แม้จะยุ่งขนาดไหน แต่ถ้าใครมาชวนไปช่วยสอนหนังสือ หรือเป็นพี่เลี้ยง จะไม่ปฏิเสธเลย โชคดีที่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เพื่อนที่ทำงานส่วนกลางชวนให้ไปช่วยงานเป็น พี่เลี้ยงในกิจกรรมช่วงสรุปของ ค่ายอบรมพนักงานใหม่ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะชื่อ SCG Run Together (แอบได้ยินน้องๆ เขาพูดกันว่า SCG Run To-Get-Her เผื่อเข้าค่ายจะได้แฟน) ไปแบบไม่รู้รายละเอียดของกิจกรรมในค่าย เพิ่งฟังเพื่อนเล่า ตอนก่อนเริ่มกิจกรรม
ในช่วงสุดท้าย เป็นการสรุปการอบรม วิธีการที่ใช้คือให้น้องใหม่สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ ก็คือให้กลุ่มช่วยกันคุย สรุปรวบยอดสิ่งที่ได้รับรู้ เรียนรู้ รวมทั้งความรู้สึก ออกมาเป็นภาพให้ได้ ตัวเราเองไม่คุ้นกับเด็กใหม่ๆ ซึ่งผิดกับเพื่อนที่เคยเจอน้องกลุ่มนี้แล้ว และไปทำกิจกรรมให้บางช่วง ทำให้เรารู้สึกค่อนข้างฝืดในการที่จะคุยหรือหาเรื่องมาสร้างบรรยากาศ ต้องขอบคุณเพื่อนที่ช่วยเป็น model ให้ ทำให้เราพอกล้อมแกล้มไปได้ ในช่วงเริ่มต้น
ตอนที่ให้น้องแบ่งกลุ่ม สังเกตดูว่า ส่วนใหญ่เขาจะได้เรื่องของความเป็นนามธรรม และความรู้สึก จะไม่ค่อยมีเรื่องของข้อมูลที่ได้รับรู้ ที่เป็นเช่นนี้ ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด เพราะไม่ได้เห็นว่าเขาไปทำอะไรในค่ายนี้บ้าง (ต่อมาเริ่มเข้าใจ เมื่อเขาออกมานำเสนอ) เมื่อเข้าไปช่วยในกลุ่ม ทำให้เราเห็นช่องทางชี้แนะ เพราะบางคนมาถึงเข้ากลุ่ม ก็รีบด่วนสรุปตามความคิดตัวเอง ไม่คุยกัน หรือแบ่งปันข้อมูลของตัวเองให้ครบทุกคนก่อน ตอนสรุปบางกลุ่มก็ลืมที่จะบอกสิ่งที่รับรู้มา 4 วัน
จากการสังเกตพฤติกรรมน้องๆ แต่ละกลุ่มเห็นว่าเขามีความพยายามที่จะวาดรูปออกมาให้สวยงาม เสียดายไม่ได้นำกล้องไปด้วย เลยไม่มีภาพ มาอวดกัน
เมื่อถึงช่วงนำเสนอ เราได้ยินสองกลุ่มแรก นำเสนอจะพูดเหมือนบอกเป็นหัวข้อ ว่าไปเจออะไร ทำอะไร พอน้องคนที่สามออกมานำเสนอ เราก็บอกว่าต้องเสนอให้เป็นเหมือนการเล่าเรื่อง ให้ออกมาเป็นเหมือนเล่านิทาน เล่าหนังเป็นเรื่องเดียวกันให้ได้ น้องคนนี้เก่งมาก ตอนแรกก็อึ้งไปเสี้ยววินาทีแต่แล้วก็ปรับตัวได้ทันที สามารถเล่าสิ่งที่ไปทำให้เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ ทิศทางของบริษัท รวมทั้งสิ่งที่ได้ฟังจาก CEO ที่มาพบน้องๆ ในช่วงเช้าวันสุดท้าย และค่านิยมขององค์กร ฟังน้องคนนี้ก็เลยเห็นภาพรวมของกิจกรรม พอเดาได้ว่าเขาได้รับฟังข้อมูลอะไรเกี่ยวกับบริษัทไปบ้าง รวมทั้งกิจกรรมดีๆ ที่แบ่งกลุ่มกันไปทำกับข้าวเลี้ยงเด็กนักเรียนที่โรงเรียนวัด ได้ทำ
กิจกรรมเรียนร่วมกันเป็นทีมที่แสดงออกถึงความเป็นผู้นำ
....นอกจากนั้น ในค่ายนี้มีโครงการให้น้องๆ ต้องแบ่งกลุ่มคิดและนำเสนอโครงการที่ทำประโยชน์ให้สังคม โดยต้องเป็นโครงการที่สร้างสรรค์ ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียว ได้นกถึง 3 ตัว ตัวแรกคือ ฝึกให้น้องมีความคิดสร้างสรรค์ ตัวที่สองคือ ฝึกการเป็นผู้ให้ซึ่งช่วยเรื่องการทำประโยชน์ให้สังคม ตัวที่สาม คือ ฝึกน้องให้ทำโครงการร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ภายในทีม....
จากการไปช่วยกิจกรรมเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้เราได้รับอะไรหลายอย่าง<<<เมื่อกลับมาประชุมเรื่องโครงการของทีมที่กำลังทำในกิจกรรม idea time ทำให้เรามีเรื่องมาแบ่งปันในช่วง team learning ที่กำลังถกเถียง เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของ employee engagement กับ branding ไม่รู้ว่าสัมพันธ์กันอย่างไร หลังจากอธิบายไปก็น่าจะทำให้ภาพในความเลือนราง ชัดเจนขึ้นมาบ้าง>>>
ผมว่าเรื่องนี้ เป็นเสน่ห์ของAction learning (เรียนรู้เชิงประจักษ์) มันทำแล้วได้ใจ เข้าถึงใจจริงๆ ผมยังศรัทธา 3 เสาหลักของการเรียนรู้อยู่นะครับ
จงหาเครื่องมือหรือมุขในการสร้างให้เกิดขึ้นให้จงได้ แล้วแต่ความเหมาะสม
สิ่งที่สำคัญ พลังของ Team ก็สามารถสร้าง Team learning ได้ในระดับหนึ่ง แต่หากมี Facilitator ช่วยสร้างพลัง ช่วยยั่ว ช่วยดึง (สำหรับมือใหม่หัดขับ) ผมว่าจะช่วยเสริมแรงการพัฒนาได้มากยิ่งขึ้นนะครับ
สวัสดีค่ะพี่ส้ม
ชื่อค่ายน่ารักจัง อิอิ SCG Run To-Get-Her
พี่ส้มครับ
หากดูหนังเรื่อง Tarzan2 แล้ว จะเห็นว่า Tarzan ก็คือ Tarzan ไม่ต้องเลียนแบบ แต่มีอยู่อย่างหนึ่งครับ ใจที่อยากจะให้ในสภาวะปลอดภัย ไม่สนใจว่าจะได้อะไร มันช่วยได้จริงๆครับ
“ผลงานคือเหตุแห่งความสุข แต่ตัวการกระทำคือความสุข ถ้าการกระทำนั้นถูกต้องผลที่ออกมาย่อมถูกต้องดีงาม” “ จงทำงานเพื่องานที่ทำ มิใช่มัวคอยหวังว่าจะได้อะไร” ซึ้งในคำสอนของหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุขอบคุณค่ะ ก๊อบ
ที่ให้ข้อคิดดีๆ ช่วยเตือนสติ เตือนใจ จะจดจำไว้นะครับ
http://gotoknow.org/file/citrus/%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%B0.gif