หมากฝรั่ง...intrend..2


หมากรั่งRecaldent...ป้องกันฟันผุ..โม้..ป่าวววว

          เฮ้ออออออออ!!!! วันนี้เหนื่อยจัง  ช่วงนี้ใกล้สอบเต็มที มี lecture รอให้อ่านเต็มไปหมด วางกองไว้รวมกันแทบจะสูงถึงเพดานห้องแล้ว แถมมีงาน lab ที่ต้องส่งอีกเพียบ นี่แหละน้า ชีวิตนักเรียนทันตแพทย์ น่าเศร้าซะจริงเชียว  ต้องคอยให้กำลังใจตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า สู้ๆเข้าไว้ เพื่ออนาคตๆๆๆๆ ( ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเลยแหละ ว่าเป็นการให้กำลังใจ หรือว่าปลอบใจตัวเองไปวันๆ )
<p>         ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ ที่มาถึงวันนี้ก็เอาแต่บ่นๆๆๆ ( ก็มันเป็นวิธีคลายเครียดอย่างนึงนี่นา )  ให้อภัยเด็กน้อยที่น่าสงสารเถอะนะคะ</p><p>เอาล่ะ มาเข้าเรื่องที่ติดค้างไว้จากคราวที่แล้วดีกว่าค่ะ ลืมกันไปรึยังเอ่ย ว่าคราวที่แล้วเล่าเรื่องอะไรให้อ่านไป  </p><p>                   ติ๊กต๊อก</p><p>                ..</p><p>                   ติ๊กต๊อก           </p><p>                ..</p><p>                   ติ๊กต๊อก</p><p>                   ...........................</p>

เฉลยก็ได้ค่ะ

ก็เรื่องของ หมากฝรั่งที่มีสารที่ช่วยป้องกันฟันผุไงคะ  เมื่อคราวที่แล้วได้แนะนำสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่าง XYLITOL ไปแล้ว วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่อง RECALDENT ให้ฟังกันค่ะ

Recaldent นั้นเป็นชื่อทางการค้าซึ่งบริษัทที่คิดค้นนั้นตั้งขึ้น แต่จริงๆแล้ว Recaldent คือสาร CPP-ACP หรือว่า Casien Phosphopeptides Amorphous Calcium Phosphate นั่นเองค่ะ ซึ่ง casein นี้เป็นโปรตีนที่อยู่ในน้ำนมวัว  หลายคนคงจะเริ่มแปลกใจแล้วใช่มั้ยล่ะคะ ว่ามันจะช่วยในการป้องกันฟันผุได้ยังไง  จะขอเล่าการทำงานของสาร recaldent อย่างคร่าวๆแล้วกันนะคะ

         CPP จะจับกับ ผิวเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้มีความเข้มข้นของ Calcium กับ phosphate ion ใน plaque เพิ่มขึ้น  จึงสามารถซึมเข้าไปในenamel บริเวณนั้น  แล้วเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เป็นผลึกเก็บไว้ในenamel  ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า กระบวนการ  “Remineralization” หรือกระบวนการสะสมแร่ธาตุนั่นเอง อาจพูดได้ว่า recaldent นี้จะมีการปล่อย calcium ให้กับผิวฟันโดยตรง  ทำให้ enamel มีความแข็งแรงมากขึ้น และโอกาสการเกิดฟันผุน้อยลงค่ะ  นอกจากนี้ recaldent ยังจะช่วยลดการเกิดคราบหินปูนบนผิวฟันด้วยนะคะ


             อ้อ เกือบลืมค่ะ ขอเตือนไว้ซักนิดนะคะว่าเนื่องจาก recaldent นี้มีส่วนที่ได้มาจากโปรตีนในน้ำนมวัว ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ในคนที่แพ้นมวัวนะคะ ยกเว้น คนที่ทราบว่าเป็น lactose intolerance หรือแพ้ lactose ในน้ำนม ก็จะใช้สาร recaldent นี้ได้ค่ะ

            ปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ใช้ recaldent เป็นส่วนผสม เช่น Tooth Mousse  และ หมากฝรั่ง (อันนี้เห็นบ่อยๆในโฆษณาทีวีค่ะ)

                                 


            ทราบประโยชน์ของ recaldent กันไปแล้ว ต่อไปถ้าจะเลือกเคี้ยวหมากฝรั่ง recaldent ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุได้นะคะ (นี่ไม่ได้ค่าโฆษณาหรอกนะคะ อิอิ )
ได้เวลาต้องไปแล้วล่ะค่ะ อย่าลืมติดตามกันนะคะ ว่าคราวหน้าเราจะมีเรื่องอะไรมาฝากกันอีก หรือถ้ามีเรื่องอะไรที่สงสัย ก็ลองถามกันมาได้นะคะ พวกเราจะพยายามไปค้นคว้ามาเล่าให้ได้ทราบกันค่ะ บ๊ายบายยยยย 
                            

</font>

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 10254เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2005 00:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

           อ้อ เกือบลืมค่ะ ขอเตือนไว้ซักนิดนะคะว่าเนื่องจาก recaldent นี้มีส่วนที่ได้มาจากโปรตีนในน้ำนมวัว ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ในคนที่แพ้นมวัวนะคะ ยกเว้น คนที่ทราบว่าเป็น lactose intolerance หรือแพ้ lactose ในน้ำนม ก็จะใช้สาร recaldent นี้ได้ค่ะ

ช่วยเช็คประโยคข้างต้นว่า เขียนผิดหรือไม่นะคะ

ขอบคุณคะ

ดีนะที่ผมไม่เคยกินหมากฝรั่ง Recaldent

พอทราบข้อมูลหมากฝรั่งลดความอ้วนบ้างไหมค่ะ จะเอาไปทำรายงานค่ะ ขอด่วนๆ เลยน่ะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท