หน้าแรก
สมาชิก
คุณน้อย ℡ 089-106...
สมุด
Import-Export
Warehousing
คุณน้อย ℡ 089-106-0793
นาง นาฏยา มณีรัตน์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
Warehousing
เป็นงานที่เกี่ยวกับงานการตลาดเพราะจะทำหน้าที่ดูแลสินค้าระหว่างรอการจำหน่ายให้กับผู้บริโภค การคลังสินค้าเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริหารการตลาดจะต้องให้ความสนใจเอาใจใส่ดูแล ตัวอย่างเช่น สินค้าทางด้านเกษตร ปริมาณการผลิตสินค้าจะมีเพียงบางฤดูกาลเท่านั้น แต่การบริโภคสินค้ามีความต้องการตลอดทั้งปี ดังนั้นการจัดเก็บรักษาสินค้าเอาไว้จะสามารถช่วยให้ผู้ขายมีสินค้าตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ถือว่าเป็นการให้อรรถประโยชน์ทางด้านเวลา
คลังสินค้าโดยทั่วไปมีหลายลักษณะ ใช้งานแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
๑
۩ﺴ
ﺴ۩
๑
คลังสินค้าเฉพาะ (Commoditdes Warehouse) เป็นคลังสินค้าที่จัดขึ้นมาเพื่อเก็บสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น คลังสินค้าเก็บข้าวสาร ข้าวเปลือก ข้าวโพด ที่ต้องมีการควบคุมเรื่องอุณหภูมิ ความชื้น และป้องกันเรื่องแมลงต่างๆ
๑
۩ﺴ
ﺴ۩
๑
คลังสินค้าจัดเก็บสินค้าประเภทของเหลว (Bulk Storage Warehouse) เป็นคลังสินค้าที่สร้างขึ้นมาในลักษณะพิเศษแตกต่างจากคลังสินค้าทั่วไป ใช้สำหรับจัดเก็บสินค้าประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะใช้เก็บสินค้าของเหลวประเภท น้ำ น้ำมัน ลักษณะเป็นภาชนะสำหรับใช้บรรจุของเหลว เช่น แท้งค์น้ำมัน
๑
۩ﺴ
ﺴ۩
๑
คลังสินค้าห้องเย็น (Cold Storate Warehouse) เป็นคลังสินค้าที่สร้างขึ้นในลักษณะพิเศษเช่นเดียวกัน แต่เป็นคลังสินค้าที่ออกแบบเพื่อจัดเก็บสินค้าที่ต้องการเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำ
๑
۩ﺴ
ﺴ۩
๑
คลังสินค้าทั่วไป (General Merchandise Warehouse) เป็นคลังสินค้าทั่วไป ที่ใช้เก็บสินค้าธรรมดาหลาย ๆ ประเภท เป็นคลังสินค้าธรรมดาไม่มีระบบการควบคุมอุณหภูมิ หรือระบบการควบคุมความชื้น และไม่รับฝากสินค้าที่จำเป็นต้องมีการดูแลรักษาเป็นพิเศษ
๑
۩ﺴ
ﺴ۩
๑
คลังสินค้าสำหรับจัดเก็บสินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือน (Household Goods Warehouse) คลังสินค้าประเภทนี้จัดเก็บสินค้าที่เป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนไว้ชั่วคราว ผู้จัดจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือนสามารถเช่าเป็นสถานที่ฝากเก็บรักษาของตนได้
การกระจายสินค้า (Physical Distribution)
การการกระจายสินค้าเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากมือผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคกิจกรรมของการแจกจ่ายสินค้าเป็นการเลือกใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ หรือวิธีการเพื่อทำให้สินค้าเคลื่อนย้ายจากแหล่งผลิตไปสู่สถานที่ที่ต้องการใช้สินค้า หรือกลุ่มผู้บริโภคนั้น
ในเวลาที่เหมาะสม และสามารถประหยัดต้นทุนได้ต่ำสุด
การกระจายสินค้า (Physical distribution) เป็นบริการที่เพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ (Value-added services) เป็นการสร้าง Place utility และ Time utility ตัวสินค้าอาจจะมีประโยชน์แล้ว มีคุณภาพดี รูปร่างถูกใจผู้ซื้อ แต่ผู้ซื้อสามารถได้รับและใช้ประโยชน์ได้ตามเวลาที่ต้องการใช้หรือไม่? คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์นั้นจึงจะมีผลต่อการสร้างความพอใจแก่ผู้บริโภคได้ ในปัจจุบันการผลิตสินค้าหลาย ๆ ชนิด ความสามารถด้านเทคโนโลยีการผลิต ไม่แตกต่างกันมากอีกแล้วระหว่างผู้ผลิตต่าง ๆ ผู้บริโภคต่างทราบดีในความเป็นมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ตราสินค้าต่าง ๆ ที่เสนอขายการแข่งขันจึงแพ้ชนะด้วยความรวดเร็วของผู้ขายที่จะไปถึงผู้ซื้อก่อนรายอื่นๆ
องค์ประกอบของระบบการกระจายสินค้า (Elements of Physical Distribution System)
ในระบบการกระจายสินค้า ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ หลาย ๆ เรื่องที่จะต้องปฏิบัติ และเป็นกิจกรรมที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน มีกิจกรรมดังต่อไปนี้
♞
การให้บริการลูกค้า (Customer services) จะต้องมีการกำหนดว่าจะให้บริการแก่ลูกค้าในระดับใด ส่งสินค้าให้ถึงร้านถึงบ้าน หรือลูกค้าต้องมาขนเอง ในการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ จะใช้บริการส่งถึงท่าเรือ หรือขนลงเรือด้วย หรือส่งถึงท่าเรือปลายทาง ส่งถึงโรงงานหรือคลังสินค้าของลูกค้า และจะต้องมีเงื่อนไขของระยะเวลาที่จะให้บริการลูกค้า ว่าจะส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้าด้วยความรวดเร็วเพียงไร ระดับบริการลูกค้า ยิ่งดีมากยิ่งเป็นที่พอใจของลูกค้า แต่ยิ่งเสียค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้ขายด้วยเช่นกัน
♞
การขนส่ง (Transportation) จะเลือกใช้วิธีขนส่งวิธีใด ค่าใช้จ่ายมาก-น้อย มีผลกระทบต่อระดับการให้บริการอย่างไร ? กระทบต่อต้นทุนการตลาดอย่างไร ? จะจัดหามาได้อย่างไร ?
♞
การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory control) จะสามารถจัดส่งได้ในเวลาที่ต้องการ ย่อมต้องมีสินค้าพร้อมอยู่ในมือ แต่การเก็บสินค้าไว้มากเกินไป จะเกิดความเสียหายได้เช่นกัน มีสินค้าเก็บมาก เงินทุนจม เสียโอกาสหารายได้เพิ่ม สินค้ามีโอกาสขายไม่ออกมากขึ้น มีปัญหาเรื่องเสียหายหมดสภาพมากขึ้น ต้องเปลืองสถานที่ ต้องใช้คนดูแลมากขึ้น หากสินค้ามีไม่พอก็เกิดความเสียหายได้เช่นกัน ทำให้จัดส่งของไม่ทันอาจเสียลูกค้า หรือเสียโอกาสทางการตลาด
♞
วิธีการเคลื่อนย้ายสินค้า (Product handling) การเคลื่อนย้ายทำด้วยแรงงานแบกหาม หรือเคลื่อนย้ายด้วยเครื่องจักร เช่น รถยกสายพาน ปั้นจั่น หรืออุปกรณ์อื่น ๆ การบรรจุหีบห่อ แข็งแรงปลอดภัยที่จะปกป้องสินค้าให้อยู่ในสภาพดีตลอดจนถึงมือลูกค้าหรือไม่ กล่องที่ไม่แข็งแรงพอ เมื่อนำมาวางซ้อน ๆ กันอาจทับกันแตกหักเสียหายได้ เอาตะขอไปเกี่ยวขึ้นมา ทำให้เจาะลังเป็นรูไปถูกสินค้าข้างในเสียหายด้วยก็ได้ หรือโยนกระแทกทำให้สินค้าข้างในเสียหายแตกหักได้จึงต้องมีการวางแผนทั้งเรื่องบรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่จะมาเคลื่อนย้ายสินค้าทั้งภายในส่วนผลิต ภายในคลังสินค้า การเคลื่อนย้ายไปขึ้นรถบรรทุก หรือลงเรือ นำสินค้าออกจากเรือหรือรถ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย สะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย
♞
วิธีปฏิบัติในการจัดการกับการสั่งซื้อ (Order processing) จะต้องกำหนดขั้นตอนปฏิบัติงานที่ชัดเจน ให้ขั้นตอนไม่ซ้ำซ้อน เคลื่อนที่ได้สะดวก จัดสินค้าได้ครบถ้วน
♞
การดูแลการเก็บรักษาสินค้า (Warehousing) จะมีคลังสินค้ากี่แห่ง แยกตั้งที่ใดบ้าง จัดสินค้าวางอย่างไรในคลังสินค้า แบ่งสัดส่วนอย่างไร เวลาสินค้าเข้าจะควบคุมดูแลอย่างไร เวลานำสินค้าออกไปมีวิธีปฏิบัติอย่างไร มีเอกสารหลักฐานอะไรกำกับบ้าง
เขียนใน
GotoKnow
โดย
คุณน้อย ℡ 089-106-0793
ใน
Import-Export
คำสำคัญ (Tags):
#customer services
#inventory control
#การคลังสินค้า
#การควบคุมสินค้าคงคลัง
#การซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ
#การตลาด
#การบรรจุหีบห่อ
#การประหยัดต้นทุน
#การเก็บรักษาสินค้า
#การเคลื่อนย้ายสินค้า
#การให้บริการลูกค้า
#คลังสินค้าห้องเย็น
#นำสินค้าออก
#บริการส่งถึงท่าเรือ
#เครื่องใช้ในครัวเรือน
#เทคโนโลยีการผลิต
#เอกสารหลักฐาน
หมายเลขบันทึก: 108711
เขียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2007 01:44 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 17:02 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (1)
เขียนเมื่อ 16 กรกฎาคม 2009 18:04 น. (
)
ดีต่อการเรียนหนังสือและการตลาด มาก
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
คุณน้อย ℡ 089-106...
สมุด
Import-Export
Warehousing
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท