ภิกษุ ผู้ไม่อยู่ในเพศสมณะตลอดไป ก็ลาสิกขาออกมาเป็นคฤหัสถ์ การลาสิกขาสำหรับผู้บวชเพียง ๓ เดือน ควรลาสิกขาในเมื่อได้รับกฐินแล้ว จะได้รู้เห็นพิธีในศาสนาเพิ่มพูนความรู้ ประเพณีโบราณ ถือว่า การลาสิกขาเป็นหัวเลี้ยวสำคัญในชีวิต เพราะเท่ากับเกิดใหม่ทีเดียว ดังนั้น จึงต้องให้ผู้รู้โหราศาสตร์เป็นผู้กำหนดฤกษ์ให้ เมื่อได้ฤกษ์ดีแล้ว ก่อนจะถึงวันลาสิกขา พึงปฏิบัติดังต่อไปนี้๑. ขอขมาสีมา จัดเครื่องสักการะ คือ กรวยดอกไม้ ธูปเทียน แล้วไปขอขมาสีมา๒. ขอขมาพระประธาน จัดเครื่องสักการะ คือ กรวยดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องสักการะเหล่านี้ ให้ถวายแก่พระสงฆ์เมื่อบูชาขอขมาพระประธานเสร็จแล้ว๓. ขอขมาพระสงฆ์ จัดเครื่องสักการะ คือ กรวยดอกไม้ ธูปเทียน ไปขอขมาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ ตลอดถึงพระสงฆ์ที่เคารพนับถือ๔. เมื่อถึงวันกำหนดที่ได้ฤกษ์ลาสิกขา พึงเตรียมสถานที่ นิมนต์พระ เมื่อพระสงฆ์มานั่งประชุมกันแล้ว ผู้จะลาสิกขาพึงแสดงอาบัติให้ตัวบริสุทธิ์ก่อนกราบพระพุทธรูปด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง แล้วนั่งประณมมือว่านะโม ๓ จบ แล้วว่าอตีตปัจจเวกขณ์ทั้ง ๔ บท จบแล้วกราบลง ๓ หน จากนั้นพึงตั้งสติสำรวมใจว่ากล่าวคำปฏิญาณที่จะละเพศออกเป็นคฤหัสถ์ ทั้งบาลีทั้งแปลว่า “สิกขัง ปัจจะขามิ ข้าพเจ้าขอลาสิกขา คิหิติ มัง ธาเรถะ ขอท่านทั้งหลายจงจำข้าพเจ้าไว้ว่าเป็นคฤหัสถ์แล้ว” ดังนี้ ๓ หน ในลำดับนั้น พระเถระกล่าวถามถึงเจตนาในกาลกล่าวปฏิญาณนั้น เมื่อตอบตรงกันแล้ว ท่านจะจับผ้าสังฆาฏิปลดออกจากบ่าในขณะเมื่อได้ฤกษ์ พระสงฆ์เริ่มสวดชัยมงคลคาถาว่า “ชะยันโต โพธิยา มูเล....” ๑ จบหรือ ๓ จบก็ได้ แล้วสวด “ภะวะตุ สัพพะมัง คะลัง...” ต่อท้าย เมื่อพระสงฆ์สวดจบแล้ว ผู้ลาสิกขากราบลง ๓ หน ออกไปผลัดผ้าขาวนุ่งผ้านำผ้าเหลืองออก แล้วเข้าไปหาพระเถระ กราบลง ๓ หน ยกบาตรน้ำมนต์ออกไป นั่ง ณ ที่ซึ่งเตรียมไว้ นั่งผินหน้าไปทางทิศศรีในวันนั้น พระเถระท่านจะหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ให้ เสร็จแล้วผลัดผ้า เข้ามากราบพระเถระ นั่งคุกเข่าประณมมือเปล่งวาจา ขอไตรสรณคมน์และศีล เพื่อแสดงตนเป็นอุบาสก เมื่อรับไตรสรณคมน์และศีลเสร็จแล้ว พึงกราบลงอีก ๓ หน หากมีไทยธรรมที่จะถวายหรือจะอังคาสด้วยอาหารบิณฑบาต ก็ให้จัดทำในตอนนี้ ครั้นแล้ว พระสงฆ์ผู้เถระอนุโมทนา อุบาสกใหม่จัดแจงกรวดน้ำ พนมมือรับพรจนจบ แล้วคุกเข่ากราบลงอีก ๓ หน เป็นอันเสร็จพิธีลาสิกขา
ไม่มีความเห็น