อนุทิน 17982


กวิน
เขียนเมื่อ

โลกนิติคำโคลง มุมมองใหม่ @  183946  

ลูกสะเดา น้ำผึ้งซาบ           โทรมปน
แล้วปลูก ปองรสคนธ์           แอบอ้อย
ตาบเท่า ออกดอกผล          พวง ดก
ขมแห่ง สะเดาน้อย             หนึ่งรู้โรยลา (โลกนิติคำโคลง)

เมล็ดสะเดาเอาไปชุบน้ำผึ้ง
ปลูกข้างไร่อ้อย  หวังจะให้ ผลสะเดา เจเนอเรชั่นใหม่ มีรสหวานขึ้นมา
พอเมล็ดสะเดา งอกเป็นต้นสะเดา และออกดอกออกผล
ความขมของผลสะเดา แม้เพียงสักหน่อยหนึ่ง จะรู้จักโรยลา ลงหรือ?? มันก็ขมเหมือนเดิม

สะเดา ผ่าเหล่าเพี้ยน           พิกล
หวานเมล็ด สุคนธ์              ข่มอ้อย
แต่งพันธุกรรมผล              พวงดก
ขมแห่ง สะเดาน้อย             หนึ่งนั้นฤามี (นวโลกนิตคำโคลง)

แต่สะเดาสมัยใหม่ ผ่าเหล่า
ผลและเมล็ดมีรสหวานฉ่ำ
เพราะถูกตัดแต่งพันธุกรรม จนออกผลดก (และมีรสหวาน)
รสขมที่เคยมี ก็กลับไม่มี เอ เป็นไปได้หรือ??
ความพยามอยู่ที่ไหนความพยามก็อยู่ที่นั่น..
(คนเราเมื่อมีความทุกข์ความขมขื่น ก็มักจะเอากิเลสอันมีรสหวาน มาฉาบทาความทุกข์ความขมขื่น และพยามแสวงหาสถานที่ ที่จะนำมาซึ่งความสุขใส่ตน ช่างคล้ายกับการนำสะเดาไปปลูกข้างๆต้นอ้อย เพื่อหวังจะให้ รสขมขื่นของต้นสะเดาแห่งความทุกข์ หมดสิ้นไป แต่ความทุกข์ก็คือความทุกข์ ทำอย่างนั้นจะหมดทุกข์ได้จริงๆ หรือ อยากจะให้ทุกข์หมดไป ต้องใช้ธรรมะเข้าไปตัดแต่งพันธุกรรมต้นสะเดาแห่งความทุกข์สิ เธอ..)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท