เรื่องของสมมติฐาน(Hypothesis) เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง ที่นักปรัชญา นักสถิติ และนักวิจัย ได้ถกเถียงกันมานาน แม้ในปัจจุบัน ก็ยังมีประเด็นถกเถียงกันอยู่
หัวข้อข้างบนนี้ ผมตั้งชื่อว่า ปัญหาการวิจัยกับสมมติฐานการวิจัย ดังนั้นผมจะเน้นประเด็นสมมติฐานการวิจัย(Research Hypothesis)มากกว่าสมมติฐานเฉยๆ โดยผมจะนิยามสมมติฐานการวิจัยว่า สมมติฐานการวิจัยคือ คำตอบล่วงหน้าของปัญหาการวิจัย ทั้งนี้ก็เพราะว่า ปัญหาการวิจัยมีธรรมชาติเป็นคำถาม เมื่อเป็นคำถาม ก็จะต้องมีคำตอบ แต่เป็นคำตอบล่วงหน้าของปัญหาการวิจัย ปัญหาการวืจัยกับสมมติฐานการวิจัยจึงมีความสัมพันธ์กัน
ตัวอย่างเช่น ปัญหาการวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ จากการบันทึกครั้งก่อน ดังนี้
ปัญหาการวิจัย : (1) ความคิดสร้างสรรค์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(1)วิชาคณิตศาสตร์(2)วิชา
วิทยาศาสตร์(3)วิชาภาษาไทย มีสหสัมพันธ์กันหรือไม่ ?
สมมติฐาน : H1; มีสหสัมพันธ์ระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(1)
วิชาคณิตศาสตร์(2)วิชาวิทยาศาสตร์(3)วิชาภาษาไทย
: H2;ไม่มีสหสัมพันธ์ระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
(1)วิชาคณิตศาสตร์(2)วิชาวิทยาศาสตร์(3)วิชาภาษาไทย
หรือปัญหาการวิจัยเชิงทดลองจากบันทึกครั้งก่อน ดังนี้
ปัญหาการวิจัย : (2) วิธีสอนเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ จะมีอืทธิพลต่อความสามารถด้าน
ความคิดสร้างสรรค์ หรือไม่?
สมมติฐาน : H3;วิธีสอนเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ มีอิทธิพลต่อความคิดสร้างสรรค์
: H4; วิธีสอนเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีอิทธิพลต่อความสามารถด้าน
ความคิดสร้างสรรค์
จะเห็นว่า H1,H3, เป็นคำตอบของปัญหาการวิจัย และเป็นไปในทิศทางที่นักวิจัยคาดหวังไว้ล่วงหน้าจากผลการสังเกต และ/หรือจากการ Review Related Literature และเราเรียก H1,H3, นี้ว่า สมมติฐานการวิจัย (Research Hypothesis) ในภาษาวิชาสถิติเรียกว่า Alternative Hypothesis
ส่วน H2,H4, ก็เป็นคำตอบของปัญหาการวิจัยเหมือนกัน แต่เป็นคำตอบที่ถูกบังคับตอบ เพราะนักวิจัยไม่ต้องการคำตอบเช่นนั้น ตรงข้าม เขาต้องการคำตอบที่แสดงถึงความก้าวหน้า และมีประโยชน์มากกว่าที่จะเป็นคำตอบที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย H2,H4, เป็นคำตอบที่สอดคล้องกับหลักของ Inferential Statistics เป็น Statistical Hypothesis ที่ชื่อ Null hypothesis
ในการวิจัย เรานิยมตั้งสมมติฐานแบบ Research Hypothesis แต่เมื่อจะทดสอบความมีนัยสำคัญทางสถิติ เราทดสอบ Null Hypothesis ตามหลักของวิชาสถิติดังกล่าว