รวมตะกอนเด็ด วาทะเด่น ผลึกผล ทางการศึกษาไทย ใน G2K ตอนที่ 4


สวัสดีครับทุกท่าน          สบายดีกันไหมครับผม    เนื่องจากตะกอน ผลผลึก มีมากมายครับ ทีมงานเก็บตะกอนทำงานอย่างขยันครับ... ตอนนี้มีกันไปแล้วนะครั...
มีต่อ
P
สิทธิรักษ์
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 00:23 [305643]

Pปัทมาวดี โพชนุกูล ซูซูกิ
คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

http://gotoknow.org/blog/econ4life/106835

"การวิจัย คือ การพยายามหาคำตอบ" 

"การวิจัย คือ การสร้างความรู้ใหม่  การค้นหาความรู้" 

"การวิจัย คือ  กระบวนการสำรวจตรวจสอบ (investigate) อย่างเป็นระบบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง"

P
สิทธิรักษ์
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 00:42 [305646]
Pพรหมลิขิต
มูลนิธิร่วมพัฒนาพิจิตร
 http://gotoknow.org/blog/delpiero/106804
เทคนิคการทำนาแบบไม่บาป

อาจารย์เดชา  ยังทิ้งคำคมไว้น่าสนใจด้วยว่า....ที่เรา จน กันอยู่ทุกวันนี้ เพราะเรามองข้าวเป็นแค่สินค้า  เป็นกรรมไม่ดี  อย่างนี้ถือว่า ทำบาป ไม่ใช่ ทำบุญ แล้ว 

 ...คิดว่ารวยแล้วจะมีความสุขหน่ะเหรอ? ผมเคยรวยมาแล้วถึงรู้ว่ามันไม่จริงนะ...

P
สิทธิรักษ์
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 01:17 [305654]

 

P
http://gotoknow.org/blog/addadd/106575

เคยทำ ชีวิต...หายไป บ้างไหม ?

ลองตอบคำถามเหล่านี้ดูเล่น ๆ ก็ได้
จะได้รู้ว่าเรากำลังทำชีวิตหาย...ไป
มากน้อยเท่าใดแล้วคือ ทุกวันนี้...

1.
มิตรภาพหายไป เพราะ....
2.
ความมั่นใจตัวเองหายไป เพราะ...
3.
ความภูมิใจหายไป เพราะ...
4.
ความเชื่อความศรัทธาที่ดี ๆ หายไป เพราะ...
5.
ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวหายไป เพราะ...

6.
เงิน หายไป (แม้บางคนจะหาได้มาก ก็เป็นหนี้มาก) เพราะ...
7.
เวลา หมดไปเร็วมาก เพราะ...
8.
กำลังใจ หายไป เพราะ...
9.
ความคิดดี ๆ หายไป เพราะ...
10.
ความกล้าหาญ หายไป เพราะ...
11.
ค่านิยม ทัศนคติที่ดี ๆ หายไป เพราะ...
12.
ความสุนทรีย์...ความสุข..หายไป เพราะ...

P
สิทธิรักษ์
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 02:26 [305672]
P
P

สวัสดีครับน้องเปียโร่

  • ขอบคุณมากครับที่จะต้อนรับนะครับ คงมีโอกาสได้เจอกันแน่นอนครับ
  • อยากให้น้องลองหาแผ่นที่ประเทศไทย หรือวาดเอาเองก็ได้ครับ แล้วเมื่อรู้จักคนที่มีแนวคิดคล้ายๆ กัน ก็จุดลงไปบนแผนที่ แล้วทำงานแบบเครือข่ายนะครับ จุดลงไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งน้องเองก็มีแผนที่และเครือข่าย พี่เอกก็มีแผนที่แบบนั้น พี่เองก็มีแบบนั้น ท่านอื่นๆ ก็เช่นกัน แล้วเอาแผนที่เหล่านั้นมาแชร์กัน เล่าสู่กันฟังครับ เราจะถึงกันหมดใช่ไหมครับ
  • สำหรับเรื่องประสบการณ์นั้น จริงๆ แล้วไม่จำเป็นว่าเรียนมาหรือเรียนสูงจะต้องมีประสบการณ์มากกว่านะครับ มีอะไรอีกมากครับที่คนที่ไม่ได้เรียนรู้มากกว่าพี่นะครับ ดังนั้นเราร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เติมเต็มให้กันครับ เหมือนเราเอาแผนที่ของเราไงครับ มากางแล้วแนะนำกัน น้องแนะนำคนใหม่ในเครือข่ายน้อง พี่ก็จะรู้จักแล้วก็จุดเพิ่มลงไปในแผนที่ของพี่
  • ท้ายที่สุดแล้วเรามีแผนที่เหมือนกันเลยครับ พี่ว่าเรามีอะไรไม่มีอะไร พลัดหลงไปแถวๆ พิจิตรก็อาจจะได้เจอน้องแบบบังเอิญได้ ในทางกลับกันก็เช่นเดียวกันครับ
  • พี่ยังเชื่อว่า ใจมาก่อนวัตถุครับ ดังนั้น หากเราทำอะไร แล้วมีใจนำ เพื่อเชื่อว่าวัตถุจะตามมาเอง ไม่ใช่วัตถุตามมาแล้วจะแซงใจไปได้นะครับ เราต้องใช้ใจคุมวัตถุ เราจะเจอความสมดุลที่ดีครับ
  • สิ่งที่น้องทำอยู่พี่ว่าดีมากๆ และหลายๆ คนอิจฉาเป็นแน่แท้ ที่แน่ๆ พี่หล่ะหนึ่งคนที่อิจฉา เพราะพี่ไม่ได้มีโอกาสลงไปสัมผัสแบบนั้น เวลาพี่เห็นภาพของชาวบ้านนั่งล้อมวงแล้วถกคุกันอย่างเป็นกันเอง พี่ว่านั่นหล่ะ แก่นของชุมชน อยู่ในวงนั้นหล่ะครับ
  • ขอเป็นกำลังใจเพื่อสร้างพลังชุมชนเข้มแข็งนะครับ
  • และรักษาสุขภาพด้วยนะครับ อยู่ใกล้หรือไกล เราถึงกันหมดครับ...ขอให้น้องชายโชคดีครับ
  • http://gotoknow.org/blog/delpiero/106383
P

สวัสดีครับทุกท่าน

ช่วงนี้ยุ่งๆ มากเลยครับ

ขอบพระคุณพี่เหลียงและทุกๆ ท่านนะครับ สำหรับความเห็นดีๆ บทความดีๆ ข้อคิดเห็นดีๆ นะครับ

 รักษาสุขภาพนะครับ

เม้ง

P
สิทธิรักษ์
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 02:54 [305680]
Pดร. แสวง รวยสูงเนิน
มหาวิทยาลัยขอนแก่น  http://gotoknow.org/blog/sawaengkku/106871
หนี้สินภาคประชาชน: ประตูสู่เส้นทางของการสิ้นชาติ
เป็นเส้นทางที่ขายตัวเอง ขายศักดิ์ศรี ขายทรัพย์สิน ให้กับคนมีกำลังซื้อ และคนที่มีกำลังซี้อก็มักเป็นต่างชาติที่ร่ำรวย

 ช่วง ๒-๓ เดือนที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้านมาก และพบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่มีหนี้สินเกินกว่าระบบรายได้ของตนจะแก้ไขได้ ทำให้มีภาระหนี้สินพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนแทบไม่เหลือทางเลือกให้ตัวเองอีกต่อไป เท่าที่รวบรวมข้อมูลพบว่า ทางเลือกที่เหลือ และปฏิบัติกันทั่วไปก็คือ 

1.    ขยายการผลิตพืชสัตว์เป็นการค้าที่คาดว่าจะได้กำไรมากๆ เร็วๆ

2.    หางานรับจ้างเป็นฤดูกาลหรือระยะยาวทำ ทั้งในชุมชน ในเมือง ในกรุงเทพ หรือ ต่างประเทศ

3.    หาทางให้ลูกสาวแต่งงานกับคนมีเงิน และที่นิยมมากก็คือการแต่งกับต่างชาติ

4.    การเสี่ยงทุ่มเทเล่นการพนันที่เห็นตัวอย่างจากบางคน

5.    การหากินด้วยวิธีการไม่สุจริตและอาชีพแอบแฝงที่ได้เงินมากๆ ง่ายๆ เร็วๆ ตามขีดความสามารถของแต่ละคน

6.    การแบ่งที่ดินขาย หรือขายยกแปลงล้างหนี้

7.    ฯลฯ 

เส้นทางที่กล่าวมานั้นเป็นวิธีที่เคยเห็นมา และเป็นเส้นทางที่ขายตัวเอง ขายศักดิ์ศรี ขายทรัพย์สิน ให้กับคนมีกำลังซื้อ และคนที่มีกำลังซี้อก็มักเป็นต่างชาติที่ร่ำรวยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

โดยเฉพาะเรื่องการขายที่ดินให้กับต่างชาติ แต่แฝงมาในนามของภรรยาของคนต่างชาตินั้นน่ากลัวมาก เพราะที่ดินมีโอกาสเปลี่ยนเป็นของต่างชาติ(โดยพฤตินัย และอำนาจการควบคุม)ได้ง่ายมาก และเขาก็มีกำลังซื้อมากกว่าคนไทยทั่วไปเสียด้วย

แล้วชาวบ้านทั่วไปที่หนี้สินท่วมหัวอยู่ จะเอาแรงที่ไหนไปต้านทาน  

หรือเราจะปล่อยให้ประตูบานนี้เปิดไปสู่เส้นทางแห่งการสิ้นชาติจริงๆ 

หรือเรามีมาตรการป้องกันไว้แล้ว 

ใครทราบช่วยบอกหน่อย

หรือถ้าลดปัญหาหรือปิดประตูนี้ได้ ก็ช่วยกันหน่อยนะครับ

P
สิทธิรักษ์
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 19:38 [306272]
P
สิทธิรักษ์
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 19:51 [306287]

Pดร. แสวง รวยสูงเนิน
มหาวิทยาลัยขอนแก่น  http://gotoknow.org/blog/sawaengkku/106884

 KM สามารถ

·        กระตุ้น หรือเร่งให้เกิด

·        พัฒนาต่อยอด

·        แลกเปลี่ยน และ

·        ถ่ายทอด และ

·        เก็บรักษาได้ 

 

แต่ผมก็กลับพบว่า KM จะเกิดขึ้นได้กับเฉพาะคนที่

·        สนใจ

·        เข้าใจ และ

·        ตั้งใจทำ เท่านั้น 

 

และเป็นแบบ ผู้ทำ เป็นผู้รู้ ด้วยตัวเอง 

PConductor
วันนี้ ATM มีอายุ 40 ปี กับอีก 1 วัน

วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2510 เอทีเอ็มเครื่องแรกของโลก ได้รับการติดตั้งที่ธนาคารบาเคลย์ใกล้ลอนดอน -- ส่วนข้อมูลที่บอกว่าเอทีเอ็มเครื่องแรกของโลก ติดตั้งที่นิวยอร์คเมื่อปี 2520 นั้น ช้าไปสิบปีครับ ถ้าอ่านเจออย่านำไปอ้างอิง

ภาพทางซ้ายคือ John Shepherd-Barron บิดาแห่งเอทีเอ็ม

สำหรับในประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นธนาคารแห่งแรกที่นำเครื่องเอทีเอ็มเข้ามาให้บริการ -- ผมพยายามค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ของธนาคาร แต่ไม่พบวันที่แน่นอน พบแต่ข้อมูลที่ คม-ชัด-ลึก แจ้งว่าธนาคารได้นำบริการเงินด่วนเอทีเอ็ม (ซึ่งสมัยนั้นเรียกว่าอย่างนั้น) เข้ามาในประเทศเมื่อปี 2526

 

Pyongyong

หนุ่มเอ็กเทอร์น : คำขอโทษ

  คำขอโทษ ถูกส่งต่อกันไปมา บรรยากาศที่มืดมน เกรี้ยวกราด ถูกเปลี่ยนเป็นความเมตตา อาทร ในชั่วข้ามคืน

 

                 สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผม ยิ่งตอกย้ำให้เชื่อมั่นในพลังด้านบวก 

P
เฒ่าหน้าเหมน
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 20:05 [306305]

คุณเม้งครับ
     มีอาจารย์อาวุโสท่านหนึ่ง เคยบอกว่า ให้พวกเราค้นหาความรู้ในท้องถิ่น ท่านใช้คำว่า วิทยาศาสตร์ในท้องถิ่น ซึ่งหมายถึง องค์ความรู้ที่เกิดขึ้น หรือเป็นความจริงในท้องถิ่นนั้นๆ

http://gotoknow.org/blog/mrschuai/106362

P
เบิร์ด
เมื่อ พ. 27 มิ.ย. 2550 @ 20:27 [305469]

P

สวัสดีค่ะคุณเม้ง

 http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/105550

ผมรู้สึกว่าเรากำลังเปลี่ยนป่าดงดิบ ให้เป็น ป่าโปร่ง แล้วเปลี่ยนป่าโปร่งเป็น ป่ายาง แล้วเป็นสวนยาง แล้วเป็น ทุ่งยางนา(ปลูกยางในนา) แล้วพอดินเสื่อมสุดๆ แล้วเราก็ปลูกด้วยยูคากันครับ ท้ายที่สุดแล้ว....ต้นไม้อะไรจะขึ้นบ้านเราครับ...

ต้นไม้ทุกต้น ทุกชนิดมีข้อดีข้อเสียในตัวเองเสมอ เปรียบเสมือน ระบบ หรือคนเรานี่หล่ะครับ

ปลูกยูคา รากมันจะหยั่งลึกในดิน

แต่หากคนเราปลูกทุนนิยม...รากมันจะหยั่งลึกใจหัวใจคน

ถามว่า ถอนรากยูคา กับถอนรากทุนนิยม ถอนรากอะไรยากกว่ากันครับ.....

บ้านเรา....รับของนอกง่ายครับ....เรานิยมแล้วทำเป็นแฟชั่น

ลองคิดถึงกระบวนการสร้างโลกดู ก็ได้ครับ คิดว่าต้นไม้มีการพัฒนาของมันแต่ละพื้นที่ แต่คนเราเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ฉลาดหัวแหลม.... เปลี่ยนแปลงโลก....

โยกนั่นย้ายนี่ แทนที่จะศึกษาว่า..ทำไมเกิดสิ่งนี้ตรงนี้ เกิดสิ่งนั้นตรงนี้ ทำไม... ทำความเข้าใจเพื่ออยู่ร่วม...ไม่ใช่ อยู่ร่วมเพื่อขาดความเข้าใจ

P
เฒ่าหน้าเหมน
เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 20:05 [306305]
http://gotoknow.org/blog/mrschuai/106362

 มีอีกเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังครับ หลายสิบปีก่อน มีการผสมพันธุ์กล้วยไม้ โดยใช้กล้วยไม้พื้นเมืองของไทยมาผสมกัน
ใช้กล้วยไม้สกุลเข็ม 2 ชนิด คือ เข็มแดง กับเข็มแสด เข็มทั้งสองชนิดนี้ ออกดอกปีละครั้ง แต่เมื่อผสมกันแล้ว ลูกผสมที่ได้กลับออกดอกทั้งปี

P
สิทธิรักษ์
เมื่อ พ. 27 มิ.ย. 2550 @ 20:31 [305472]
สวัสดีครับ ท่านหงษ์หยก เหิรฟ้า
P

 http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/105550

ว่าจะไม่เชียว ว่าจะไม่เชียว  ว่าจะไม่ ว่าจะไม่

แต่ได้เข้ามาดู เข้ามาพิเคราะห์  มาพิจารณา ใช้สมองทุกส่วนคิด ยังไงก็คิดไม่ตก  เรื่องที่เกิด เรื่องที่คุย เรื่องที่คิด  บันทึกของท่าน...................

เป็นที่รู้กันดีว่าทุกวันนี้พระสงฆ์สูญเสียสถานะและบทบาทไปมาก ซึ่งมีสาเหตุสำคัญอยู่ 3 ประการคือ

1 . ความสัมพันธ์ระหว่างคณะสงฆ์กับรัฐ เพราะไม่เคยมีประเทศไหนในโลกที่รัฐเข้ามาอุปถัมภ์ศาสนาโดยไม่ครอบงำและไม่แสวงหาผลประโยชน์...และที่สำคัญเวลานี้ศาสนาเราก็พอใจที่รัฐเข้ามาอุปถัมภ์ !

2.  ความสัมพันธ์ระหว่างคณะสงฆ์กับสังคม ที่อ่อนแอและเข้าไม่ถึงชุมชน กลายเป็นพิธีกรรมต่างๆมากมาย

3.  การศึกษาของคณะสงฆ์  ที่การครุ่นคิดไตร่ตรองศาสนธรรมกลับไม่งอกเงย  การค้นคว้าทางศาสนธรรมด้านปริยัติต้องอาศัยหนังสือที่เขียนไว้เมื่อหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา  สำนักเรียนของพระสงฆ์มีอยู่ทั่วประเทศ แต่สำนักเหล่านั้นเพียงแต่ถ่ายทอดเรื่องราวเก่าๆต่อคนรุ่นใหม่  ไม่ได้เปิดโอกาสให้ความคิดใหม่ได้งอกเงย...กลายเป็นระบบการศึกษาที่แช่แข็งภูมิปัญญา !

ถ้าเรามาดูสภาพการณ์ การดำรงค์อยู่  ของสาวก พระพุทธเจ้า  ที่พวกเราเคารพและรับเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า 

อะไรเกิดขึ้น  ทำไมต้องดิ้นรนเอาเป็นเอาตาย กับการบรรจุพุทธศาสนา  เข้าไปในรัฐธรรมนูญ

เหตุผล.............. ผู้นำในการกอบกู้และสร้างชาติไทยเสมอมาทุกยุคทุกสมัยนั้นก็คือ พระมหากษัตราธิราช  ทรงเป็นผู้บรรเทาทุกข์บำรุงสุขเสมอมา  ซึ่งสามสถาบันนี้จะแยกจากกันมิได้เพราะอิงอาศัยซึ่งกันและกันอย่างแน่นแฟ้นเสมอมา จนกลายเป็นธงไตรรงค์ (ธง) คือที่หมายแห่งความเป็นไทย อันบรรพบุรุษสร้างและมอบให้เรารักษาเพื่อลูกหลานภายหน้าจะได้มีภสุธาอาศัย อนาคตจะต้องมีประเทศไทยหรือจะยอมให้ใครมาทำลาย? ในปัจจุบันนี้แม้ประเทศไทยจะปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีรัฐธรรมนูญเป็นขื่อแปของประเทศก็ตาม รัฐธรรมนูญนั้นก็ต้องสร้างความเป็นสเถียรภาพและความมั่นคงให้เกิดมีขึ้นภายในชาติมิใช่หรือ? รัฐธรรมนูญจะต้องรักษาปกป้องคุ้มครองและส่งเสริมความเป็นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้เข้มแข็งยืนยงอยู่คู่ชาติไทยมิใช่หรือ? (คัดลอกมาจาก  http://gotoknow.org/blog/papangkorn/92608 )

เกี่ยวอะไรกันไหม ครับ 

  • ศาสนาพุทธเกี่ยวข้องกับ อนาจักรไหม
  • ศาสนาพุทธเกี่ยวกับอำนาจไหม
  • ศาสนาพุทธเกี่ยวกับผลประโยชน์ไหม

หลายๆคนอาจจะว่าไม่เกี่ยว  แต่ทำไมเคลื่อนไหวกันหนักเหลือเกิน ขนาดเอาชีวิตเข้าแลก เอาประวัติศาสตร์ไทยเข้าแจง  โดยเฉพาะพระสงค์องค์เจ้าส่วนหนึ่ง และผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพระ

หรือว่าพระสงค์มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง

  • เกี่ยวข้องกับขอบเขตุรัฐ
  • เกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐ
  • เกี่ยวข้องผลประโยชน์ในรัฐ

คิดไม่ได้ครับ   คิดก็ผิดแล้วครับ  ทำยิ่งผิดครับ 

แล้วจะคุยกันยังไง    ยังไง   ยังไง

ผลประโยชน์มหาศาลหรือเปล่า 

อำนาจมากมายหรือเปล่า  

ลำบากครับ เมืองไทย เพี้ยนไปหมดมรสุมการเมืองที่ย่ำแย่   เพี้ยนแม้กระทั่งบุคคลที่เราเคารพนับถือ  

จะพยุงศาสนาพุทธของเราให้เข้มแข็งอย่างไร  ตอนนี้พระมาจุดชนวนความคิดเห็นแตกแยก  กดดัน  ตอบโต้ เถียงกับคนไม่เห็นด้วย  วิปริตไปหมด ไม่เอาประชาชนที่เลื่อมใสในศาสนาพุทธแล้วหรือครับแค่จะหวังอำนาจ   หรือว่า..................................?????  ไม่อยากคิดไปไกลขนาดนั้น   

บะหมี่ หนา  บะหมี่........................   มาไกลถึงเรื่องนี้ 

มาดื่มน้ำชาดีกว่า............................

P
http://gotoknow.org/blog/agri-nature/107070
รายงานแตงกวา และผักบุ้งไฮโดรโพนิกส์บนต้นกล้วย

ฝนตกติดต่อกันสองสามวัน ลืมแตงกวา กับผักบุ้งที่ปลูกอยู่บนต้นกล้วยไปเลย วันนี้นึกขึ้นได้เลยแวะไปดูปรากฏว่า แตงกวาออกดอกแล้ว แต่ไม่ค่อยมีใบเมื่อเทียบกับที่ปลูกบนดิน ส่วนผักบุ้งขึ้นสวยกว่าเดิม

ผมเลยไปถ่ายรูปแตงกวาที่ปลูกบนดิน มาให้ดูเปรียบเทียบกับที่ปลูกบนต้นกล้วย แตงกวาบนต้นกล้วย ที่ไม่ออกใบมาก คิดว่าน่าจะโดนแสงน้อย  ไม่ได้ทำการทดลองเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ เล่าสู่กันฟังสนุกๆ 

 

P
P

สวัสดีครับท่านอาจารย์เฒ่าหน้าเหมน (หมายถึงภูเขาเหมน เมืองคอนหรือเปล่าครับ)

  • ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า กราบขอบพระคุณมาอย่างสูงเลยครับ ที่ท่านอาจารย์นำความรู้มาเพิ่มพูนให้กับบทความนี้ มีสีสันและคุณค่ามากขึ้นมากๆเลยครับ
  • ทำให้ผมนึกไปถึงกระบวนการอื่น แบบการผสมพันธุ์แบบการขายพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศมากขึ้นครับ จากที่เคยๆ ทำกันมานะครับ เช่น
  • เอาตาใบมะกรูด ไปติดกับ ต้นมะกรูดผี (ป่า)
  • เอายอดพริกไทย ไปเสียบยอดกับ ต้นชะพลู
  • เอาตาสะตอ ไปติดตามกับต้นตำเลง
  • เอากะท้อนพันธุ์ ติดตาบนกะท้อนบ้าน
  • และอื่นๆ ครับ ทำให้น่าคิดมากๆ เลยครับ
  • สิ่งที่สำคัญคือ ระบบรากของสิ่งที่เป็นบ้านๆ ป่าๆ พันธุ์ในป่า ทนแล้งทนฝนทนร้อน ทนสารพัดพิษ เป็นระบบรากที่ดีมากๆ ครับ
  • http://gotoknow.org/blog/mrschuai/106362
Pสายพิณ วิไลรัตน์
ไม่รู้จะไปไหนต่อ ถึงทางตันจริงหรือ? ตราบใดที่ทุกคนยังมีไฟและมีกำลังใจ เราเริ่มใหม่ได้เสมอ
Pข้าวสวย
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คุณให้ความสำคัญกับอาหารเช้ามากแค่ไหน
อาหารเช้าช่วยให้ลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆได้มาก เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง
เก็บเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันค่ะใครทานอาหารเช้าบ้างคะ หลายคนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมื้อเช้าเท่าไหร่นัก สมัยนี้ชีวิตต้องเร่งรีบ มื้อเช้าข้าวทานนม+ขนมปังเน้นความสะดวกค่ะ ทำงานไม่นานก็เที่ยง เค้าบอกว่าการรับประทานอาหารเช้าจะให้ผลดีต่อร่างกายและสมองดังนี้ค่ะ·        ทำให้ไม่หิวจัดในช่วงสาย หรือกินมื้อหนักในช่วงเที่ยง จึงทำให้เราไม่อ้วน(บางคนก็ทานมากทั้งเช้าและเที่ยง) อาหารเช้าที่มีคุณประโยชน์ครบถ้วน จะทำให้ร่างกายค่อยๆดูดซึมเป็นพลังงานไปใช้ได้ตลอดในช่วงเช้า·        ทำให้ร่างกายมีโอกาสได้รับสารอาหารต่างๆครบ5หมู่ ได้รับวิตะมินและเกลือแร่จากพืชผักผลไม้อีกด้วย ช่วยให้ลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆได้มาก เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง

อายุมากขึ้น ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เดี๋ยวนี้มนุษย์เราไม่สบายกันมากขึ้น อาหารการกินก็ไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อน วิถีการกินก็ไม่เหมือนเดิม คุณล่ะคะให้ความสำคัญกับอาหารเช้าหรือปล่าวคะ

 นาย ร. สาระ
โรงพยาบาลกาบัง
http://gotoknow.org/blog/saradiary/107082

โลกร้อน.....ทำไงดี

เมื่อโลกก็ร้อน  การเมืองก็ร้อน  เศรษฐกิจก็หนาวๆร้อนๆ  ผู้เขียนก็เลยเห็นว่า  สิ่งสำคัญที่ควร  จะพยายามปกป้องควบคุมไม่ให้ร้อนตามสภาพแวดล้อม  ก็ คือ ใจ  ของคนเรา 

เพราะ  ถ้าใจทุกๆคนเริ่มร้อน  สิ่งอื่นๆ  ก้ยากที่จะควบคุม................

P
http://gotoknow.org/blog/cancernurse/105700

คุณค่าทางโภชนาการ

ส้มตำ  1 จาน 100 กรัม มีพลังงาน 23 แคลอรี่
มะละกอ เป็นสมุนไพร ที่มีประโยขน์ในการบำรุงนม ขับพยาธิ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ริดสีดวงทวาร  ช่วยย่อยอาหาร

พริกขี้หนู  ช่วยเจริญอาหาร  ขับลม  ช่วยย่อย
กระเทียม ลดไขมันในหลอดเลือด ขับลม ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร
ถ้ารับประทานกับผักสด ยังได้วิตามินจากผักได้อีก
ดังนั้น  ถ้าใครต้องการลดความอ้วน โดยเฉพาะ  ดาราหลายคน จะลดความอ้วน โดยรับประทานส้มตำ

คุณค่าทางโภชนาการ

ส้มตำ  1 จาน 100 กรัม มีพลังงาน 23 แคลอรี่
มะละกอ เป็นสมุนไพร ที่มีประโยขน์ในการบำรุงนม ขับพยาธิ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ริดสีดวงทวาร  ช่วยย่อยอาหาร

พริกขี้หนู  ช่วยเจริญอาหาร  ขับลม  ช่วยย่อย
กระเทียม ลดไขมันในหลอดเลือด ขับลม ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร
ถ้ารับประทานกับผักสด ยังได้วิตามินจากผักได้อีก
ดังนั้น  ถ้าใครต้องการลดความอ้วน โดยเฉพาะ  ดาราหลายคน จะลดความอ้วน โดยรับประทานส้มตำ
PTOOKIE
OKLS Co.,Ltd

 หากใครที่ยังคิดว่าฉันเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินกับงานและหลายสิ่งหลายอย่าง ฉันยุ๋ง ยุ่งจนใครไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าฉันยุ่งแค่ไหนฉันไม่มีเวลาที่จะไปคิดอะไรหรอกนอกเหนือจากสิ่งที่ฉันทำอยู่ในปัจจุบัน ฉันเชื่อว่าไม่จริงหรอกในการทำงานของคุณ หนึ่งวันต้องมีเวลาซักครึ่งชั่วโมงแหละน่าที่คุณเบนความสนใจจากงานไปทำอย่างอื่น ลองเอาครึ่งชั่วโมงนั้นน่ะมาแสวงหาความรู้ที่จะมาพัฒนาตัวเองและงานกันดีกว่า สู้ สู้นะ

ขอบคุณค่ะที่รวมเรื่องราวดีๆมาให้อ่านค่ะ

http://gotoknow.org/ask/sompong_147/6465

หน้าที่สงฆ์ ....หน้าที่ฆราวาส.
P
ในโอวาทปาฏิโมกข์  พระพุทธองค์ทรงสอนให้รู้จัก   ระวังสังวรณ์  ....อย่าละงานทางจิต........อย่าติดสังคม...ให้รำพึงถึงว่าเราอยู่ในฐานะอะไร  ....จะได้ไม่ต้องวางแผนพิชิตหรือพิฆาตใคร?
ลิงค์ที่อยู่ถาวร   ความคิดเห็น (0)
สร้าง: พ. 20 มิ.ย. 2550 @ 12:37   ตอบแล้ว: พ. 27 มิ.ย. 2550 @ 13:41
ตอบคำถาม
P

หน้าที่ของบรรพชิต เราอยู่ในฐานะอะไร? จึงต้องพิจารณาอยู่เนื่อง ๆ ครับว่า ต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอคือ

1. บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆว่า บัดนี้เรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว  อาการกิริยาใด ๆ ของสมณะ เราต้องทำอาการกิริยานั้น ๆ

2. บรรพชิตควรพิจารณาอยู่เนือง ๆ ว่า ความเลี้ยงชีวิตของเราเนื่องด้วยผู้อื่น   เราควรทำตัวให้เขาเลี้ยงง่าย

3. บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆว่า อาการกายวาจาอย่างอื่นที่เราต้องทำให้ดีขึ้นไปกว่านี้ยังมีอยู่อีก  ไม่ใช่เพียงเท่านี้

4. บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆว่า  ตัวของเราเองติเตียนตัวเราเองโดยศีลได้หรือไม่

5.บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆว่า  ผู้รู้ใคร่ครวญแล้ว ติเตียนเราด้วยศีลได้หรือไม่

6.บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า  เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งนั้น

7. บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า  เรามีกรรมเป็นของตัวเรา  ทำดีจัดได้ดี  ทำชั่วจักได้ชั่ว

8. บรรพชิตควรพิจารณาเนื่อง ๆ ว่า วันคืนล่วงไป ๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่

9.บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า  เรายินดีในที่สงัดหรือไม่

10.บรรพชิตควรพิจารณาเนือง ๆ ว่า คุณวิเศษของเรามีอยู่หรือไม่  ที่จะไม่ให้เราเป็นผู้เก้อเขิน  ในเวลาเพื่อนบรรพชิตถาม ในกาลภายหลัง

ข้อธรรม ทั้ง 10 ประการนี้ จึงเป็นการแยกตัวของบรรพชิตกับคฤหัสถ์ หรือฆราวาส แต่ยังไม่ครบถ้วน เพราะทั้งหมดนี้เป็นเพียงให้บรรพชิตควรกระทำครับ

P
http://gotoknow.org/blog/Social/107257
กลอนบทที่สองครับ "แบ่งปัน" สิ่งดี ๆ เพื่อสังคม...
หลายชีวิตในสังคมขาดโอกาส หลายคนพลาดเดินทางผิดชีวิตแย่ อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีแท้ ขอเพียงแค่โอกาสได้กลับตัว

"แบ่งปันสิ่งดี ๆ เพื่อสังคม"

                                  ...สิ่งดี ๆ มีไว้เพื่อแบ่งปัน

                       ร่วมสร้างสรรค์สร้างสังคมให้สุขสันต์

                       เริ่มวันนี้เริ่มที่นี่เริ่มด้วยกัน

                       เพื่อสักวันสังคมไทยได้งดงาม...

                                ...หนึ่งความดีเล็ก ๆ นั้นมีค่า

                        ต่อชีวาเพื่อนมนุษย์พ้นทุกเข็ญ

                        บริจาคโลหิตแสนจำเป็น

                        ร่วมบำเพ็ญเพื่อกุศลแด่พ่อหลวง...

                              ...หลายชีวิตในสังคมขาดโอกาส

                        หลายคนพลาดเดินทางผิดชีวิตแย่

                        อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีแท้

                        ขอเพียงแค่โอกาสได้กลับตัว...

 

                              ...เพราะคนเราเกิดมาล้วนแตกต่าง

                        มาร่วมสร้างสังคมให้สมบูรณ์

                        ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำเพื่อสมดุลย์

                        ตอบแทนคุณแผ่นดินไทยด้วยใจเรา...   

                        

P
http://gotoknow.org/blog/mrschuai/107135
ต่อกร เรื่องควาย กับพี่บ่าว ไฉนนาข้าวที่เลี้ยงควาย ได้ข้าวผลผลิตงามใจ
นกเอี้ยง มาเลี้ยงควายเฒ่า ควายกินข้าว นกเอี้ยงหัวโต

เอารูปนี้มาให้ดู และยืนยันว่าควายไม่โง่และฉลาดมาก ที่เอารูปนี้มาให้ดูเป็นเพราะมีแม่หนูพวน ชาวบ้านธรรมดา ที่ไม่ทำธรรมดา ได้เอาควายลงไปกินหญ้าและกินข้าวในนา  แต่ปรากฏว่า นาแปลงนี้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่านาแปลงอื่นๆของชาวบ้านที่ไม่ได้ เลี้ยงควายในนา  คงต้องกลับมาวิเคราะห์กันใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้น (แล้วจะมาเล่าต่อว่าแม่หนูพวนมีดีอะไร รู้หรอกว่าอยากทราบฮ่าๆๆๆ)

 

  บนความตั้งแต่ต้นจนถึงภาพน้องควายสองตัวที่น่ารัก จากบทความพี่บ่าว Pสุดหล่อ จากบทความ มหาชีวาลัยอีสานกับต้นอะไรไม่รู้ของบ้านเม็ก ดำ (http://gotoknow.org/blog/yahoo/107131)

P
http://gotoknow.org/blog/mrschuai/107373

ดังนั้นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในความเห็นของชาวบ้านที่นับถือกัน เมื่อไม่นานมานี้ มีคนไประเบิดหินเพื่อเอาหินมาโม่ขาย แต่ก็เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ลูกสาวของกำนันโดนหินทับเสียชีวิตครับ ทำให้ชาวบ้านคิดกันไปต่อว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรไปยุ่งไปทำลายครับ เป็นอุทาหรณ์ให้ชาวบ้านคิดกันต่อไปครับ

ด้วยมิตรภาพ

 สมพร ช่วยอารีย์ (เม้ง)

ชุมทางเขาชุมทอง ( F ) ระพิน ภูไท F


(ภาพชานชลาสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองครับ)

ดนตรี 8 Bars..6...7... 8..  http://gotoknow.org/blog/mrschuai/107373

P
  • ภูเขา ป่า ถือเป็นซุปเปอร์มาเกตขนาดใหญ่ของชาวบ้าน แต่นับวัน ป่าก็หดหายลงไปทุกที
  • ภาพรีสอร์ทไปแทนพื้นที่ป่าเกิดขึ้นมากที่บ้านผมครับ ราคาที่ดินพุ่งแบบฉุดไม่อยู่ แม่บอกว่าคนกรุงเทพชอบจะมาอยู่บ้านเรา เขามีเงินเขามาซื้อที่บ้านเราไปหมดเป็นปรากฏการณ์หนึ่งครับ...ที่เกิดขึ้นที่บ้านผมครับ
  • ความเห็นดีๆ จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/107373

    ขอใช้สิทธิ์พาดพิงครับ

    รูปนี้ตั้งใจถ่ายมาให้เพราะเห็นแล้วนึกถึงครับ ด้วยความสัตย์จริง

    เข้าใจว่าเป็นญาติที่ยังไม่เคยพบหน้ากัน ผมไม่สามารถสอบถามรายละเอียดได้ พูดกันไม่รู้เรื่อง 

    PBM.chaiwut
    ฆราวาสปกครองสงฆ์ (อีกนัยหนึ่ง)
    ฆราวาสปกครองสงฆ์ (อีกนัยหนึ่ง)

    ต่อไปฆราวาสจะปกครองสงฆ์... ผู้เขียนได้ยินสำนวนนี้มานานแล้ว แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้พูดคนแรก หรือเป็นเรื่องที่ถูกทำนายไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่... ต่อมาความเห็นของพระเถระบางรูปก็เริ่มพูดว่า เดียวนี้ฆราวาสปกครองสงฆ์ ... นั่นคือ ความเห็นที่บ่งชี้ว่า คำกล่าวนี้กำลังจะเป็นจริง ...

    เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนก็ได้รับการขยายความจากพระเถระบางรูปอีกนัยหนึ่ง ซึ่งเป็นประเด็นที่สะท้อนสังคมสงฆ์ตอนนี้ได้ดี... และเนื่องจากวันนี้ กฎหมายรัฐธรรมนูญในประเด็นพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ไม่ผ่าน .... จึงใคร่จะนำเรื่องนี้มาเล่าผสมผสานกันไป......

    .....

    ตามนัยเดิม ฆราวาสก็คือชาวบ้านมีอำนาจเหนือพระสงฆ์ในการปกครอง ซึ่งชาวบ้านในที่นี้ อาจจำกัดวงให้แคบอยู่ ๒ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มข้าราชการ และกลุ่มคณะกรรมการวัด

    การจัดตั้งวัด การขอวิสุงคาม การของบประมาณบางอย่างเพื่อบำรุงวัด ฯลฯ... ประเด็นเหล่านี้ จะต้องอาศัยราชการ ซึ่งทางราชการอาจอนุมัติ ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว หรือปล่อยปละ วางเฉย .... นั่นคือ อำนาจเหล่านี้อยู่ที่ข้าราชการซึ่งเป็นชาวบ้าน อยู่เหนือพระสงฆ์หรือวัด ทำให้เกิดมีการแสวงหาผลประโยชน์ทางอ้อมในทางที่มิชอบ มากบ้างน้อยบ้าง ... พระผู้ปกครองบางรูปเห็นแก่พระศาสนาก็ยินยอมบางอย่าง .... ประเด็นเหล่านี้มีแน่นอน เพียงแต่ไม่ค่อยจะมีใครนำมาเปิดเผยให้ปรากฎเท่านั้น

    บางวัด การจัดการวัดอยู่ที่คณะกรรมการทั้งหมด พระสงฆ์ภายในวัดไร้อำนาจ... คณะกรรมการเหล่านั้น บางแห่งก็มีนอกมีในอยู่กับวัด หรือบางคนก็อาจต้องการอำนาจ.... เรื่องราวทำนองนี้ก็สงเคราะห์ได้ว่าฆรวาสปกครองสงฆ์ ได้เช่นเดียวกัน

    ........

    อีกนัยหนึ่งก็คือ ฆราวาสในที่นี้มิใช่ชาวบ้านผมยาว นุ่งกางเกง ใส่เสื้อลาย แต่เป็นอลัชชีห่มเหลืองนี้แหละ ... กลุ่มนี้แม้ขาดจากความเป็นพระแล้วก็ไม่ลาสิกขาไปตามวินัย ยังคงเกาะตำแหน่ง ตั้งเป็นแก็งครอบงำการปกครองคณะสงฆ์ มีการกีดกันพระสงฆ์น้ำดี มิให้เข้าสู่แก่นอำนาจ ....

    นี้คือ ฆราวาสปกครองสงฆ์ (อีกนัยหนึ่ง) ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าเป็นจริงเช่นเดียวกัน และส่วนมากก็รับรู้อยู่ เพียงแต่ว่า ขาดประจักษ์พยาน หรือหลักฐานที่จะทำลายการจัดตั้งเป็นระบบของอลัชชีทำนองนี้ได้...

    ........

    ผู้เขียนอยู่วัดมาเกิน ๒๐ ปี อยู่มาทั้งบ้านนอก ในป่า ในเมือง ทั้งวัดสำนักปฏิบัติ และสำนักเรียน .... พานพบพระสงฆ์ที่เสียสละเพื่อพระศาสนา และทุ่มเทเพื่อศาสนามาก็มิใช่น้อย...

    ยืนยันได้ว่า ทั้งพระสงฆ์ดี และอลัชชีชั่ว มีอยู่ทุกกลุ่มสังคมที่ผู้เขียนอยู่มา.....

    เฉพาะประเด็นต้องการปกป้องพระศาสนา โดยยกพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ก็มีบางส่วนที่ยอมอุทิศตัวเองเพื่อการณ์นี้ และมีบางส่วนที่รับจ้างมา.... หรือมีการเมืองระดับชาติอยู่เบื้องหลัง (ประเด็นหลังนี้ผู้เขียนไม่ทราบ และไม่แน่ใจ)

    ........

    สรุปว่า ยังไม่เคยเจอหรือเคยเห็น ชาวบ้านซึ่งเป็นนักการเมืองระดับสูง หรือพระชั้นปกครองระดับกรรมการมหาเถรฯ ออกมาเสนอแนวคิด หรือเคลื่อนไหวเพื่อจะแก้ปัญหาพระศาสนาเหล่านี้เลย........

    ผู้เขียนรู้สึกว่า ท่านเหล่านั้น ทั้งที่เป็นชาวบ้านและพระสงฆ์ เล่นไปตามกระแส ทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจของตัวเองให้มั่นคง และเพื่อให้อำนาจตัวเองและบริวารสูงส่งหรือยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น เท่านั้น

    .......

    โดยปกติ... ผู้เขียนมักสงวนท่าที ไม่ค่อยเขียนเรื่องทำนองนี้ วันนี้เล่าย่อๆ เพื่อสะท้อนบางสิ่งบางอย่าง เผื่อว่าใครจะมีปัญญาบารมีเพียงพอเพื่อแก้ไขสิ่งเหล่านี้บ้าง....... 

     เล็กๆน้อยๆ ใน g2k   ห้าๆๆๆๆๆๆ
    ความคิดเห็น
    P
    สิริพร กุ่ยกระโทก
    เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 19:50 [ 306286 ]

    สวัสดีค่ะ..คุณน้อง..Conductor

    • หาก ATM อายุ 40 ปี  งั้นก็....เป็นน้องครูอ้อย 10 ปี

    ว่าไงน้อง...เอาเงินมาให้..เพ่ใช้หน่อยเด๊ะ...

    ขอบคุณค่ะ

    P
    Conductor
    เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 20:06 [ 306306 ]
    แหม ถ้าผมมีเบอร์มือถือครูอ้อย และครูอ้อยหาเอทีเอ็มตู้เหลืองใกล้ๆ เจอนะครับ ผมโอนค่ารีแพร์ไปให้ได้เลยครับ
    P
    Conductor
    เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 20:33 [ 306340 ]

    เอ... มาอ่านวิธีการโอนเงินผ่านตู้เหลืองดูอีกที รู้สึกว่าครูอ้อยต้องมีเบอร์มือถือผมด้วยซิครับ แต่ผมมีบัญชีที่ธนาคารนี้แล้ว และตู้เอทีเอ็มก็อยู่หน้าลิฟท์ในตึกที่ทำงานด้วย โอนได้ง่ายๆ เลย

    งั้นเอาเบอร์มือถือมาให้ทายดีกว่าครับ

    กติกา: ผู้ที่รู้ห้ามทาย ผู้ที่คิดว่าเดาถูกก็ห้ามทาย ไม่มีเฉลย ไม่มีจับรางวัล ฮ่าๆๆ

    คำใบ้:

    1. เบอร์มือถือ 10 หลัก มีเลขแค่ 4 ตัวเท่านั้น
    2. มีเลขตัวหนึ่งซ้ำกัน 5 ครั้ง
    3. มีเลขอีกสองตัว ซ้ำกัน 2 ครั้ง
    4. ที่เหลืออีกตัวหนึ่ง ปรากฏเพียงครั้งเดียว
    P
    สิริพร กุ่ยกระโทก
    เมื่อ พฤ. 28 มิ.ย. 2550 @ 20:34 [ 306346 ]
    • แหม...กว่าจะโอนค่า...รีแพร์...มาให้ครูอ้อย..ต้องคิดจนหัวจะพังค่ะ
    • ยอมแพ้แล้วค่ะ...อูย..รีแพร์รถก็พอแล้วค่ะ

    ขอบคุณค่ะ...

     http://gotoknow.org/blog/mitree-suk2/107090

    P

    ตามแม่ไปเก็บข้าว

    นึก ถึงตอนนั้นแล้วช่างมีความสุข ธรรมขาติ สิ่งแวดล้อม สังคม เพื่อนบ้าน มิตรภาพ ซึ่งต่างกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิง ความเจริญทางวัตถุ ค่านิยมที่ผิดๆ มาพรากสิ่งดีๆไปจากคนไทยจนหมด  ผมเรียกรัองขอน้ำใจคืนมา  บ้างสักนิดก็ยังดี

    P
    Conductor
    เมื่อ ศ. 29 มิ.ย. 2550 @ 23:20 [ 307589 ]

    กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ

    ผมไม่มีทั้งปัญญา บารมี และอำนาจที่จะแก้ไขสิ่งใดได้ครับ แต่ขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการปกครองของสงฆ์ ว่าส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นไปตามมหาปรินิพพานสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาณวารสุดท้าย ข้อ [๑๔๑-๑๔๓]

    แม้พระปัจฉิมวาจาในข้อ [๑๔๓] "สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ฯ" ก็ไม่ได้เป็นเรื่องการปกครองคณะสงฆ์ หรือการสืบต่อพระศาสนานะครับ แต่พระพุทธองค์กลับเตือนเรื่องแก่นของธรรมชาติ เตือนถึงความเสื่อม-ความเปลี่ยนแปลง และการถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทในทางธรรมครับ

    กลับมาข้อ [๑๔๑] น่าจะชัดเจนที่สุดว่าพระพุทธองค์ทรงชี้แนะอย่างไรเรื่องการปกครองคณะสงฆ์

    [๑๔๑] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า ดูกรอานนท์ บางทีพวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์มีพระศาสดาล่วงแล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี ก็ข้อนี้ พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา ดูกรอานนท์ บัดนี้ พวกภิกษุยังเรียกกันและกันด้วยวาทะว่า อาวุโส ฉันใด โดยกาลล่วงไปแห่งเรา ไม่ควรเรียกกัน ฉันนั้น ภิกษุผู้แก่กว่า พึงเรียกภิกษุผู้อ่อนกว่า โดยชื่อหรือโคตร หรือโดยวาทะว่า อาวุโส แต่ภิกษุผู้อ่อนกว่าพึงเรียกภิกษุผู้แก่กว่าว่า ภันเต หรืออายัสมา ดูกรอานนท์ โดยล่วงไปแห่งเรา สงฆ์จำนงอยู่ ก็จงถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสียบ้างได้ โดยล่วงไปแห่งเรา พึงลงพรหมทัณฑ์แก่ฉันนภิกษุ ท่านพระอานนท์กราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พรหมทัณฑ์เป็นไฉน พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรอานนท์ ฉันนภิกษุพึงพูดได้ตามที่ตนปรารถนา ภิกษุทั้งหลายไม่พึงว่า ไม่พึงกล่าว ไม่พึงสั่งสอน ฯ

    อย่างไรก็ตาม ลักษณะการปกครองเป็นลำดับชั้นนี้ น่าจะเป็นเพราะทางฝ่ายอาณาจักร คงจะเข้าใจได้ง่ายกว่า หากศาสนจักรใช้รูปแบบการปกครองเป็นลำดับชั้น เหมือนอาณาจักร

    เรื่องนี้เกิดมานานแล้วครับ คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ข้ามวันข้ามคืน 

    สงฆ์เป็นพหูพจน์ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นเอกพจน์ใช้คำว่าภิกษุ สังฆกรรมไม่สามารถทำได้ด้วยภิกษุรูปเดียว ผมคิดว่าพุทธบัญญัติข้อนี้เป็นไปเพื่อให้สงฆ์ตักเตือนกันเอง และหาก(ฉันน)ภิกษุรูปใดละเมิดพระวินัย ก็ให้ถอนสิกขาบท หรือลงพรหมทัณฑ์

    http://gotoknow.org/blog/dhammasakajcha/107375

    Pอรฤดี ศรีธราพิพัฒน์
    คณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
    ภาวะโลกร้อน
    ภาวะโลกร้อน

    วันนี้ผู้เขียนดูรายการทีวีThe ICON เห็นด้วยกับที่คุณสมิทธ ธรรมสโรช ได้กล่าวถึง..ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นผลงานที่มนุษย์ทำขึ้นจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ...และภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหวซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้และไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร...ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือเราต้องเรียนรู้วิธีการหลบหลีกจากภัยธรรมชาติและตระหนักว่าไม่ควรทำลายธรรมชาติ...ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นทางทางภาคใต้ของประเทศ...ดังนั้นมนุษย์ทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้จะต้องตระหนักถึงภัยธรรมชาติทั้ง 2 ประเภท..และควรตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนซึ่งอาจจะส่งผลกระทบทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น.....เกิดพื้นที่แห้งแล้งอย่างหนัก..อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ...และภัยธรรมชาติจากลมพายุมีความรุนแรง...ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงควรตอบแทนโลกใบนี้ด้วยการปกป้องธรรมชาติและคนในยุคปัจจุบันไม่ควรนำทรัพยากรของคนในอนาคตมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย.....
     

    เห็นรูปดินแตกระแหงแล้วสยองครับ ไปเที่ยวมาเห็นบ้านเมืองอื่นแล้วสงสารเมืองไทยอันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำครับ ป่าต้นน้ำหายไปเรื่อยๆ พอเอาเรื่องฝายชะลอน้ำมาบอก ก็มี "มนุษย์บรรทัดเดียว" มาป่วนอีก (แต่ไม่ได้บ่นนะครับ เค้าไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายอยู่ดี)

    P

     http://gotoknow.org/blog/random/106349

    ความรู้สร้างสรรค์

    ฝายชะลอน้ำสร้างขวางทางไหลของน้ำบนลำธารขนาดเล็กไว้ เพื่อชะลอการไหล

    1. ลดความรุนแรงของกระแสน้ำ ลดการชะล้างพังทลายของตลิ่ง
    2. เมื่อน้ำไหลช้าลง ก็มีน้ำอยู่ในลำห้วยนานขึ้น โดยเฉพาะในหน้าแล้ง
    3. ช่วยดักตะกอนที่ไหลมากับน้ำ ลดการตื้นเขินที่ปลายน้ำ ทำให้น้ำใสมีคุณภาพดีขึ้น
    4. ช่วยให้ดินชุ่มชื้น ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
    5. สัตว์ป่า สัตว์น้ำ ได้อาศัยน้ำในการดำรงชีวิต คืนพืชแก่เนินเขา/ภูเขาหัวโล้น
    6. ดินชื้น ป่าก็ชื้น กลายเป็นแนวกันไฟป่า ลดความรุนแรงของไฟได้ (ตัวอย่างในลำปาง ลดไฟป่าจากปีละ 200 ครั้ง เหลือปีละ 2 ครั้ง)
    Pธรรมาวุธ     http://gotoknow.org/blog/gobetter/107406

      ถ้าเราได้เข้าใจในรูปอย่างนี้แล้ว  เราจะมีพระพุทธรูปไว้ในบ้านก็ไม่เป็นไร  และไม่ต้องหาว่าเป็นของเก่าแก่อย่างนั้นอย่างนี้  หรือไม่จำเป็นจะต้องหาว่าสมัยนั้นสมัยนี้  หรือว่าไม่จำเป็นว่าจะต้องไปปลุกเสกให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้  เพราะเราถือแต่เพียงว่าเป็นภาพเตือนใจให้เราได้นึกถึงพระธรรมเท่านั้นเอง  เมื่อเป็นรูปที่เตือนใจได้ก็เป็นใช้ได้  เพราะเป็นเรื่องสมมติขึ้น  สมมติว่านี้เป็นรูปแทนคุณความดีของพระพุทธเจ้าที่เป็นเนื้อแท้  ไม่ใช่แทนองค์พระพุทธเจ้าที่เป็นเนื้อเป็นหนัง  เพราะว่าพระคุณนั้นเป็นนามธรรม  ไม่ใช่สิ่งที่จะหยิบด้วยมือหรือดูด้วยตาได้  แต่เป็นสิ่งที่เราจะสัมผัสได้ด้วยใจ  เราจะเข้าถึงสิ่งนั้นได้ด้วยจิตใจของเรา  วัตถุนั้นเป็นแต่เพียงเครื่องเตือนใจกันลืมให้เราได้เห็นด้วยตา  แล้วเราจะได้นึกถึงไม่หลงไม่ลืมในสิ่งเหล่านั้น  ถ้าเป็นเป็นผู้นับถือพระพุทธรูปถูกแบบ  เราจะไม่สนใจเรื่องความเก่า  ไม่สนใจเรื่องความใหม่ของวัตถุนั้น  เพราะเราสนใจแต่เพียงว่า  เป็นวัตถุสำหรับเตือนใจ  ให้เราได้นึกถึงพระธรรมคำสอน  ให้เราได้สำนึกในความเป็นพุทธบริษัท  แล้วจะได้ปฏิบัติตนตามคำสอนเท่านั้น...

    P
    ดอกไม้ทะเล
    เมื่อ ส. 30 มิ.ย. 2550 @ 00:41 [ 307632 ]

    เวลานั่งรถไฟผ่านทุ่งนา  ผ่านภูเขา  ผ่านสีเขียวๆของธรรมชาติ(ที่คนแต่งยังไงก็ไม่เหมือน)  รู้สึกเป็นตัวเรา  เป็นที่ของเรา  ที่ๆเราจะเข้าถึงได้   อยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจ     เป็นอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องครอบครอง  เหมือนมีกันและกัน   ไม่ได้พูดให้หวานๆนะคะ   ธรรมชาติเป็นอย่างนั้นจริงๆ 
      ตอนนั่งรถผ่านทางไปสนามบิน"ดินแดนแห่งทองคำ"เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้  พี่แอมป์ก็รู้สึกงุนงงมาก   เพราะเห็นไฟแรงสูงบนถนนเปิดสว่างเจิดจ้าสว่างไสวราวกับกลางวัน   เป็นระยะทางยาวๆหลายนาทีแท็กซี่   คิดเป็นน้ำมันและพลังงานของชาติจำนวนมหาศาล 
     
             ในศูนย์การค้านั่นก็เหมือนกัน.....   พลังงานตั้งเท่าไหร่ที่หายไปกับที่ว่างที่เราเดินย่ำเพียงเพื่อ "ฆ่าเวลา"  ...   

    Pparn
    โอเคแอลเอส
    ธรรมะ กับ การบริหารเวลา
    - กองแรก เก็บสะสมไว้ใช้ยามขัดสน - กองสอง ใช้จ่ายเพื่อทดแทนผู้มีพระคุณ- กองสาม ใช้เพื่อความสุขส่วนตัว - กองสี่ ใช้เพื่อสร้างสรรค์ความดีงามให้แก่สังคม

    พอดีอ่านเจอใน Internet  รู้สึกชอบ จึงนำมาแบ่งปัน


    ธรรมะ กับ การบริหารเวลา (Time Management)


    สัพพะทานัง ธรรมะทานัง ชินาติ "การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทานทั้งปวง"
    ชีวิตคนเราเมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว มันสั้นนัก มีเกิดและดับเป็นธรรมดาโลก
    แต่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นี่ซิ มนุษย์ผู้มีปัญญาจึงควรที่จะดำรงชีวิตอย่างชาญฉลาด
    พระพุทธเจ้าเคยอบรมสั่งสอนมนุษย์ไว้ว่าทรัพย์สินที่พึงได้จากการประกอบกิจการงานต่างๆ นั้น ควรแบ่งออกเป็น 4 กองเท่า ๆ กัน
    - กองแรก เก็บสะสมไว้ใช้ยามขัดสน
    - กองสอง ใช้จ่ายเพื่อทดแทนผู้มีพระคุณ
    - กองสาม ใช้เพื่อความสุขส่วนตัว
    - กองสี่ ใช้เพื่อสร้างสรรค์ความดีงามให้แก่สังคม
    แล้วการทำงานของมนุษย์ล่ะหลายคนยังมัววุ่นแก่การทำงานโดยไม่ยอมแบ่งเวลาเหลียวหลังมองถึงบุคคลที่รักและห่วงใยตนเองเลยหรือ??? มนุษย์บางคนทุ่มเวลาทั้งหมดให้แก่หน้าที่การงานอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับคิดว่าการกระทำดังนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่นั่นคือการกระทำที่โง่เขลาเบาปัญญา ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่าๆ กัน แต่ผู้ใดที่ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะงานของตนเอง โดยไม่ยอมแบ่งปันเวลาให้แก่ผู้ใด แม้กระทั่งตัวเอง เป็นมนุษย์ที่เขลาเบาปัญญาที่สุด
    หากบริหารไม่ได้แม้กระทั่งเวลา 24 ชั่วโมงของตัวเองในแต่ละวันแล้ว มนุษย์ผู้นั้นจะบริหารอะไรได้ ทำไมมนุษย์ผู้ชาญฉลาดจึงไม่แบ่งปันเวลาให้เสมือนหนึ่ง การแบ่งปันกองเงินตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าบ้างเล่า... ไม่ต้องแบ่งเวลาให้เป็นสี่กองเท่าๆ กันหรอก เพียงแต่แบ่งปันเวลาในแต่ละส่วนให้เหมาะสมเท่านั้น
    8 ชั่วโมงสำหรับการทำงาน เพื่อความก้าวหน้ามั่นคงในชีวิต
    8 ชั่วโมงสำหรับการพักผ่อนเก็บเรี่ยวแรงไว้ต่อสู้กับหน้าที่การงานและอุปสรรคในวันพรุ่ง
    5 ชั่วโมงสำหรับการเดินทาง เพื่อประกอบกิจการต่างๆ
    2 ชั่วโมงสำหรับโลกส่วนตัวของตนเอง
    59 นาที สำหรับดูแลและรักษาความสะอาดของที่อยู่อาศัยและช่วยเหลือสังคม และ
    1 นาทีของคุณ ที่มอบให้กับคนที่รักและห่วงใยคุณโดยไม่นำเวลาอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะเพียง 1 นาทีนี้มันมีค่ามากเกินกว่าคณานับได้ในความรู้สึกของเขาคนนั้น จงอย่ากล่าวว่า "ไม่มีเวลา..." เพราะเวลาเป็นสิ่งที่ยุติธรรมที่สุดในโลกนี้ที่มีให้แก่มนุษย์ มนุษย์ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่าๆ กัน ไม่มีใครมีเวลามากและไม่มีใครมีเวลาน้อยไปกว่านี้
    24 ชั่วโมงใน 1 วันที่มหาเศรษฐีหรือยาจกมีเท่าเทียมกัน ไม่ขาดเกินแม้แต่เศษเสี้ยวของวินาทีด้วยเหตุนี้ มนุษย์ผู้ใดที่กล่าวว่า "ไม่มีเวลา" จึงเป็นผู้ล้มเหลวในการบริหารเวลา 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันของตนเองอย่างสิ้นเชิงและใช้คำว่า "ไม่มีเวลา"เป็นข้อแก้ตัวเพื่อปกปิดความล้มเหลว เรื่องเวลาของตนเองอย่างขลาดเขลามนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิตจึงไม่ใช่ผู้ที่เก่งแต่การทำงานอย่างเดียวแต่มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิตต้องเป็นผู้ที่รู้จักแบ่งสัดส่วนเวลาวันละ 24 ชั่วโมงของตนเองได้อย่างลงตัว วันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ที่มีไว้สำหรับการทำงาน การพักผ่อนการเดินทางมิตรภาพ ความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ความเอื้ออาทร ฯลฯ โดยไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต นี่แหละคือมนุษย์ผู้ชาญฉลาดที่รู้จัก "ใช้เวลา" แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า "ไม่มีเวลา" อีกหรือ?
    P
    สงสัยหมีตัวนี้สืบเชื้อสายมาจากค้างคาวแหงๆ
    อึด ไม่ยอมหลับยอมนอน อิอิ
    (เอ แล้วเราละหว่า?)
    Pสิริพร กุ่ยกระโทก
    สังกัด สพท.กทม.เขต2
    กิจกรรมเล็กๆ..ที่เป็นความรู้ที่คงทน
    หมายถึงอะไรนะ  ความรู้ที่คงทน  
    Pศน.เบ็ญ
    สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลพบุรี เขต 2
    บันทึกแรก
    ร้อง...เพื่อเรียน
    สวัสดีค่ะ นี่เป็นบันทึกแรกของนักวิชาการที่รักเสียงเพลงและพยายามเสมอที่จะผสมผสานสิ่งที่รักและงานในหน้าที่ให้ไปด้วยกันได้  ประสบการณ์เกือบ 10 ปี กับการพัฒนาสื่อเพลงประกอบบทเรียน แต่งเนื้อร้อง ร้อง บันทึกเสียง ทำคาราโอเกะ วิจัยและเผยแพร่ จนได้เป็นสื่อหลายวิชา เช่น ยาเสพติด  เอดส์ คณิตศาสตร์ เพลงมาร์ชสถาบัน  5ส  ฯลฯ อยากแลกเปลี่ยนกับใครๆที่มีนิสัยคล้ายกันค่ะ
    P
    ครู คศ.1  สอนสาระภาษาต่างประเทศ  บ้านเกิดที่จ.อุตรดิตถ์ สอนที่แม่ฮ่องสอน
    เด็กเอ๋ยเด็กน้อย : แก้เผ็ดเด็กดื้อ
    ไม่ทำโทษ ไม่ดุด่า แต่ใช้จิตวิทยา

    มันมีอะไรแปลก ๆ กับเด็กคนหนึ่ง.....เรื่องมีอยู่ว่า  วันนี้เวลา บ่าย 2 โมงครึ่ง ขณะที่ครูแอนกำลังนั่งทำงานอยู่ที่ห้องธุรการอยู่นั้น  มีเด็กผู้หญิง ป. 4 (ห้องติดกับห้องธุรการ ) วิ่งมาบอกครูแอนว่ามี ด.ช.แซ้กซ์  ค่ะ  เอาปากกาเขียนหน้าตาของตัวเอง เต็มหน้าเลย แถมพยายามเช็ดเอาน้ำหมึกบนใบหน้าตัวเอง ไล่เช็ดเพื่อน ๆ ในห้อง อีก (พอดีวันนี้ครูป.4 ไปราชการ)

                 ครูแอนก็ตามเด็กหญิงไปที่ห้อง ป.4 เห็นเด็กชายแซ็กซ์ หน้าตาคุณเธอเต็มไปด้วยรอยปากกา ขีดเขียนเต็มใบหน้า ยิ้มแหย ๆ เมื่อเห็นครู ครูแอนถามว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ ก็ไม่ตอบกลับยิ้มเฉยๆ ครูแอนก็ชมว่าสวยงามมากน่ะ  หล่อมากด้วย ดังนั้นครูแอนก็เอาปากกาที่เด็กชายเขียนเล่มนั้น เขียนรอยยักษ์ที่มุมปาก แถมเขี้ยวแหลมอีก 2 ซี่

             แล้วบอกว่าจะพาไปให้พี่น้องนักเรียนดูหน้าเสาธงตอนเข้าแถวเลิกเรียน เด็กชายแซกซ์ หน้าถอดสี บอกไม่ยอมไป  ครูแอนก็เลยพาเด็กชายไปส่องกระจกบานโตที่ห้องธุรการ  ทันทีที่เด็กชายแซกซ์เห็นตัวเองในกระจกเท่านั้น (สังเกตสีหน้าตกใจ ) ถึงกับสะดุ้งเฮือกเลย

           ครูแอนอดขำไม่ได้  เด็กชายบอกจะไม่ทำอีกแล้วครับ เห็นแล้วว่ามันน่าเกลียดน่ากลัวขนาดนี้  นึกว่าจะเท่ห์  ....รีบไปล้างหน้า ...เด็กชายสัญญาว่าจะไม่ทำอีก ครูแอนก็สัญญาว่าจะไม่นำไปโชว์หน้าเสาร์ธง....เรื่องเด็กชายก็ทำให้ครูแอนอารมณ์ดี จนทุกวินาทีนี้ จ้า.....

     

    กลอนบทนี้เพื่อ gotoknow ครับ...
    สร้างเครือข่ายสังคมการเรียนรู้ มุ่งไปสู่ความร่วมมือในวงกว้าง เห็นภาพรวมการพัฒนาอย่างถูกทาง ร่วมกันวางรากฐานใหม่ให้สังคม

                                          

                                       

                                        "กลอนบทนี้เพื่อ gotoknow"

     

                       

                                                  

    โกทูโนว์คือสังคมการเรียนรู้

    เหมือนประตูเปิดไปสู่โลกใบใหญ่

    เพิ่มมุมมองวิสัยทัศน์ให้กว้างไกล

    หลากหลายวัยต่างอาชีพร่วมแลกเปลี่ยน

                      ประสบการณ์คนทำงานที่ต่างกัน

                      ล้วนสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ

                      เป็นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสังคมไทย

                      ความรู้ใหม่เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

    สร้างเครือข่ายสังคมการเรียนรู้

    มุ่งไปสู่ความร่วมมือในวงกว้าง

    เห็นภาพรวมการพัฒนาอย่างถูกทาง

    ร่วมกันวางรากฐานใหม่ให้สังคม

    P
    http://gotoknow.org/blog/Intregration/107754

                      เป็นแหล่งรวมพลังทางความคิด

                      ต่างลิขิตผลงานเพื่อสร้างสรรค์

                      พร้อมขับเคลื่อนสังคมไทยไปด้วยกัน

                      เพื่อก้าวทันการพัฒนาอย่างยั่งยืน

        

    P
    ป๋าดัน g2k 

     พ่อครูบาสุทธินันท์ บอกว่าเฉพาะอำเภอสตึกอำเภอเดียว ซื้อไข่ไก่เป็นเงินจำนวน 9 ล้านบาท แสดงว่าเกือบทุกบ้านกินไข่ไก่ แต่ไม่ได้เลี้ยงเอง ซื้อกันมาเกือบทุกครัวเรือน โอโห แสดงว่า บริบัท ซีพี ร่ำรวยน่าดู  อยากได้ประเด็นว่า การแก้ไขหนี้สินของชาวบ้าน ท่านคิดว่าน่าจะแก้ไขอย่างไรครับ  

    P
    ธรรมาวุธ
    เมื่อ ส. 30 มิ.ย. 2550 @ 17:41 [ 308017 ]
    P

    พชรวรัตถ์ แสงทองชนาพงศ์
    สวัสดีครับคุณแหวว

    • ผมเคยเห็นผู้หญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวเซ็กซี่  นุ่งน้อยห่มน้อย  แขวนจตุคามองค์เบ้อเริ่มเชียวครับ  แล้วใส่เดินกับแฟนที่แต่งตัวไม่ต่างกันในห้าง  ก็เป็นแฟชั่นแปลกตาอีกแบบครับ
    • จริงๆ พระพุทธรูป  พระห้อยคอ  หรือสัญลักษณ์อะไรทำนองนี้  เกิดหลังพุทธกาลมานานมากครับ  สมัยพุทธกาลไม่มีครับ (แต่อาจมีในรูปแบบอื่น  เช่น  ธรรมจักร หรือ ต้นโพธิ์ ฯลฯ)
    • มาสมัยนี้เจ้าวัตถุที่ท่านปรารถนาดีให้ไว้เพื่อระลึกถึงพระรัตนตรัย  กลับกลายเป็นสิ่งที่ขวางกั้นพระรัตนตรัยเสียอีก  เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ  นับวันเราจะห่างความเป็นพุทธเรื่อยๆ  ท่านสอนให้สว่างกลับคลั่งใคล้ความมืด
    • จริงๆ แล้วถ้าใจเราเป็นพุทธ  ปฏิบัติธรรมได้ถูกต้อง  จะแต่งตัวอย่างไรก็ไม่เป็นไรหรอกครับ
    • แต่มีจุดสังเกตุอย่างหนึ่งคือ  ถ้าเราเป็นผู้นำ  หรือเป็นผู้ที่คนอื่นพร้อมจะเอาอย่าง  แล้วเขามีปัญญาไม่เท่าเรา  หรือเข้าใจต่างจากเราก็อาจเกิดปัญหาโดยที่ไม่คาดคิดได้ครับ
    ธรรมะสวัสดีครับ

     

    P
    Man In Flame
    เมื่อ ส. 12 พฤษภาคม 2550 @ 23:37 [ 258560 ]

    กระบี่อยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่กระบี่

    ใช้กระบี่โดยไร้ใจ คือการสังหารตนเอง

    หลอมกระบี่เป็นหนึ่งเดียวกับใจ ซามูไรตาบอด

    แม้ไร้ซึ่งกระบี่ หลื่นลี้ร้อยปี สามารถสังหาร

    สุดยอดซามูไร คือทิ้งใจทิ้งกระบี่

    สวัสดีครับ 

    ขออนุญาตนำส่วนหนึ่งของบันทึกตนเองมาฝาก  เป็นห้วงยามหนึ่งของการเดินทางที่แปลกเปลี่ยว ครับ -

    http://gotoknow.org/blog/pandin/107395  ผมไม่ปฏิเสธว่า  จุดหมายปลายทางนั้นสำคัญก็จริงแต่ก็คงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่เราจะต้องละทิ้งซึ่งเรื่องราวระหว่างทางเดินนั้น ๆ    ครับผมเพียงแต่กำลังจินตนาการว่า  หากจุดหมายเป็นเหมือนทุ่งดอกไม้อันรื่นรมย์   แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า  ระหว่างทางนั้นก็ย่อมมีดอกหญ้านานาชนิดเช่นกันที่เรียงรายชูใบล้อลมเล่นและทักทายเราอย่างอ่อนโยน  และดอกหญ้าเหล่านี้นั่นแหละที่จะช่วยให้การเดินทางของเราดูไม่แห้งผากและแล้งไร้ซึ่งความเป็น "ชีวิต"   ครับเราอาจมีโลกส่วนตัวของตนเองอย่างลึกเร้น   เราอาจจะรีบเร่งต่อวันและคืนอย่างบ้าคลั่ง  เราอาจจะหวาดระแวงต่อมิตรภาพในโลกแห่งวัตถุเงินตรา  หรือเราอาจจะหวาดระแวงว่าโลกส่วนตัวของเราจะทำร้ายผู้อื่นมากจนเกินไป  จนต้องตัดสินใจลั่นกลอนประตู (ใจ) อย่างแน่นหนา ...... ก็เป็นได้

     

    P

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/107834 

    พุทธะ นะปลง สัพพะโร นะมะ นะปลง โยวา สวะหาย

    พุทธะ นะปลง สัพพะโร นะมะ นะปลง โยวา สวะหาย

    พุทธะ นะปลง สัพพะโร นะมะ นะปลง โยวา สวะหาย

    P

     http://gotoknow.org/blog/pandin/107395

    ยิ้มอย่างเป็นมิตรบ้างก็ยังดี เผื่อโลกกว้างที่เดียวดายจะกลายมาเป็นโลกแคบที่อบอุ่นขึ้นมาบ้าง

    P

    สวัสดีครับพี่แผ่นดิน

         สบายดีนะครับพี่ ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากๆ เลย และขอชื่นชมนะครับ ที่เอาตะกอนมาฝากนะครับ อยากให้มีกรณีแบบนี้มากๆ นะครับ เป็นการเอามาฝาก มารวมแบ่งกันอ่าน แล้วเชื่อมโยงลิงก์ไปยังบันทึก เพื่อให้ผู้อ่านท่านอื่น ตามไปร่วมแสดงความเห็นร่วมกัน จะได้เป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องหนึ่งเดียวกัน ทะลุทะลวงถึงกันหมดครับ

    ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ

    รักษาสุขภาพด้วยนะครับ และฝากสวัสดีทั้งสามท่านที่บ้านด้วยนะครับ

    นับถือคับ

    เม้ง

    P
    เบิร์ด
    เมื่อ พ. 27 มิ.ย. 2550 @ 10:50 [ 304993 ]
    P

    สวัสดีค่ะพี่แป๋ว  http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/105552

    ใช่ค่ะ..การฟังด้วยหัวใจไม่ใช่เป็นเรื่องของความรักเท่านั้น และเป็นความหมายเดียวกับการฟังอย่างลึกซึ้งหรือการฟังอย่างลุ่มลึก ( Deep  listening ) ที่ประกอบไปด้วย

    • การฟังอย่างมีสติ
    • การฟังอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ( ไม่มีตัวเรา ของเราขณะที่ฟัง )
    • การฟังอย่างปราศจากอคติ ( ไม่ลำเอียงด้วยรัก / ชัง / หลง / กลัว )
    • การฟังด้วยจิตที่ปรารถนาจะฟังความจริงตามที่มันเป็นจริง
    • การฟังด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ ( ไม่คิดจะจ้องจับผิดหรือจ้องจดจำคำคม )
    • การฟังโดยปราศจากการประเมินค่า / ตีความขณะฟัง
    • กรฟังด้วยท่าทีที่เคารพต่อผู้พูดอย่างจริงใจ
    • การฟังตั้งแต่ต้นจนจบกระแสความ

    การฟังเป็นการฝึกคิด ฝึกสติได้เป็นอย่างดีใช่มั้ยค่ะ...เทคนิคการฟังเห็นฝรั่งเขียนหนังสือขายเป็นเล่มๆ ... เขาบอกว่า...การฟังที่ดี จะนำไปสู่ความสำเร็จ...แต่เราให้ความสำคัญกับการฟังน้อยมาก เรามักจะเน้นการพูด ...ก็เลยแย่งกันพูด พูด ... อาจจะต้องมารณรงค์ดังสุภาษิตของไทยบ้างมั้ยค่ะว่า...พูดไป สองไพเบี้ย นิ่งเสีย ตำลึงทอง...

    P
    โสทร (http://www.sothorn.org)
    บริษัท ตัดยาง มีจำกัด
    เกษตรกรเต็มขั้น
    รายงานผลการปลูกกล้วยแบบพิสดาร

    วันนี้หลังจากเสร็จภาระกิจจากการกรีดยาง ก็เข้าสวนรดน้ำผักตามปกติ รดน้ำผักเสร็จก็เดินสำรวจต้นไม้ต้นหญ้าในสวนเพื่อความสบายใจ ปรากฏว่าทั้งสบายใจและดีใจครับ ที่การปลูกกล้วยแบบพิสดารมันแตกหน่อออกมาแล้ว

    แบบใกล้ๆ
     

    แบบไกลๆ
     

    ก็ถือเป็นความสำเร็จของการร่วมมือ ไทย-เยอรมัน คนบอกอยู่เยอรมัน คนทำอยู่ไทย  ก็เม้ง เพื่อนยากอีกแหละครับบอกมา ตอนที่เม้งบอกมาผมก็ไม่อยากเชื่อ แต่ถ้าเชื่อแล้วก็ต้องเชื่อแบบมีภูมิคุ้มกัน เรื่องอะไรผมจะปลูกตามที่เม้งบอกทุกต้น กล้วยไม่ขึ้นผมก็ซวย ผมก็เลยปลูกต้นเว้นต้น เพื่อจะได้ดูผลการทดลอง ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร

    ตามภาพ ผมจะปลูกแบบธรรมดาสลับกับแบบพิสดาร
    ยังไม่หายข้องใจใช่มั๊ยครับว่าพิสดารยังไงดูรูปก็แล้วกัน
    ไม่อธิบายนะครับ ภาพคงสื่อได้ดีอยู่แล้ว

    แล้วก็กลบดินแล้วทำลืมไปเลย

    ผมปลูกเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2550 วันนี้วันที่ 2 กรกฎาคม 2550 ระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนแตกหน่อแรกของต้นแรก ส่วนต้นอื่นๆ แผ่นดินแยกอยู่ครับ คิดว่าคงกำลังแทงหน่อขึ้นมา ข้อดีของการปลูกแบบนี้เท่าที่ทราบจากเม้ง ปลูกทีเดียวได้หลายต้น  ส่วนอะไรยังไงให้เจ้าของความคิดมาบอกต่อก็แล้วกันครับ ส่วนใครมีความคิดเห็นยังไง ก็ร่วมแสดงความคิดเห็นเข้ามาหน่อยนะครับ

    P

    สวัสดีครับโส

            ห้าๆๆๆๆ ก่อนอื่นขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่ลองทำดูแล้วบ้าตามผม ห้าๆๆๆ นับว่าเป็นนักเกษตรกรรมธรรมชาติที่ดีครับ ไม่เชื่อก็ต้องพิสูจน์อย่างมีเหตุผลครับ

            จริงๆ แล้วไม่ใช่ความคิดของผมนะครับ แต่ผมอ่านเจอ ไม่แน่ใจว่าใน GotoKnow นี่หล่ะครับ ว่าด้วยการปลูกกล้วย ผมค้นหาอีกรอบห้าบทความนั้นไม่เจอครับ พูดถึงการปลูกกล้วยแบบพลิกดินชี้ฟ้าแบบนี้นะครับ ในบทความนั้นจะบอกว่า จะมีการแตกหน่อ ขึ้นมามากกว่าหนึ่งหน่อ ผมก็เอาไปคิดต่อ แล้วก็ได้คำตอบว่ามันเป็นอย่างไรตามหลักการทางการแบ่งเซลล์ แล้วก็หลักการของการโตแบบต้นไม้ เหมือนกันทุกพันธุ์นะครับ ไม่ว่าจะเริ่มด้วยหน่อ หรือเริ่มด้วยเมล็ดครับ หากคุณสังเกตให้ดี จะพบว่าในเริ่มต้น คุณปลูกต้นไม้ด้วยเมล็ด คุณไม่เคยแคร์เลยว่า เมล็ดจะจัดเรียงตัวอย่างไรส่วนที่เป็นลำต้นก็ต้องงอกชี้ฟ้าเสมอ และรากก็ต้องลงดินเสมอ อันนี้เป็นกฏทางธรรมชาติของต้นไม้แบบปลูกลงดินนะครับ ภาษาอังกฤษว่า Gravitropism เป็นการงอกตามลักษณะแรงโน้มถ่วง

    ลำต้นจะงอกแบบ Negative Gravitropism งอกชี้ฟ้าต้านแรงโน้มถ่วง ส่วนรากจะงอกแบบ Positive Gravitropism ตามแรงโน้มถ่วง หรือค่า g ที่เราเรียกๆ กันนะครับ

    หากคุณสังเกตทดลองเรียงเมล็ดดูก็ทำนองเดียวกันครับ ไม่ว่าจะเรียงเมล็ดยังไง เช่นการหว่านข้าวในทุ่งนา ก็เช่นกัน การตกและจัดเรียงเมล็ดมันเป็นแบบต่างๆ แต่ท้ายที่สุด รากลงดิน ต้นชี้ฟ้า

    กลับมาที่กล้วยก็เช่นเดียวกันครับ หากปลูกแบบธรรมดา จะโตไวครับ เพราะยอดเดิมมีอยู่แล้ว ลงดินก็ดูดน้ำ ตรึงน้ำจากทั้งอากาศและดินมาสะสมไว้ในลำต้น กล้วยจะมีสารที่ไวต่อการขาดน้ำมากๆ มันเลยวางแผนให้กับตัวเองเพื่อป้องกันการขาดน้ำไงครับ (คนน่าจะเอาเป็นตัวอย่างนะครับ) จะเห็นว่า ไม่ว่าสวนไหน ดินจะแห้งแล้งอย่างไร หากคุณไปกอดต้นกล้วยตอนเที่ยงๆ คุณจะมีความสุขครับ เย็นถึงทรวงใจ

    ส่วนการปลูกแบบพลิกดินชี้ฟ้า นี้ จะเป็นการทำลายยอดเดิมโดยจิ้มไปที่ดินแล้วกลบ ดังนั้น หน่อกล้วยจะพบกับระยะพักตัว (ประมาณหนึ่งเดือนจากการทดลองของโส) จนกว่าจะงอกเป็นหน่อใหม่

    เมื่อไม่มีลำต้นหรือทางออกให้ยอดเดิมออก กลไกภายในหน่อต้องปรับใหม่ครับ นั่นคือการแบ่งเซลล์ในหน่อกล้วยต้องมีการแบ่งเซลล์และปรับค่าใหม่ จริงๆ ก็เป็นเซลล์หน่อที่จะงอกจากต้นหลักหากปลูกแบบทั่วไปนะครับ แต่ต้นเดิมถูกทำลายมันก็ต้องหาทางเอาเซลล์สำรองขึ้นมาแทนครับ แล้วก็งอกตามแบบของหลักของแรงโน้มถ่วงนะครับ ก็เป็นปกติครับ

    ที่ผมอยากจะทราบคือ มันจะงอกหน่อถัดไปออกมาเมื่อไหร่ จะงอกสองหน่อมาพร้อมกันหรือมากกว่าสองเมื่อไหร่ครับ

    ผมว่ากล้วยเป็นตัวบ่งชี้ชีวิตของเกษตรกร และหากเกษตรกรใช้กล้วยเป็นตัวอย่างในการพัฒนาแล้ว เอามาเป็นแรงใจในการปลูกพืชและทำเกษตรแล้วนั้น จะดีมากๆ มองถึงการสู้ชีวิตของกล้วยนะครับ ตรึงน้ำมาจากไหนมาสะสมในลำต้นครับ

    ส่วนของกล้วยก็มีประโยชน์หมดเลยครับ

    สิ่งที่ผมจะรอดูต่อไปคือ ในการปลูกกล้วยของโสครั้งนี้มีการทำตามหลักของบทความที่ผมเขียนไว้ด้วย คือคณิตศาสตร์กับการปลูกกล้วยครับ คณิตศาสตร์ว่าด้วย การปลูกกล้วย

    อยากจะทราบว่ามันจะแทงเครือแรกไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ (แต่โสบอกว่าไม่ได้จัดเรียงทุกต้น) ก็คงจะได้เห็นว่ามันจะชี้ไปตามหลักที่ว่าเป็นแบบภูมิปัญญาชาวบ้านกันต่อไปหรือไม่อย่างไรครับ

    แน่นอนว่าการปลูกแบบแนวพลิกดินชี้ฟ้านี้ การได้รับผลผลิตช้ากว่าแบบปกติแน่นอนครับ เพราะจุดเริ่มต้นต่างๆกันครับ ต้องรอดูกันต่อไปครับ แล้วจะเอาเทคนิคอื่นๆ มาฝากกันต่อไปครับ

    อิๆๆ มีคนหนึ่งฝันคนหนึ่งช่วยทำการทดลอง...ห้าๆๆๆ ขออย่าให้คนทำการทดลองเบื่อคนฝันเสียก่อนนะครับ

    ขอบคุณมากครับโสที่นำมาให้ดูกันนะครับ แล้วค่อยลองอัพเดตไปเรื่อยๆ ทุกเดือนนะครับ

    PPhirakan
    ม.สงขลานครินทร์  http://gotoknow.org/blog/phirakan/107938
    กูต้องการให้ศาสนา “ของกู” เป็นศาสนาประจำชาติ!!!
    พระอาจารย์พุทธทาส สอนว่า ไอ้ตัวกูของกูนี่มันเป็นทุกข์ขนาดแท้เชียวนะ...สาธุ
    ที่จังหวัดปัตตานี

     ผมต้องเผชิญกับความหวาดกลัวซ้ำแล้วซ้ำอีกจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มันเป็นความหดหู่เหลือเกินที่เราต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนว่าวันพรุ่งนี้ และอนาคตเราจะเป็นอย่างไร แม้ผมจะไม่ได้อาศัยอยู่ในถิ่นที่อันตรายมากนักเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ที่ต้องขึ้นรถแต่เช้าไปสอนหนังสือในโรงเรียนต่างอำเภอของจังหวัดปัตตานี

    แต่การอาศัยอยู่ในม.อ.ปัตตานีก็ใช่ว่าจะไม่ออกไปไหนมาไหนกันเลย เพราะแต่ละวันเราก็ต้องกินต้องอยู่ต้องติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น ความเป็นความตายมันอยู่ใกล้กันเหลือเกิน เมื่อ 3-4 วันก่อน ประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสือในห้องพัก ก็ได้ยินเสียงเหมือนเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดเหมือนจะอยู่ใกล้ๆ รุ่งเช้านักศึกษาเล่าให้ฟังว่ามีเหตุกราดยิงประชาชนขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารที่โรงเรียนเทศบาล 5 จังหวัดปัตตานี คนรู้จักหลายคนที่ผมรู้จักก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย วันนั้นมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บอีก 4 คน เขาว่าหนึ่งในนั้นเป็นนักศึกษาด้วย แต่บาดเจ็บไม่สาหัสนัก รุ่งเช้าก็ออกจากโรงพยาบาลได้
    ทุกครั้งที่มีคนบอกว่า คนโน้นคนนี้เสียชีวิตจากการก่อความไม่สงบ ผมอาจจะรู้สึกเฉยๆ เพราะดูมันจะไกลตัวอยู่สักหน่อย และที่สำคัญมันเกิดเหตุทุกวันจนหัวใจผมมันชินชาหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เมื่อเกิดเหตุยิงครูเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา วันเดียวถึง 3 คน ในจำนวนนี้เป็นญาติพี่น้องกับบุคคลากรในม.อ.ปัตตานีด้วย ถึง 2 คน ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าความตายมันเหมือนจะคืบคลานเข้ามาอยู่ใกล้ๆ นี่เอง ทำอะไรมันก็ท้อไปหมด ไม่อยากจะทำให้อะไรให้เหนื่อยอีก เพราะดูมันเหมือนจะไม่มีหวังที่จะทำให้สถานการณ์มันสงบลงได้ แต่ลึกๆ ก็ยังเชื่อว่ามันพรุ่งนี้สันติภาพจะกลับคืนมายัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
    เหตุการณ์ร้ายที่ผ่านมา เราก็คงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นแล้วว่า ขบวนการของผู้ก่อความไม่สงบใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ความแตกต่าง ที่เปราะบางขาดสะบั้นออกจากกัน เพื่อนำไปสู่สงครามทางเชื้อชาติ ศาสนา ความแตกต่างนี้หากจะใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการดำรงอยู่ของสังคมมนุษย์มันก็เหมือนจะเกื้อกูลกันได้ดีอย่างมหาศาล แต่ความแตกต่างก็ถูกนำมาเป็นเครื่องมือของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้เหมือนกัน ดังที่ประวัติศาสตร์โลกเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
    ข้ออ้างที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่นำสร้างความชอบธรรมให้แก่การก่อการร้าย (ซึ่งไม่สามารถทำใจยอมรับการกระทำดังกล่าวได้) คือ การแบ่งแยกตัวเองออกจากสังคมส่วนใหญ่ พร้อมชูการเป็นแผ่นดินปตานี ที่เป็นมลายูอิสลาม และกักขังตัวเองอยู่แค่ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ผมรู้ว่าแม้คนพวกนี้มีไม่มาก แต่มันก็ทำให้คนดีไม่กล้าแสดงตัวที่จะปกป้องเพื่อนร่วมชุมชน
    มันเป็นพายุฝนห่าใหญ่ที่ไม่รู้มันจะหยุดตกเมื่อไหร่ เฮ้อ!!!
    ที่อาคารรัฐสภา

    วันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มองค์กรชาวพุทธพากัน “คว่ำบาตร” จำลองขนาดใหญ่หน้าอาคารรัฐสภา พร้อมกันแสดงกริยาอาการโกรธกริ้ว ร้อนทั้งผ้าเหลืองผ้าขาว ด่าทอกันสารพัด หลังจากทราบว่าสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ไม่บรรจุคำว่า “ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ” ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณากันอยู่ในขณะนี้ กลุ่มองค์กรชาวพุทธยังบอกว่า จะรณรงค์ให้ประชาชน “คว่ำบาตร” ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในการลงประชามติที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
    จริงๆ ผมติตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์กรชาวพุทธมาตลอดตั้งแต่เริ่มมีการรณรงค์กดดันให้มีการบรรจุคำว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ มีการใช้ “อหิงสา” หลายรูปแบบ ทั้งให้แต่ละวัดทั่วประเทศติดป้ายสนับสนุน การเดินเท้าเข้ากรุง การอดอาหาร การนอนในโลง

      

    อาการมันเหมือนกลุ่มคลั่งศาสนายังไงก็ไม่รู้ หรือไม่ใช่การคลั่งศาสนา แต่อาจเป็น “การยึดมั่นถือมั่น”ในความเป็น “ของกู” จนน่าเกลียดเหลือเกิน การที่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาตินั้น เราแทบไม่จำเป็นต้องสอนกันแล้วมั่งครับ แต่มันอยู่ในสายเลือดของผมและคนไทยส่วนใหญ่ทั้งประเทศอยู่แล้ว คุณค่ามันสูงกว่าการเป็นลายลักษณ์อักษรเสียอีก
    แต่ก็นับเป็นเหตุผลอันแหลมคมของ ส.ส.ร.ที่สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่า เหตุการณ์จึงไม่บรรจุคำว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ อธิบายว่า มีเหตุผล 2 ประการที่มีการพิจารณา คือ
    1. ข้อพิจารณาทางด้านรัฐศาสตร์ เกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่แต่ละรัฐหรือแต่ละประเทศประกอบด้วยชนชาติของคนที่มีศาสนา ภาษา เชื้อชาติ จารีตประเพณี และประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้น จะไม่บังคับให้ทุกคนให้ใช้วัฒนธรรมเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่จะให้สิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่จะเลือกใช้วัฒนธรรมตามความเชื่อที่ทุกคนมีอย่างเสมอหน้ากัน โดยไม่มีใครมีอภิสิทธิ์มากกว่ากัน และจะไม่ใช้ควมเชื่อของใครเป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบดังกล่าว แต่รัฐจะใช้กฎหมายที่ทุกคนต้องยอมรับอย่างเสมอหน้ากัน การนำศาสนาไปบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญจึงเป็นวิธีการที่ไม่สอดคล้องกับระบอบการปกครองประชาธิปไตย
    2. ข้อพิจารณาทางด้านพระพุทธศาสนา ที่เกี่ยวข้องกับความเจริญกับความเสื่อมของพระพุทธศาสนาตามคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งการที่พระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่คู่ประเทศนั้น ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การเข้าถึงและเข้าใจหลักศาสนาตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และนำไปปฎิบัติอย่างถูกต้อง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แม้ในอดีตกาลพระพุทธองค์ที่ทรงมีพระราชบิดาเป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีพระราชอำนาจทั่วประเทศ พระพุทธองค์ก็ไม่เคยทรงสั่งการหรือออกกฎหมายใช้บังคับ แต่พระพุทธองค์กลับฝากอนาคตของพระพุทธศาสนาไว้กับพุทธบริษัท 4 ได้แก่ ภิกษุสงฆ์ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ให้ช่วยดูแลด้วยการประพฤติปฎิบัติตนให้เป็นไปตามพระธรรมวินัยคำสั่งสอน
    แต่พระพุทธศาสนาที่ชาวพุทธด้วยกันเห็นว่ามันเสื่อมถอยลงทุกที มันเกิดจากพวกเราทุกคนที่ไม่นำพระธรรมวินัยมาปฏิบัติต่างหาก นำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาแปะเปื้อนกับกิเลสตัณหาของมนุษย์ พระสงฆ์ใช้ผ้าเหลืองหากิน เสกมนต์เสกคาถา ใบ้หวย เคาะหัว สารพัดวิธีมอมเมาประชาชน ส่วนฆราวาสก็หมกมุ่นอยู่กับความอยากมีอยากได้ ใช้วัดเป็นที่ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เหมือนเช่นกระแสจตุคามรามเทพ ที่นายทุนหัวใสใช้วัดเป็นที่หากิน ไปไหนมาไหนก็มีแต่รายการสั่งจอง รุ่นรวยแล้วรวยอีก แบบเอาเป็นเอาตาย เมื่อกิเลสพระสงฆ์รวมกับตัณหาฆราวาส ความฉิบหายก็คงมาเยือนเป็นแน่
    ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับ กลุ่มคลั่งศาสนาที่คว่ำบาตรหน้าอาคารรัฐสภา “ใครจะยึดมั่นถือมั่นในตัวกูของกูมากกว่ากัน”
    พระอาจารย์พุทธทาส สอนว่า ไอ้ตัวกูของกูนี่มันเป็นทุกข์ขนาดแท้เชียวนะ...สาธุ
    P
    ระวังภัย!!! คลื่นสูงซัดชายฝั่งตะวันออกของไทย 3-5 ก.ค.2550 นี้ ตราด จันทบุรี เกาะช้าง....

    รูปแบบเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เป็นพายุนะครับ เพียงแต่เป็นแบบของทฤษฏีคลื่นทั่วไปครับ ที่ลมพัดเข้ามาต่อเนื่องแล้วก็พัดในทิศทางตรง จะเกิดพลังงานที่ได้รับจากลมกลายเป็นพลังงานคลื่น ส่งผ่านน้ำแล้ววิ่งต่อเนื่องเพื่อเข้าฝั่งนะครับ

    • สวัสดีครับ
    • เพราะเชื่อว่าชีวิตย่อมวิวัฒน์ไปสู่การเติบใหญ่
    • จึงขออนุญาตนำถ้อยคำเหล่านี้มาฝากไว้ในบันทึกอันทรงคุณค่านี้ -

     

     

    http://gotoknow.org/blog/pandin/106555   

    ลูกรัก

      

    ลูกต้องรู้จักการเติบใหญ่

      

    แผ่นฟ้ากว้างและแสนไกล

      

    หัวใจต้องกล้าท้าทาย

      

    พ่ออยู่ตรงนี้นะลูกรัก

      

    ใกล้ไกลเจ้าจักสัมผัสได้

      

    เพียงหลับตาเปิดประตูใจ

      

    เจ้าจักรู้ความในที่พ่อมี

      

    ลูกรัก

      

    เจ้าจงไปในทุกถิ่นที่

      

    ไปให้รู้ชั่วและดี

      

    มีปีกแห่งเสรีประดับใจ

      

    จงเป็นเช่นนกเสรีอิสระ

      

    ที่ไม่ละความฝันใฝ่

      

    บินให้สูงเกินกว่าใคร

      

    บินให้ไกลกว่าเคยเป็นมา

      

    แต่อย่าเป็นเช่นนกเสรีที่ไร้รัก

      

    ไม่รู้จักความห่วงหา

      

    ไม่รู้จักรักมวลมิตรผู้กรุณา

      

    ไม่รู้จักความเมตตาต่อผองชน

     

     

     …..  

     

     

    ลูกรัก

      

    ลูกต้องรู้จักการเติบใหญ่

      

    พ่ออยู่ตรงนี้, “ไม่ไกล

      

    เถอะเจ้าโบยบินไปอย่าหวาดกลัว !

     

      

     

    P

    สวัสดีครับพี่แผ่นดิน

    ขอบคุณมากๆ เลยคับ สุดยอดเลยครับ

    เจ้าคือดาวดวงน้อย...ของพ่อ จับมือพ่อเอาไว้

    ขอบคุณมากๆ ครับ เคลิ้มครับพี่....

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/108398

    P
    TAFS
    เมื่อ พ. 04 ก.ค. 2550 @ 22:39 [ 311526 ]

    สวัสดีครับ 

    • อาจารย์เม้งคนที่โยนขนมปัง(ไม่ใช่ข้าวเหนียว)ให้ปลาเป็นเหมือนรัฐบาล  เอะอะก็โยนลง กทม.ๆ 
    • ล่าสุดจะสร้างรัฐสภาฯก็จะมายัดที่ลงที่นนท์ใกล้ กทม. 
    • ปากก็ว่าพอเพียงๆๆ  แต่ใจและพฤติกรรมก็ชอบแบบทุนนิยมสุดขั้ว  เช่น  วันนี้หุ้นขึ้น  ก็ดีใจกันมากๆ 
    • ที่แท้ก็เป็นขนมปังของอาจารย์เม้งโยนให้นี้เอง

    ขอบคุณครับ   สวัสดี

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/108398

    P

    สวัสดีน้องเม้ง

    พี่หายไปนานเพราะไม่ว่างเลยครับ

    พี่ชอบแผนที่มาก...พี่เคยมีประสบการณ์คล้ายๆกันเรื่องการโยนอาหารให้ปลาแล้วเห็นปลาว่ายอย่างเร็วเกินคาดกระโดดเอาอาหารก่อนที่อาหารจะตกถึงน้ำด้วยซ้ำไป ที่บึงกลางจังหวัดนครสวรรค์ เขาเรียกปลาหมู เป็นปลาน้ำจืดครับ  ยังคิดว่า เจ้าปลาชนิดนี้เร็วจริงๆ

     พี่เห็นด้วยกับทุกท่าน  แต่มีเพิ่มเติมอีกมุมหนึ่งว่า การที่เราโยนอาหารไปที่ไหน ปลาก็กระโดดกินภายในเวลาอันรวดเร็ว เหมือนระบบธุรกิจที่สร้างระบบโฆษณา ประชาสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งด้วยผู้มีความรู้ด้านนี้ที่เอาวิชาชีพไปปฏิบัติกับระบบธุรกิจจนประสบผลสำเร็จ สร้างระบบนี้ขึ้นเมื่อโยน(ระบบPromotion) ไปที่ชนบทที่ไหนๆ ชาวบ้านก็กระโดดตอบสนองทันที ซื้อทันที (ปลาที่ว่ายอย่างเร็วกระโดดงับอาหาร) เมื่อเขาโยนไปทั่วประเทศ เขาก็ได้รับผลตอบแทนทันทีคือ รวยเละ เช่น นายคนนหนึ่งที่ขายน้ำเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง ประชาชนผู้รีบว่ายน้ำไปซื้อสินค้าเขา คือปลา นายธุรกิจคนนั้นคือผู้โยนอาหาร 

    เอ..มาได้อย่างไงนี่...แต่ชอบมากครับ 

    "ไร้ราก ฤาผลิใบ ท่องเที่ยวชุมชนไทย" 

    เติบโตสู่การเรียนรู้ - เครือข่ายการท่องเที่ยวประเทศไทย

    P
    เพราะใจที่ " ไม่ยอมแพ้ " เพียงคำเดียว

    เพราะใจที่... ไม่ยอมแพ้ ...เพียงคำเดียว

      

                ทุกทุกก้าว....ในวิถีของชีวิต
                ความถูกผิด....ถูกวางบนทางแพร่ง
                เป็นทางเลือก....ที่ไม่มีใครชี้แจง
                ทุกอย่างแฝง....ปริศนาน่างุนงง 

                จึงต้องคอย...ระวัง...คอยยั้งคิด 
                ทางผิดมัก...ลวงใจ...ล่อให้หลง 
                ทางเรียบง่าย...ปลายมักวก...เข้ารกพง 
                พาเราลง...หุบเหว...สิ่งเลวทราม

              
    หนทางดี...แม้สูงชัน...ต้องฟันฝ่า
              
    จึงต้องกล้า...ต้องเก่ง...อย่าเกรงขาม
              
    และต้องมุ...มานะ...พยายาม
              
    เพื่อสร้างความ...ฝันใฝ่...ให้เป็นจริง

              
    ถึงแม้มี...บางครั้ง...ที่พลั้งพลาด
              
    ต้องสามารถ...ยิ้มรับ...กับทุกสิ่ง
              
    ต่อให้ต้อง...ไร้หลัก...ไว้พักพิง
              
    ก็ต้องหยิ่ง...ที่จะสู้...อยู่ลำพัง

              
    ขอแค่มี...หัวใจ...ไว้ใฝ่ฝัน
              
    ตราบมีวัน...พรุ่งนี้...ย่อมมีหวัง
              
    ทำสิ่งที่...ควรทำ...เต็มกำลัง
              
    คิดทุกครั้ง...ก่อนจะ...ทำอะไร

              
    ขออย่ายอม...เหนื่อยหน่าย...หรือพ่ายแพ้
              
    แม้นอ่อนแอ...ท้อแท้...หรืออ่อนไหว
              
    สู้ไปเถิด...อย่าท้อ...สู้ต่อไป
              
    เหนื่อยแค่ไหน...อย่าท้อ...ขอให้เดิน

              
    ชั่วชีวิต...อุปสรรค...ฤๅไม่สุด ?
              
    มหาสมุทร...ยังมี...ที่ตื้นเขิน
              
    ตั้งสติ... รอเวลา... กล้าเผชิญ
              
    แล้วเดินเข้า...หาฝัน...อย่างมั่นใจ
        
              
    ทุกทุกก้าว...ในวิถี...ของชีวิต
              
    แม้พลาดผิด...หนึ่งก้าว...เพียงก้าวใหม่
              
    อนาคต...ยังยาว...ทางก้าวไป
              
    ความสำเร็จ...คือเส้นชัย... คนไม่แพ้   

     

    ........................................................................

     

     

    แรงบันดาลใจจาก " ไล่ตงจิ้น  ลูกขอทานผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต " 

     

    เขาต่อสู้กับชีวิตจนได้เป็น " บุคคลดีเด่นของไต้หวัน "

     

    เพราะใจที่...ไม่ยอมแพ้  เพียงคำเดียว

    ................................

     

     

    เพื่อเป็นกำลังใจ...   ปลอบประโลม 

    และปลุกเร้าผู้ที่กำลังอ่อนล้า   ท้อแท้

    ให้ลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้ง

     

    เพราะการเดินบนเส้นทางชีวิต

    อย่าเอาความทุกข์ท้อในใจ

    มาตัดสิน

    ว่า " จุดหมาย "  นั้น....

    ...ยิ่งเดินยิ่งห่างไกล  หรือไม่มี

    P
    แผ่นดิน
    เมื่อ อา. 08 ก.ค. 2550 @ 11:49 [ 314582 ]

     http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/109195

    ณ  ฝั่งฝัน

    แม้เส้นทางยาวไกลสักแค่ไหน

    ขอพียงมีลมหายใจที่ไม่แพ้

    ณ  ฝั่งฝัน

    ก็ไม่ไกลเกินใจจักโบยบิน

     

    ....

     

    ขอบคุณที่นำพาความงดงามมาห่มคลุมชีวิต ..ครับ -

    P
    Kati
    เมื่อ อา. 08 ก.ค. 2550 @ 09:23 [ 314491 ]
    • สวัสดีครับ คุณเบิร์ด
    • หัวใจของคน เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์จริงๆครับ
    • มหัศจรรย์มากๆ ครับ
    • ในมุมมองที่คุณเบิร์ด อธิบายไว้นั้น
    • วิธีกำหนด ลำดับความคิด กระทั่งนำพลังจากการลำดับความคิด ในมิติที่ไม่เป็นจริง ให้กลายเป็นพลังในการเปลี่ยนไปสู่ความจริงนั้น เป็นสิ่งที่หล่อหลอมมนุษย์ขึ้นมาจริงๆครับ
    • นำพาเราให้ก้าวจาก การเก็บหาเก็บกิน มาสู่การเพาะปลูกสะสม
    • ก้าวย่างจากความจำกัด ไปสู่การสร้างสรรค์
    • คำตอบของมนุษย์ และพลังแห่งความดีงามในตัวมนุษย์ ล้วนสร้างสรรค์ขึ้นมา จากพลังของความคิดทั้งสิ้น
    • โดยเฉพาะความคิดในด้านบวกของชีวิต
    • ขอบคุณมากครับ สำหรับแรงบันดาลใจ
    • และภาพสะท้อนในมุมมองที่งดงามของชีวิต
    • แม้ชีวิตจะรันทดเจ็บปวด
    • ขอบคุณครับ 
    Psunsun1993
    • ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับพัฒนาด้านจิตใจค่ะ
    • ชอบความจริง
    • ชอบธรรมชาติ
    • ชอบความงามแห่งชีวิตค่ะ

    http://gotoknow.org/blog/sunsun1993/109518

    เรื่อง เหงา เหงา....... ตอน เพราะมี ความเหงา ในโลกใบนี้

    สิ่งที่ทำให้เราเหงาคือ..... ตัวเรา ใจเรา และ ของแก้.....เหงา....ก็อยู่ใกล้กันนิดเดียว นั่นคือ.... ตัวเรา ใจเรา นั่นเองค่ะ
    เรื่อง เหงา เหงา......ตอน เพียง เรา มี เรา ^__^
    เราจะคลายเหงาให้ตัวเอง เริ่มจาก ไม่ทอดทิ้งตัวเอง เข้าใจ ใส่ใจ เห็นคุณค่าและ เห็นความหมายของตัวเอง ... เมื่อเราอยู่กับตัวเอง ณ ปัจจุบัน มากขึ้น ทอดทิ้งตัวเองน้อยลง เราเหงาน้อยลง นั่นเพราะ...เราจะมีตัวเองเป็นเพื่อนค่ะ
    P
    Mr.Direct
    เมื่อ อา. 08 ก.ค. 2550 @ 09:05 [ 314479 ]

    ...ขอเพียงเรามีหัวใจไม่ยอมแพ้...

    ...ขอเพียงแค่มีความฝันอันยิ่งใหญ่...

    ...ขอเพียงเรามุ่งมั่นก้าวต่อไป...

    ...ทางไกล้ไกลถึงเส้นชัยได้แน่นอน...

    http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/109195

    http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/109195

    P
    เบิร์ด
    เมื่อ อา. 08 ก.ค. 2550 @ 17:37 [ 314873 ]
    P
    สวัสดีค่ะท่านเล่าฮูแพนด้า
    อายุยืนจริงๆค่ะ เบิร์ดกำลังคิดอยู่ว่าท่านผู้อาวุโสหายไปไหน  เพราะช่วงนี้ท่านห่างหายจากการปะทะคารมกันไปนานเหลือเกิน  โอย ! คิดถึงจัง...เบิร์ดยังไม่ได้ทำตามคำแนะนำของผู้อาวุโสนะคะ   เพราะเบิร์ดไม่หวั่นกับสิ่งที่เข้ามาแล้วววววว อิ อิ อิ...ว่าแล้วก็ขอกอดทีก่อนจะตอบ
    เบิร์ดรู้สึกว่าตอนนี้มีหลายคนที่กำลังจะแพ้พ่ายน่ะค่ะก็เลยเขียนบันทึกนี้ขึ้นมา อย่างน้อยก็มาร่วมพูดคุยกันสักนิดก็ยังดี...ว่าแล้วก็เสริฟน้ำชาค่ะก่อนจะมาสนทนากัน... เบิร์ดขอเล่าก่อนนะคะ เพราะเบิร์ดรู้สึกอย่างนี้
    การเดินทางของชีวิต
    หลายต่อหลายครั้ง....ที่เราอาจจะต้องเดินบนเส้นทางที่ไม่อยากไป
    หรือต้องกัดฟันเดินบนถนนบางสายด้วยน้ำตา
    บนการเดินทางที่กล้ำกลืนอย่างนั้น...
    เราควรจะต้องคิด   ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
     มีสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องคิดให้ได้คือ...
    เราต้องค่อยๆเรียนรู้......เรียนรู้ที่จะเดินทีละก้าวแม้จะยากเย็น
    เรียนรู้ในการใช้ชีวิต...
    เพื่อให้การเรียนรู้ระหว่างการเดินทางเป็นความงดงามของการมีชีวิตอยู่ 
    และเรียนรู้ที่จะเดินทางให้มีความสุขให้ได้
    แม้จะเป็นการเดินบนถนนที่ขรุขระ

    และเต็มไปด้วยเศษแก้ว....ที่บาดเท้า

    แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็นมันจริงๆได้สัมผัสจริง 
    ได้รับรู้ความเจ็บปวดนั้นจริงๆ  ไม่ใช่รู้เพียงเพราะฟังจากคนอื่นเล่า.... 
    ต่อให้เป็นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบแสนสวยก็เปล่าประโยชน์
    ถ้าทางเส้นนั้น เราไม่เคยไป “ ใช่มั้ยคะเล่าฮู ? 
    ทางข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นอย่างไร

    คงไม่มีอะไรน่ากลัวมากไปกว่าที่เป็นมาหรอกนะคะ

    เพราะโลกไม่ได้แย่ขนาดนั้น....
    ชีวิตไม่ได้โหดร้ายจนไม่ทิ้งแผนที่หรือเข็มทิศไว้ให้เรา
    ดังนั้นไม่ว่าจะเดินไปทางไหน...จะทำอะไร
    ขอเพียงมั่นใจ  ไว้วางใจตัวเราเอง...และกล้าที่จะเดินไป
    เพราะไม่มีถนนสายไหนที่ไม่ได้ให้บทเรียน
    และไม่มีถนนสายไหนทำให้เราตกลงไปในหุบเหว
    จนปีนขึ้นมาไม่ได้...ถ้าจะปีน ! ( คุ้นๆมั้ยคะท่านผู้อาวุโส ^ ^ ) 

    ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเราเองแล้ว....ใครกัน  ที่ทำให้เราแพ้ ?  เนอะคะเล่าฮู

     

     

    กอดอีกทีสำหรับคำแนะนำและการปลอบโยนของผู้อาวุโสที่มีให้กับผู้เยาว์ ( ที่อาจจะเกเรเกตุงในบางครั้งเพราะหงุดหงิด อิ อิ อิ )  และคารวะน้ำชาอีกจอกเพื่อน้อมรับคำสั่งสอนค่ะ

     http://gotoknow.org/blog/LifeLearning/109436

    P

    คำตอบของหนึ่งบวกหนึ่งไม่จำเป็นต้องเท่ากับสอง

    ...เพราะคำตอบของหนึ่งบวกหนึ่งไม่จำเป็นต้องเท่ากับสอง...

                       ...หนึ่งบวกหนึ่งยังเท่ากับห้าลบสาม...

                        ...หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับแปดหารสี่...

        ...และในระบบเลขฐานสองหนึ่งบวกหนึ่งยังเท่ากับศูนย์ (ทดหนึ่ง)...

    PProf. Vicharn Panich
    The Knowledge Management Institute  http://gotoknow.org/blog/thaikm/109264
    ช่วยหนูด้วย!!! - Gotoknow
    ขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำเพื่อ ไม่ต้องปิดตัว Gotoknow จากผลกระทบโดย พรบ. ความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

     ช่วยหนูด้วย!!! - Gotoknow

              ขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำเพื่อ ไม่ต้องปิดตัว Gotoknow

    http://gotoknow.org/blog/thaikm/109264

    P
    Handy
    เมื่อ จ. 09 ก.ค. 2550 @ 02:18 [ 315239 ]

    ช่วยกันหาทางออกเถอะครับ ท่านผู้รู้ทั้งหลาย
         ผมเองได้แต่วิงวอนว่า...

    • ขออย่าให้ มีกฎหมายที่ออกมา เพื่อ ตอบสนองความกลัว และความโง่ ของผู้มีอำนาจบางคนก็แล้วกัน
    • ขอให้ผู้มีอำนาจ มีบารมี ชี้เป็น ชี้ตายให้สังคมได้ จงฝึกให้หนัก เรื่อง มองอะไรให้เป็นระบบ  ครบวงจร  ไม่คิดไปทำไป แบบเป็นดุ้นๆ ท่อนๆ แล้วก็ต่อกันไม่ติด  ทิ้งร่องรอยเป็น ขยะความคิด ที่ทำความสับสน มากกว่าการแก้ปัญหา
    • ขอโทษครับ .. โง่แล้วขยัน ยังมีอยู่อีกไม่น้อยในกลุ่มคนระดับบน .. หรือใครว่าไม่จริง
    P

     
    เสียงครืนครืน  ผืนฟ้าร้อง  นองชุ่มฉ่ำ  
    ฝนตกพรำ  ค่ำนี้  ที่เหน็บหนาว  
    เสียงลมสั่น  ลั่นฟ้าร้อง  ฝนตกกราว 
    หนาวถึงจิต  คิดครวญคร่ำ  ร่ำร้องมา 
    ************** 
    ฝนยังหยุด  ไม่สะดุด  รุดหน้าเร่ง  
    ฝนไม่เกรง  ใครข่มเหง  ให้ผวา 
    อีกทั้งพ้อง  น้องพี่ลม  ชมพัดพา 
    ชื่นวิญญา   พาร่มเย็น  เป็นเพลิดเพลิน
    **************  
    แต่มีใคร  ให้ต้องเมิน  เดินสะดุด 
    ต้องรีบรุด  ฉุดไม่ไหว  ให้ห่างเหิน  
    อีกทั้งวิ่ง  ยิ่งช้าใหญ่  หากมัวเดิน 
    ยุ่งเหลือเกิน   เดินและวิ่ง  ยิ่งลำเค็ญ 

    **************

    ขอเป็นฝน  ชุ่มฉ่ำ เย็นในจิต 
    มิต้องคิด  มีมิ่งมิตร  คิดให้เห็น 
    เบื้องหน้ายัง  พลั้งผิด คิดลำเค็ญ 
    ขอเพียงเป็น  ฝนโปรยปราย  คลายร้อนใจ
    P
    เบิร์ด
    เมื่อ จ. 09 ก.ค. 2550 @ 19:58 [ 315797 ]
    P

    สวัสดีค่ะคุณเม้ง 

                                   

            วันนี้เบิร์ดเป็นหมี แหะ แหะ..  เสริฟหนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้ แทนบะหมี่ พร้อมกับน้ำสับปะรดนะคะ เพราะเค้าบอกว่า น้ำสับปะรดจะช่วยย่อย ( ประจบสุดฤทธิ์เพราะป่วนไว้เยอะ ^ ^ )

                                         
    user posted image
                                  

                                      
    user posted image  

             ****************************************************

    สนใจการปฏิรูปการศึกษาของพระสงฆ์บ้างมั้ยคะ ? เพราะถ้าเรามองว่าความหิวแก้ได้ด้วยอาหาร  ความเขลาแก้ได้ด้วยการศึกษา...การศึกษาสำหรับพระสงฆ์ก็เป็นสิ่งจำเป็นและต้องมียุทธศาสตร์ + เป้าหมายที่ชัดเจน  ซึ่งที่ผ่านมายัง ..บ่มีให้เห็น เป็นชิ้นเป็นอัน..

    เพราะถ้าดูจริงๆเราจะเห็นว่าพระสงฆ์ที่อยู่ในชนบทสามารถสร้างสรรค์ถาวรวัตถุทางศาสนาได้อย่างใหญ่โตมโหฬาร แทบไม่น่าเชื่อ...แต่การครุ่นคิด  ไตร่ตรองศาสนธรรมกลับไม่งอกเงย  เป็นเพราะเหตุใด ?

    ที่น่าสงสัยก็คือสำนักสงฆ์ที่มากมาย บางที่บุกรุกป่า บางที่บุกรุกที่ดินคนอื่น ...บางที่ไสยศาสตร์จ๋า บางที่ก็เคร่งวัตรปฏิบัติ  ซึ่งละลานหลากหลายจนชวนงุนงงสงสัยว่าทำไมไม่อยู่วัด ? และนิกายปัจจุบันของพุทธศาสนาของเรามีกี่นิกายแล้ว...แต่เดิมมีธรรมยุตรกับมหานิกาย  แต่ตอนนี้เราจะเห็นว่ามีสันติอโศกที่ท่านประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าท่านไม่ใช่ พระสงฆ์ในแบบสองนิกายนี้ เพราะเป็นแนวทางต่อต้านวัตถุนิยมและบริโภคนิยมอย่างเต็มที่ด้วยการอยู่อย่างเรียบง่ายและเชิดชูความยากจน... ต่อต้านไสยศาสตร์ในทุกรูปแบบไม่จำเพาะแค่เครื่องรางของขลังหากยังปฏิเสธกระทั่งการรดน้ำมนต์และการมีพระพุทธรูปสักการะอีกด้วย

    ธรรมกายก็เป็นหนึ่งใน " สายปฏิรูป " ตามคำของพระไพศาล  วิสาโล...ที่ว่าเป็นสายปฏิรูปเพราะเป็นการปฏิรูปพระพุทธศาสนาให้ทันตามความเปลี่ยนแปลงของโลก ( โดยใช้หลักการตลาด...อันนี้เบิร์ดเติมเอง )...และแม้ว่าวัดธรรมกายจะประสบความสำเร็จอย่างมากในการดึงคนเข้าวัดของตน  แต่พระไพศาล ท่านก็มองว่าแนวคำสอนและแนววิธีการของวัดพระธรรมกายนั้นโดยแท้จริงแล้วก็เป็นเพียงการปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแสทุนนิยมและบริโภคนิยม เพราะวัดพระธรรมกายอาจทำให้คนเลิกอบายมุข  แต่ก็ยังส่งเสริมให้ผู้คนตั้งหน้าตั้งตาหาเงินและสะสมทรัพย์สมบัติกันต่อไป...

    การปฏิรูปของสวนโมกข์ ( อันนี้ไม่อธิบายนะคะ เพราะคาดว่า " ทราบอยู่แล้ว " )...สันติอโศก และธรรมกายนัยหนึ่งสะท้อนความไม่พึงพอใจในสถานการณ์ของพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน  แต่อีกนัยหนึ่งก็สะท้อนความไม่เห็นด้วยกับวิถีของคณะสงฆ์โดยรวมด้วย  ซึ่งการเกิดขึ้นของสามสำนักทำให้เราเห็นถึงความแตกต่างทางด้านแนวทางคำสั่งสอนและการปฏิบัติภายในคณะสงฆ์ไทย  และทำให้เกิดความหลากหลายมากกว่ามีเพียงสองนิกาย ( ธรรมยุตร + มหานิกาย ) อย่างที่เคยเป็นมา...

    การปฏิรูปการศึกษาเพื่อให้เกิดระบบความรู้ที่สามารถนำไปแก้ปัญหาได้จริงในสังคมและการสร้างระบบที่เอื้อต่อการค้นคว้าหาความรู้และการเผยแพร่ศาสนธรรม ( ระบบปกครองคณะสงฆ์ ) จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้โดยไม่กระจัดกระจายและไม่มีแนวทางที่ชัดเจนเหมือนอย่างในปัจจุบันนะคะ...

    เบิร์ดไม่ได้หมายความว่าต้องบีบให้เหลือเพียงสองนิกายเหมือนเดิม แต่เบิร์ดอยากให้มองว่า " ยินยอมให้มีความหลากหลายได้ในระดับใด "...เพราะในโลกกลมๆที่เริ่มอ้วนกลางไปเรื่อยๆใบนี้  ต้องมีหลายๆศาสนาและหลายๆนิกาย เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์ได้อย่างหลากหลาย...เพียงแต่ว่าถ้าเป็นพระพุทธศาสนา ( โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่เรามองว่าเป็นศาสนาอันดับหนึ่งของคนไทย )  เราก็ควรมีแนวทาง  เป้าหมายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันเท่านั้นเองค่ะ    

    ทานหนมจีนเคล้าเรื่องเล่าหมดแล้วใช่มั้ยคะ  จะรับอะไรเพิ่มมั้ยคะ ? ^ ^...

    ขอบคุณมากค่ะที่มาอุดหนุนร้านบะหมี่ ( ด้วยหนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้ ^ ^ )  พร้อมทั้งการขยายความวิธีท่อง พุทธะ นะปลง ฯ ( ซึ่งที่ผ่านมาก็มีส่วนทำให้เบิร์ดลด " ลมออกหู " ได้นะคะ อิ อิ อิ ) ที่ทำให้เบิร์ดเล่าเรื่องจนยืดยาวนะคะ...ขอบคุณมากๆค่ะ

    http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/105550

    • ตามมาเยี่ยมยามครับ
    • ชีวิต
    • มันก็ เป็นเช่นนั้นเอง ครับ
    สุดารัตน์
    เมื่อ อ. 10 ก.ค. 2550 @ 21:55 [ 316890 ]

    สนใจเรื่องโลกร้อน พยายามหาข้อมูลใน Internetอยู้บ่อย คือ  จุดประสงค์ คือต้องการเผยแพร่เรื่องธรรมชาติถูกทำลาย  กับภาวะโลกร้อน   ตัวเองเป็นพยาบาลผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลชุมชน  ทุกเช้ามีหน้าที่ต้องพูดแนะนำการบริการ  ขั้นตอนการบริการ  ให้สุขศึกษา เน้นการป้องกันโรค   ทุกวันจะต้องสอดแทรกเรื่องภาวะโลกร้อน  ให้ประชาชน  ผู้รับบริการทราบ  มีคนทักท้วงว่าพูดเรื่องอะไร..ไม่เห็นเกี่ยวกับการส่งเสริม   และ  ป้องกันโรค  แต่จะทำต่อไป.. เพราะคิดว่ามันเป็นปัจจัยของการเกิดโรคอย่างหนึ่ง ของโรคภูมิแพ้  และอีกหลายๆโรค  โดยเฉพาะ โรคเครียด  ที่เป็นปัจจัยสาเหตุของ โรคความดันโลหิตสูง  พอดีเปิดพบข้อมูลโดยบังเอิญ  ดีใจมาก..ขอบคุณจริงๆค่ะ  ที่เขียนเรื่องดีๆ ให้ได้อ่าน

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/110331

    Pนาง กฤษณา สำเร็จ
    ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทย

    แล้วเราจะเป็นปลาหรือเต่าดีล่ะ

     เป็นน้ำดีกว่า.... น้องธุรการตอบอ้าว  เป็นงั้นไป  พวกคิดนอกกรอบ อ้อ....เพราะว่าน้ำปรับตัวได้ทุกที่ แต่...หรือจะเป็นน้ำแข็งพวกฝ่ายค้านเริ่มทำงาน น้ำแข็งมันอึดอัดนะเพราะต้องปรับตัวให้อยู่ในภาชนะ 

    ใช่..มันต้องถูกทุบ...เคาะๆๆๆๆจึงหลุดออกจากบล็อกได้.......

    P
    ยุทธศาสตร์ไม้ยูคาลิปตัส ยุทธศาสตร์จังหวัดบุรีรัมย์
    ที่สมัยหนึ่งเราต่อต้านกันหัวชนฝา แต่เจ้าไม้ตัวนี้ก็ดื้อดึงดื้อด้านต้านกระแสอย่างทรหด นอกจากทนแล้งแล้ว ยังคงทนต่อการวิพากษ์วิจารณ์อีกด้วย

     

    เมื่อวานนี้มีเรื่องที่พลิกล็อกที่ผมเห็นว่ามีความสำคัญกับวิธีการศึกษาวิจัยในประเทศไทย ที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและความเข้าใจเรื่องไม้ยูคาลิปตัส ที่สมัยหนึ่งเราต่อต้านกันหัวชนฝา แต่เจ้าไม้ตัวนี้ก็ดื้อดึงดื้อด้านต้านกระแสอย่างทรหด นอกจากทนแล้งแล้ว ยังคงทนต่อการวิพากษ์วิจารณ์อีกด้วย มาถึงวันนี้ความจริงได้พิสูจน์ตัวมันเองว่าเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกิดจากต้นไม้ที่มันไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย แต่มันเกิดจากการจัดการของมนุษย์ที่ทำไม่ถูกไม่ควรกับความเป็นจริงของไม้พันธุ์นี้ ที่ผมดีใจไม่ใช่เพราะไม่มีใครต่อต้าน แต่ดีใจเพราะคนไทยจะเริ่มลงมือเรียนรู้เกี่ยวกับไม้พันธุ์นี้อย่างจริงจังเสียที

    P

    อุ้ย!เทียบเชิญ เหิรมาหาในบล็อก

    ดีใจช็อค!ล็อคใหม่คงไม่แห้ว

    ไปกินลมชมดาวจีบสาวแม้ว

    ชวนกันแล้วตาใสจะไปกัน  

    จะขนลูกอีสานไปงานนี้

    ลูกทีมที่สนใจใคร่ไปหัน

    ถามคนไหนอยากไปกันทั้งนั้น

    จ้าละหวั่นจ๊ะจ๋าหน้าเสบย  

    หลายครอบครัวเกี่ยงกันฉันจะไป

    ทำยังไงครูพิชัยเจ้าข้าเอ๋ย

    เป่าหยิงฉุบตัดสินกันเช่นเคย

    เรื่องก็เลยตุงนังยังวุ่นวาย  

    คนขี้แพ้นั่งเศร้าเหมือนเต่าป่วย

    มาให้ช่วยหาวิธีไปให้ได้

    ทำหน้าเหงาเศร้าโศกบอกโชคร้าย

    จะตรอมกายตรอมใจไปหลายปี  

    งานนี้เสน่ห์แรงอย่างเหลือเชื่อ

    ไม่น่าเบื่อป่าเขาเขียวสดสี

    ชุมนุมคนรักใคร่น้ำใจดี

    แล้วยังงี้ใครไม่ไปเฉาใจตาย

    ความคิดเห็น
    P
    ขจิต ฝอยทอง
    เมื่อ ศ. 06 ก.ค. 2550 @ 10:58 [ 312950 ]
    • โห ถ้าเพาะพันธุ์ได้สำเร็จคงดีมากเลยครับ
    • แค่ดอกเดียวก็กินได้นานมาก
    • ไม่คิดว่าที่บ้านป้าหนูพวนจะออกอีก
    • อาจเป็นเพราะว่าดินดีก็ได้แถมมีเชื้อเก่าด้วย
    • รอดูเห็ดตีนแรดครับ
    • ดอกใหญ่จริงๆๆๆ
    • http://gotoknow.org/blog/sutthinun/109061
    Pคนไร้กรอบ
    อริยชน
    รณรงค์ เลิกดู ทีวี ช่องไร้สาระ ไม่เห็นใจเยาวชน

    วันนี้  ภรรยาผม เธอจ๊าบมาก   เธอชวน ลูกๆ  แม่ยายของผม  และ ผม  รณรงค์   ปิดทีวี    เพราะ เห็นว่า   มีแต่รายการไร้สาระ

    กำลัง จัดการวางแผน  ผังรายการของครอบครัวเราเอง

    Pnuy
    โรงเรียน
    น้องๆขอกำลังใจครับ โปรดช่วยด่วน
    ขอกำลังใจ
    เหนื่อยจัง
     พยายามคิดว่าหลายปัญหาที่เกิดขึ้นคงเป็นเพราะตัวเองบริหารเวลาไม่ถูกเองมากกว่า  คงมีอีกหลายคนที่งานเยอะเหมือนเราแต่เขาบริหารเวลาถูก  พี่เคยรู้สึกเหมือนกันไหมค่ะ  ทำอย่าไร  ช่วยบอกหน่อยค่ะ ท้อแท้มากๆๆ ในตอนนี้
  • สวัสดีครับ 
  • "ปัญหามา ปัญญามี"
  • คนที่ไม่มีปัญหา คือ คนตาย (แต่บางทียังไม่แน่อีก เพราะทิ้งปัญหาไว้ให้คนเป็นก็มี)
  • ต้องแก้ที่ใจก่อน  ต่อจากนั้นก็ปรับพฤติกรรม 
  • บริหารชีวิตให้ดี  ปรับตัวให้ได้กับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่
  • อย่าลืมเรื่อง  กาลเวลา   บางเรื่องต้องให้ "เวลา" จัดการ ครับ
  • ขอแสดงความคิดเห็นเท่านี้  มากไปเดี๋ยวจะเกิดปัญหาอีก
  • ขอบคุณครับ  สวัสดี
  • รูปนี้ แห้งไปหน่อยครับ ตอนผ่านไป อากาศร้อน เค้าไปหลบในบ้านกันหมด เจออันนี้อยู่นิ่งๆ ก็เลยถ่ายมา แต่ไม่ใช่ตัวเป็นๆ ครับ
    Pพิชชา
    ศูนย์บริการวิชาการ
    ใครชอบกินลำไยบ้าง?

    ตอนนี้ถ้าไปตลาดผลไม้จะมีลำไยวางขายแล้ว  และคงเป็นที่ชื่นชอบของคนชอบทานลำไย...

     

     

    ลำไยมีชื่อเรียกพื้นบ้านว่า บ่าลำไย ชื่อภาษาอังกฤษว่าลองแกน (Longan) ชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Nephelium ,Canb.หรือEuphorialongana,Lamk.วงศ์Sapedadceaeทีน(Native)

     

    คนทางภาคเหนือนิยมปลูกลำไยกันค่ะ  บ้านที่เชียงใหม่ก็มีลำไยอยู่หลายต้นค่ะ แม้ไม่มีสวนแต่ก็จะปลูกบริเวณบ้าน  ไม่ต้องดูแลอะไรมากปีหนึ่งก็ได้ผลไม้ซึ่งได้ทั้งกินถ้ามากพอก็ขายค่ะ

    P
    จะรักใคร ก็จงบอกให้รู้ เมื่อยังอยู่ด้วยกัน
    เคยถามตัวเองกันบ้างไหมว่า “เรา” ล้มตัวลงนอนพักผ่อนคืนนี้ พรุ่งนี้ “เรา” จะตื่นขึ้นมาเหมือนทุกๆวันไหม
    • จะรักใคร  ก็จงบอกให้รู้  เมื่อยังอยู่ด้วยกัน
    • คนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตาย  ชีวิตก็เหมือนกับที่ ปู่เย็น  แก้วมณี   กล่าวเอาไว้ว่า  เหมือนขึ้นสะพาน  ขึ้นไปแล้วก็ค่อยๆลง
    •         ปู่เย็นกล่าวด้วยว่า   ชีวิตของแกเหมือนสะพานที่กำลังลาดต่ำดำดิ่งลง  แกกล่าวไว้ในวันที่อายุของแกเกือบจะถึง ๑๐๐ ปี
    •         แต่คนเรา  จะมีสักกี่คนที่อายุถึงเพียงนี้  และที่สำคัญยิ่งที่ ปู่เย็น มิได้กล่าวถึง  แต่เป็น ความจริง  ที่สุดคือ
    •        ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า  ชีวิตตนเองหรือคนรอบข้าง   จะคืนลมหายใจให้ธรรมชาติเมื่อไร
    สวัสดีทุกท่าน เป็นเพราะบกพร่อง หรือ g2k ผิดพลาดครับ  ไม่มีลิงค์ของท่าน
    Pnuy
    โรงเรียน
    น้องๆขอกำลังใจครับ โปรดช่วยด่วน
    ต้องขออภัยด้วยครับ 

    สวัสดีครับ เม้ง

    รู้สึกหงุดหงิดมากครับ M เข้าไม่ได้เลยไม่ทราบสาเหตุครับ  หวังว่าพรุ่งนี้คงไม่เป็นครับ

    P

    สวัสดีครับคุณ conductor

    ขอบคุณมากๆ เลยครับ สำหรับลิงก์ที่น่าสนใจครับ เข้ามาสายไปหน่อยครับ

    สิ่งเหล่านี้เป็นการประท้วงจากธรรมชาติครับ ให้คนที่พบเห็นทราบครับ ว่าเค้ามีปัญหานะแล้วคนที่กำลังเห็นอยู่กำลังจะมีปัญหาด้วยเช่นกัน

    หน้าร้อนในทุ่งนาที่แห้งแล้งนะครับ เหยียบซักกอข้าวดังแกร็บๆ ดินที่เคยเป็นโคลน เปลี่ยนเป็นดินที่ตำเท้าเราแทนครับ ด้วยธรรมชาติของที่โล่ง ไม่มีต้นไม้อย่างทุ่งนา

    ขอบคุณมากครับ

    P
    Conductor
    เมื่อ ศ. 13 ก.ค. 2550 @ 15:21 [ 319203 ]

    ความจริงผมไม่ได้คิดจะเสนอให้เก็บภาษีอาหารทำลายสุขภาพหรอกครับ ภาษีแบบนั้นน่าจะเป็นภาษีสรรพสามิต ซึ่งเหมาะสำหรับพวกโรงงานอุตสาหกรรมที่รัฐเรียกเก็บจากสิ่งที่รัฐเห็นว่าควรเก็บเพิ่มเพราะเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับชีวิต (เช่นรถยนต์ น้ำอัดลม เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์เป็นต้น)

    ผมคิดถึง VAT ครับ

    อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในปัจจุบัน อยู่ที่ 6.3% แต่มีภาษีมูลค่าเพิ่มของราชการบริหารส่วนท้องถิ่นที่จัดเก็บเพิ่มอีก 0.7% (อัตรา 1 ใน 9 ของภาษีมูลค่าเพิ่ม) รวมเป็น 7%

    ผู้ประกอบการรายเล็ก ที่มียอดขายไม่ถึง 1.8 ล้านบาท ต่อปี (ยอดขายเฉลี่ยไม่เกิดวันละ 4,931.50 บาท) ก็ไม่ต้องเสีย VAT

    ผมไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีจากที่หนึ่ง แล้วนำมาอุดหนุนอีกที่หนึ่งในลักษณะที่ใกล้เคียงกันครับ

    สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) เก็บภาษีเหล้า-บุหรี่ แล้วเอามาทำเว็บ บางโครงการแรกก็แปลกดีเหมือนกัน แต่ช่วงหลังๆ มานี้ รัดกุมขึ้นมาก

    เอาเป็นว่า ตอนนี้อยากกินก็รีบกิน ก่อนที่จะมี พรบ.ว่าด้วยความผิดของหมูแดง ออกมานะครับ

    แวะอ่านบล๊อกของคุณหมอวัลลภบ้าง อ้าว เขียนเรื่องเดียวกันเลย แต่ผมเขียนก่อนนะ

    P

    สวัสดีครับพี่เหลียง

    ผมเห็นพี่ออนไลน์อยู่นะครับ แต่ทักไปกลับไม่ตอบกลับมาครับ... ตอนนี้ก็เห็นออนไลน์อยู่นี่ครับ

    สงสัยเป็นปัญหาที่ระบบหรือครับ

    ขอบคุณมากครับ ทำใจเย็นๆ ครับ สบายๆ ระบบมีปัญหาเป็นเรื่องธรรมดาครับ ทำใจให้สบายครับ

    P
    จนหรือรวย จำเป็นจะต้องแบ่งแยกไหม
    แอกสมัยใหม่มาแล้ว

    สวัสดีครับทุกท่าน

            จนหรือรวย รวยหรือจน ใครเป็นคนแบ่งประเภทครับ จำเป็นต้องมีเพดานกั้นระหว่างความจนกับความรวยไหมครับ

    คุณใช่เกณฑ์อะไรมาแบ่งความจนความรวย แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าคนนี้จนคนนี้รวย

    การที่คนมีกิน กินดีอยู่ดีแต่ไม่มีเงินเดือนในบัญชี แบบนี้จนไหม

    จำเป็นด้วยหรือที่จะต้องแปลงสิ่งที่เค้าทำมาหากินให้เป็นตัวเงินเพื่อจะบอกว่า คนนี้จน คนนี้ไม่จน ไม่เข้าใจจริงๆ ครับ

     P

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/111579#

    จนหรือรวยใครจะเป็นคนแบ่ง แบ่งไปทำไม

    ตกงานหรือมีงานทำอยู่ที่ไหน ใครลิขิต

    สุขหรือทุกข์อยู่ที่ไหน ใครควรคิด

    แล้วค่าชีวิตอยู่ที่ไหน ใครกำหนด

    ผมอยากสื่อถึง การเปิดใจของเรา...ก้าวออกไป ยิ้ม และแผ่ไมตรีแก่คนรอบข้าง ผมเชื่อว่าทุกคนรับรู้ได้จากการกระทำของเรา

     

    เมื่อเรายิ้มให้โลก โลกก็จะยิ้มให้กับคุณเช่นกัน

    P

    สวัสดีครับคุณ Conductor

    กราบขอบพระคุณมากๆ เลยครับ ที่นำอาหารสมองและสิ่งดีๆ มาฝากกันประจำนะครับ และการแนะนำให้รู้จักคุณบังอร ด้วยนะครับ

    สนุกในการทำงานนะครับ

    Pพิชชา
    ศูนย์บริการวิชาการ

    เณรถามหลวงพ่อว่ามีสัตว์เท่านั้นหรือที่ทำหน้าที่ หลวงพ่อบอกว่า คนก็มีหน้าที่ทั้งนั้นครูมีหน้าที่สั่งสอนคนให้เป็นคนดี พระมีหน้าที่เผยแพร่ศาสนา ดังนั้นคนเราเกิดมาต้องรู้จักหน้าที่และทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดี

    P

      http://gotoknow.org/blog/mrschuai/111828

    สวัสดีครับทุกท่าน

             วันนี้มีคำถามมาถามเล่นๆ กันครับ สำหรับทุกท่านครับ

    โจทย์... มีทุ่งนาแปลงนี้ให้คุณจับปลา มือเปล่า คุณจะจัดการอย่างไร ใช้การจัดการความรู้ หรือ KM (Knowledge Management) อย่างไรในการจับปลามือเปล่าครับ

    เงื่อนไข... คนที่บ้านของคุณรอปลาจากการจับในครั้งนี้ เพราะที่บ้านมีแต่ข้าว แต่ไม่มีกับข้าวครับ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท