จากบันทึกที่แล้ว ผู้เขียนได้ค้างอะไรบางอย่างกับผู้อ่านไว้ค่ะ นั้นก็คือ... ผู้เขียนบอกว่าจะแต่งกลอนความรู้สึก เมื่อได้จากบ้านเกิดมา เมื่อไม่นานมานี่เองค่ะ บรรยากาศตอนนั้น ใครไม่เจอด้วยตัวเองคงไม่ทราบ ว่ามันรู้สึกอย่างไร กับการที่เราต้องอยู่กับผู้ที่เราเฝ้าคิดถึง และรอคอยวันที่จะได้เจอหน้านั้น พอถึงเวลามันก็ชั่งเร็วเหลือเกินจนตั้งหลักไม่ทัน และทำใจยังไม่ได้เท่าไรนัก
ส่วนรายละเอียดอยู่ที่นี่ค่ะ ....จากบ้านนา ด้วยรัก.... ผู้อ่านท่านใดที่สนใจสามารถเข้าไปดูได้ค่ะ
บทกลอนที่ผู้เขียนแต่งขึ้นมา อาจจะไม่ไพเราะ แต่มันก็กลั่นออกมาจากข้างในค่ะ
จากบ้านนา....ด้วยรัก
บ้านเอ๋ย บ้านนา
จากมา ด้วยรัก
ลาถิ่น พิงพัก
ตั้งหลัก เมืองกรุง
เล่าเรียน ศึกษา
หาวิชา หมายมุ่ง
นำความรู้ จากกรุง
คืนทุ่ง พัฒนา
หวังจะ เป็นครู
เป็นผู้ ให้วิชา
สอนศิษย์ ให้มีค่า
รู้รักษา คุณความดี
จากวันนี้ ต้องทน
เพื่อพ้น สู่วันใหม่
วันที่ ฟ้าสดใส
ก้าวไป สู่ฝัน
น้ำเอ๋ย น้ำตา
ไหลมา อย่ากลั้น
ต้องทน เพื่อวัน
ที่ฝัน รอคอย
ช่วงนั้นผู้เขียนแต่งขึ้นมา ตอนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าพอดีค่ะ
และยังมีอีกบทกลอนนึง ที่แต่งขึ้นในชั่วเวลาที่เหงา ตอนอยู่บนรถค่ะ ช่วงนั้นเวลาประมาณ 22.45 น. ผู้เขียนได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นหมู่ดาวจำนวนมาก ที่โอบล้อมดวงเดือนอยู่ ชั่งทำให้ความรู้สึกของผู้เขียน อิจฉาดวงเดือนโดยไม่รู้ตัว จึงนึกเปรียบเข้าหาตัวเอง ว่าทำไมเราถึงไม่มีผู้คนที่เรารักทุกคน มาโอบล้อมตัวเราเหมือนกับเดือนในคืนนี้บ้างนะ คิดแล้วก็เลยได้อารมณ์สุนทรีย์ออกมาค่ะ
แสงเดือน คืนนี้ สว่างจ้า
ส่องลงมา กลางฟ้า ที่สดใส
โอบล้อมด้วย หมู่ดาว ระยิบไกล
ส่งสัญญาณ ผ่านใจ ต้องอำลา
จากบ้านนา ครานี้ ชั่งแสนเศร้า
ใจคอยเฝ้า พี่น้อง ที่ห่วงหา
เสียงกบเขียด มันร้อง ก้องธารา
ท้องทุ่งนา ไอดิน ถิ่นบ้านเรา
เมื่อจำทน จำใจ จะต้องจาก
จะต้องพลาก ญาตพี่น้อง คนแก่เฒ่า
สู่เมืองกรุง ถิ่นฟ้า นภาเพลา
ด้วยความเหงา อาลัย ไกลบ้านนา.......
..................pam...................
สวัสดีปีใหม่ครับ... และขออนุญาตส่งความปรารถนาดีผ่านถ้อยคำในบทกวีเหล่านี้ ...
ก่อนพรุ่งนี้มาเยือนเป็นเพื่อนใหม่
อย่าลืมชวนดวงใจไปใฝ่หา
หวนรำลึกคืนและวันผ่านผันมา
กี่หยดหยาดธารน้ำตา, ให้กล้ายืน
แหละกี่ยิ้ม, แย้มงามตามวิถี
ซึ่งมากมีให้ใจได้ไหวชื่น
กี่ผู้คน, เคียงฝันทุกวันคืน
กี่มิ่งมิตรที่รู้ตื่นยืนข้างเรา
ก่อนพรุ่งนี้มาเยือนเป็นเพื่อนรัก
อย่าลืมทัก วันนี้ ที่หม่นเศร้า
อย่าลืมวันนี้ที่สีเทา
พร้อมอย่าลืมความสุกสกาวแห่งปัจจุบัน
. ขอบคุณค่ะ
. คุณหมอ KP
เยี่ยมมากหนูจ๋า ช่างสุนทรียจริงๆ บทกลอนของหนูใส่ทำนองเป็นเพลงได้เลย ลองแต่งเพลงดูสิจ๊ะ ความสามารถอย่างนี้ แต่งเพลงจะเพราะมาก (ด้านเนื้อหา)
เข้ามาเยี่ยมชมเธอ ช่วงนี้ลุงมีภาระกิจประเมินโรงเรียน ไม่มีเวลาให้กับสมาชิกเลย
ลุงเก
. ขอบคุณค่ะ
. คุณลุง ที่ชมหนู
. หนูคงแต่งเป็นเพลงไม่ได้หรอกค่ะ
. เพราะไม่มีความรู้เรื่องของทำนองเพลงเลยค่ะ