, | |||||||||||||
|
« หลังจากพบเจอ 2 จ. คือ น้าเจิด กับพี่โจ้ ผมก็ได้รู้ว่า เป็นเหล้าที่น้าเจิดหิ้ว(บรรทุก)มา... แล้ววงเหล้าเล็ก ๆ ก็เกิดขึ้นในโรงอาหาร ขณะที่คนอื่น ๆ กินข้าว น้าเจิดพูดตลอดเวลาว่า ดีใจ ๆ ๆ ที่ได้มาเจอแล้วกล่าวชวนผมไปเที่ยวเมืองน่าน ... จากนั้นผมก็ได้เห็นวีรกรรมสองเฒ่า (ที่จริงมีสามเฒ่า คือเฒ่าเด๊ฟ รูมเม็ทของผมอีกคน) เมื่อทั้งคู่เข้าร่วมวงเสวนา อันเป็นสิ่งที่ผมไม่คาดคิดเพราะคิดว่าทั้งคู่น่าจะร่วมรำลึกถึงความหลังอย่างถอนตัวไม่ขึ้นในโรงอาหาร ... คำถามต่าง ๆ พรั่งพรูออกมาเหมือนกันรับลูก ส่งลูก หลอกล่อ ในการเล่นฟุตบอล ไม่ต่างไปจากอดีตเมื่อสิบกว่าปีก่อน ในสถานที่แห่งเดียวกันนั้น ผมตั้งคำถามอยู่บ้างแต่ด้วยจุดประสงค์และความรู้สึกที่แตกต่าง โจ้ใช้โอกาสนี้บอกคนให้ห้องเสวนาว่า ผมคือรุ่น 24 และเราทั้ง 4 คือรุ่นเดียวกัน คือ ผม เจิด โจ้ และภาส (ผู้ดำเนินการเสวนา) ผมคาดเดาได้ว่ารุ่นอื่น ๆ เริ่มสงสัยกับการเสวนานี้ โดยเฉพาะบทสนทนาของคำถามมาถึงจุดที่เริ่มไม่ลื่นไหลเล็ก ๆ จากคำถามที่ตรงไปตรงมาของโจ้ และการอธิบายขยายความตามสไตล์ของน้าเจิด... นัท น้องภาส ผู้นั่งก้มหน้ามาโดยตลอด แต่เงยหน้าขึ้นแล้วบอกกับภาสว่า ให้ “พี่หนึ่งพูด” ภาสหันมาหาผม แล้วบอกกับผมว่า “น้องเราบอกว่า ให้หนึ่งพูด” ผมแทบอยากจะหัวเราะออกมา ระคนความรู้สึกว่า มันช่างสร้างบรรยากาศพี่น้องได้ดีจริง ๆ พูดอะไรวะ ผมนึกในใจ ด้วยท่าทีที่ชะงักงันแบบนั้น ทฤษฎีทางสังคมวิทยาสอนให้ผมรู้ว่า ภาวะในบทสนทนาที่ชะงักงัน (aliening action) นั้นแก้ได้ด้วยบทสนทนาบางอย่างที่เป็นการต่อรอง ประนีประนอม ผมเลือกที่จะประนีประนอมกับเพื่อน บอ. ที่ไม่ใช่รุ่น 24 โดยเอ่ยไปว่า การเสวนาจะไม่จบ ก็เพราะพี่เจิดกับพี่โจ้นี่แหละ ...น่าจะได้ผลเพราะที่ประชุมหัวเราะและบรรยากาศเริ่มดีขึ้น (อันนี้อยากจะบอกเจตนาให้ทั้งสองเฒ่าได้ทราบด้วยครับ)
|
||||||||||||
ho, very good, i wished to read some describing as such, i think, relating story of situations, it make me image before day and night of volunteer. i have accepted that some people of thummasat volunteer like to dream and some time don't have obvious way, but it is only group. actually, volunteer people has sevaral thinking value systems which they are colour of life. i really praise you mr somchai.
regards
baw 34