ทำไม มะเร็งลำไส้ใหญ่พบในคนสูงอายุมากกว่าคนอายุน้อย

มะเร็งในฝรั่งหรือชาวตะวันตก ส่วนหนึ่งจะมีการพัฒนาไปโดยลำดับคือ เริ่มจากเป็นติ่งเนื้อ (polyp) เล็กๆ ก่อน ต่อมาติ่งเนื้อจะโตขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ กลายสภาพเป็นเนื้อร้าย หรือมะเร็ง

พวกเราคงจะสงสัยกันไม่มากก็น้อยว่า ทำไมมะเร็งลำไส้ใหญ่จึงพบในคนสูงอายุมากกว่าคนอายุน้อย วันนี้มีข่าวผลการศึกษามาฝากครับ

ท่านอาจารย์ดอกเตอร์แฮร์มัน-เบรินเนอร์ และคณะ แห่งศูนย์วิจัยมะเร็งเยอรมัน ไฮเดลแบร์ก เยอรมนี ทำการศึกษาข้อมูลจากการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เพื่อตรวจคัดกรอง 840,149 ราย และข้อมูลสถิติมะเร็งจากทะเบียนมะเร็งเยอรมนี

...

ผลการศึกษาพบว่า มะเร็งในฝรั่งหรือชาวตะวันตก ส่วนหนึ่งจะมีการพัฒนาไปโดยลำดับคือ เริ่มจากเป็นติ่งเนื้อ (polyp) เล็กๆ ก่อน ต่อมาติ่งเนื้อจะโตขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ กลายสภาพเป็นเนื้อร้าย หรือมะเร็ง

กระบวนการกลายสภาพนี้ในคนสูงอายุมีอัตราเร็วกว่ากระบวนการดังกล่าวในคนอายุน้อย

...

ตารางที่ 1: แสดงอัตราการกลายเป็นเนื้อร้ายต่อปี

เพศ	ช่วงอายุ (55-59 ปี)	ช่วงอายุ (80 ปีขึ้นไป)
ผู้หญิง	2.6	5.6
ผู้ชาย	2.6	5.1

จากตารางที่ 1 จะเห็นว่า อัตราการกลายเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นตามอายุ

...

ตารางที่ 2: แสดงความเสี่ยงสะสม (cumulative risk) ของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ทุกๆ 10 ปี

เพศ	อายุ (55 ปี)	อายุ (80 ปี)
ผู้หญิง	25.4	42.9
ผู้ชาย	25.2	39.7

จากตารางที่ 2 จะเห็นว่า ความเสี่ยงสะสมของคนไข้ที่ตรวจพบติ่งเนื้อ (polyp) จะเพิ่มขึ้นตามอายุ

...

สาเหตุที่อาจทำให้คนสูงอายุมีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่าคนอายุน้อยได้แก่

ภูมิต้านทานที่ลดลงตามอายุที่มากขึ้น ทำให้ร่างกายทำลายเซลล์มะเร็งที่เกิดใหม่ได้ไม่ดีเท่าตอนอายุน้อย
ช่วงเวลาการสัมผัสสารก่อมะเร็งในลำไส้ใหญ่นานขึ้น(หลายสิบปี)
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ หรือรหัสพันธุกรรมที่มักจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายปี

...

เรียนเสนอให้พวกเราหันมาป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ดังต่อไปนี้

ไม่สูบบุหรี่ และไม่หายใจเอาควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบเข้าไป
ไม่ดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ระวังอย่าให้อ้วน หรือถ้าอ้วนไปแล้วก็รักษาน้ำหนักไว้ให้คงที่หรือลดลง อย่าให้อ้วนมากไปกว่านี้
ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ สมาคมมะเร็งอเมริกาแนะนำให้ออกกำลังวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วันขึ้นไป หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้นควรเพิ่มเป็นวันละ 45-60 นาที
กินอาหารที่มีเส้นใย (ไฟเบอร์) เริ่มจากการเปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง กินผัก กินผลไม้ที่ไม่หวานจัดทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้)ให้มากพอทุกวัน
กินผักผลไม้รวมกันให้ได้วันละ 5 ส่วนบริโภค (เทียบเท่า 5 ทัพพี หรือ 5 แผ่น CD) เพื่อให้ได้แร่ธาตุ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอทุกวัน
ลดการกินไขมัน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว ซึ่งมีมากในไขมันสัตว์ เช่น น้ำมันหมู ฯลฯ กะทิ น้ำมันปาล์ม
การศึกษาหลายรายงานพบว่า วิตามินดี และวิตามินบีที่ชื่อ "โฟเลตหรือกรดโฟลิค (folate / folic acid)" มีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนั้นอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงอาจช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

...

ทีนี้ถ้าถามว่า อาหารอะไรมีแร่ธาตุ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระสูง ทำให้มีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่

อาจารย์จากมาโยคลินิก สหรัฐฯ แนะนำให้กินอาหารต่อไปนี้ได้แก่ นมไม่มีไขมันหรือนมไขมันต่ำ ผักใบเขียว(สียิ่งเข้มยิ่งดี) ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ ถั่ว(หลายชนิดยิ่งดี) ผักปวยเล้ง แครอท และส้ม

...

มะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ได้มีแต่ชนิดที่เริ่มต้นโตจากการเป็นติ่งเนื้อ ซึ่งส่องกล้อง และตัดออกผ่านกล้องได้เท่านั้น ยังมีมะเร็งที่โตขึ้นมาเป็นก้อนเลย โดยไม่ผ่านการเป็นติ่งเนื้อเสียก่อน

การป้องกันจึงมีบทบาทสำคัญมากในระยะยาว

...

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

ที่มา

Thank Reuters > Transition from polyp to cancer age-dependent > [ Click ] > November 22, 2007. / Gut. November 2007.
Thank NCI > Colorectal cancer prevention > [ Click ] > June 25, 2007.
Thank ACS > Detailed guide: Colon and rectum cancer > Can colorectal cancer be prevented? > [ Click ] > February 22, 2007.
Thank Mayoclinic > Colon cancer > prevention > [ Click ] > August 17, 2007.
ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อรักษาโรค
ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอ พยาบาล เภสัชกร หรืออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี > สนับสนุนเทคนิค iT.
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 23 พฤศจิกายน 2550.