การหนุนของ 5 ครอบครัวหลัก และเป็นอันตรายต่อประยุทธ์ ตอนที่ 3
ไทยเบฟและบุญรอด ซึ่งเป็นทุนผูกขาด 2 บริษัทในเรื่องเบียร์ และแอลกอฮอล์ ได้รับประโยชน์จากภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องเบียร์และไวน์ รวมทั้งกฎการผลิตในระดับเล็ก ที่ได้กีดกันผู้ประกอบการรายย่อยคราฟ์เบียร์ ไม่ให้เกิดขึ้นในเมืองไทย
หากมองอย่างกว้างๆ ครอบครัวทั้ง 5 จับมือกันแน่นในภาคธุรกิจ โดยเริ่มจากเกษตรกรรม ไปจนถึงแอลกอฮอล์ และการค้าปลีก รวมทั้งกฎเกณฑ์ที่ดูแลครอบครัวทั้ง 5 นี้มากเกินไป จึงทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กไม่เติบโต
ไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กจึงไม่เติบโต เพราะพวกนี้ต้องการเงินทุนเป็นอย่างมาก พวกธนาคารใหญ่ชอบที่จะให้เงินกู้แก่บริษัทใหญ่ 5 มากกว่าให้ธุรกิจและผู้ประกอบการขนาดเล็ก เพราะมีความเสี่ยงในการดำเนินทางธุรกิจนั่นเอง
รัฐไทยอนุญาตให้ธนาคาร SME ปล่อยกู้ได้เพียง 4,000-5,000 รายเท่านั้น ทั้งที่ยังมีคนกู้ที่มีประสิทธิภาพเป็นล้าน ธนาคารกรุงเทพฯ ที่เป็นผู้นำในการกู้ และเป็นผู้สนับสนุนงานเลี้ยงในช่วงหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ได้ประกาศว่าจะควบคุมการกู้ของพวกธุรกิจขนาดเล็กที่มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจแต่การรวมตัวกันของครอบครัวทั้งห้า ในเรื่องอำนาจทางเศรษฐกิจก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน นักวิเคราะห์คนหนึ่งที่ธนาคารการลงทุนนาๆชาติ เชื่อว่า ครอบครัวทั้งห้าใหญ่เกินกว่าที่จะล้มได้ ดังจะเห็นได้จากความตึงเครียดทางการเงิน ที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งทำให้เกิดความกังวลทางการตลาด
นักวิจารณ์คนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่ธนาคารในประเทศถูกควบคุมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีความสม่ำเสมอน้อยหรือไม่มีสิ่งนั้นเลย ในการจับตาดูกิจกรรม, การลงทุน, การตัดสินใจทางการเงิน
เขากล่าวว่าความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบริษัททั้ง 5 กำลังจะจัดทำคอนโดมิเนี่ยม รวมทั้งการพัฒนาอื่นๆ แต่มีมากเกินไป รายงานเมื่อเร็วนี้แสดงว่า มีบ้านที่ว่างอยู่มากกว่า 500,000 หน่วย ในเมืองใหญ่
แปลและเก็บความจาก
Shawn W. Crispin. Thailand’s five families’ prop and imperil Prayut
ไม่มีความเห็น