เนื้องานสำคัญอย่างหนึ่ง ที่มูลนิธิข้าวขวัญ ได้พยายามอย่างมาก ในการช่วยพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน โดยเน้นหลักไปที่ "ข้าว" ก็คือ การพยายามคิดค้นและพัฒนาองค์ความรู้ ทางด้านเทคนิคต่างๆที่เหมาะสมกับชาวนา ที่มีจุดยืนของหัวใจอันแน่วแน่ว่า เราตั้งมั่นในการเดินไปบนเส้นทางที่จะพลิกฟื้นผืนแผ่นดินร่วมกัน จนก่อเกิดองค์ความรู้มากมายที่ เราและชาวนา เป็นพลังสำคัญในการทดลองเพื่อพิสูจน์ความจริง ข้อที่ว่า เราจะไม่เชื่อใครโดยง่าย ถ้าไม่ได้ทดลองพิสูจน์มัน ด้วยตัวของเราเอง เราจะไม่ลุ่มหลง หรือติดไปในบ่วงกับดักของวงจรอุบาทว์ที่ทำให้เราต้องตกเป็นทาสทางความคิด เราจะไม่ยึดติดกับความคิดของตัวเองที่ว่า เราดีแล้ว เราเก่งแล้ว เราเจ๋งที่สุด ไม่มีใครเก่งเกินเรา เพราะเราเชื่อมั่นเสมอว่า พลังสำคัญที่ทำให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน คือพลังที่เกิดจากการแบ่งปันขุมความรู้ที่มีอยู่ ให้แก่คนใฝ่รู้โดยทั่วไป
และนี่คือที่มา ของการเริ่มต้น รวบรวมขุมพลังเพื่อการแบ่งปันแบบสร้างสรรค์ ครั้งยิ่งใหญ่ แด่คุณ..ผู้ที่เป็นแก้วซึ่งเติมน้ำไม่เคยเต็ม
ขุมความรู้ ก้อนที่ 1 ความจริงเรื่องข้าวกับเรื่องราวของชาวนาไทย
ข้าวเป็นพืชที่คนไทยบริโภคเป็นอาหารหลักประจำวัน
คนในสังคมไทยมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับข้าวตั้งแต่เกิดจนตาย
จนอาจกล่าวได้ว่าข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญกับสังคมไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ
สังคม การเมือง และวัฒนธรรม มาช้านาน
ข้าวที่บริโภคกันภายในประเทศเกือบทั้งหมดมาจากการเพาะปลูกของชาวนาไทย
และแม้ว่าประเทศจะได้พัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีไปมาก
แต่การทำนาปลูกข้าวยังถือว่ามีความสำคัญในการผลิตภาคการเกษตรเป็นอันดับต้นๆ
การทำนาปลูกข้าวของชาวนาจากอดีตจนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเทคโนโลยีการทำนาไปจากเดิม
จากเทคโนโลยีการทำนาแบบพื้นบ้านได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการทำนาด้วยเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่
เน้นการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีเกษตรจำนวนมาก
ส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตและวิถีชีวิตของชาวนา
ดังเช่นกรณีของการพัฒนาพันธุ์ข้าวสมัยใหม่
เพื่อให้ตอบสนองต่อระบบการตลาด
การพัฒนาพันธุ์ข้าวจึงเน้นผลผลิตต่อไร่สูงสุดและสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
ทำให้ชาวนาต้องใช้ปุ๋ยในปริมาณสูงขึ้น
ขณะที่ราคาปุ๋ยเคมีก็เพิ่มขึ้นสูงทุกปี
อีกทั้งพันธุ์ข้าวสมัยใหม่ที่พัฒนาขึ้นก็มักจะมีความอ่อนแอต่อโรค
ชาวนาในระบบเกษตรสมัยใหม่ก็มักจะจัดการปัญหาด้วยการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชควบคู่กันไป
ส่งผลต่อสุขภาพและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือการพัฒนาพันธุ์ข้าวตามระบบเกษตรสมัยใหม่
ที่แม้จะได้ข้าวพันธุ์ดี
แต่ก็ได้ทำให้ต้นทุนเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวของชาวนาเพิ่มขึ้น
เพราะมีส่วนส่งเสริมให้ชาวนาหันไปซื้อพันธุ์ข้าวปลูกแทนการเก็บพันธุ์ไว้ใช้เองที่เคยทำมาแต่เดิม
เหล่านี้ล้วนแต่ทำให้ต้นทุนการผลิตของชาวนาสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
การพัฒนาพันธุ์ข้าวในลักษณะนี้จึงมุ่งตอบสนองต่อความต้องการของตลาด
และระบบที่เป็นเกษตรเคมี มากกว่าให้ตอบสนองต่อความต้องการของชาวนา
ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันการทำธุรกิจเมล็ดพันธุ์ข้าว
ภาคเอกชนบริษัทธุรกิจเมล็ดพันธุ์กำลังเข้ามามีบทบาทในการทำตลาดเมล็ดพันธุ์ข้าว
ที่มุ่งจะผูกขาดเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์และทำกำไรจากการขายเมล็ดพันธุ์รวมทั้งปัจจัยการผลิตอื่นๆ
ในลักษณะครบวงจร ทำให้ชาวนามีทางเลือกที่จำกัดในการผลิต
และนับวันจะทำให้ชาวนาพึ่งตนเองได้น้อยลง
ความสำคัญของการเรียนรู้เรื่องเทคนิคการปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ให้ชาวนามีส่วนร่วม
จึงเป็นงานที่มีความท้าทายต่อชาวนาทุกคนที่มีความสนใจ
เพราะเป้าหมายของการปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ข้าวก็เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูความรู้ของชาวนา
และพัฒนาความรู้ เทคนิคต่างๆ ในการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มาจากชาวนาเอง
ให้ตอบสนองต่อระบบการผลิตของชาวนาได้อย่างเหมาะสม
สามารถลดต้นทุนการทำนา ชาวนามีทางเลือกในการพึ่งตนเองจากอาชีพการทำนา
มีวีถีชีวิตที่ดีขึ้น
และสามารถเป็นชาวนาได้อย่างมีศักดิ์ศรี
มารู้จักข้าวที่เราปลูกกันสักนิด
ข้าวเป็นพืชจำพวกเดียวกันกับหญ้าสามารถขึ้นได้ดีทั้งในพื้นที่น้ำท่วมขังและพื้นที่ดอน
เป็นพืชที่ปลูกกันมายาวนานในเขตภูมิภาคเอเชียรวมทั้งประเทศไทย
ข้าวที่ปลูกกันทั่วโลกจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
ข้าวปลูก และข้าวป่า
ข้าวปลูกเป็นข้าวที่มนุษย์ใช้สำหรับเพาะปลูก
ส่วนข้าวป่าเป็นข้าวที่เกิดขึ้นและมีอยู่เองตามธรรมชาติ
สันนิษฐานว่าบรรพบุรุษของข้าวป่าและข้าวปลูกน่าจะมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน
กลุ่มของข้าวปลูกยังจำแนกย่อยได้อีก คือ ข้าวเอเชีย
และข้าวแอฟริกา สำหรับข้าวเอเชียจำแนกย่อยได้อีก 3
กลุ่มคือ
กลุ่ม 1 ข้าวจาปอนนิกา เป็นข้าวเมล็ดสั้น ขึ้นได้ดีในเขตอบอุ่น
ตัวอย่างเช่น ข้าวที่ปลูกในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศอื่นๆ
ในเขตอบอุ่น
กลุ่ม 2 ข้าวอินดิกา เป็นข้าวที่มีลักษณะเมล็ดยาว
ขึ้นได้ดีในเขตร้อน ตัวอย่างเช่นข้าวที่ปลุกในประเทศไทย ลาว พม่า
และประเทศอื่นๆ ในเขตร้อน
กลุ่ม 3 ข้าวจาวานิกา เป็นข้าวที่มีลักษณะเมล็ดใหญ่ ป้อม
ต้นสูง
เป็นข้าวที่พบปลูกกันเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย
ข้อมูลเบื้องต้นนี้ อาจไม่ใหม่สำหรับใครที่รู้มาก่อนแล้ว
แต่ยังคงมีคุณค่าเสมอ ถ้าเราจะนำสิ่งที่รู้ไปบอกต่อ แต่ยัง
ยังไม่หมดแค่นี้ ก็เพียงแต่เกรงว่าคนอ่านจะตาลาย
ฉันจะพยายามร่ายเป็นก้อนๆ เอาให้เห็นกันชัดๆว่า
ข้าวที่เราบริโภคอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทำไม ต้องให้ความสำคัญกันนัก
แต่ที่แน่ๆ จะมีชาวนาสักกี่คนในโลกใบนี้
ที่จะเคยสังเกตรายละเอียดของข้าว หรือรู้จักข้าวอย่างแท้จริง
กระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนชาวนา
เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไมได้
เพราะถ้าจะปรับเปลี่ยนแนวคิดหรือรูปแบบการผลิตเพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริงแล้ว
ชาวนาสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าถึงธรรมชาติของข้าวให้ได้มากที่สุด
เส้นทางสู่ขุมความรู้ว่าด้วยเรื่องข้าว
ไม่มีความเห็น