คนที่เคยเป็นหนุ่มสาว หรือที่อยู่ในช่วงวัยกลางคน นับว่าเป็นกลุ่มคนในประเทศที่ทำงานมามากแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องสร้างชาติ เรื่องมีส่วนร่วมในการเพิ่มผลผลิต เมื่ออายุถึงวัยชรา ย่อมเป็นภาระแก่สังคมบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ชาติไหนประเทศไหนก็เหมือนกันหมด
ที่น่าสนใจก็คือว่า สำหรับประเทศไทยนั้น ขณะนี้คนที่มีอายุเกิน ๖๐ ปี มี ๑๒ เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าในอีกยี่สิบปีข้างหน้า จะมีจำนวนมากถึง ๒๕ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่า อัตราเพิ่มจะสูงถึงสองเท่าตัว รัฐบาลจึงเริ่มสนใจและเข้ามาดูแลปัญหานี้อย่างใกล้ชิด เพราะถ้าบริหารจัดการปํญหาผู้สูงอายุไม่ดีพอ จะกระทบทั้งทางเศรฐกิจและสังคมได้เป็นวงกว้าง
ปัจจุบันเงินช่วยเหลือคนที่มีอายุเกิน ๖๐ ปี คนละ ๕๐๐ บาทต่อเดือน (เงินยังชีพ) ใช้งบประมาณโดยเฉลี่ยปีละ ๕๗๐๐๐ ล้านบาท มากกว่าเงินที่ศาลฎีกาสั่งริบจากทักษิณนิดหน่อย...การช่วยเหลือคนแก่ถือว่าเป็นกตัญฺญูกตเวทิตา ควรแก่การสรรเสริญอย่างยิ่ง
ไม่มีความเห็น