สืบเนื่องจากเดิม การเบิกจ่ายเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล และค่าการศึกษาบุตร ให้แก่ข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ และลูกจ้างประจำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ผู้มีสิทธิดังกล่าวจะต้องสำรองเงินส่วนตัวจ่ายไปก่อน และนำหลักฐานมาขอเบิกเงินสวัสดิการภายหลัง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเบิกจ่าย ประมาณ 15 วัน จึงจะได้รับเงินคืนจากทางราชการ เนื่องจากกลุ่มงานบริหารการเงินและสินทรัพย์จะเบิกจ่ายเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ค่าการศึกษาบุตร เดือนละ 2 ครั้ง คือ ทุกวันที่ 5 และ 15 ของเดือน เหตุที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้รับเงินคืน เหตุเพราะต้องปฏิบัติตามระเบียบราชการที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาตรวจเสนอ 3 วันทำการ วางฎีกาเบิกเงิน 5 วันทำการ เมื่อได้รับเงินจากกรมบัญชีกลาง จะเสนอขออนุมัติจ่าย 2 วันทำการ แจ้งผู้มีสิทธิมารับเงิน 2 วันทำการ จึงสิ้นสุดขั้นตอนเบิกจ่ายเงินสวัสดิการดังกล่าว ซึ่งข้าราชการส่วนใหญ่ประสบความเดือดร้อนจากการที่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อน หากเงินที่สำรองจ่ายก่อนเป็นเงินจำนวนมาก โดยทางกลุ่มงานบริหารการเงินและสินทรัพย์ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงพยายามแก้ปัญหาโดยเบิกจ่ายให้ผู้มีสิทธิให้เร็วที่สุด ดังนั้น เมื่อ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดนโยบาย 10 บริการฉับไวจากใจ สพฐ.แจ้งให้หน่วยงานในสังกัดถือปฏิบัติ กลุ่มงานบริหารการเงินและสินทรัพย์จึงพิจารณาเสนอขออนุมัติดำเนินการเรื่องการเบิกจ่ายสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ค่าการศึกษาบุตร แบบ One Stop Service คือ การปฏิบัติงานที่สิ้นสุดในขั้นตอนเดียว เพื่อสนองตอบนโยบายของ สพฐ. ซึ่งได้รับอนุมัติจากหัวหน้าหน่วยงานให้ดำเนินการได้ทันที โดยมีหลักการกำหนดไว้ว่า ผู้มีสิทธิต้องได้รับเงินภายใน 10 นาที เมื่อส่งหลักฐานขอเบิกจ่าย วิธีปฏิบัติ คือ ขออนุมัติเบิกเงินทดรองราชการ จำนวนครั้งละ 200,000 บาท นำมาเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟของทางราชการ และให้เจ้าหน้าที่การเงินของสำนักงานเขตฯ นำมาจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิทุกวันทำการ โดยในขั้นแรกให้บริการเฉพาะข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ และลูกจ้างประจำในสำนักงานเขตพื้นที่ฯ ก่อน โดยเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเบิกจ่ายเงินสวัสดิการดังกล่าว จะตรวจหลักฐานขอเบิกเงินที่ผู้มีสิทธินำมายื่นขอเบิก เมื่อถูกต้องเรียบร้อยจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่การเงินจ่ายเงินสดให้ผู้มีสิทธิทันที ยกเว้น การจ่ายเงินตั้งแต่จำนวน 5,000 บาท ขึ้นไป จะสั่งจ่ายเป็นเช็คให้แก่ผู้มีสิทธิ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเบิกเงินสวัสดิการจะรวบรวมหลักฐานที่ได้จ่ายไปทั้งหมดเสนออนุมัติขอเบิกเงินราชการเพื่อชดใช้เงินยืมทดรองราชการ หมุนเวียนไปเช่นนี้โดยตลอด สำหรับหลักฐานขอเบิกเงินสวัสดิการ ประกอบด้วย ใบเบิกเงินสวัสดิการ ใบเสร็จรับเงิน และสำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาทะเบียนสมรส กรณีใช้สิทธิสำหรับบุคคลในครอบครัว ผลจากการดำเนินงานระบบ One Stop Service ปรากฏว่าประสบความสำเร็จในการดำเนินงานเป็นอย่างดียิ่ง ลดขั้นตอนการทำงาน สะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา ผู้รับบริการทุกคนมีความพึงพอใจในการบริการของเจ้าหน้าที่ จะเห็นได้จากหนังสือชมเชยจากข้าราชการบำนาญ คำชมเชยจากผู้รับบริการทุกคนในสำนักงาน และเพื่อการบริการที่ดี จึงได้จัดทำแบบสอบถามให้ผู้รับบริการเสนอความเห็นเพื่อปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น
ความคาดหวังในอนาคต จะให้บริการครอบคลุมไปยังโรงเรียนในสังกัดในโอกาสต่อไป
ผู้เล่า นางศิรินันท์ จิวตระกูล เจ้าหน้าที่บริหารงานการเงินและบัญชี 7ไม่มีความเห็น