ผู้จัดการรายวัน-- บริษัทเอกชนญี่ปุ่นจับมือกับบริษัทเอกชนลาว 2 แห่งจัดตั้งบริษัทขนส่งระหว่างประเทศขึ้นมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีฝ่ายญี่ปุ่นถือหุ้นใหญ่ ในความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าเป็นการรับมือกับการขยายตัวด้านการขนส่งและลอจิสติกส์โดยใช้ถนนสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ที่พาดผ่านดินแดนลาวความยาวกว่า 240 กิโลเมตร ไม่เพียงแต่จะให้บริการด้านการขนส่งเท่านั้น บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นมายังจะทำหน้าที่ควบคุมศูนย์การขนถ่านสินค้า บนเส้นทางสาย EWEC (East-West Economic Corridor) ระหว่างเวียดนาม-ลาวและไทย อีกด้วย การจัดตั้งบริษัทขนส่งดังกล่าวยังมีขึ้นในขณะที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน (Savanh-Xeno) ในแขวงสะหวันนะเขตเริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น รวมทั้งบริษัท TAGS ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการภาคพื้นดินท่าอากาศยานจากประเทศไทย ซึ่งได้เซ็นสัญญาการลงทุนในเขตเศรษฐกิจดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พิธีลงนามจัดตั้งบริษัทร่วมทุนจัดขึ้นในวันที่ 15 มิ.ย. ในนครหลวงเวียงจันทน์ ระหว่างบริษัทลอจิสติกส์ซีสเต็มกรู๊ป (Logistics System Group) จากญี่ปุ่นซึ่งถือหุ้น 55% ในบริษัท Logistem Laos GLKP กับบริษัทสัญญาชาติลาวอีก 2 แห่งคือ โกลบอล จิสติกส์จำกัด และบริษัทเคพีจำกัด ฝ่ายลาวถือหุ้น 25% และ 20% ตามลำดับ สำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) เมื่อวันจันทร์ (18 มิ.ย.) รายงานเรื่องนี้ในวันจันทร์ (18 มิ.ย.) บริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ ทุนดำเนินการเบื้องต้น 700,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นี้ มีจุดประสงค์จะ "ประกอบธรกิจให้บริการการขนส่งและบริการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ" สำนักข่าวของทางการกล่าว ก่อนหน้านั้นเพียง 2 วัน ในวันที่ 13 มิ.ย. บริษัท Thai Airport Ground Services Co Ltd ของไทยได้เซ็นสัญญาเข้าลงทุนในเขตเศรษฐกิจสะหวัน-เซโน โซน A ที่อยู่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำโขงสะหวันนะเขต-มุกดาหาร เพื่อพัฒนาพื้นที่ 270 เฮกตาร์ (1,680 ไร่เศษ) ให้เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนและบริการในระดับภูมิภาค ด้วยเงินทุนประมาณ 48 ล้านดอลลาร์ บริษัทขนส่งและบริการญี่ปุ่น-ลาวนี้ ก็จะตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจสะหวัน-เซโน เช่นเดียวกัน แต่สำนักข่าวของทางการลาวไม่ได้รายงานในรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาการก่อตั้งบริษัท รวมทั้งสิทธิพิเศษที่บริษัทร่วมทุนแห่งนี้อาจจะได้รับจากรัฐบาลลาว อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่ ของทางการนครหลวงเวียงจันทน์ รายงานในวันเดียวกันว่า การก่อตั้งบริษัทดังกล่าว "จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการลงทุนจากต่างประเทศที่จะเข้ามา สปป.ลาวในการขนส่ง-เปลี่ยนถ่ายสินค้าจากประเทศไทย-เวียดนามโดยมีลาวเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทาง.." การเปิดใช้สะพานมิตรข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ไทย-ลาว ในเดือน ธ.ค.2549 ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้แก่การคมนาคมขนส่งทางบกในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงตามเส้นทาง EWEC หลายประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทางขนส่งลำเลียงสายนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขนส่งสินค้า ถนนสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อพัฒนาเอเชียนี้ มีความยาวประมาณ 1,500 กิโลเมตร เป็นทางลัดเชื่อมทะเลจีนใต้กับมหาสมุทรอินเดีย | ||||
ถนนสาย EWEC ก่อสร้างเสร็จแล้วเกือบทั้งหมด เหลือเพียงช่วงหนึ่งที่มีระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตรเศษในดินแดนพม่า เมื่อเปิดใช้ได้อย่างสมบูรณ์ ถนน EWEC จะช่วยร่นระยะทางได้ราว 4,000 กิโลเมตร เทียบกับการขนส่งทางเรือไปอ้อมช่องแคบมะละกา และ ร่นระยะเวลาได้ 14 วันเป็นอย่างน้อย เมื่อกลางเดือนที่แล้วบริษัททีเอ็นที (TNT) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุด่วนรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ประกาศแผนการขยายเครือข่ายธุรกิจในเอเชียเข้าสู่เวียดนาม เพื่อใช้เป็นศูนย์ขนส่งเชื่อมกับจีน-ไทยและทั่วอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการใช้ทางหลวงเลข 9 ในลาวและเวียดนาม บริษัท TNT กล่าวว่า กำลังจะเป็นเจ้าแรกที่เข้าพัฒนาศักยภาพของทางหลวงสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกแห่งนี้ ทีเอ็นทีได้ประกาศแผนการเพิ่มการลงทุนอีก 4.41 ล้านดอลลาร์ในเวียดนาม และประกาศขยายแผนให้บริการ Asia Road Network เข้าสู่จีนโดยผ่านภาคเหนือเวียดนาม ซึ่งหมายถึงการให้บริการขนส่งทางบกข้ามแดนเวียดนาม-จีน เป็นครั้งแรก โดยจะเริ่มภายในสิ้นปีนี้ ทีเอ็นทีกล่าวว่า บริการขนส่งทางรถยนต์ของบริษัทนั้น มีความรวดเร็วกว่าการขนส่งทางทะเล 2-3 เท่า แต่ขณะเดียวกันลูกค้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับการขนส่งทางอากาศ 30% มีการรับประกันสินค้าถึงประตูบ้าน และยังสามารถติดตามความคืบหน้าได้ทุกเวลาอีกด้วย "การขยายเข้าสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงของทีเอ็นทีนั้น เป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม" นายออนโน บูตส์ (Onno Boots) กรรมการผู้จัดการภาคพื้นของ TNT Southeast Asia กล่าว. |
ขอขอบพระคุณอาจารย์...