จดหมายถึงญาติมิตรพัฒนาสังคม ฉบับที่ 24 (6 ส.ค. 50)


ชุมชนเข็มแข็ง ชุมชนพอเพียง ชุมชนประชาธิปไตย ควรเป็นเรื่องเดียวกัน

                เป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว ที่ผม ไม่ได้หยุด แม้ใน วันหยุด

                วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม ไปจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกิจกรรม สมัชชาสวัสดิการชุมชนจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นรายการ เวทีชาวบ้าน ด้วย

                วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ ประชุมหารือเรื่องการบูรณาแผนงานและงบประมาณโดยมีท้องถิ่นและจังหวัดเป็นตัวตั้ง

                ในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน 28-31 กรกฎาคม ผมก็มี งาน ทุกวันตลอดวันหยุด 4 วัน ดังกล่าว แต่เป็น งาน ในกรุงเทพฯ ไม่ได้ออกต่างจังหวัด และส่วนหนึ่งเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา

                และในช่วงปลายสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านไป วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม ผมไปจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์เอนกประสงค์สำหรับผู้สูงอายุในชุมชน ของตำบลเขาสวนกวาง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น ถือเป็นศูนย์ในลักษณะนี้เป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยกระทรวง พม. มีแผนงานสนับสนุนให้เกิด ศูนย์เอนกประสงค์สำหรับผู้สูงอายุในชุมชน อีก 7 แห่ง รวมเป็น 8 แห่งเพื่อเป็นการนำร่องใน 4 ภาคของประเทศ ภาคละ 2 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร

                เป็นที่คาดหมายว่า ศูนย์เอนกประสงค์สำหรับผู้สูงอายุในชุมชน จะพัฒนาไปเป็น ศูนย์ชุมชนเอนกประสงค์ ในที่สุด นั่นคือ เป็นศูนย์สำหรับกิจกรรมหลากหลายของกลุ่มคนหลากหลายและเพื่อกลุ่มคนหลากหลายในชุมชน

                จบจากพิธีและกิจกรรมที่ตำบลเขาสวนกวาง ผมเดินทางต่อไปที่ ตำบลสะอาด อำเภอน้ำพอง ร่วมกิจกรรม รวมใจคนสวัสดิการชุมชน รวมถึงเป็นประธานสักขีพยานการทำบันทึกข้อตกลงการจัดสวัสดิการชุมชนระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลสะอาดกับกองทุนสัจจะกองบุญวันละ 1 บาท เพื่อสวัสดิการผู้สูงอายุและชุมชนตำบลสะอาด

                จากตำบลสะอาด ไปที่วัดชัยศรี ซึ่งอยู่ที่บ้านเสียว ตำบลวังชัย อำเภอน้ำพอง ร่วมการประชุมเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านในเขตอำเภอน้ำพอง และร่วมเสวนา แนวทางการบูรณาการการเงินชุมชนและแนวทางความร่วมมือสนับสนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง

                นอกจากนั้น ก็ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์ฝึกอบรมค่อนข้างใหญ่ที่ท่านเจ้าอาวาสวัดชัยศรีสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้ติดยาเสพติด อยู่ห่างจากวัดไปหน่อยหนึ่ง กับได้ไปเยี่ยมสถานสงเคราะห์เด็ก บ้านแคนทอง ในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เป็นสถานสงเคราะห์ สำหรับการเลี้ยงดูเด็กเล็กที่ถูกทอดทิ้งและมีอายุระหว่าง 0-6 ปี 

                วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม ผมมีภารกิจไปร่วมงาน มหกรรมประชาธิปไตย ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี โดยเป็นผู้ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ การสร้างความเข้มแข็งให้ภาคประชาชนภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แล้วไปทำหน้าที่ประธาน (โดยได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรี) ในพิธีปิดมหกรรม ซึ่งเรียกว่าพิธี รวมพลังปฏิญญาพัฒนาการเมืองไทย 2550” โดยผมเป็นผู้กล่าวนำคำ ปฏิญญา ที่ละวรรคให้ผู้ที่อยู่ในห้องประชุมและที่ศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ กล่าวตาม จนจบคำปฏิญญา ซึ่งยาวพอสมควรแต่มีความหมายดีมาก

                ในการปาฐกถาพิเศษที่กล่าวถึงข้างต้น ผมได้สรุปว่า ประชาธิปไตยคือ ประชาชนมีบทบาทสำคัญ ประชาชนคือองค์ประกอบสำคัญของสังคม ฐานรากของสังคมคือชุมชน ประชาชนจะมีบทบาทได้ดีและสังคมจะพัฒนาได้อย่างมั่นคงยั่งยืน ก็เมื่อมีชุมชนที่เข้มแข็ง ชุมชนที่เข้มแข็งจะเป็นชุมชนที่พอเพียงพร้อมกับเป็นชุมชนประชาธิปไตย

                นั่นคือ ชุมชนเข้มแข็ง ชุมชนพอเพียง และชุมชนประชาธิปไตย เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกัน เป็นเรื่องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  และควรจะเป็นเรื่องเดียวกัน

                                                                                                สวัสดีครับ

                                                                                                        ไพบูลย์  วัฒนศิริธรรม
คำสำคัญ (Tags): #รองนายก
หมายเลขบันทึก: 117374เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2007 15:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ให้กำลังใจท่านรัฐมนตรีครับ เห็นความตั้งใจของท่านในการพัฒนาคนและสังคม ขอเอาใจช่วยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท