที่ยวชม ถ้ำภูผาเพชร เป็นถ้ำที่ใหญ่มากๆ แล้วก็สวยด้วย เราใช้เวลาเดินอยู่ในถ้ำประมาณ 2 ชม. ค่ะ                

     หลังจากเที่ยวถ้ำเสร็จไกด์ก็พาเราไปเยี่ยมชม บ้านรากไม้ ค่ะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์รากไม้ที่นำรากไม้มาแกะสลักเป็นรูปต่างๆ สวยมากๆ ค่ะ เป็นฝีมือแกะสลักของคุณลุงผู้มีอุดมการณ์ ทำเพื่อความสุขใจ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมค่ะ ไม่ได้ทำเพื่อขาย คุณลุงเล่าให้เราฟังว่า บางคนมาขอซื้อผลงานของคุณลุงโดยให้เงินเป็นแสนๆ เลยนะคะ คุณลุงบอกว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขายค่ะ ให้ชมอย่างเดียว....               

     หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่รีสอร์ท แล้วก็ลงเล่นน้ำหน้ารีสอร์ท เพื่อไม่ให้เราเบื่อ พี่ๆ ที่รีสอร์ทจึงพาเราไปที่ต้นแม่น้ำ แล้วให้เราไถลลูกยางจากต้นน้ำมาที่หน้ารีสอร์ท สนุกมากเลยค่ะ คืนที่สอง พี่ๆ ที่รีสอร์ทก็นำของปิ้งๆ ย่างๆ มาให้เราปิ้ง ย่าง กัน พร้อมนั่งจิบแอลกอฮอล์ (นิดหน่อย) อยู่ริมหน้า แล้วก็นั่งตกปลาไปด้วย ฟังเสียงสายน้ำ เสียงคางคก (กง) ร้องสลับกันไป ธรรมชาติดีจริงๆ ค่ะ คืนนี้พิเศษหน่อย พี่อ้อย (น้องชายเจ้าของรีสอร์ท) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรีสอร์ทที่นี่มานั่งคุยกับเราทั้งคืนเลยค่ะ พี่อ้อยคนนี้เป็นคนที่ติสท์มากๆ ในสายตาของพวกเรานะคะ แกเป็นคนแปลก แต่น่ารักมากๆ ค่ะ

     วันที่สาม (สุดท้ายแล้ว)      วันนี้เราไปล่องแก่งกันอีกค่ะ แต่เป็นแม่น้ำอีกสายหนึ่ง ซึ่งน้ำไม่แรง จะเน้นล่องดูธรรมชาติริมน้ำมากกว่า เนื่องจากว่าเราอยากจะถ่ายรูป จึงขอนั่งเรือยาง ซึ่งคว่ำยากมากๆ แล้วก็ให้ไกด์พายให้ค่ะ หลังจากล่องแก่งเสร็จเราก็ไปรับประทานอาหารเที่ยงแล้วลงเล่นน้ำตกกันพักใหญ่ จากนั้นเราก็กลับเข้ารีสอร์ทเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านกันค่ะ                  

      ก่อนกลับบ้าน ไกด์พาเราแวะไปเยี่ยมชม คนป่า-ซาไก ซึ่งอาศัยอยู่ในสวนของชาวบ้านแถวนั้น เดินจากถนนไปไม่ไกลค่ะ ประมาณซัก 100 กว่าเมตรเห็นจะได้ พอไปถึงเราเห็นกระต๊อบซึ่งสร้างเป็นทรงสามเหลี่ยม (แบบเต็นท์) อยู่ 2 หลัง (2 ครอบครัว) ทำจากใบไม้ ใบกล้วย ไกด์บอกเราว่าถ้าใบไม้ที่นำมาสร้างที่อยู่แห้ง พวกซาไก เขาก็จะย้ายที่อยู่ไปที่อื่นค่ะ พวกเราก็ขอถ่ายรูปกับลูกๆซาไก (ซึ่งเยอะมากๆ) แต่คาดว่าเขาคงจะเขินพวกเรากันค่ะ เพราะพอชวนถ่ายรูป เขาวิ่งหนีไปหาแม่กันหมดเลย ฮ่าๆๆๆ วันนั้นหัวหน้าเผ่าไม่อยู่ค่ะ ออกไปล่าสัตว์หาอาหาร เหลือแต่แม่ แล้วก็ลูกๆ ซึ่งแม่ของเขา และลูกๆ ที่โตแล้วจะสามารถพูด หรือ ฟัง ภาษาชาวบ้านได้ (ภาษาใต้) ไกด์ก็ให้ซาไก โชว์เป่าลูกดอกให้พวกเราดู และพวกเราก็นำขนมไปฝากพวกเขาด้วยค่ะ พร้อมกับให้เงินเล็กๆ น้อยๆ กับลูกซาไกเพื่อไปซื้อขนมกิน               

       และแล้วก็ถึงเวลาร่ำลาไกด์ของเรา ซึ่งพวกเราประทับไกด์คนนี้มาก เพราะพี่เขาอยู่กับเราตลอด 2 คืน 3 วัน ไปไหนมาไหนกับเราตลอด พวกเราก็เลยรวบรวมเงินเพื่อเป็นทิปให้กับพี่เขาก่อนจะลากลับบ้านค่ะ อ้อออออออออ ลืมบอกไปว่าไกด์คนนี้ชื่อ พี่พงษ์ ค่ะ                

       จบแล้วค่ะ พิมพ์เหนื่อยมากเลย จริงๆ ยาวกว่านี้มากๆ แต่ไม่ไหวแล้วค่ะ เมื่อยมือมาก อ้อ ลืมบอกไปว่ารีสอร์ทที่นี่เหมือนไปพักผ่อนจริงๆ ค่ะ เพราะสัญญาณมือถือไม่มีค่ะ ไม่มีใครโทรไปรบกวนเราได้เลยค่ะ

                ถ้าใครสนใจเข้าไปหาข้อมูลได้ที่นี่นะคะ www.wangsaithong.com

                ปล. วันหน้าค่อย Upload รูปนะคะ วันนี้เน็ตช้าเหลือเกิน ไปนอนแล้ว....

         

 

  

   

หมายเลขบันทึก: 156936เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2008 01:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:45 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • สวัสดีปีใหม่ ค่ะ น้องออ!
  • ไปเที่ยวซะไกลเชียว สนุกสนานกลับมาสู้กับงานและเรื่องเรียนต่อไปนะคะ

อยากไปเที่ยวด้วยกันอีกจัง ^^

คิดถึงวันเก่าๆ เน๊อะ

ช่าย เรารอไปเที่ยวกับบี้มาเป็นปีแล้วนะจ๊ะ เมื่อไหร่จะได้ฤกษ์ไปเที่ยวด้วยกันซะทีล่ะ

อยากไปค่ะ เเต่ไม่มีโอกาสที่จะไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท