ตำนานย่านอำเภอสามชุก


สำนวนข่าวโคมลอย...อาจเกิดที่สามชุก...ก็ได้

 

ตำนานย่านอำเภอสามชุก 

              เมื่อตอนที่แล้วผมเล่าตำนานอำเภอสองพี่น้องให้อ่านไปแล้ว วันนี้ลองมาติดตามตำนานของอำเภอสามชุกกันบ้าง เพราะวันนี้(๒๓ มิ.ย. ๒๕๕๐)ผมเพิ่ง นำเพลงอีแซว ไปแสดงที่ตลาดร้อยปีมาก่อนเล่าต้องขอกราบขอบพระคุณ คุณลุงปา อาภรณ์รัตน์ บ้านเลขที่ ๑๔๑/๑ หมู่ ๕ ตำบลหนองผักนาก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี และคุณสุภร ผลชีวิน ที่เป็นแหล่งข้อมูลของผม มาเริ่มเรื่องกันเลยนะครับ

 

                ที่มาของชื่อสามชุกเล่ากันว่า มีท่าซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้าชื่อว่าท่ายาง เมื่อถึงฤดูน้ำแห้ง เรือแล่นไม่ได้ จึงต้องขนสิ่งของมากองไว้บนชายหาด เพื่อรอคนมาซื้อ พวกเดินทางขนส่งต้องใช้ภาชนะเก็บรักษาสินค้าไว้ ภาชนะนี้เรียก สามชุก หรือ กระชุก ทำจากลำไผ่ บ้านท่ายางจึงจึงเรียกว่าบ้านสามชุก ที่ท่านี้ต่อมามีตลาดเรียกว่า สามแพร่ง เพราะเป็นบริเวณที่มีทางมาบรรจบกันสามทาง ต่อมาเลือนไปเป็น สามเพ็ง "

                มีตำนานเล่าว่ามีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อพันลึก อยู่บ้านหนองโรง มีลูกสาวคนหนึ่งสวยมาก ผิวขาว มีลักยิ้ม ชื่อว่านางพิม มีชายหนุ่มหมายปองมากมาย แต่มีอยู่ ๒ คนที่มีภาษีกว่าคนอื่น คนแรกชื่อนายสำเภา เป็นลูกเศรษฐีแห่งบ้านชัฏหวาย อีกคนชื่อนายโพทอง เป็นลูกเศรษฐีแห่งบ้านสามเพ็ง ลูกเศรษฐีทั้ง ๒ คนต่างก็ให้พ่อมาขอนางพิม โดยเสนอสินสอดมากมาย แต่เศรษฐีพันลึกไม่ต้องการสินสอด เพราะแกรวยอยู่แล้ว แต่แกต้องการให้หนุ่มทั้งสองฝ่ายสร้างถนนแข่งกัน จากบ้านของตนเองมายังบ้านของแก เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ในการขนส่งต่อไป โดยกำหนดให้ใช้เวลาสร้าง ๑ คืนกับ ๑ วัน ให้ถนนมีขนาด สูง ๒ ศอก กว้าง ๓ วา ใครสร้างเสร็จก่อนจะได้แต่งงานกับนางพิม พ่อของหนุ่มทั้ง ๒ คนต่างตกลง เมื่อถึงกำหนดวันแข่งขัน ต่างฝ่ายก็ระดมกำลังสร้างถนนกันอย่างแข็งขัน พอค่ำลงถนนฝ่ายบ้านชัฏหวายสร้างได้เร็วกว่า นำหน้าฝ่ายบ้านสามเพ็งไปมาก ทำให้หนุ่มโพทองเกรงว่าจะพ่ายแพ้ จึงวางอุบาย แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปสร้างถนนดักหน้า ไว้ใกล้บ้านหนองโรง แล้วให้พวกของตนใช้ไม้ไผ่ทำคันโพงให้สูง เอาเชือกผูกโคมไฟให้สว่างโชติช่วงเหมือนดวงดาว ส่วนพวกที่สร้างถนนก็เร่งสร้างต่อไป ทางฝ่ายหนุ่มสำเภา เมื่อสร้างถนนมาถึงบ้านดอนกลาง เป็นเวลาดึกมากแล้ว มองไปทางบ้านหนองโรง เห็นโคมไฟของฝ่ายหนุ่มโพทอง ก็เข้าใจว่าเป็นดาวรุ่งขึ้น ฟ้าคงสว่างแล้ว หนทางที่สร้างก็ยังอยู่อีกไกลกว่าจะถึงบ้านหนองโรง สร้างอย่างไรก็คงไม่ทันแล้ว อยู่ไปก็อายเศรษฐีพันลึก จึงสั่งบ่าวไพร่เคลื่อนขบวนกลับด้วยความเศร้าใจ ทางฝ่ายหนุ่มโพทองก็เร่งรีบสร้างถนนจนเสร็จก่อนสว่าง จึงได้แต่งงานกับนางพิมสมความปรารถนา

                 กล่าวกันว่าเส้นทางต่างๆในเรื่องที่เล่าปัจจุบันก็ยังมีร่องรอยให้เห็นอยู่ มีผู้สันนิษฐานกันเล่นๆว่า สำนวนที่ว่า อย่าเชื่อข่าวโคมลอยอาจเกี่ยวข้องกับตำนานเรื่องนี้ก็ได้

 

คำสำคัญ (Tags): #ตำนาน
หมายเลขบันทึก: 105760เขียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2007 22:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 11:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

ตำนานเล่าต่อๆกันมาก็สนุกดีนะคะ อาจมีเรื่องจริงนิดหน่อย นอกนั้น คงเพี้ยนไปเรื่อยๆค่ะ

มีอีกไหมคะ น่าจะเขียนบันทึกไว้นะคะ

  • ขอบคุณแฟนตำนานขนานแท้
  • คุณศศินันท์ ผู้รอบรู้และมีประสบการณ์หลายด้าน
  • ผมจะพยายามนำมาเล่า มาอนุรักษ์ไว้ครับ
  • อ่านมา ฟังมาก็นำมาเล่าสู่กันอีกที
  • ขอบคุณมากๆครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท