ลองดู การประเมินภาวะเศรษฐกิจ ปี 2552 ของบล.ภัทร @24123
สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 52 บล.ภัทร อยู่ระหว่างการประเมินแต่เชื่อว่าอาจจะน้อยกว่าที่ ธปท. ประเมินจีดีพีปีหน้าไว้ที่ 3.8-5.0% แต่การประเมินตัวเลขจะไม่เป็นตัวเลขติดลบอย่างแน่นอน
"ภาคการส่งออกในปี 52 จะติดลบ ส่วนการท่องเที่ยวประเมินว่าจะชะลอไม่เติบโตและถือว่าปี 52 จะเป็นปีที่ต่ำสุดของเศรษฐกิจไทยและจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี 52"
อย่างไรก็ตาม ก็ยังน่าเป็นห่วง การใช้จ่ายภายในประเทศที่ชะลอตัวลดลงเหลือแค่ 2.5% ถือว่าต่ำมาก
เพราะเมื่อครั้งวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 การบริโภคภายในประเทศยังอยู่ระดับ 4%
ส่วนปัญหาเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยในระยะ 6-10 เดือน คาดว่า ธปท.จะไม่ลดดอกเบี้ยเพราะไม่เกิดประโยชน์ด้านการลงทุนเพราะภาคเอกชนขาดความเชื่อมั่น
เรื่องค่าเงินที่ก.คลังจะมีการแทรกแซงเพื่อจะส่งออก โดยส่วนตัวของดร. ศุภวุฒิ สายเชื้อ เห็นว่าไม่เกิดประโยชน์เนื่องจากมองว่าควรปล่อยให้ค่าเงินเป็นไปตามกลไกตลาด
แม้ว่าการลดค่าเงินบาทเพื่อเป็นการลดราคาสินค้าทางอ้อมก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร
นอกจากนี้วิกฤตการเงินในสหรัฐและยุโรปประเมินว่าจะมีอีก 10 ประเทศในยุโรปตะวันออกที่ได้รับผลกระทบและจะเกิดวิกฤตตามมา
ดังนั้นประเทศไทยควรพึ่งพาการใช้จ่ายภาครัฐโดยเน้นโครงการเล็กๆ เช่น ชลประทานเพื้อช่วยภาคการเกษตร, การทำ 3G ถือว่าจะเร่งการเติบโตของประเทศได้ดีกว่า
ส่วนราคาน้ำมันแม้ว่าจะลดความกดดันลงได้ แต่มองว่าราคาน้ำมันจะไม่ต่ำกว่า 70 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้ว เพราะประเมินต้นทุนของการผลิตน้ำมันอยู่ในระดับนี้และรัฐควรยกเลิกการอุดหนุนด้านพลังงานทั้งหมด และปล่อยให้ราคาพลังงานเป็นไปตามกลไกตลาด
ไม่มีความเห็น