- เรียนต่ออิตาลีนี่ขั้นตอนเยอะเหลือเกิน น้องสาวได้ผลตอบรับเข้ามหาวิทยาลัยที่นู่นแล้ว แต่ยังต้องตามเก็บเอกสารบางอย่างที่ยังไม่ครบ
- เอกสารที่ว่าเรียกว่า
Declaration of Value (DV) เนื่องด้วยน้องจบป.ตรีที่ญี่ปุ่น
ต้องให้สถานทูตอิตาลีในญี่ปุ่นเป็นคนออกเอกสาร DV ให้
สถานทูตอิตาลีในเมืองไทยไม่สามารถออกให้ได้
- ขั้นตอน ขอเอกสารใบรับรองเรียนจบ และใบรายงานผลการเรียนเป็นภาษาญี่ปุ่น --> ส่งไปให้กระทรวงต่างประเทศของญีั่ปุ่นรับรองเอกสาร ว่าเป็นเอกสารประทับตราถูกต้อง (เป็นเอกสารจริง ไม่ใช่เอกสารปลอม) --> ส่งเอกสารทั้งหมดไปแปลจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอิตาลี ต้องมีการรับรองเอกสารแปลถูกต้อง ดังนั้นเลยต้องใช้คนแปลที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตอิตาลี เท่านั้น --> ส่งเอกสารไปให้สถานทูตออก DV ให้ แล้วก็ทำการ legalize เอกสารทั้งหมด ก่อนส่งไปให้สถาบันที่อิตาลี (โอ้.. แม่เจ้า)
- เบื้องต้นสอบถามค่าแปล.... (โอ้... แม่เจ้า.. อีกที)... เอกสารสองใบ เค้าคิดเบาะๆ แค่ 6 หมืี่นกว่าเยน (เทียบเท่าประมาณ 2 หมื่นบาท) รวมค่าแปล ค่าธรรมเนียม ค่าเสียเวลาส่งเอกสารให้สถานทูต ฯลฯ .... ไม่แพงไปหน่อยรือ.... อย่างนี้ยังเรียกว่าเป็น "การลงทุนเพื่อการศึกษา" ได้รึเปล่า หรือควรเรียกว่า "ซื้อโอกาสเพื่อการศึกษา" ดี?
- ยังตามหากันต่อไปว่ามีวิธีอื่นที่ถูกกว่านี้มั้ย
- ไม่เข้าใจว่า... แล้วถ้าใ้ช้เอกสารต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ แล้วลงทะเบียนรับรองว่าเอกสารถูกต้อง --> เอาไปให้แปลที่เมืองไทย --> ผ่านสถานทูตอิตาลีที่เมืองไทยออก DV ให้ ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้มันไม่เหมือนกันตรงไหนเนี่ยะ??
- วิธีการไม่ค่อย practical (ภาษาไทยควรใช้คำว่าอะไรดีคะ)
สำหรับคนที่เรียนจบกลับประเทศตัวเองไปแล้ว ถ้าเกิดเราไม่ได้อยู่ญี่ปุ่น
น้องไม่ต้องบินกลับมาทำเรื่องที่นี่เองเหรอ?
(สถาบันที่นี่ไม่มีบริการส่งเอกสารข้ามประเทศ
จะมีบริการให้เฉพาะคนที่มีที่อยู่ติดต่อได้ในญี่ปุ่นเท่านั้น)... เออ..
เอาเข้าไป -"-
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก