ลูกเป็ดขี้เหร่
นางสาว ณิชาดา ลูกเป็ดขี้เหร่ ปัญจวีณิน

เพชรพระอุมา-ไพรมหากาฬ


แงซายจอมจักรา
เรื่องราวนี้อุบัติขึ้นกลางเดือนมีนาคม ช่วงเวลาบ่าย คณะของนางเอกมาถึงสถานีกักสัตว์ของนายอำพลผู้มีอาชีพส่งสัตว์ออกขายต่างประเทศก่อนเที่ยง หลังจากรอจนบ่ายโมงกว่า รพินทร์ ไพรวัลย์ พระเอกเราก็ขนสัตว์ที่ดักได้เอามาส่ง ระหว่างที่กำลังลำเลียงสัตว์ลงมานั้น เสือดำงามตัวหนึ่งหลุดจากกรง จนพระเอกต้องจัดการ โดยการยิงเข้าแสกหน้าขณะมันกระโจนใส่ เป็นที่ประทับใจของคณะจากพระนคร

 

หลังทักทายและทราบจุดประสงค์ของผู้มาเยือนว่าต้องการจ้างรพินทร์เป็นพรานนำทางไปตามหา อนุชา วราฤทธิ์ อันเป็นน้องของเชษฐา เป็นพี่ของนางเอก ดาริน วราฤทธิ์ และเป็นเพื่อนของพันตรีไชยยันต์ อนันตรัย ผู้ซึ่งสูญหายไปในป่าลึก มีข้อมูลเพียงทราบว่า นายชดประชากร หรืออนุชา วราฤทธิ์ เข้าป่าเพื่อค้นหา "ขุมเพชรพระอุมา"

 

รพินทร์ก็ได้เล่าเรื่องเพชรพระอุมาจากที่เคยได้ทราบมา ให้คณะชาวพระนครทราบ และบอกข่าวคราวของชดประชากรว่าตัวเองเคยพบที่โป่งกระทิง ขณะที่นายชดกับพรานคู่ใจกำลังจะออกเดินทางไปค้นหา ขุมเพชรพระอุมา

 

วันรุ่งขึ้น รพินทร์เสนอเงื่อนไขสัญญาจ้าง คือเงินสองแสน ดูแลแม่ และการแบ่งทรัพย์โชคลาภหนึ่งในสามส่วน นายจ้างตกลงง่ายๆ

 

หนึ่งสัปดาห์ของการตระเตรียมสัมภาระที่จำเป็นของการเดินทางสองวันต่อมา คณะของ ม.ร.ว เชษฐาก็ล่วงหน้ามาพำนักที่หนองน้ำแห้ง สัมภาระอุปกรณ์และเสบียงกรังได้ทยอยขนมาที่หนองน้ำแห้งโดยรถจี๊ปของบริษัทไทยไวล์ดไลฟ์

 

วันที่ 3 ที่พักที่หนองน้ำแห้ง เครื่องเวชภัณฑ์ อาวุธปืน เครื่องกระสุน มาถึง ได้ร่วมกันพิจารณาระหว่างนายจ้างกับพรานนำทาง

 

วันสุดท้ายก่อนออกเดินทาง คืนนั้นเองมีกระเหรี่ยงหนุ่มชื่อ "แงซาย" พระเอกอีกคนของเราปรากฏตัวในท้องเรื่อง โดยมาสมัครเป็นคนรับใช้ขอติดตามไปด้วยโดยไม่ต้องการค่าจ้าง

 

แล้ววันเดินทางก็มาถึง ออกจากหนองน้ำแห้งแต่เช้า บ่ายก็มาถึงเขาโล้น รพินทร์จัดให้นายจ้างได้ลองไล่ราวเลียงผา แต่ก่อนหน้านั้นระหว่างทางเชษฐายิงกวางได้ ไชยยันต์ยิงหมูป่าได้เป็นเสบียง
คืนนี้ที่เสือพิการชื่อ"ไอ้กุด" มาทักทาย

 

วันรุ่งขึ้น รพินทร์เตรียมรายการขึ้นห้างยิงสัตว์ให้คณะนายจ้าง ช่วงเช้ารพินทร์ก็ออกไปเตรียมห้างไว้นั่งยิงสัตว์ตอนกลางคืน แต่แล้วก่อนเที่ยงนั้นเอง ดารินแอบไปเล่นน้ำที่ลำธารคนเดียวเจอช้างแม่ลูกอ่อนวิ่งเข้าใส่ รพินทร์มาช่วยได้ทัน แต่ก็ไม่ก่อนที่นางเอกแก้ผ้าล่อนจ้อนวิ่งมากอดพระเอก !! (เอาเข้าแล้ว...แค่วันแรกเองก็ได้เรื่องแล้ววว)
บ่ายนี้ ไชยยันต์ได้ยิงหมีควาย รวม4 ตัว เชษฐา ล่อวัวแดงจากบนห้าง แต่ตกดึกนั้นเอง ไอ้กุดก็มาลากลูกหาบไปหนึ่งคน……ศพแรกของการเดินทาง รายการตามล่าไอ้กุดก็เริ่มขึ้นโดยการนั่งเฝ้าทรากลูกหาบ หวังว่าไอ้กุดจะย้อนมากินทราก แล้วก็เป็นไปตามคาด เชษฐาเป็นคนยิง 2 นัด แต่ไม่ดดนที่สำคัญ จึงต้องออกตามต่อ สุดท้าย..รพินทร์เป็นคนสังหาร เป็นอวสานของไอ้กุด สัตว์ร้ายตัวแรกของเนื้อเรื่อง

 

ออกเดินทางต่อมุ่งโป่งกระทิง ระหว่างทางไชยยันต์ได้ยิงวัวแดง พร้อมกับเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะมือไม่ฉมังพอที่จะล้มได้ในนัดเดียว
ก่อนถึงโป่งกระทิง ขบวนปะทะกับโขลงช้าง เชษฐายิงล้มไปหนึ่งตัว ที่นี่ที่รพินทร์นำเหล้าโรงผสมเลือดค่างสดๆ(กินเป็นยาแก้เมื่อยขบ) มาให้เชษฐาได้ลิ้มลอง คืนนี้ที่คณะนายจ้างได้เห็นเสือดาวตายด้วยเขากวางเสียบ
ตกดึกนั้นเอง พญาช้าง "ไอ้แห่วง" ก็มาเยี่ยมทักทาย

 

เช้านี้ยังอยู่ที่โป่งกระทิง ระหว่างตามรอยกระทิงในป่าผาก รพินทร์และดารินช่วยยิงเสือที่กำลังกระโจนใส่แงซาย เป็นการช่วยชีวิตแงซาย

 

ช่วงบ่าย 4 โมง บุญคำกลับมาจากที่เอาหนังไอ้กุดที่ส่งให้นายอำพล ถึงแคมป์พร้อมข่าวร้าย "อิน" ลูกหาบที่ไปด้วยโดนไอ้แหว่งถล่ม เหตุเกิดที่ที่พุบอน (3 ชั่วโมงทางตะวันตกเฉียงใต้ของโป่งกระทิง) บุญคำรอดมาได้………….นี่เป็นศพที่ 2

 

วันรุ่งขึ้น ย้อนกลับไปพุบอนเพื่อสำรวจสถานเกิดเหตุที่โขลงไอ้แหว่งถล่มบุญคำกับอิน โดยบุญคำเป็นคนนำ ขากลับเจอโขลงไอ้แหว่ง รพินทร์พาเชษฐาคลานไปกลางโขลง หลังจากนั้นก้เกิดปะทะกัน โขลงไอ้แหว่งตายwx 8 ตัว

 

วันนี้พักผ่อนหนึ่งวันเพื่อเตรียมตัวไปนั่งห้างยิงกระทิง ดารินจึงเป็นแม่ครัวทำอาหารให้กิน มื้อนั้นมี
  • มัสหมั่นเนื้อวัวแดง
  • แกงเขียวหวานกวาง
  • นกเขาเขียวตุ๋นกับมะนาวและถั่วกระป๋อง
  • กระทาดงอบกับซีอิ๊วและเครื่องเทศ
  • ต้มยำปลาก้าง

 

เที่ยงวันรุ่งขึ้นออกเดินทางไปนั่งห้าง รพินทร์นั่งห้างคู่กับดาริน ดารินคว่ำกระทิงโทนหนุ่มตอน 4 ทุ่ม พอตกดึกดารินถูกพงไพรหลอกหลอนจนต้องสมานางไม้ ส่วนเชษฐานั่งห้างคู่กับบุญคำ รายนี้ไม่ได้ยิงอะไร เพราะสัตว์ไม่เข้า ข้างฝ่ายไชยยันต์นั่งห้างคู่กับเกิด ยิงกระทิงลูกตายและยิงแม่กระทิงลำบาก ไชยยันต์จึงต้องออกตามแม่กระทิงเจ็บที่ตัวเองยิงไว้เมื่อคืน กับรพินทร์ ไชยยันต์ล้มกระทิงได้ รวมกับเสืออีกสามตัวที่กำลังรุมกระทิงเจ็บ แล้วรพินทร์ก็บาดเจ็บจากกระทิงเหยียบอีกครั้ง
คืนนี้ที่รพินทร์ทราบข่าวเกี่ยวกับนายชดว่า แงซายเคยตามนายชดจากห้วยเสือร้องไปที่หล่มช้าง แต่คลาดกัน 5 วัน แงซายเข้าดงมรณะอยู่ 2 วันก็ถูกงูกัด แต่พระธุดงค์มาช่วยไว้ได้ และได้ยินเรื่องมรกตนครอันเป็นถิ่นฐานของแงซายจากปากแงซายเอง

 

พรานลูกน้องรพินทร์เอาเกวียนไปเอาเนื้อกระทิงกับหนังเสือสามตัวตั้งแต่เช้ามืด และ เช้านี้ได้เอง นายจ้างได้ทราบข่าวจากรพินทร์ว่า กะเหรี่ยงที่ผาเยิงโดนไอ้แหว่งถล่มราบคาบ มีคนตาย 8 คน และฝรั่งนักสำรวจชาวอเมริกัน3 คนที่กะเหรี่ยงสองคนนั้นนำทางก็โดนช้างฆ่าตาย สองคนเป็นนายแพทย์มาสำรวจสมุนไพร อีกคนเป็นนายทหารจั๊สแม็ค

 

ช่วงบ่ายรพินทร์พาเชษฐาไปดักยิงเสือ ได้ งาช้างกำจัด มาอันหนึ่ง ระหว่างคุยกัน รพินทร์เล่าเรื่องคุณพ่อที่เป็นพรานและตายด้วยโรคมาลาเรียขึ้นสมอง
รพินทร์พาเชษฐาไปดูช้างตกมันใกล้ๆ เห็นภาพเสือดำกับเสือลายต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงเหยื่อ แต่ทั้งคู่แค่ดูเฉยๆ แต่แล้ว หัวค่ำนั้นเองช้างตกมันตัวนั้นก็บุกแคมป์ ก้เลยโดนแงซายจัดการ

 

ทั้งคณะพักที่โป่งกระทิงอีกคืน ช่วงค่ำ เชษฐาเรียกแงซายเข้ามาเล่าเรื่องให้คณะเดินทางฟัง แงซายเล่าว่าสัตว์ พืชในดงดำที่เขาไปเจอ มีขนาดใหญ่ รพินทร์ก็เล่าว่าเนวินผู้ที่มอบลายแทงให้ตัวรพินทร์ ออกเดินทางจากห้วยเสือร้องทั้งหมด 4 คนอาวุธทันสมัยครบมือ แต่ขาดเวชภัณฑ์
ตกดึกนั้นเองรพินทร์จับไขจากพิษบาดแผลจนหมอดารินต้องให้ยานอนหลับทำให้ช่วยตัวเองและผู้ติดตามไม่ได้ กลางดึกโขมดดงมาเยือนพร้อมกลิ่นลำเจียกกับความตายของลูกหาบ ...นายเลิน.....ศพที่ 3

 

เช้ารุ่งขึ้นฝังศพลูกหาบแล้วก็ ออกเดินทางมุ่งเหนือสู่ป่าหวาย ราวเที่ยงก็เจอฝูงลิงกัง ก็ต้องทำสงครามกับกองทัพลิง 500-600ตัว ลิงตายร่วมร้อย กระสุนหมดไปร่วมพันนัด ระหว่างทางพบรอยไอ้แหว่งซึ่งล่วงหน้ามาก่อน 2 วัน รพินทร์กับบุญคำจึงแยกไปสำรวจ และนัดพบกันที่โป่งน้ำร้อนตอนค่ำ ค่ำที่โป่งน้ำร้อน รพินทร์กลับมาพร้อมข่าวไอ้แหว่งมีมหิงสาตัวหนึ่งเดินตาม

 

เมื่อคืนฝนตกหนัก เช้านี้หมอกลงทึบกว่าจะออกเดินทางได้ก็เก้าโมงเช้า กะไปเที่ยงที่หุบชมด ระหว่างทางช่วงหนึ่งเห็นเสือดำซุ่มอยู่บนต้นไม่ดารินส่องกล้องเห็น รพินทร์เป็นคนยิงจากปืนของดาริน .270 (ติดกล้องขยายสี่เท่า)
ถึงหุบชมดขบวนก็แยกกัน ให้ขบวนเกวียนไปรอที่ห้วยยายทอง ดดยให้บุญคำคุมขบวนเกวียนไปป่าหวาย รพินทร์มีนายจ้างและเกิดกับแงซายตามไปด้วย ช่วงหัวค่ำ ได้เห็นภาพงูเหลือมวิดน้ำหาปลา เหตุการณ์ตอนใกล้รุ่ง โขมดดงเข้ามาในแคมป์ แงซายตื่นมายิง และออกตามล่า อวสานของโขมดดงก็มาถึงในเช้านี้

 

หลังพิชิตโขมดดง ได้ทับทิมเม็ดงามจากท้องโขมดดง เชษฐาเก็บไว้ ณ.ที่นั่นก็พบว่าเป็นแหล่งอัญมณี บ่อพลอย ออกเดินทางต่อ ช่วงบ่ายได้เห็นภาพเสือดาวถูกงูเหลือมรัดจนตาย ก่อนค่ำพบรอยมหิงสาพร้อมรอยเลือดในปลัก เชษฐายิงโดนขาหลังซ้ายบาดเจ็บหนีไป ค่ำพักที่ลำธารในเขตห้วยยายทอง ที่มีเสือชุม (นับเป็นคืนที่2ที่แยกจากขบวนเกวียน และเป็นครั้งแรกที่นายจ้างอยู่เวรยามด้วย)

 

วันรุ่งขึ้นก็ออกตามมหิงสาต่อ สุดท้ายมหิงสาตัวนั้นก็ถึงกาลอวสานจากฝีมือดาริน ด้วยปืน .470 อีกฟากนั้น กระซู่ตัวนั้นก็ล้มด้วยฝีมือแงซาย คืนนี้พักที่ลำธาร กะพรุ่งนี้ไปพบขบวนเกวียนที่ป่าหวาย แต่แล้วเหตุร้ยก็เกิดขึ้น น้ำป่าทะลัก พัดทุกคนไปคนละทิศละทาง

 

9 โมงเช้า น้ำป่าซัดดารินกับรพินทร์มาเกยใกล้กัน สถานที่นั้นห่างจากที่พักแรมเมื่อคืน 30 โลไปตามธารแต่ถ้าตัดป่าก็ 20 โล ก่อนได้ไก่มากินเป็นอาหาร รพินทร์ยิงเสือดาวตัวหนึ่งที่ซุ่มจะกระโจนใส่ดาริน ระหว่างที่ระหกระเหินมาด้วยกัน รพินทร์ร้องเพลงนิ๊งหน่อง !…" .ให้ดารินฟัง นี่เองเป้นจุดเริ่มต้นความสนใจที่ดารินมีให้แก่พระเอกของเรา ดารินถามถึงเวลา แต่รพินทร์บอกนาฬิกาตาย เพราะมันเป็นนาฬิกาบูโรทั่งเมติก จังเกิ้ลมาสเตอร์ ดารินบอกกลับไปจะให้นาฬิกาใจ

 

ระหว่างนี้ก็เจอกองทัพหมาใน ทั้งคู่ต้องหนีขึ้นต้นไทร ก้รอดไป ออกเดินทางต่อ เจอถ้ำเสื้อ ดารินไปจับลูกเสือสามตัวด้วยความเอ็นดู แต่รพินทรืบอก กลิ่นมันจะติดตัวแล้วแม่เสือจะตามล่า จึงฆ่าลูกเสือทั้ง 3 ตัว แม่เสือกลับมาเห็นลูกตายจึงวิ่งไปคาบคนตัดไม้ 3 คน และคนสุดท้ายนี่เองที่ ดารินเห็นนั่งสือมาชี้ให้เสือดูว่าคนฆ่าลูกมันอยู่บนต้นตะเคียน

 

พระเอกพานางเอกเดินทางต่อเพื่อไปหมู่บ้านคนตัดไม้ ระหว่างทาง ดารินถูกงูเหลือมรัด รพินทร์ช่วยจึงถูกงูเหลือมกัด ดารินถอดยกทรงลูกไม้สีชมพูรัดแผลให้ (ราคา 1500 บาท) รพินทร์มัวปลาบปลี้มจนพาดารินหลงป่า แต่ก็กลับมาได้ ในที่สุดก็ พบพรรคพวกทั้งสี่คนพร้อมโต๊ะถะ กะเหรี่ยงหัวหน้าหมูบ้านผาเยิงซึ่งกำลังออกมาตาม ได้ทราบว่า หลังน้ำซัดเชษฐากับลูกหาบก็เกยน้ำอยู่แถวนั้น ออกตามก็เจอบุญคำกับเกิด แงซายพามาที่ผาเยิง พวกผาเยิงก็กำลังออกตามพวกตัดไม้ที่ถูกเสือคาบไป

 

รพินทร์รับปากจะช่วยปราบเสือที่มีอยู่ชุมจนพวกผาเยิงอยู่ไม่เป็นสุข คืนนั้นคณะนายข้างก็เดินยิงเสือ ยิงได้ทั้งหมด 16 ตัว

 

รุ่งขึ้นออกจากห้วยแม่เลิง ยึดสันเขามุ่งตะวันออกเฉียงเหนือโดยตลอด แงซายต้องตอกทอยเพื่อตัดหน้าผาสูง ช่วยย่นระยะทางได้ 30 กิโลเมตร (จุดนี้แหละที่รพินทร์มาบอกทีหลังว่า เป็นตำแหน่งสุดท้ายที่อยู่ในประเทศไทย)

 

ระหว่างอยู่บนสันเขา เห็นภาพฝูงเสือรุมโขลงช้าง เพื่อจัดการกับลูกช้างที่ขาติดซอกหิน แต่สุดท้ายเสือก้ทำอะไรช้างไม่ไมด้ แถมโดนดารินยิงตายด้วยความหมั่นไส้หนึ่งตัว ป่าหวายอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสันเขาลูกนี้ บนเขาลูกนี้มีทะเลสาบ คืนนี้ที่ดารินยืนซบพิงอกรพินทร์ และแงซายพูดถึงการเวก

 

เช้ารุ่งขึ้น เกิดได้เต่ามาตัวหนึ่ง แต่ดารินสั่งแงซายเอาไปปล่อยไม่ให้ทำบาป แล้วทั้งคณะก็ลงขอบหุบหมาหอน ลุยป่าพรุ เจอดงทาก ดงจรเข้ ดารินกลัวมาก ไม่ยอมลุยไปด้วย
คำสำคัญ (Tags): #เมยานี-แงซาย
หมายเลขบันทึก: 128158เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2007 18:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ชอบมากคับ เคยมีคนบางคนอ่านให้ฟัง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท