อนุทิน 25545


กวิน
เขียนเมื่อ

พี่หมอ มัทนา @25243 ที่พี่ว่า "กวินเป็นนักคิด ต้องยิ่งฝึก ไม่ได้ให้หยุดคิดนะ แต่ให้ทันที่ตัวคิด ไม่ต้องตอบอะไรใครเค้าไวมากหรอก นิ่งได้ รอได้ ทนได้ ไตร่ตรองถึงผลก่อน มีสติมีสมาธิแล้วค่อยตอบเค้าให้แยบยล ให้ตรงตามจุดประสงค์ที่จะสื่อ พี่นับถือความสามารถในการใช้ภาษาไทยของกวินมากนะ ความขยันในการหาข้อมูลและการเขียนอ้างอิงด้วย แต่พี่ก็เห็นว่าทำไมคนอื่นเค้าไม่พยายามเข้าใจกวินเท่าไหร่ ก็มันน่าอยู่นะน้องนะ"

จริงๆ กวินว่าจะตอบพี่หมอมัท ทันทีที่ได้อ่านอนุทินของพี่หมอมัท (เมื่อวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2551 เวลา 04:22) แต่อ่านเจอท่อนที่พี่หมอมัทเขียนเอาไว้ว่า "กวินเป็นนักคิด ต้องยิ่งฝึก ไม่ได้ให้หยุดคิดนะ แต่ให้ทันที่ตัวคิด ไม่ต้องตอบอะไรใครเค้าไวมากหรอก นิ่งได้ รอได้ ทนได้ ไตร่ตรองถึงผลก่อน มีสติมีสมาธิแล้วค่อยตอบเค้าให้แยบยล ให้ตรงตามจุดประสงค์ที่จะสื่อ" กวินก็เลย ลองนิ่ง เอ๋ ก็นิ่งได้นี่นา ลองรอ เอ๋ ก็รอได้นี่นา ลองทน เอ๋ก็ทนได้นี่นา  ลองไตร่ตรองถึงเหตุ ถึงผล โดยมีสติมีสมาธิ (เอกัคคตารมณ์) เอ๋ ก็ทำได้นี่นา นี่กวินลองทำตามที่พี่บอกแล้วนะครับ เพราะกวินเป็นคนใจคอ กว้าง ขวางยอมรับความคิดเห็นของกัลยาณมิตร เสมอๆ ไม่ใช่รับฟังแต่เสียงชื่นชมถ่ายเดียว จริงๆ แล้วคำชื่นชมจากกัลยาณมิตรนั้นคือหนึ่งในโลกธรรม 8 ประการ ว่ามั้ยครับ เราไม่ควรทำใจให้คล้อยตามคำชื่นชมสรรเสริญนั้นๆ เพราะว่าเมื่อมีคำชื่นชมสรรเสริญ ก็ย่อมมีคำนินทาว่าร้าย คู่กันด้วย จิตใจของกวินนั้นไม่ค่อยติดยึดและไม่ค่อยสะทกสะท้านกับคำสรรเสริญ หรือนินทา ฉะนั้นกวินจึงกล้าที่จะเขียน หรือแสดงตัวตนออกมาในรูปแบบนี้  พี่หมอมัทจึงไม่ต้องแปลกใจว่า คนอื่นเค้าทำไม้ ทำไม ไม่พยายามเข้าใจกวิน นั่นเป็น เพราะความ พยายาม ของคนเรานั้นมีไม่เท่ากัน (เพราะถ้าคนเรามีความพยายาม เท่ากันหมด คนเราก็จะเป็นแชมป์ ไตรกีฬา กันหมดทุกคน)  อย่างเช่นกรณีที่ กวินพยายามทำความเข้าใจความคิดของพี่หมอมัท (แต่พี่หมอมัทอาจจะไม่พยายามทำความเข้าใจความคิดของกวินนี่ก็คือตัวอย่างหนึ่งซึ่งเห็นกันได้ชัดๆ เลยว่ามั้ยครับ) อาจจะเป็นเพราะมีเหตุมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย สถานการณ์เช่นนี้คงเหมือนกับ ในยามที่ลมพายุพัดหอบฝุ่นผงให้คละคลุ้ง คลุมทั่วท้องฟ้า การที่จะมองทะลุฝุ่นผงนั้นคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องรอให้ฝุ่นผงสงบลงเสียก่อน (แต่เรื่องผงเข้าตานี่ก็อีกเรื่องนะครับ คนส่วนมากเมื่อมีผงเข้าตาตนเอง เขาก็มักที่จะมองไม่เห็นผงที่เข้าตาตนเองนั้น และถึงจะมองไม่เห็นผงที่เข้าตาแต่เขาก็ย่อมบังเกิดความ ระคาย เคือง ได้) สรุปดีกว่า ถ้าจะยาว กวินขอขอบคุณพี่หมอมัท มากๆ นะครับที่พี่หมอเตือนกวินในเรื่อง วิบากกรรม/กรรมวิบาก และเรื่อง อจินไตย ใช่แล้วครับเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นเรื่อง ของ กรรมวิบาก ฉะนั้นพี่หมอมัทจึงไม่ควรคิดมาก ที่ไม่ควรคิดมากก็เพราะมันเป็นเรื่อง อจินไตย อย่างไรล่ะครับ :)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท