จากบันทึกนี้ของพี่กะปุ๋ม...ทำให้นึกถึงน้องสาวค่ะ...น้องสาวแท้ๆ ของอ๋อยก็มีร่างกายที่ขาไม่ปกติค่ะ...
+ สาวน้อยเธอขากิ่ว...และตอนเด็ก ๆ สาวน้อยเธอเดินด้วยหลังเท้า...ทั้งนี้เพราะตอนที่แม่ท้องแม่ป่วยเป้นไข้มาลาเรียค่ะ...
+ เป็นมากถึงขนาดหมอต้องถามยายว่าจะเอาแม่หรือลูกไว้...แต่แม่คงแข็งใจและต่อสู้กับเชื้อมาลาเรีย...จนรอดมาทั้งแม่และสาวน้อย....
+ อ๋อยจำความได้ตอนเด็ก ๆ ต้องแบกสาวน้อยขี่หลังไปไหนมาไหนตลอด...แม้เธอจะเดินได้แล้ว..อ๋อยก้มักจะให้เธอขี่หลังไปไหน ๆ ด้วยเสมอ..
+ ส่วนแม่นั้น...จะนวดเท้าให้สาวน้อยทุกคืน ๆ โดยไม่ว่างเว้นสักวัน...
+ และแล้ววันที่แม่และครอบครัวเรารอคอยก็มาถึง...เมื่อสาวน้อย 5 ขวบกว่า ๆ ...
+ หลังเท้าที่เธอใช้เดินเกิดมีหนามตำ...เป็นแผลระบม...พวกเราเลยพยายามหัดให้เธอเดินด้วยฝ่าเท้า...ฝึกกันวันละนิด..นวดเท้าทุกวันทุกคืน...ผ่านไปนานวันเข้า..นานวันเข้า..แต่จำไม่ได้ค่ะว่านานเท่าไหร่..ความพยายามของพวกเราและของสาวน้อยก็ประสบความสำเร็จค่ะ...สาวน้อยของเราเดินด้วยฝ่าเท้าได้ค่ะ...
+ ด้วยความที่เธอเป็นแบบที่เล่า...พวกเราเลยเลี้ยงเธอแบบตามใจมากไปบ้าง...มีบางช่วงที่เธอคิดถึงแต่ตัวเอง..ลืมนึกถึงคนอื่น...ด้วยความเคยชินว่าเธอต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ....
+ ถึงกระนั้นตอนรับปริญญาสาวน้อยเธอก็ไม่ยอมรับ...เพราะชุดครุยมันสั้นกลัวคนจะเห็นขาที่กิ่วของเธอ...จำได้ว่าพ่อหลั่งน้ำตาด้วยความสงสาร...
+ อ๋อยพยายามบอกเธอ...สอนเธอ..ว่าอย่าให้ใจเราไม่สมบูรณ์ตามร่างกาย...ใจเราเลือกที่จะฝึกได้...ฝึกให้เกิดนปัญญาได้....แต่สาวน้อยเธอก็ไม่เข้าใจ...
+ เมื่อเธอมีแฟน...ก็วุ่น ๆ พอควร..กว่าเธอจะเปิดเผย...และแฟนเธอก็ดีค่ะ...บอกเธอว่าใจเธองามเพียงพอที่เขาจะแต่งงานและเลือกเป็นแม่ของลูกด้วย...
+ เมื่อเธอคลอดลูกชาย...ลูกชายเธอชื่อ.." ต้นน้ำ "...
+ เชื่อไหมค่ะว่า...เธอไม่รู้สึกอายอีกเลยที่ขาเธอกิ่ว...เธอใส่ขาสั้นเผยให้ใคร ๆ ที่มาเยี่ยมเจ้าต้นน้ำเห็น...ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจค่ะ.(อ๋อยคิดว่ายิ้มของเธองดงามค่ะ..ยิ้มสยาม...ยิ้มหวานค่ะ..)
+ อ๋อยเลยถามว่าไม่อายใคร ๆ เหรอ...เธอตอบว่า..แปลกมากไม่รู้ทำไมความรู้สึกแบบนั้นมันหายไป...
+ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ....
ไม่มีความเห็น