ก้อนเนื้องอก ก้อนเนื้อร้าย มีชื่อเรียกต่างกันอย่างไร


ก้อนเนื้องอก ก้อนเนื้อร้าย มีชื่อเรียกและความร้ายแรงแตกต่างกัน สำหรับนักศึกษาทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพควรทราบไว้

สวัสดีครับ

วันนี้ขอเสนอความรู้เกี่ยวกับเนื้องอก เพราะในปัจจุบันเป็นโรคหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสังคมและชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์

สำหรับนักศึกษาทางวิทยาศาสตร์สุขภาพควรรู้ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต

cancer

ภาพที่เห็นเป็นส่วนของมะเร็ง ในร่างกายเราจะมีการเจริญเติบโตของเซลล์

มะเร็ง หรือ เรียกตามศัพท์ภาษาอังกฤษว่า benign malignant หรือ tumor cancer หรือ neoplasm ในปี ค.ศ. 1952 Willis ได้ให้ความหมายของคำเนื้องอก (neoplasm) ว่าหมายถึง เนื้องอกที่มีการเจริญขึ้นมาใหม่อย่างผิดปกติ โดยไม่มีความสัมพันธ์กับเนื้อเยื่อปกติอื่น ๆ และการเจริญจะคงอยู่เรื่อยไป

Benign หมายถึง สิ่งที่มีการงอก หรือโตอย่างช้าๆ ไม่เป็นอันตราย หรือไม่สามารถแพร่กระจายได้ ที่กล่าวว่า เนื้องอกชนิดนี้ไม่เป็นอันตราย หมายถึงว่า หากเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีผลต่อระบบหรือตำแหน่งที่สำคัญของร่างกาย เช่น ที่ผิวหนัง ไม่อันตรายเท่ากับบริเวณสมอง เพราะว่า หากเนื้องอกนี้ไปเบียดหรือกดทับอวัยวะอื่นทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ ก็เป็นอันตรายอาจถึงตายได้

neck mass

ก้อนเนื้อที่ด้านขวา บริเวณคอ (ภาพบน) ไม่อันตรายเท่า ก้อนเนื้องอกที่อยู่ในสมอง (ภาพล่าง)

brain tumor

Malignant หมายถึง สิ่งที่มีการงอก หรือโตอย่างรวดเร็ว เป็นอันตราย หรือสามารถแพร่ กระจายได้(metastasis) ไปเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะอื่น ๆ ได้

ถ้าหากเป็นเนื้องอกร้ายแรง หรือมะเร็ง จะเรียกตามชนิดของเนื้อเยื่อต้นกำเนิด คือ

เซลล์กลุ่ม mesenchymal tissue เรียกว่า sarcoma ” ต่อท้ายชื่อเซลล์นั้น ๆ เช่น เซลล์ไขมัน(fat cell) เรียกว่า liposarcoma หรือเซลล์ไฟบริน( fibrocyte) เรียกว่า fibrosarcoma เป็นต้น

ส่วนกลุ่มเซลล์ที่มีต้นกำเนิดจากเซลล์บุผิว (epithelial) เรียกว่า “carcinoma” ต่อท้ายชื่อเซลล์นั้น ๆ เช่น เนื้องอก หรือมะเร็งของเซลล์บุผิวชนิดที่เจริญเป็นรูปต่อม (gland) เรียกว่า adenocarcinoma หรือมะเร็งของเซลล์บุผิวชนิด squamous เรียกว่า squamous cell carcinoma เป็นต้น

โดยมากจะเป็นเนื้องอกชนิด arcinoma มากกว่า sarcoma

สนใจหาอ่าน ความผิดปกติของการเจริญเติบโต และเนื้องอก เพิ่มเติมได้ที่

http://vdo.kku.ac.th/mediacenter/mediacenter-uploads/libs/html/1186/gp6.htm

เป็นแหล่งข้อมูลที่ช่วยให้ผมเข้าใจได้มากเลยครับ

 

คำสำคัญ (Tags): #มะเร็ง
หมายเลขบันทึก: 112557เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2007 18:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

สวัสดีค่ะ อาจารย์ แวะมาเก็บความรู้ค่ะ ชอบคุณค่ะ  

  • รูปแรกถ้าไม่บอกว่าเนมะเร็งแล้ว สวยจริงๆค่ะ
  • คนส่วนใหญ่เป็นมะเร็งอะไรมากสุดคะ..ใช่มะเร็งตับหรือเปล่า
  • ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพดีๆ

เรียน คุณ pa daeng และคุณ พิชชา

ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม มะเร็งอัตราการเกิดในแต่ละประเทศแตกต่างกันครับ ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งคือ สภาพความเป็นอยู่ เช่น ออสเตเรีย เป็นมะเร็งผิวหนังมาก อเมริกา มะเร็งลำไส้ ครับ อีสานมะเร็งตับครับ

สวัสดีครับ

ต้องพยามยามใช้ชีวิตไม่ให้เสี่ยงกับการ การที่จะเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็ง ทำอาหารทานเองที่บ้าน ปลูกผักที่บ้านทานเอง ตอนนี้ก็ปลูกอยู่หลังบ้านครับอาจารย์ ผัดยอดฟักแม้ว.....อร่อยนะครับ ดีต่อสุขภาพด้วย ตอนนี้ที่เขาค้อ ฝนตกทุกวันครับ หมอกลงตลอดเลยครับ

สวัสดีค่ะ

P

ขอบคุณสำหรับความรู้ กำลังอยากทราบทีเดียวค่ะ

ที่นครพนมคนไข้ที่ทำ CT upper abdomen ส่วนมากจะเป็น CHCA มากเลยคะ และมีอาการ ASCITES ร่วมด้วยคะ อยากทราบว่า ASCITES เกิดจากอะไรคะ

คิดถึงอาจารย์มากคะ คงไปเจอกันที่พัทยานะคะ

สวัสดีครับ วันดี

สามารถสืบข้อมูลที่

http://www.ramacme.org/program-exam/3-21-207-2521-0306-01/index.asp

ผศ.พญ. อาภัสณี โสภณสฤษฎ์สุข
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

ขอบคุณคะ...อาจารย์ ที่นำความรู้ดีๆมาให้ คิดถึงอาจารย์ทุกคนคะ 

บุญชัย ลิปิพงศ์สันต์

คือว่าแฟนผม อายุ 37 ปี แล้วตรงบริเวณขาหนีบทั้ง 2 ข้าง เหมือน มีก้อนเนื้อ

เริ่มสังเกตุว่ามีก้อนเนื้อประมาณ10ปีที่แล้วครับ ก่อนหน้านี้ ก็ไม่รู้สึก เจ็บอะไร

แต่ถ้า กดตรงก้อนเนื้อ ก็จะเจ็บครับ

ช่วงนี้เห็นแฟนบ่นว่า รู้สึกว่า ก้อนเนื้อ ทั้ง 2ข้างโตขึ้น และ จู่ๆ บางทีก็เจ็บขึ้นมาเองครับ

ไม่ทราบว่า พอจะแนะนำได้ไหมว่า เป็นก็อนเนื้องอก หรือ เป็นมะเร็งครับ

เป็นห่วงเขาครับ และ ขอคำแนะนำให้ไปตรวจที่ไหนที่เฉพาะทางครับ

ช่วยตอบผมด้วยครับ

กังวลมากเลยครับ

เรียน คุณบุญชัย

การที่จะบอกว่าก้อนเนื้อใดเป็นหรือไม่เป็นมะเร็งนั้น ต้องมีการตัดชิ้นเนื้อไปผ่านขบวนการศึกษาทางห้องปฏิบัติการ ถึงจะทราบผลได้ถูกต้องมากที่สุด ผมแนะนำว่าควรพาแฟนคุณพบแพทย์เฉพาะทาง เช่น แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับสูตินารีเวช หรือ แพทย์ผ่าตัด ก็ได้ครับ เพื่อตรวจจะเป็นการดีที่สุด เพราะการปล่อยทิ้งไว้นานๆ การเปลี่ยนแปลงของก้อนเนื้อนั้น จากปกติอาจกลายเป็นมะเร็งก็ได้ครับ

ตอนนี้ผมมีตุมเนื้อแข็งๆ ตรงบริเวณเท้าขวา ด้านหน้าเท้าลงมาจากตาตุ้มเล็กน้อย เป็นมานานสมควร มันโตกว่าเดิมที่เป็นอยู่ จะเป็นอันตรายไหมครับ ไม่กล้าไปหาหมอ

พี่พอจะบอกผมได้ไหมครับว่า มันเป็นอะไรกัน

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ คุณสน

ผมไม่สามารถบอกได้ เพราะมีข้อมูลน้อยมาก ครับ

ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์ จะดีที่สุด และสังเกตว่า ก้อนที่พบนั้นมีอัตราการโตมากและโตเร็วหรือไม่ ถ้ามีอาการอย่างนั้นยิ่งต้องรีบไปพบแพทย์

ก่อนที่จะเป็นอะไรมากกว่านี้ ครับ

อาจารย์ครับแฟนตรวจสุขภาพทุกปี ไม่มีอะไร แต่พอปีนี้ไปตรวจในสมุดเขียนว่ามีฝ้าขาวๆที่บริเวณปอด ให้ไปตรวจเพิ่มเติมที่ร.พ.อีกที พอไปแล้ว น.พ บอกว่าพบก้อนเนื้อขนาด เท่ากับกำปั้น อยู่ที่ข้างปอด ถามว่าแค่ปีเดียวทำไมมันเจริญเติบโตได้ไวขนาดนั้นเลยเหรอคัรบ

เรียน คุณ TungPheted

1 ปี สำหรับการเปลี่ยนแปลงของเนื้องอก มีการเจริญแตกต่างกันในแต่ละคนได้ ครับ

เมื่อพบก้อนเนื้องอก

วิธีที่จะพิสูจน์ว่าเป็น เนื้อร้ายหรือไม่ คือ การเจาะผ่านปอด แล้วไปตัดชิ้นเนื้อนั้นมาพิสูจน์

หากทำได้เร็ว ก็เป็นการทำการรักษา วางแผนได้ง่าย ว่าจะรักษาอย่างไรต่อไป เช่น การผ่าตัด ฉายรังสี หรือ ใช้ยาเคมีบำบัด ครับ

แฟนเคยผ่าตัดที่ขาฃวาเมื่อ10ปีก่อนเดินผิดปรกติว่าจะไปต่อเส้นเอ็นแต่หมอบอกว่าพบเน้องอกในเลือดที่บริเวรขาขวาแล้วเนื้องอกนั้นกลายเป็นเนื้อร้ายจะทำไงดีครับ

แฟนเคยผ่าตัดที่ขาฃวาเมื่อ10ปีก่อนเดินผิดปรกติว่าจะไปต่อเส้นเอ็นแต่หมอบอกว่าพบเน้องอกในเลือดที่บริเวรขาขวาแล้วเนื้องอกนั้นกลายเป็นเนื้อร้ายจะทำไงดีครับ

ควรปรึกษาแพทย์ ที่ชำนาญเฉพาะทางเรื่องมะเร็ง ครับ เพื่อจะได้ให้การปรึกษา แนะนำได้ข้อมูลที่ชัดเจน รวมถึงอาจให้การรักษาต่อไป ขอให้ปลอดภัยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท